มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 220 การต่อสู้ระหว่างงูกับมนุษย์
บทที่ 220 การต่อสู้ระหว่างงูกับมนุษย์
สายตาของหลัวซิววับไหว เขากระทืบเท้าทั้งสองอย่างแรง ร่างของพุ่งทะยานลอยขึ้นฟ้า แล้วดึงกระบี่ยุทธ์ออกมาจากฝัก
คนหนึ่งคนกับมังกรหนึ่งตัว ความแตกต่างของร่างกายนั้นห่างไกลนัก ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่กลางท้องฟ้า
กระบี่ยุทธ์ดินระดับกลางฟันไปที่ลำตัวของมังกรเจียวหยกอัคคี แต่นี่เพียงแค่ทำให้เกล็ดตามลำตัวแตกไปบางส่วนเท่านั้น ลำตัวของมังกรเจียวนั้นแข็งแกร่งมากจนน่าตื่นตะลึง
พลังแห่งความตายในเพลิงมรณะ สามารถทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ทว่าด้วยร่างกายของมังกรเจียวที่มีขนาดมหึมา จึงไม่ทำให้ร่างกายของมันได้รับอันตรายใด
ส่วนเกล็ดของมันนั้นมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ได้รับอันตราย มังกรเจียวหยกอัคนีป้องกันตัวได้อย่างแน่นหนา ไม่เปิดช่องให้หลัวซิวมีโอกาสได้โจมตี
เปรี้ยง!
กระบี่ยุทธ์ดินฟันลงไปอีกครั้งที่อุ้งเท้าของมังกรเจียว จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว หลัวซิวโดนแรงระเบิดจนร่างของเขาตกลงมาจากกลางท้องฟ้า ทำให้เอาต้นไม้โบราณหักโค่นแล้วลงไปกระแทกบนพื้นอีกครั้งจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่
ด้วยความแข็งแกร่งของร่างมังกรเจียวตัวนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าร่างของมันจะต้องอยู่ในระดับสูงสุดของร่างยุทธ์ช่วงหลังแล้ว
มังกรเจียวที่อยู่กลางท้องฟ้าส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด กรงเล็บของมันเป็นจุดเดียวที่ด้อยกว่ามังกรเจียวเขาเดียว แต่หากวัดกับกระบี่ยุทธ์ดินแล้วถือว่ายังอ่อนกว่า จึงทำให้เลือดของมันไหลซิบๆ
มังกรเจียวหยกอัคนีอ้าปากพ่นเปลวไฟออกมา เปลวไฟร้อนแรงแผดเผาให้บรรยากาศรอบด้านกระเพื่อมไปด้วยไอร้อน
ไอกระบี่สีดำรูปมังกรพุ่งทะยานออกมาจากหลุมปะทะเข้ากับเปลวไฟของมังกรเจียว แรงระเบิดรุนแรงจนกระจายสะท้อนไปทั่ว
ไอกระบี่ของหลัวซิวไม่ได้ทัดทานกับเปลวไฟนั้นได้ แต่โดนเปลวเพลิงของมังกรเจียวนั้นดูดกลืนหายเข้าไป เห็นได้ชัดว่าเปลวไฟนี้ไม่ใช่เปลวไฟธรรมดา แต่เป็นอัคคีอสูรในร่างที่ผ่านการบำเพ็ญมาแล้ว
หลังจากเปลวเพลิงของมังกรเจียวดูดกลืนไอกระบี่ไปจนหมดแล้ว มันก็ยังไม่มีทีท่าถอยหนี แต่กลับมุ่งหน้าบุกเข้าใส่หลัวซิวอีกครั้ง
“ตราธรรมจุติมรณะ!”
หลัวซิวลอยขึ้นมาจากหลุม มือทั้งสองทำท่าทางต่างๆ อย่างพัลวัน พลางร้องตะโกนออกไป ตราธรรมจุติมรณะในจุดตันเถียนชี่ไห่บินวนรอบด้วยความเร็ว
ภาพเสมือนของวัฏจักรชีวิตภาพใหญ่ปรากฏอยู่กลางท้องฟ้า มือทั้งสองของหลัวซิวผลักออกไปทำให้วัฏจักรชีวิตที่เป็นภาพเสมือนพุ่งออกไปโจมตีกับมังกรเจียวอัคนี
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือแรงระเบิดอันน่ากลัว ตอนนั้นหลัวซิวเองก็กระเด็นออกไปไกล เขารู้สึกราวกับว่ากระดูกทั่วร่างของเขากำลังจะหัก ภาพทุกอย่างรางเลือน ร่างกายของเขาราวกับกำลังจะฉีกขาด
เมื่อเหลือบตาขึ้นไปมอง จึงเห็นว่าอาการของมังกรเจียวก็ไม่สู้ดีนัก ภาพเสมือนวัฏจักรที่แปรเปลี่ยนมาจากตราธรรมจุติมรณะได้ปะทะกับอัคคีอสูรเอาไว้ แล้วพุ่งเข้าไปโจมตีลำตัวของมัน เกล็ดของมันจึงแหลกละเอียดไปเป็นจำนวนมากและมีเลือดไหลออกจากลำตัว มันดิ้นทุรนทุรายอยู่กลางท้องฟ้า เลือดอสูรกระเซ็นไปทั่วทั้งท้องฟ้า
“แม่งเอ๊ย แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ”
หลัวซิวเบิกตากว้าง ตราธรรมจุติมรณะคือสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว เมื่อรวมเข้ากับพลังแปรเสวียนเทียน 24 เท่า สามารถกำราบปรมาจารย์ฝึกจิตทุกระดับที่อยู่ระดับต่ำกว่าราชายุทธ์ได้ทั้งสิ้น
ทว่ามังกรเจียวอัคนีตัวนี้เมื่อถูกแรงระเบิดกลับแค่ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ไม่ถึงแก่ความตาย
แต่หลังจากที่หลัวซิวใช้ตราธรรมจุติมรณะไปแล้ว พลังจิตแท้ของเขาก็ถูกเผาผลาญไปจนหมด
หลัวซิวหยุดคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ดวงตาของเขาจะส่องประกาย เขาจำต้องยอมปล่อยมังกรเจียวหยกอัคคีไปก่อน เขาเคลื่อนตัวแล้วหายไปกลางป่าลึก
ในถ้ำแห่งหนึ่ง หลัวซิวเข้าไปแอบในนั้นพลางเอนกายพิงผนังถ้ำเอาไว้แล้วหายใจสูดอากาศเข้าไปอย่างหนักหน่วง
ในจุดตัดเถียนชี่ไห่ การเคลื่อนที่ของตราธรรมจุติมรณะขับพลังแห่งชีวิตออกมาช่วยรักษาบาดแผลตามเรือนร่างของเขา
“เรามีพลังสองระดับความเป็นตาย ไม่ว่าบาดแผลจะร้ายแรงแค่ไหน ก็จะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เจ้ามังเจียวหยกอัคคีนั่นจะต้องไม่ได้ใช้วิธีแบบเราแน่ รอให้เรารักษาตัวเองหายดีก่อนเถอะ แล้วค่อยไปจัดการมันทีหลัง” ระหว่างที่รักษาตัวเอง หลัวซิวก็เริ่มวางแผนในใจ
หลังจากนั้น หลัวซิวจึงหยิบยากลั่นจิต ยาเลี้ยงจิตและยาสองขั้วอัคคีเยือกออกมาจากแหวนเก็บของ รวมทั้งลูกแก้วโลหิต 30 เม็ดที่ได้มาจากการสังหารอสูรระดับฝึกจิต
……
ตระกูลเหยียน เมืองกู่เจี้ยน
“หลัวซิวปรากฏตัวขึ้นภายในเมืองกู่เจี้ยน และได้เข้าร่วมการประเมินของแก๊งนักกลั่นยาที่เมืองซานหยวน จนได้รับตราปรมาจารย์กลั่นยาระดับ 4
“ปรมาจารย์ฝึกจิตทั้งสี่คนของตระกูลเหยียนที่ดูแลเมืองซานหยวนอยู่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร จึงแอบติดตามหลัวซิวออกจากเมืองไป ตอนนี้ได้หายตัวไปแล้ว”
“……”
ในทุกๆ ช่วงเวลา ตระกูลเหยียนจะวางเครือข่ายข่าวสารเอาไว้ในทุกๆ ที่ นั่นทำให้สามารถรวบรวมข่าวสารจากทุกที่เข้าด้วยกัน และนำมารายงานให้กับผู้ใหญ่ระดับสูงของตระกูลเหยียน
“หลัวซิวผู้นี้ ช่วงนี้ร้อนแรงนัก” ผู้อาวุโสของตระกูลเหยียนคนหนึ่งกล่าวขึ้น ม้วนกระดาษที่อยู่ในมือของเขามีข่าวสารของหลัวซิวเขียนรายงานอยู่ในนั้น
ใช้เวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งปีก็สามารถโดดเด่นออกมาได้ เด็กหนุ่มคนนี้มีโชะตาที่ไม่เลวเลย โถๆ ……ปรมาจารย์นักกลั่นยาขั้น 4 อายุ 15 ปีงั้นรึ”
ผู้อาวุโสตระกูลเหยียนวางเอกสารลง ในดวงตาของเขาปรากฏแสงวับไหว เขาหยิบปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วทำสัญลักษณ์วงกลมรอบชื่อของหลัวซิวเอาไว้
“หากมีประโยชน์ต่อตระกูลเหยียนของพวกเราก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ก็ต้องตาย” ผู้อาวุโสตระกูลเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
ในเวลาเดียวกันนั้น เรื่องราวเดียวกันนี้ก็ปรากฏขึ้นในอีกสถานที่หนึ่ง ชื่อของหลัวซิวได้เข้าไปสู่สิบตระกูลใหญ่ของประเทศเทียนหวู รวมทั้งเป็นเป้าหมายของกลุ่มอำนาจใหญ่ๆ หลายกลุ่ม
ณ แดนนานาอสูร เขตที่สาม
หลัวซิวรักษาแผลอยู่สองวัน จากนั้นจึงใช้เวลาอีก 10 วันในการฝึกตน
ลูกแก้วโลหิตของระดับฝึกจิตทั้งหมด 30 เม็ดถูกกลั่นแปร รวมทั้งยากลั่นร่างขั้น 4 ยาสองขั้วอัคคีเยือก ในที่สุดร่างเนื้อของเขาก็บรรลุจนเข้าสู่สุดยอดแดนร่างยุทธ์ที่เขาใฝ่ฝัน
พลังจิตแท้ของเขาก็ถูกผลึกรวมเข้าอย่างแน่นหนา และเข้าใกล้การบรรลุแดนฝึกจิตขั้น 3 มากขึ้นเรื่อยๆ
ตัวสำนึกก็ได้การชุบหลอมจากยาเลี้ยงจิตจนทำให้แข็งแกร่งขึ้น ระหว่างที่ฝึกฝนอยู่นั้นก็สามารถใช้ห้วงยุทธ์กระบี่สังหารส่งเสริมตัวสำนึกได้ ทำให้การโจมตีด้วยวิญญาณเข้มแข็งมากขึ้น
หลังจากที่ฝึกจิตแล้วนั้น เขาสามารถใช้เพียงตัวสำนึกในการสังหารเพียงเสี้ยววินาที การฝึกจิตขั้นปฐมภูมิสามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ แม้ว่าจะเป็นการฝึกจิตช่วงกลางก็ตาม อาจจะได้รับผลกระทบจากการถูกวิญญาณต่อต้าน และหมดสติไปชั่วคราว
ในขณะที่ความเป็นตายโจมตีอยู่นั้น การหมดสติเพียงช่วงสั้นๆ ด้วยความเร็วในการใช้ดาบและพลังการโจมตีของหลัวซิวนั้น เพียงพอที่จะสังหารโดยพลันได้
มีเพียงเวลาที่ต้องเผชิญกับศัตรูที่อยู่ในระดับฝึกจิตระดับ 7 ช่วงปลายขึ้นไปเท่านั้น ที่หลัวซิวจะต้องมีวิธีการที่มากกว่านี้
เมื่อหลัวซิวเก็บธงค่ายที่วางเอาไว้บริเวณรอบๆ ถ้ำแล้ว เขาก็มุ่งหน้ากลับเข้าไปในป่ายังบริเวณที่มีมังกรเจียวอัคนีอาศัยอยู่
เวลาสิบสองวัน บาดแผลของมังกรเจียวอัคนียังไม่หายสนิท แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากแล้ว
เมื่อสัมผัสได้ว่ามีมนุษย์เข้ามายังอาณาเขตของตัวเอง มังกรเจียวอัคนี้ก็เกรี้ยวกราดขึ้นมาอีกครั้ง สงครามระหว่างมนุษย์กับมังกรก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม หลัวซิวก็บินหนีกลับไปด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลและลมหายใจที่อ่อนแรง
ท้องฟ้าสะท้านสะเทือนไปด้วยเสียงคำรามอย่างโกรธแค้นของมังกรเจียวอัคนี ลำตัวมหึมาของมันบาดเจ็บหนักจนมีเลือดไหลซิบอีกครั้งจากตราธรรมจุติมรณะ
ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน หลัวซิวต่อสู้กับมังกรเจียวอัคนีถึงสี่ครั้ง สามครั้งแรกหลัวซิวใช้ตราธรรมจุติมรณะจนทำให้มังกรเจียวอัคนีบาดเจ็บสาหัสแล้วหาโอกาสหนีไป
สำหรับนักยุทธ์แล้ว การเข้าไปอยู่บนเขตแดนความเป็นตายที่มีการเข่นฆ่ากันอย่างรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น สามารถกระตุ้นความสามารถเบื้องลึกในตัวได้ดีที่สุด
หลังจากผ่านการต่อสู้บนความเป็นตายมาแล้ว พลังยุทธ์ของหลัวซิวก็ยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งถึงการต่อสู้กับมังกรเจียวอัคคีในครั้งที่ 4 หลัวซิวใช้การฝึกตนของตัวเองจนเผาผลาญพลังไปจนหมด และใช้ตราธรรมจุติมรณะฟาดเข้าใส่ที่ศีรษะของมังกรเจียวอัคนีจนถึงแก่ความตายในครั้งเดียว[1][1]
########################