มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2408
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2408
มีต้นไผ่สีฟ้าหนึ่งต้นเจริญเติบโตอยู่บริเวณชายขอบพื้นที่ที่มีรัศมีสีม่วงปรากฏ ไผ่ทั้งต้นราวกับทำมาจากมรกตสีฟ้า งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ประดุจหินหยกกายสิทธิ์ที่หล่อเลี้ยงโดยฟ้าดิน
เมื่อหลัวซิวมองเห็นไผ่สีฟ้าต้นนั้นแล้ว ก็เกือบกระโจนเข้าไปอย่างอดใจรอไม่ไหว เนื่องจากเขารู้อยู่ว่าต้นไผ่สีฟ้านั้นคืออะไร ไผ่ต้นนั้นมีนามว่าไผ่เทวดวงคราม ซึ่งเป็นของล้ำค่าที่สามารถช่วยกลั่นร่าง!
ไผ่เทวดวงครามต้นนี้ไม่สูงเท่าไหร่นัก มีแค่สามท่อนเท่านั้น สามารถพูดได้เลยว่ายังไม่สุกงอม หากเป็นไผ่เทวดวงครามที่สุกงอมจะมีทั้งหมดเก้าท่อน ไผ่เทวเก้าท่อนก็คือสมบัติที่สามารถทำให้ร่างยุทธ์เทพมารระดับ 9 เลื่อนขั้น!
ร่างยุทธ์เทพมารระดับ 9 มีความหมายว่าอย่างไร? นั่นเป็นคนใหญ่คนโตที่แค่ย่ำเท้าก็ทำให้แม้แต่โลกมหาศักดิ์ยังต้องสั่นคลอนเชียวนะ
ถึงแม้จะเป็นไผ่เทวดวงครามที่มีแค่สามท่อน แต่ก็เป็นหินหยกกายสิทธิ์แล้ว ถ้าเกิดให้ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเก้าค้นพบ คนดังกล่าวก็ต้องย้ายมันไปปลุกที่อื่นแน่นอน ขอแค่บ่มเพาะให้มันมีเก้าท่อน ก็สามารถนำมากลั่นร่างยกระดับร่างเนื้อได้แล้ว
วินาทีนี้หลัวซิวก็เข้าใจสักทีว่าเหตุใดสตรีชุดกระโปรงเขียวนี่ถึงมาที่นี่ และเป้าหมายของนางก็คือไผ่เทวดวงครามต้นนี้ เมื่อมีไผ่เทวดวงครามสามท่อนนี้แล้ว ต้องสามารถทำให้นางฝึกร่างเนื้อขึ้นไปถึงแดนเทพมารระดับเจ็ดภายในระยะเวลาสั้น ๆ ได้อย่างแน่นอน
เมื่อร่างเนื้อบรรลุถึงเทพมารระดับเจ็ด เช่นนั้นก็จะเป็นผู้ไร้เทียมทานในมหาโลกาพันสามแน่นอน พวกมหาจักรพรรดิยุทธ์ล้วนกระจอกงอกง่อยมาก!
ในโลกามหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งแปด ไผ่เทวดวงครามก็เป็นสิ่งที่พบเจอได้ไม่มากเช่นกัน หลัวซิวนึกไม่ถึงเลยว่าจะเจอที่นี่หนึ่งต้น
ในขณะเดียวกัน เขาก็สังเกตเห็นแล้วว่าชุดกระโปรงที่อยู่บนร่างสตรีชุดเขียวนั่นแหลกสลายไปแล้ว เผยให้เห็นร่างกายที่งดงามอย่างยิ่งและผิวพรรณที่ขาวใสดุจหยก แต่หลัวซิวกลับไม่มีอารมณ์ไปชื่นชม เนื่องจากบนร่างกายที่ใสสะอาดนั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยบาดแผล ซึ่งเป็นภาพที่น่าสยดสยองมาก
ไผ่เทวดวงครามต้นนี้ไม่ได้ได้มาง่ายเช่นนั้น มันจะเจริญเติบโตอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีรัศมีสีม่วงปรากฏ ถึงแม้มันจะอยู่ตรงชายขอบ แต่รัศมีสีม่วงที่น่าสยดสยองนั่น แม้แต่ร่างยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพยังต้านทานไม่ไหว ต่อให้ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์มาถึง เกรงว่าก็ฝ่าฟันเข้าไปยากมาก ๆ
ตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา สตรีนางนี้ใช้อำนาจฝ่าฟันเข้าไปไม่รู้ตั้งกี่หน ทำเอาร่างกายตนเต็มเปี่ยมไปด้วยบาดแผล สภาพน่าเวทนาอย่างยิ่ง ตั้งแต่เริ่มต้นกระทั่งบัดนี้นางกลับทำไม่สำเร็จเลย
หลัวซิวอำพรางออร่าของตัวเองอย่างระมัดระวัง ความสนใจของสตรีกระโปรงเขียวล้วนอยู่บนไผ่เทวดวงคราม ดังนั้นจึงสังเกตไม่เห็นว่าเขามาถึงแล้ว
บางทีในแนวคิดของสตรีนางนั้น อาจรู้สึกว่าผู้ที่มีผลการฝึกตนแค่มกุฎเทพและร่างเนื้อระดับจ้าวมหาเทพ สามารถฝึกตนอยู่ในเขาผีเก้าก็ถือว่าไม่เลวมาก ๆ แล้ว ไม่มีทางเดินมาถึงที่นี่ได้เลยด้วยซ้ำ
รัศมีที่นับไม่ถ้วนพุ่งไป ๆ มา ๆ อยู่บริเวณนี้ ภายใต้การโจมตีจากรัศมีสีม่วงดำ เหนือศีรษะของสตรีกระโปรงเขียวนั่นก็มีของขลังคุ้มกันลอยอยู่หนึ่งชิ้นเช่นกัน ภายใต้การพุ่งชนของรัศมีทำให้มีเสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น และเป็นเพราะการซ่อนเร้นของเสียงเหล่านี้นี่เอง ดังนั้นนางจึงไม่ได้ยินเสียงที่ดังมาจากฝั่งหลัวซิว
หลัวซิวเห็นว่านางกำลังนั่งท่าขัดสมาธิอยู่บนพื้น แล้วใช้ของขลังที่เป็นโล่ใบหนึ่งต้านทานการโจมตีจากรัศมีสีม่วงดำที่อยู่บริเวณรอบ ๆ จากนั้นนางก็หยิบยาออกมากิน เพื่อฟื้นฟูร่างกายที่บาดเจ็บและผลการฝึกตนที่สูญเสียไป
หลังจากผ่านไปประมาณสองสามวัน ก็มีพลังออร่าที่แข็งแกร่งแผ่กระจายออกมาจากร่างสตรีกระโปรงเขียว ผลการฝึกตนของนางฟื้นฟูกลับคืนมาไม่น้อยแล้ว ใบหน้าที่ค่อนข้างขาวซีดก็กลับมาแดงระเรื่อเหมือนเคย
นางไม่สนใจกระโปรงที่ฉีกขาดบนร่างตน จุดซ่อนเร้นต่าง ๆ ล้วนปรากฏออกมาแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าร่างกายของตัวเองกำลังถูกชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมองจนไม่เหลือหลอ
ไม่มีความลังเลใจใด ๆ นางบุกเข้าไปในเขตพื้นที่ที่มีแสงสีม่วงตัดสลับกันอีกครั้ง ถึงแม้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของนางจะเร็วมาก ๆ ก็ตาม แต่ความเร็วในการบินของรัศมีสีม่วงเหล่านั้นกลับรวดเร็วยิ่งกว่า ทันทีที่นางบุกเข้าไป ก็มีรัศมีสีม่วงสองดวงที่เฉียบคมดุจกระบี่เทพ ฟาดฟันลงบนโล่ของขลังของนาง