มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2416
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2416
ณ วงแหวนชั้นนอกของเขตเปลวไฟสีเทา ใบหน้าของมกุฎเทพจำนวนมากต่างดูแปลกใจ เปลวไฟสีดำเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาล้วนเกรงกลัวจนต้องยั้งเท้า และผู้ที่ฝึกตนอยู่ภายในต้องเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพเป็นต้นไปแน่นอน
“ไอ้สารเลว! ผู้ใดเป็นผู้ปลุกปั่นพลังธาตุไฟของที่แห่งนี้? ทำให้ข้าต้องสูญเสียวัตถุดิบล้ำค่าไปเป็นจำนวนมาก?”
ผู้อาวุโสที่หลอมอาวุธอยู่ในเขตเปลวไฟดำมานานหลายปีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาลอยตัวขึ้นฟ้าแล้วยืนอยู่กลางนภา ผมเผ้าปลิวลอย
“ปรมาจารย์หวู!”
“ได้ยินมาว่าปรมาจารย์หวูเข้ามาในนิรยะเพชฌฆาตหลายร้อยปีแล้ว จะอาศัยพลังไฟดำของสถานที่แห่งนี้หลอมภัณฑ์ล้ำจ้าวมหาเทพชั้นสูงหนึ่งชิ้น”
“มีคนปลุกปั่นพลังกฎของสถานที่แห่งนี้ ทำให้หยาดเหงื่อของปรมาจารย์หวูล่มสลาย ตกลงเป็นผู้ใดกันแน่ถึงกล้าหาญเช่นนี้?”
คนจำนวนไม่น้อยในเขตเปลวไฟดำทราบความเป็นมาของพระอาวุโสคนดังกล่าวอยู่ คนดังกล่าวแซ่หวู มีนามว่าหวูเผิงห่ายซึ่งเป็นปรมาจารย์หลอมอาวุธที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ๆ ผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพจำนวนไม่น้อยในมหาโลกายอดอัมพรและสรรพมหาโลกาต่างเคยให้เขากลั่นของขลังอาวุธสงคราม
“กูก็อยากทราบเช่นกันว่าผู้ใดกันแน่ถึงโอหังเช่นนี้!”ปราณโกรธของหวูเผิงห่ายสูงเสียดเมฆ ของขลังเรือรบลำหนึ่งถูกเขาเรียกออกมา กดอัดเปลวไฟดำที่ลุกโชนตลอดทาง กระทั่งไปถึงตำแหน่งฝึกตนปิดขังของหลัวซิว
“ข้าน้อยมาให้การช่วยเหลือผู้เพื่อนยุทธ์หวูอีกหนึ่งแรง!”แสงกลดวงหนึ่งบินมาร่วงลงบนเรือรบของหวูเผิงห่ายซึ่งคนดังกล่าวก็คือผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพที่โดดเด่นคนหนึ่ง
“ที่แท้ก็คือผู้เพื่อนยุทธ์เฉินนี่เอง ข้าขอบใจเจ้ามาก!”หวูเผิงห่ายยิ้มพลางทำท่าคารวะ ผู้แซ่เฉินนี่ก็คือผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพที่เคยให้เขาหลอมอาวุธนั่นเอง
มีคนจำนวนมากยินดีที่จะคบหากับปรมาจารย์หลอมอาวุธคนหนึ่งอยู่ ไม่นานนัก ก็มีจ้าวมหาเทพอีกเจ็ดแปดคนขึ้นมาบนเรือรบของหวูเผิงห่ายคนกลุ่มหนึ่งที่มโหฬารพันลึกมาถึงตำแหน่งฝึกตนปิดขังของหลัวซิวอย่างรวดเร็ว
เปลวไฟสีดำประกอบเป็นระลอกคลื่นที่ใหญ่โตมโหฬาร แผ่คลุมเขตพื้นที่บริเวณโดยรอบนับพันไมล์ เมื่อเห็นอนุภาพระดับนี้ สีหน้าของเหล่าจ้าวมหาเทพที่อยู่บนเรือรบจึงเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
นิรยะเพชฌฆาตนี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาทั่วไป ผู้ที่สามารถสร้างลาดเลาที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ณ ที่แห่งนี้ได้นั้น ก็ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
ทว่าในเมื่อเลือกที่จะมาช่วยเพิ่มอานุภาพให้หวูเผิงห่ายแล้ว เรื่องราวดำเนินการมาถึงครึ่งทาง จึงไม่อาจหยุดวางมือได้ในเวลานี้ ทำได้เพียงฝืนใจลุย
“หึ ไม่ทราบว่าผู้เพื่อนยุทธ์จากที่ใดฝึกตนอยู่ที่นี่ ได้โปรดช่วยปรากฏตัวด้วย!”หวูเผิงห่ายก้าวเดินขึ้นไปหนึ่งก้าวแล้วตวาดเสียงดัง
เขาไม่ใช่แค่ปรมาจารย์หลอมอาวุธคนหนึ่งเท่านั้น ตัวเขาเองก็มีผลการฝึกตนจ้าวมหาเทพช่วงกลางเช่นกัน อาศัยของขลังอาวุธสงครามจำนวนมาก เมื่อพบเจอจ้าวมหาเทพช่วงปลายทั่วไปก็สามารถประชันกันได้อยู่ ผู้ที่ทำให้เขาหวาดเกรงในนิรยะเพชฌฆาตนั้นมีเพียงไม่กี่คนจริง ๆ
เวิ่ง! ……
มีช่องโหว่ปรากฏบนระลอกคลื่นเปลวไฟสีดำ ในขณะที่พวกหวูเผิงห่ายกำลังนึกว่าเจ้าของสถานที่แห่งนี้จะปรากฏตัวอยู่นั้น ศีรษะที่ใหญ่โตปานภูเขาลูกหนึ่งก็ยื่นออกมา
ศีรษะดังกล่าวเหมือนดั่งมังกรแท้ ทว่ากลับน่ากลัวและดุดันกว่าศีรษะมังกรแท้เสียอีก เขาอสูรสีทองล้วนทั้งสามเขาที่เฉียบคมปานกระบี่เทพ ดวงตาสีแดงเลือด มีอานุภาพที่ไร้ขอบเขตทะลุออกมา
“นายท่านกำลังปิดขัง จักไม่พบผู้ใดทั้งนั้น ไสหัวไป!”
นอกเหนือจากหลัวซิวและคนรอบกายเขาแล้ว อสูรดูดจิตจะไม่แสดงลักษณะท่าทีดี ๆ ต่อผู้อื่นหรอกนะ ในฐานะที่เป็นชนเผ่าราชันย์อสูรกลืนจิต สันดานเดิมของมันโหดร้ายและเย็นชามาก
ทันทีที่อสูรดูดจิตปรากฏ ก็มีออร่าที่ดุดันทารุณแผ่กระจายออกไป ทำให้พวกหวูเผิงห่ายที่อยู่บนเรือรบตกใจจนสะดุ้ง
“ไอ้เดรัจฉาน! แม้แต่นายท่านมึงก็ไม่กล้าไม่ให้เกียรติกู ไปตายซะ!”
เดิมทีหวูเผิงห่ายก็อันอั้นไฟโกรธอยู่เต็มท้องแล้ว ก่อนที่เขาจะเรียกตราประทับขนาดใหญ่ออกมาแล้วโจมตีไปทางศีรษะของอสูรดูดจิตโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ตู้มม!
อสูรดูดจิตไม่ได้หลบหลีก ปล่อยให้ตราประทับขนาดใหญ่นี้กระแทกลงบนเขา เสียงดังสนั่นหวั่นไหวและมีคลื่นพลังที่น่ากลัวระเบิดออกมา