มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2423
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2423
โครม! โครม! โครม! ……
ยังคงเป็นทัณฑ์สายฟ้าพิโรธที่น่าสยดสยองนั่นอีกเช่นเคย ตั้งแต่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เป็นต้นมา หลัวซิวก็ประสบพบเจอกับทัณฑ์สายฟ้าพิโรธมาไม่รู้กี่หนแล้ว ทว่าก่อนแดนมกุฎเทพ ทัณฑ์สายฟ้าทุกครั้งล้วนสามารถรับมือได้อย่างสบาย ๆ อีกทั้งศักยภาพเขาก็พุ่งพรวดด้วย
ทว่าตั้งแต่มกุฎเทพเป็นต้นมา หลังจากริเริ่มยึดกุมกฎไร้ลักษณ์ ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธที่ปรากฏในทุก ๆ ผลการฝึกตนเลื่อนระดับ มันก็ไม่สบายเช่นนั้นอีกต่อไป
เทียนเต้าหรือวิถีสวรรค์ในยุคปัจจุบันไร้ผู้ควบคุม แต่วิถีเป็นสิ่งที่ไร้ความรู้สึกไร้ความปราณีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธที่ไร้ขอบเขตผ่าลงมาสามวันสามคืนเต็ม ๆ ถึงจะค่อย ๆ สงบลง ส่วนหลัวซิว ณ บัดนี้ก็แทบจะไร้ซึ่งอุบายแล้ว ร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยบาดแผล
จากขั้น 3 ถึงขั้น 4 คือการก้าวข้ามช่องกว้างเล็ก ๆ ศักยภาพที่ได้รับการยกระดับค่อนข้างชัดเจน อีกทั้งภายใต้การชุบร่างจากทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของหลัวซิวที่บรรลุถึงจ้าวมหาเทพขั้น 6 ในตอนแรก ก็มีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ญาณเทวร่างมนุษย์ในตัวหยั่งรู้กำลังโคจรเคล็ดเทวกลั่นวิญญาณ กลั่นวิญญาณเหมือนดั่งกลั่นยา ทำให้พลังวิญญาณหยั่งรู้ของเขาเพิ่มทวีขึ้นทุกวัน
จิตญาณคือรากฐานของจอมยุทธ์ วิญญาณและร่างญาณยิ่งใหญ่แข็งแรงพร้อมกัน เคียงบ่าเคียงไหล่กัน เรียกได้เลยว่าทำให้วิถีจอมยุทธ์ของหลัวซิวแทบจะไร้ช่องโหว่และจุดอ่อน
เส้นทางการฝึกยุทธ์ในภพชาตินี้ สมบูรณ์แบบกว่าภพชาติของไท่ซ่างฉิงมาก ๆ นี่จึงทำให้หลัวซิวมั่นใจในเส้นทางจอมยุทธ์ในอนาคตของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม
ภพชาตินั้นของไท่ซ่างฉิง แดนแข็งแกร่งที่สุดที่เขารู้จักก็คือแดนแห่งผู้สูงส่งที่อยู่เหนือเทพมารมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า
ทว่าเขาทราบมาโดยตลอดเลยว่าในยุคไท่ชูและยุควัฏสงสาร ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์ในตำนาน หรือจ้าวแห่งวัฏสงสารที่ขึ้นมาทดแทนสวรรค์ในตอนหลัง ล้วนเป็นการคงอยู่ที่ลึกซึ้งจนไม่อาจคาดเดาได้มากกว่าผู้สูงส่งในยุคปัจจุบันแน่นอน
ยิ่งกว่านั้นคือเหล่าผู้แข็งแกร่งแห่งยุคที่ก้าวเข้าสู่วิถีมาร ต่อต้านสังหารสวรรค์ในยุคไท่ชู ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือผู้สูงส่ง แดนแห่งวิถียุทธ์ที่สูงส่งนั่นทำให้จิตใจหลัวซิวเฝ้าปรารถนาถึง
ชั่วชีวิตนี้ของเขา ก็คือจะแสวงหาจุดสูงสุดของวิถียุทธ์ และยิ่งจะอยู่เหนือจุดสูงสุดของวิถียุทธ์!
หลังจากสลัดความคิดในหัวออกไป หลัวซิวก็กลับเข้าไปในถ้ำแล้วฝึกตนอย่างบ้าระห่ำต่อ โอสถแก่นแท้จำนวนมากถูกเขากลั่นแปรดูดซับอย่างต่อเนื่อง เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าผลการฝึกตนของตัวเองต่ำเกินไป ไม่ว่าจะอยู่ในแท่นบูชาเทพมารหรือวังเทียนหมิง หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์พิเศษบางอย่าง เขาอาจจะดับสลายสูญสิ้นไปตั้งนานแล้ว
นอกเหนือจากการใช้โอสถแก่นแท้ฝึกตนแล้ว หลัวซิวยังนำยาเซียนจำนวนมากที่ไป๋เฟยชิงมอบให้เขาออกมา อาศัยเคล็ดคัมภีร์โอสถที่ยึดกุม หลัวซิวอ้างอิงจากยาเซียนในมือ รวมไปถึงสิ่งที่ตนต้องการ แล้วอนุมานตำรับยาเพื่อตนเองโดยเฉพาะ
ภายใต้เงื่อนไขการฝึกฝนที่ดีเลิศเช่นนี้ ถึงแม้ระดับความยากในการยกระดับผลการฝึกตนของเขาจะยากกว่าจอมยุทธ์ทั่วไปมาก ๆ แต่ผลการฝึกตนและศักยภาพของหลัวซิวก็ยังคงเพิ่มขึ้นด้วยระดับความเร็วที่รวดเร็วมาก ๆ อย่างต่อเนื่อง
ชั่วพริบตาเดียว เวลาก็ล่วงเลยไปอีกหนึ่งปีกว่า อีกทั้งหลัวซิวยังจัดวางค่ายสีมาเพลาไว้รอบถ้ำด้วย เวลาโลกภายนอกผ่านไปหนึ่งปี เท่ากับเขาฝึกตนอยู่ภายใน 20 กว่าปีแล้ว
วันนี้ จู่ ๆ หลัวซิวก็หยุดการฝึกตน เนื่องจากโอสถแก่นแท้ระดับห้า 10 ล้านเม็ดถูกใช้หมดแล้ว ยาที่เขากลั่นด้วยยาเซียนจำนวนมากก็ถูกใช้หมดไประดับหนึ่งแล้ว
ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 20 กว่าปี เขาก็ใช้ทรัพยากรที่มีมูลค่าโอสถแก่นแท้ระดับห้า 20 ล้านเม็ดหมดไปแล้ว การบริโภคระดับนี้ต้องสามารถทำให้ทุกคนตะลึงงันได้อย่างแน่นอน!
“บริโภคมากเกินไปแล้ว……”
หลัวซิวยิ้มอย่างขมขื่นพลางส่ายหน้า ผลการฝึกตนของเขา ณ บัดนี้ยังอยู่แดนมกุฎเทพขั้น 6 ทรัพยากรที่มากมายเช่นนี้เพียงพอที่จะให้จักรพรรดิเทพขั้นปฐมภูมิคนหนึ่งฝึกตนถึงช่วงกลางตลอดจนช่วงปลายได้แล้ว แต่เขากลับแค่ฝึกจากมกุฎเทพขั้น 3 ถึงขั้น 6