มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2424
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2424
นอกเหนือจากนี้ ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเขาก็ยกระดับถึงจ้าวมหาเทพขั้น 7 อย่างราบรื่นเช่นกัน ถือว่าบรรลุร่างยุทธ์ระดับจ้าวมหาเทพช่วงปลายแล้ว
เมื่อเปรียบเทียบกับร่างเนื้อและผลการฝึกตน การยกระดับของเคล็ดเทวกลั่นวิญญาณค่อนข้างมีขีดจำกัด เพิ่งบรรลุถึงจ้าวมหาเทพขั้น 4 ขั้นสูง ยังห่างจากขั้น 5 อีกนิดหนึ่ง
นี่เพิ่งอยู่ในแดนมกุฎเทพ การฝึกตนก็สูญเสียทรัพยากรที่มากมายเช่นนี้แล้ว จากการที่ผลการฝึกตนยิ่งสูงขึ้น ทรัพยากรที่ต้องสูญเสียก็ยิ่งมาก อย่าว่าแต่แดนเทพมารระดับเก้าเลย ถึงแม้จะฝึกตนถึงแดนเทพมารระดับหก หลัวซิวก็ไม่กล้าไปจินตนาการเลยว่าตัวเองต้องบริโภคทรัพยากรมากเพียงใดถึงจะทำได้
โชคดีที่เขาก็มีข้อดีของตนเองเช่นกัน นั่นก็คือศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของวิถีไร้ลักษณ์ แดนผลการฝึกตนของเขาต่ำ แต่มีกำลังรบสามารถข้ามขั้นท้าประลองผู้ที่แดนอยู่เหนือกว่าได้อย่างสมบูรณ์เลย
ขณะที่ผลการฝึกตนยังต่ำ อัจฉริยะส่วนมากสามารถข้ามขั้นท้าประลองผู้ที่แดนอยู่เหนือกว่าตน แต่หลังจากศักยภาพพัฒนาบรรลุถึงระดับที่แน่นอนแล้ว ผลการฝึกตนอยู่ในแดนสูงแล้วแต่กลับไม่สามารถข้ามขั้นท้าประลองผู้อื่นได้อีก เหมือนดังเช่นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพในปัจจุบัน ครั้นเมื่อยังเป็นวัยรุ่น พวกเขาล้วนเป็นอัจฉริยะผู้มีความฉลาดเป็นเลิศที่สามารถข้ามขั้นสังหารศัตรู ทว่าหลังจากฝึกตนถึงแดนจักรพรรดิเทพแล้ว การข้ามขั้นประลองจึงกลายเป็นเรื่องเพ้อฝัน
แต่หลัวซิวกลับแตกต่างกัน เขาสามารถข้ามขั้นประลองได้ตั้งแต่แรกเริ่ม กระทั่งบัดนี้เขาฝึกตนถึงแดนมกุฎเทพแล้ว เมื่อไม่อาศัยกำลังภายนอกใด ๆ ก็ยังคงมีความสามารถในการข้ามขั้นสังหารจ้าวมหาเทพอยู่ ยิ่งกว่านั้นคือเมื่อใช้ไพ่เด็ดอุบายที่ตนยึดกุม ก็สามารถต่อกรกับจักรพรรดิเทพตลอดจนมหาจักรพรรดิยุทธ์ได้เลย
เขาเชื่อมั่นว่าต่อให้อนาคตผลการฝึกตนของเขาบรรลุถึงจ้าวมหาเทพ จักรพรรดิเทพตลอดจนแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ เขาก็ยังคงสามารถข้ามขั้นประลองกับผู้ที่อยู่เหนือตนได้อยู่เช่นเคย หากความสามารถในการข้ามขั้นสังหารศัตรูเช่นนี้คงอยู่ตลอดไป เช่นนั้นอนาคตในโลกามหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งแปด ก็จะไม่มีผู้ใดที่เป็นคู่ต่อสู้ของตนได้อีก!
เมื่อไม่มีทรัพยากรในการฝึกตนแล้ว การปิดขังต่อไปจึงไร้ความหมาย หลัวซิวออกจากดาวเคราะห์ที่รกร้างว่างเปล่าดวงนี้ แล้วมาถึงสรรพมหาโลกาอีกครั้ง
ตำแหน่งของดาราเมฆาทมิฬตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างมหาโลกายอดอัมพรและสรรพมหาโลกาที่ติดต่อกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หลังเขาออกจากดาราเมฆาทมิฬ ก็เลือกทิศทางหนึ่งอย่างเรื่อยเปื่อย สถานที่ปิดขังในก่อนหน้านี้ค่อนข้างใกล้กับสรรพมหาโลกา
หลังจากมากถึงสรรพมหาโลกา หลัวซิวก็สืบเสาะข่าวคราวบางอย่างได้ สุดท้ายเรื่องมหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนดับสลายสูญสิ้นก็ไม่อาจปิดบังได้อยู่ดี นี่จึงทำให้มหาโลกาจ้านเทียนตกอยู่ในความวุ่นวาย
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ฝั่งมหาโลกะมรณะกลับเหมือนไม่ค่อยมีเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกสงสัยเล็กน้อย หรือว่าตาแก่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมินั่นยังไม่ตาย?
มหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งที่ควรตายไปตั้งแต่หลายร้อยล้านปีก่อน การที่สามารถคงอยู่ได้ยาวนานเช่นนี้นั้น เดิมทีมันก็เป็นเรื่องปาฏิหาริย์อยู่แล้ว เมื่ออยู่ในสถานที่ที่อันตรายอย่างวังเทียนหมิง หรือเขายังสามารถมีชีวิตรอดออกมาได้?
หากมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิไม่ตาย เช่นนั้นสิ่งที่หลัวซิวเกรงกลัวกลับไม่ใช่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ แต่เป็นเสี้ยวปณิธานของสวรรค์ที่คงอยู่ในวังเทียนหมิง ยิ่งกว่านั้นคือเขาสงสัยเล็กน้อยว่าการที่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิสามารถคงอยู่มาได้หลายร้อยล้านปีนั้น มันมีความเกี่ยวข้องกับวังเทียนหมิงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!
หลัวซิวขมวดคิ้วพลางเรียบเรียงความคิดในสมอง และค่อย ๆ เรียบเรียงเงื่อนงำได้หนึ่งอย่าง เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิค้นพบวังเทียนหมิง อีกทั้งเขายังได้รับโอกาสบางอย่างในวังเทียนหมิงด้วย ต่อมาขณะที่เขาออกจากวังเทียนหมิง จึงใช้ชี่ทมิฬจิ่วโยวผนึกสถานที่แห่งนั้นเอาไว้
หลังจากผ่านมาหลายร้อยล้านปี มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิฟื้นตัวคืนมาอีกครั้ง เขาพามหาจักรพรรดิยุทธ์หนึ่งคนและจักรพรรดิเทพอีกสิบกว่าคนเข้าไปในวังเทียนหมิง แท้จริงแล้วไม่ได้เข้าไปเพื่อสำรวจวังเทียนหมิง แต่จะพาคนเหล่านั้นเข้าไปบูชาให้แก่เสี้ยวปณิธานสวรรค์ที่อยู่ภายใน!
เนื่องจากหลัวซิวจำได้ดีมาก ๆ ว่าหลังจากจักรพรรดิเทพสิบกว่าคนนั้นเข้าไปภายในแล้ว ก็ถูกเสี้ยวปณิธานสวรรค์ดูดกลืนชีวีดั้งเดิมไป!