มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2431
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2431
เมื่อเห็นสภาพที่น่าเวทนาของหลี่เฟยเฉินทั้งสามคน จู่ ๆ สีหน้าของหลี่จิ่งเฟยก็เปลี่ยนไปหนักมาก จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามีจิตสังหารที่มืดทึบน่ากลัวทะลุออกมาจากสีหน้าของหลัวซิวที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในตอนแรก
“กินยาเม็ดนี้ลงไป”
ภายในเสี้ยววินาที หลัวซิวก็ปรากฏตรงหน้าหลี่เฟยเฉินแล้ว ยิ่งกว่านั้นคือทุกคนในที่เกิดเหตุสังเกตไม่เห็นเลยว่าเขาเข้าไปได้อย่างไร และเมื่อผู้คนสังเกตเห็น หลัวซิวก็ใส่ยาเข้าไปในปากหลี่เฟยเฉินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลี่เฟยเฉิน ณ วินาทีนี้บาดเจ็บสาหัสมาก ๆ แม้แต่นิ้วยังกระดิกไม่ได้ มาที่นี่ได้โดยการถูกผู้อื่นหามมา
สัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่มืดทึบน่ากลัวบนตัวหลัวซิว จอมยุทธ์สองคนที่กำลังหามหลี่เฟยเฉินก็อกสั่นขวัญหาย ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ผลการฝึกตนของหลี่เฟยเฉินเป็นเพียงมกุฎเทพ ส่วนยาที่หลัวซิวให้เขากินนั้นกลับเป็นยารักษาตัวที่ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพใช้ อีกทั้งภายในยายังมีพลังกฎชีวิตแฝงซ่อนอยู่ด้วย แม้ฐานยุทธ์จะได้รับความเสียหายก็สามารถฟื้นฟูกลับคืนมาได้
แต่ทว่าตัวหยั่งรู้ที่ได้รับความเสียหายนั่น บัดนี้หลัวซิวก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน ทว่าขอแค่มียาเซียนบางอย่าง เขาก็สามารถกลั่นยาที่ใช้สำหรับฟื้นฟูตัวหยั่งรู้ที่ได้รับความเสียหายของจอมยุทธ์แดนมกุฎเทพออกมาได้อยู่
สภาพอาการบาดเจ็บของหลี่ยู่และเย่ห้าวหรานก็เป็นเช่นเดียวกัน สำหรับผู้อื่นแล้วบาดแผลตัวหยั่งรู้เป็นสิ่งที่จัดการยากมาก แต่มันกลับไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับหลัวซิว
แม้ตัวเองจะตัดขาดบ่วงกรรมกับหลี่ยู่และเย่ห้าวหรานแล้ว ทว่าหลี่ยู่และเย่ห้าวหรานก็เข้าใจดีมาก ๆ ว่าทุกสิ่งอย่างของพวกเขาล้วนต้องได้รับการโน้มนำโดยปณิธานของร่างแท้
เมื่อหลัวซิวไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพวกเขา พฤติกรรมกริยาและอุปนิสัยการวางตัวบางอย่างของพวกเขาล้วนถูกควบคุมโดยตนเอง แต่ถ้าเกิดหลัวซิวจะแทรกแซงละก็ พวกเขาก็ทำได้เพียงปฏิบัติตามปณิธานของร่างแท้
เพราะฉะนั้นเมื่อพวกเขาเห็นหลัวซิว จึงมีความรู้สึกที่ซับซ้อนผุดขึ้นมาในใจ เมื่อมองในมุมร่างกลวัฏสงสาร สัญชาตญาณของพวกเขาไม่อยากใช้ชีวิตโดยหลุดพ้นจากร่างแท้ แต่เมื่อปีนั้นร่างแท้กลับจากไปอย่างเด็ดขาด ตัดขาดความสัมพันธ์ทุกอย่างกับพวกเขา
เรื่องบ่วงกรรมมีต้นกำเนิดมาจากวัฏสงสาร สาเหตุที่ตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างร่างกลวัฏสงสารนั้น เป็นเพราะหลัวซิวสันนิษฐานว่าเมื่อปีนั้นเมิ่งเชียนชางจงใจให้เขากลับชาติมาเกิดสองครั้ง แล้วทิ้งทางหนีทีไล่บางอย่างไว้ในสองภพชาตินี้
พลังแห่งวัฏสงสารลึกลับและมหัศจรรย์มากจนไม่อาจคาดเดาได้ มีเพียงจ้าววัฏสงสารในแต่ละยุคที่ยึดกุมพลังแห่งวัฏสงสารที่หลัวซิวยังรู้สึกเกรงกลัวมาก ๆ
แต่ว่าวันนี้เมื่อเขาได้เผชิญหน้ากับร่างกลวัฏสงสารทั้งสองอีกครั้ง หลัวซิวกลับรู้สึกทอดถอนใจเล็กน้อยกะทันหัน เนื่องจากเขาค้นพบว่าไม่ว่าเขาจะฟาดฟันกระบี่อย่างไร เหมือนจะไม่สามารถตัดความสัมพันธ์ระหว่างเขาและร่างกลวัฏสงสารทั้งสองให้ขาดออกจากกันได้
ร่างกลวัฏสงสารคงอยู่เพื่อเขา หากเขาจะตัดความสัมพันธ์โดยสิ้นเชิงจริง ๆ ละก็ เหตุใดจึงไม่ให้พวกเขาดับสลายสูญสิ้นโดยสิ้นเชิง ไม่คงอยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไปล่ะ?
แต่หลัวซิวกลับไม่ได้ทำเช่นนี้ แสดงว่าภายในจิตใจเขาก็ยอมรับการวางตัวของทั้งสองภพชาติอย่างเย่ห้าวหรานและหลี่ยู่อยู่
และนี่ก็คือจุดที่หลัวซิวแตกต่างจากไท่ซ่างฉิง หากเปลี่ยนเป็นไท่ซ่างฉิง เขาจะใช้ปณิธานของร่างแท้ ทำให้ร่างกลวัฏสงสารทั้งสองหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่ลังเลใจเลย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วต่อให้เมิ่งเชียนชางจะอำพรางทางหนีทีไล่อะไรไว้ ก็ไม่สามารถนำมาจัดการตนเองได้
อย่างไรก็ตามหลัวซิวกลับแตกต่างกัน จิตใจเขาไม่สามารถปฏิเสธทั้งสองภพชาติอย่างเย่ห้าวหรานและหลี่ยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการจงใจจัดแจงก็ดี หรือการกลับชาติมาเกิดก็ช่าง ประสบการณ์ของทั้งสองภพชาตินี้ล้วนเป็นเรื่องจริงที่เหมือนกันราวกับแกะ
“หรือว่าข้าควรยอมรับพวกเขา แต่ไม่ใช่การยับยั้งพวกเขา? ไม่ว่าเมิ่งเชียนชางจะมีอุบายอะไร เมื่อมีข้าศึกก็ใช้ขุนพลรับมือ เมื่อเกิดอุทกภัยก็ใช้ดินป้องกัน?”
ทันใดนั้นเอง ก็มีความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นมาในใจหลัวซิว
จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าความคิดในอดีตของตนได้เดินเข้าไปในเขตผิดพลาด นั่นก็คือความเกรงกลัวที่มีต่อเมิ่งเชียนชาง แต่ในความเป็นจริง เขาจำเป็นต้องเกรงกลัวเมิ่งเชียนชางด้วยหรือ?
ต่อให้เมิ่งเชียนชางนั่นจะได้รับการถ่ายทอดสืบสานจากจ้าววัฏสงสาร แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นเพียงผู้ที่เคยพ่ายแพ้อยู่ในเงื้อมมือตนเท่านั้นแหละ!
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา หลัวซิวใช้ชีวิตได้ระมัดระวังมาก ๆ เขารู้สึกว่าสภาพจิตใจเช่นนี้ของตัวเองเหมือนควรจะมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว