มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2452
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2452
ในความทรงจำของไท่ซ่างฉิง เขาเข้าใจอุปนิสัยของเทียนหย่งดีมาก ๆ หากนางไปโลกสวรรค์แล้ว ต้องก่อความวุ่นวายอย่างใหญ่โตแน่นอน บางทีที่รากฐานนางเสียหายนั้นก็อาจเป็นเพราะเหตุนี้เช่นกัน มิเช่นนั้นเมื่ออาศัยใจแห่งศุภรที่นางยึดกุม บางทีกระทั่งปัจจุบันนางก็อาจจะยังมีชีวิตอยู่……
ใจแห่งศุภรน่าจะแตกสลายครั้นเมื่อนางบุกเข้าไปในโลกสวรรค์
ภายในเวลาชั่วขณะ หลัวซิวก็ไม่ทราบเช่นกันว่าความรู้สึกนี้ในใจมันหมายความว่าอย่างไร เขายืนอยู่ข้างโลงน้ำแข็งพลางเพ่งมองสตรีที่นอนอยู่ภายใน
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าถ้าเกิดตนยังเป็นไท่ซ่างฉิงเมื่อปีนั้น เมื่อเห็นเทียนหย่งนอนอยู่ในนี้ จิตใจไท่ซ่างฉิงจะรู้สึกอย่างไรนะ? ตัวธรรมของเขายังสามารถทำถึงขั้นตัดขาดเยื่อใยปลงตกอย่างไร้ความรู้สึกต่าง ๆ ได้อีกหรือไม่?
ความลุ่มหลงของเทียนหย่ง ความเสียใจของเมิ่งเสี้ย การยอมตายของจี้หวูชวง แล้วก็ถึงตายก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงในภพชาตินี้ของเหยียนเยว่เอ๋อร์ การอยู่เคียงข้างอย่างเงียบ ๆ ของเหยียนซีโรว่ ภายในเวลาชั่วขณะ หลัวซิวก็รู้สึกว่าภาระหน้าที่บนไหล่ตนหนักอึ้งมาก ๆ
ใช่ว่าต้องช่วยชีวิตสรรพสิ่งในโลกหล้าเสมอไป และไม่ได้ให้เขาสร้างวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จ ทว่าความรู้สึกทั้งหมดนี้กลับหนักอึ้งอย่างยิ่ง
ในสายตาของผู้ที่จิตใจเหี้ยมเกรียม ความรู้สึกเป็นสิ่งที่ไม่มีความหมาย ยิ่งกว่านั้นคือมันไร้ค่ากว่าขนของห่านหงษ์เสียอีก แต่ในสายตาของผู้ที่ให้ความสำคัญกับความผูกพันทางจิตใจ ความรู้สึกกลับเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประมาณค่าได้ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถวัดได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ
ตำหนักหลังนี้มีนามว่าตำหนักไท่ซ่างเทียนหย่ง โดยแบ่งออกเป็นตำหนักไท่ซ่างและตำหนักเทียนหย่ง จุดที่หลัวซิวยืนอยู่คือตำหนักไท่ซ่าง บางทีการที่เทียนหย่งนำตัวนางฝังอยู่ที่นี่นั้น อาจจะมีเจตนาเสี้ยวหนึ่งที่อยากให้ตัวเองและไท่ซ่างฉิงอยู่ด้วยกันตลอดไป
ในตำหนักเทียนหย่ง มีการถ่ายทอดสืบสานและของล้ำค่าต่าง ๆ ที่นางทิ้งไว้ ทว่าในความเป็นจริงขณะที่เทียนหย่งออกจากโลกจักรภพ ของล้ำค่าที่นางพกติดตัวไปนั้นมีไม่มาก เนื่องจากนางมีตระกูลของตนเอง ก่อนจะจากไปนางได้ทิ้งสิ่งของจำนวนมากไว้ในตระกูล
ภายในตำหนักไท่ซ่างนี้ดูโล่งเปล่ามาก นอกเหนือจากโลงน้ำแข็งที่นางนอนแล้ว เทียนหย่งยังทิ้งของสิ่งหนึ่งไว้ในนี้ นั่นก็คือหินบรรพไท่ชูก้อนหนึ่ง
มันคือก้อนหินสีเทาที่มีขนาดเท่ากำปั้นหนึ่งก้อน แต่กลับเป็นสิ่งล้ำค่าที่ไม่สามารถประมาณค่าได้ มาตรแม้นว่าอยู่ในยุคไท่ชู มันก็เป็นของล้ำค่าที่หายากมาก ๆ
เนื่องจากหินบรรพไท่ชูเป็นสิ่งที่ผนึกรวมมาจากดั้งเดิมที่ไร้ขอบเขตครั้นเมื่อดาราจักรวาลเริ่มวิวัฒนาการใหม่ ๆ สิ่งดั้งเดิมที่สามารถวิวัฒนาการห้วงดาราที่กว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ออกมาได้นั้น มันต้องเป็นพลังที่ลี้ลับถึงขีดสุดมากเพียงใด หินบรรพไท่ชูที่ผนึกรวมออกมาจึงล้ำค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว
วินาทีนี้หินบรรพไท่ชูก้อนนี้ก็อยู่ในอ้อมอกของเทียนหย่งที่นอนอยู่ในโลงน้ำแข็งนั่นเอง เสี้ยววินาทีที่ตัวสำนึกของหลัวซิวสัมผัสกับมัน หลัวซิวก็สัมผัสได้ถึงออร่าดั้งเดิมที่เข้มข้น หากนำออร่าดั้งเดิมประเภทนี้มาฝึกตน ประสิทธิผลต้องดีกว่าโอสถแก่นแท้ทั้งปวงอย่างแน่นอน แม้แต่โอสถแก่นแท้ระดับเก้ายังไม่สามารถเทียบเคียงกับมันได้
หลัวซิวเข้าใจอย่างฉับพลัน การที่เทียนหย่งทิ้งร่างตนไว้ ณ สถานที่แห่งนี้นั้น นางก็หวังว่าสักวันไท่ซ่างฉิงจะมาเยี่ยมนางที่นี่หนึ่งหน และนางก็ทราบเช่นกันว่าหลังจากไท่ซ่างฉิงกลับชาติมาเกิดแล้ว หากเขาอยากกลับไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดอีกครั้ง มันจะเป็นเส้นทางที่ทรหดลำบากมาก สาเหตุที่นางทิ้งหินบรรพไท่ชูไว้ที่นี่นั้น ก็เพื่อหวังว่าจะสามารถช่วยเขาได้อีกแรงหนึ่ง
“เทียนหย่งเอ๊ย ความผูกพันนี้มันหนักอึ้งมากเกินไป……”หลัวซิวไม่ใช่คนเจ้าอารมณ์แต่อย่างใด แต่วินาทีนี้ก็ยังคงสะเทือนใจต่อความรู้สึกที่เทียนหย่งทุ่มเทให้อย่างลึกซึ้งอยู่ดี
“หากในวัฏสงสารมีเจ้า อนาคตข้าจักบุกเข้าไปในวัฏสงสารอย่างแน่นอน แล้วพาเจ้ากลับมา!”หลัวซิวพึมพำให้คำมั่นสัญญา เขาต้องการหินบรรพไท่ชูก้อนนี้มากจริง ๆ
หลัวซิวยื่นมือออกไปเอาหินบรรพไท่ชูมาจากอ้อมอกเทียนหย่ง นิ้วมือของเขาสัมผัสกับผิวหนังของนาง ความเย็นเยือกและไร้พลังชีวิตนี้ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจเล็กน้อย