มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 246 แย่งชิงน้ำแร่วิญญาณ
บทที่ 246 แย่งชิงน้ำแร่วิญญาณ
ภาพนี้เมื่อตกอยู่ในสายตาของนักยุทธ์ที่อยู่ด้านหลัง เพียงรู้สึกขนหัวลุก มีวีรบุรุษคนรุ่นใหม่อีกคนถูกหนวดนั่นรัดเอาไว้ และกลายเป็นน้ำแข็งไปในทันที แล้วหนวดอีกเส้นก็ได้ฟาดเข้ามา ร่างแตกสลายสิ้นลมหลาย
หนวดสีดำเหล่านี้มีทั้งหมดนับสิบเส้น ซึ่งได้กลายรูปมาจากการรวมตัวของปราณหยินในวิชาห้ามค่ายกล ทันทีที่มีคนคิดจะบุกเข้ามาในหลุมลึกเพื่อเก็บเอาน้ำแร่วิญญาณ วิชาห้ามค่ายกลก็จะถูกกระตุ้นให้ทำงานทันที
โอกาสและวิกฤตมักอยู่รวมกัน นี่เป็นสิ่งที่ยอมรับร่วมกันระหว่างนักยุทธ์ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอันตราย แต่เพื่อโอกาสในการค้นพบสมบัติ ก็ยังมีผู้คนมากมายที่รุดหน้าไปโดยไม่เกรงกลัวต่ออุปสรรคใด ๆ ไม่ห่วงใยความปลอดภัยของตนเอง
หนวดสีดำนับสิบสายเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่เพียงแค่ระมัดระวังสักหน่อย ตัวสำนึกคอยระวังให้มากหน่อยก็สามารถหลบพ้นได้
ปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 8 ที่มีผลการฝึกตนสูงที่สุดผู้นั้นเคลื่อนไหวเร็วที่สุด ใช้ท่าร่างที่งดงามบุกผ่านการปิดขั้นของหนวดสีดำนับสิบสายนั่นมาได้ แล้วยื่นมือคว้าไปทางที่น้ำแร่วิญญาณทั้งสามหยดลอยอยู่
ทว่าในตอนนี้เอง หนวดสีดำนับสิบสายก็ได้โจมตีเข้ามาทางด้านหลังของเขา
แต่ปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 8 ผู้นี้ก็ได้มีการป้องกันอยู่แต่แรกแล้ว เขาขยี้ยันต์ขั้น 5 ในทันที กลายเป็นเกราะป้องกันม่านแสง คุ้มกันร่างของเขาเอาไว้
ส่วนคนอื่น ๆ ที่ตามมาด้านหลังนั้นเป็นธรรมดาที่จะไม่มองดูน้ำแร่วิญญาณถูกแย่งไปโดยไม่ทำอะไรเลย แต่ละคนต่างนำอาวุธยุทธ์ของตนออกมา และโจมตีเข้าไปหาเขา
“สารเลว!”
ปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 8 ผู้นั้นมีท่าทางโมโหขึ้นมา แม้ว่าพลังการป้องกันของยันต์ขั้น 5 จะแข็งแกร่ง แต่การโจมตีจากวีรบุรุษคนรุ่นใหม่หลายคนบวกกับหนวดสีดำพวกนั้น กลับมีแรงกระแทกอันมหาศาล กระแทกจนเขาลอยตัวออกไป
ในตอนที่ถูกกระแทกลอยออกไปนั่นเอง มือของเขาอยู่ห่างจากน้ำแร่วิญญาณ เพียงแค่อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง!
คนอื่น ๆ เห็นเช่นนั้นต่างก็แย่งกันบุกเข้าไปด้านหน้า เพื่อแย่งชิงน้ำแร่วิญญาณ
สถานการณ์อลหม่านวุ่นวาย และในตอนนี้เอง น้ำแร่วิญญาณทั้งสามหยดก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
สวบบบ!
ลำแสงสีเงินที่เลือนรางสายหนึ่งพุ่งลอยเข้ามายังด้านหน้าของหลัวซิว หลงหมิงอ้าปากแล้วคลาย น้ำแร่วิญญาณทั้งสามหยดได้ลอยออกมา
สามารถขโมยเอาน้ำแร่วิญญาณมาอย่างเงียบ ๆ เช่นนี้ได้ แน่นอนว่าต้องเป็นมังกรไร้ร่างที่ตัวสำนึกของปรมาจารย์ฝึกจิตไม่อาจพบเห็นได้
มังกรไร้ร่าง ไปมาอย่างไร้ร่องรอย ค้นหาสมบัติไปตามสถานที่อันตรายต่าง ๆ นานา พูดได้ว่าเป็นเรื่องปกติ
หลัวซิวไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการแย่งชิงในหลุมลึก แต่ได้ให้หลงหมิงย่องเข้าไปใกล้ ๆ ตั้งแต่ในตอนแรกแล้ว มันรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกับปริภูมิ สามารถผ่านวิชาห้ามค่ายกลที่อยู่ใกล้ ๆ ไปได้ โดยที่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย
ในเมื่อได้น้ำแร่วิญญาณมาครอบครองแล้ว หลัวซิวก็หมุนตัวจากไปในทันที ทว่ายังไม่ทันได้จากไปไกลเท่าไรนัก คนสามคนก็ได้ขวางทางของเขาเอาไว้
สามคนนี้ มีฝึกจิตขั้น 7 สองคน และอีกหนึ่งคนคือฝึกจิตขั้น 9
แดนปริศนาไม่เหมือนกับหอคอยมังกรบิน เพียงแค่กำหนดว่าต้องอยู่ภายใต้แดนราชายุทธ์ลงมา แต่ไม่ได้กำหนดอายุ
เพียงแค่แต่ละกองกำลังต่างมุ่งเน้นปลูกฝังคนรุ่นใหม่ ดังนั้นคนที่ถูกส่งมาล้วนเป็นวีรบุรุษคนรุ่นใหม่เป็นหลัก
เพราะยังไงเสียนักยุทธ์ที่ฝึกตนมาเป็นเวลาหลายสิบปีนับร้อยปีที่ยังคงอยู่ในแดนฝึกจิตเหล่านั้น ล้วนได้สูญเสียมูลค่าในการให้ความสำคัญในการฝึกฝนไปแล้ว
แต่เพื่อแย่งชิงโอกาสที่จะค้นพบสมบัติในแดนปริศนาที่มากยิ่งขึ้นก็มีบางกองกำลัง ที่ได้ส่งปรมาจารย์ฝึกจิตรุ่นเก่าออกมา
สามสิบปีมานี้ ผลการฝึกตนบรรลุถึงฝึกจิตขั้น 5 ขั้น 6 ก็นับว่าสุดยอดแล้ว ฝึกจิตขั้น 7 ขึ้นไป ล้วนเป็นตาเฒ่าที่ฝึกตนมานับสิบปีร้อยปี
คนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าหลัวซิว ก็คืออย่างที่ได้กล่าวมานั่นเอง
ทั้งสามคนนี้ก็ไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มคนที่แย่งชิงน้ำแร่วิญญาณเช่นเดียวกัน แต่ได้เฝ้าตอรอกระต่ายอยู่ที่ด้านนอก
“เจ้าหนุ่ม ข้าเห็นว่าเมื่อสักครู่น้ำแร่วิญญาณได้ตกอยู่ในกำมือของเจ้า เจ้าใช้วิธีอะไรกันรึ?”
ชายฝึกจิตขั้น 7 ผู้หนึ่งได้เอ่ยถามขึ้นอย่างเย็นชา พวกเขาเห็นเพียงลำแสงสีเงินสายหนึ่งลอยมายังด้านหน้าของอีกฝ่าย และคลายน้ำแร่วิญญาณทั้งสามหยดออกมา เหมือนว่าจะเป็นอสุรกายที่พิเศษบางชนิด
ตระกูลมังกรไร้ร่างนั้นได้หายสาบสูญไปตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ผู้คนที่รู้จักมังกรไร้ร่างนั้นมีน้อยมาก เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่รู้
“ข้าได้มาเช่นไรนั้น ทำไมต้องบอกพวกท่านด้วยล่ะ?” หลัวซิวกล่าวเย้ยหยัน
“เจ้าจะไม่พูดก็ได้ เพียงแค่ฆ่าเจ้า พวกข้าก็จะรู้เอง” ชายฝึกจิตขั้น 7 ผู้นั้นกล่าวเยาะเย้ย
“เจ้ามันก็แค่ผลการฝึกตนฝึกจิตขั้น 6 ข้าแนะนำให้เจ้าเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าหน่อย มอบอสุรกายที่พิเศษตัวนั้นและแหวนเก็บของของเจ้าออกมาซะ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าได้” ชายฝึกจิตขั้น 7 อีกคนกล่าวขึ้น
“ฝันไปเถอะ!”
หลัวซิวยื่นมือออกไปจับ กระบี่ที่อยู่ด้านหลังออกจากฝักทันที พลังกระบี่อัคคีดำพุ่งออกมาอย่างแรงกล้า ห้วงยุทธ์มรณะและห้วงยุทธ์กระบี่สังหารได้ปะทุออกมาพร้อมกัน กระบี่สังหาร!
ชายฝึกจิตขั้น 7 ผู้หนึ่งของอีกฝ่ายถูกโจมตีเป็นคนแรก สัมผัสได้ถึงอานุภาพที่น่าหวาดกลัวของกระบี่นี้ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที สัญชาตญาณบอกกับตนว่า กระบี่นี้ตนเองต้านทานไม่ได้จักต้องตายอย่างแน่นอน!
เขาตวาดเสียงดัง ขับเคลื่อนอาวุธยุทธ์ในมือระเบิดทักษะยุทธ์ออกมา ต้านทานอย่างสุดชีวิต
ตูมมม!
อาวุธยุทธ์ชั้นยอดถูกกระแทกจนลอยปลิวออกไป รอยร้าวกระจายไปในทุกที่ เลือดสายหนึ่งพุ่งกระฉูดออกมา ชายฝึกจิตขั้น 7 ผู้หนึ่ง ถูกสังหารภายในพริบตา
ทว่าอานุภาพกระบี่นี้ของหลัวซิวกลับไม่ได้ลดลงเลยสักนิด พุ่งเข้าหาปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 7 และฝึกจิตขั้น 9 ที่เหลืออยู่ต่อไป
ทั้งสองรีบถอยหลังไปด้วยความหวาดกลัวในทันที สีหน้าของปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 9 ผู้นั้นซีดเซียวจนแทบดูไม่ได้
ในขณะเดียวกันนั้น กลุ่มผู้คนที่อยู่ในหลุมลึกก็พบว่าน้ำแร่วิญญาณได้หายไปแล้ว สัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในทางนี้ แต่ละคนต่างมุ่งหน้าลอยเข้ามา รวมตัวกันอยู่โดยรอบ
สังหารผู้ฝึกจิตขั้น 7 ได้ภายในพริบตาด้วยกระบี่เดียว บีบให้ผู้ฝึกจิตขั้น 9 ต้องถอยหลัง?
สายตาของทุกคนต่างจับจองไปที่ชายหนุ่มชุดขาวที่ยืนตัวตรงอยู่ตรงนั้น ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดเกรง
เมื่อเห็นว่าผู้คนที่รวมตัวกันอยู่โดยรอบเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าความสามารถของหลัวซิวจะเพิ่มสูงขึ้นมามาก แต่ถ้าหากถูกผู้คนมากมายเช่นนี้ล้อมโจมตี ก็จะต้องตกอยู่ในสภาพที่ไม่ดีสักเท่าไหร่แน่
คิดมาถึงตรงนี้ ไอสังหารในดวงตาของเขาก็ลุกโชนขึ้นมา จักต้องสังหารทั้งสองคนนี้เสีย ไม่เช่นนั้นละก็ทันทีที่ให้คนทั้งหมดได้รับรู้ว่าน้ำแร่วิญญาณตกอยู่ในมือของตน ตนจักต้องถูกล้อมโจมตีอย่างแน่นอน
เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 7 และฝึกจิตขั้น 9 นั้นก็เข้าใจจุดนี้เช่นเดียวกัน และกำลังจะบอกว่าน้ำแร่วิญญาณอยู่ในมือชายหนุ่มชุดดำผู้นี้
แต่ทว่ายังไม่ทันที่พวกเขาจะได้เอ่ยปาก รัศมีพลังอันแรงกล้าที่น่าหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ก็ปรากฏขึ้น
“ตราธรรมจุติมรณะ!”
หลัวซิวได้แสดงเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมา เงาลวงวัฏจักรมหึมาได้รวมตัวปรากฏขึ้น เสียงดังสนั่น และกดทับลงไปยังปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 7 และฝึกจิตขั้น 9 ทั้งสองคน
พร้อมกับที่เคล็ดวิชานี้ได้กดทับลงไปนั้น หลัวซิวยังได้ขับเคลื่อนพลังแปรเสวียนเทียนออกมาอีกหกส่วน อานุภาพแข็งแกร่งถึงขีดสุด
ฝ่ายตรงข้ามทั้งสองคนมีสีน่าหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ คำพูดที่อยากจะพูดออกมานั้นติดอยู่ที่คอหอย จึงรีบขับเคลื่อนพลังทั้งหมดออกมาต้านทานเงาลวงผังวัฏจักรสีขาวดำที่กำลังกดทับลงมา
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ปริภูมิโดยรอบถูกคลื่นพลังอันมหาศาลทำให้หมุนเป็นเกลียวจนบิดเบี้ยว ร่างของปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 7 ระเบิดกายเป็นหมอกเลือด ไม่เหลือแม้แต่กระดูก มีเพียงปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 9 ที่กระอักเลือดและลอยปลิวออกไป ไม่ได้ถูกตราธรรมจุติมรณะสังหารไปภายในครั้งเดียว
เพียงแต่ว่ายังไม่ทันที่เขาจะมีปฏิกิริยาใด ๆ หลัวซิวก็ก้าวเท้าออกมา และปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของเขา แล้วฟันออกไปอีกหนึ่งครั้ง
########################