มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2468
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2468
หลัวซิวไม่ได้นำงานประมูลที่จัดในห้วงดาราระดับล่างมาใส่ใจด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่กึ่งจ้าวมหาเทพเลย ต่อให้เป็นโชคโอกาสสุดยอดในสายตาผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพ หลัวซิวก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องหวือหวาอะไร
ในโลกหล้านี้ ก็มีเพียงสมบัติโอกาสไร้เทียมทานในสายตาเหล่าจักรพรรดิเทพและมหาจักรพรรดิยุทธ์ ถึงจะสามารถทำให้หลัวซิวหวั่นไหวได้
เรื่องการประมูลถูกประชาสัมพันธ์ในเมืองมังกรครามยักษ์อย่างโกลาหลวุ่นวาย หลัวซิวไม่ใส่ใจ แต่ดูเหมือนเสี่ยวเจียงหมิงจะดูรู้สึกสนใจมาก ๆ เอะอะโวยวายจะให้หลัวซิวพาเขาไปเปิดหูเปิดตาให้ได้
สุดท้ายแล้วเสี่ยวเจียงหมิงก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่ง มีจิตใจที่ขี้สงสัย หลัวซิวก็กลั้นใจปฏิเสธเขาไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงตอบตกลง
ใช่ว่าทุกคนจะมีสิทธิ์เข้าร่วมงานประมูลเสมอไป เหล่าผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หรือกำเนิดจากกองกำลังใหญ่ชั้นยอดต้องได้รับบัตรเชิญที่เมืองมังกรครามยักษ์ส่งให้ด้วยตนเองอยู่แล้ว หากผู้อื่นอยากเข้าร่วมงานประมูลละก็ จำเป็นต้องซื้อป้ายหยกที่ใช้สำหรับการเข้าร่วมงานประมูล
ป้ายหยกเข้าร่วมงานประมูลถูกแบ่งออกเป็นระดับหนึ่ง สอง สาม สี่ ทั้งหมดสี่ระดับ ระดับของป้ายหยกยิ่งสูง ตำแหน่งที่นั่งก็จะยิ่งใกล้ บางทีตำแหน่งที่นั่งจะใกล้หรือไกลนั้นมันไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือความแตกต่างด้านตัวตนศักยภาพที่เผยให้เห็น
ในเมื่อเป็นการพาเสี่ยวเจียงหมิงมาเปิดหูเปิดตา หลัวซิวจึงซื้อป้ายหยกระดับหนึ่งมาสองชิ้นโดยตรง
เมื่อเข้าไปในงานประมูล หลัวซิวถึงจะพบว่าผู้ที่มาเข้าร่วมงานมีเยอะมาก ๆ ตำแหน่งที่เขาและเสี่ยวเจียงหมิงซื้อได้นั้นก็ไม่ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด ตำแหน่งที่ดียิ่งกว่าถูกจอมยุทธ์ที่มาเช้ากว่าซื้อไปตั้งนานแล้ว
เนื่องจากตัวหยั่งรู้ได้รับความเสียหาย หลัวซิวจึงไม่ได้ใช้ตัวสำนึกแผ่สำรวจมั่วซั่ว กวาดตามองดูรอบ ๆ อย่างเรียบง่ายรอบหนึ่ง ก็พบว่าทั้งงานประมูลถูกปกคลุมอยู่ภายใต้มหาค่ายหกค่าย มหาค่ายทั้งหกนี้ล้วนเป็นค่ายระดับมกุฎขั้นสูง มีค่ายสังหาร ค่ายยากเย็นและมีค่ายคุ้มกันเช่นกัน
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเพื่อเป็นการจัดงานประมูลในครั้งนี้ ทางเมืองมังกรครามยักษ์ก็มีการเตรียมการล่วงหน้าเช่นกัน แม้ผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจ้าวมหาเทพจะเข้ามาก่อกวน ก็ถอยออกไปอย่างปลอดภัยได้ยากแน่นอน
นอกเหนือจากที่นั่งที่มีมากเกือบแสนที่นั่งแล้ว หลัวซิวยังมองเห็นห้องพิเศษแต่ละห้องที่ลอยอยู่กลางนภาด้วย บริเวณรอบ ๆ ของห้องพิเศษเหล่านั้นก็มีค่ายกลแผ่คลุมอยู่ด้วย ผู้ที่อยู่ด้านนอกมองไม่เห็นภาพภายในห้องพิเศษ ทว่าหากมองออกมาจากห้องพิเศษละก็ สามารถมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวในงานได้เลย
ไม่ต้องสงสัยเลย ห้องพิเศษเหล่านั้นต้องเป็นสถานที่ที่มีเพียงคนใหญ่คนโตในโลกะดาราอัมพรเทว โลกะดาราคุนหลุนหรือห้วงดาราระดับล่างอื่น ๆ ถึงจะมีสิทธิ์เข้าไปแน่นอน
ป้ายหยกทุกชิ้นล้วนมีตำแหน่งที่นั่งที่สอดคล้องกัน หลัวซิวพาเสี่ยวเจียงหมิงตามหาที่นั่งเจออย่างรวดเร็ว หลังจากนั่งลงแล้ว ก็รอคอยงานประมูลเริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบ ๆ
ส่วนเสี่ยวเจียงหมิงกลับกวาดตามองดูรอบ ๆ อย่างรู้สึกสนใจ อย่างไรเสียเขาก็ยังไม่เคยเห็นภาพฉากที่คึกคักเช่นนี้มาก่อน จอมยุทธ์ทุกคนที่ปรากฏที่นี่ล้วนแข็งแกร่งกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า
“นี่คือโลกของผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์หรือขอรับ?”เสี่ยวเจียงหมิงรู้สึกตะลึงมาก แต่ก็รู้สึกทอดถอนใจมากเช่นกัน ตั้งแต่สำนักเทียนช่าถูกล้มล้างเป็นต้นมา เขาก็สาบานแล้วว่าจะต้องกลายเป็นผู้แข็งแกร่งให้ได้ เนื่องจากมีเพียงตนเองแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ถึงจะสามารถปกป้องตัวเอง ปกป้องพี่สาวไม่ให้ถูกผู้อื่นข่มเหงรังแก
หลัวซิวไม่ทราบแต่อย่างใดว่าเสี่ยวเจียงหมิงคิดมากเช่นนี้ ทว่าเขาก็ทราบเช่นกันว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสำนักเทียนช่า ต้องส่งผลกระทบต่อจิตใจเสี่ยวเจียงหมิงมากแน่นอน
ในขณะเดียวกัน ตัวสำนึกของเขาก็ค้นพบผู้คนที่คุ้นเคยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นเทพธิดาเมี่ยวหลุน ผู้แข็งแกร่งจากสำนักกระบี่ฟ้ามกุฎและวังกว่างหานต่าง ๆ เป็นต้น
หลัวซิวไม่ได้ทักทายคนเหล่านั้นแต่อย่างใด ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ระหว่างพวกเขาไม่ใช่มิตรสหายต่อกัน เมื่อปีนั้นเพื่อเป็นการได้รับของรางวัลอย่างวรยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพ กองกำลังใหญ่เหล่านี้ใช้สมองขบคิดเป็นเวลานาน ใช้ทุกวิถีทางเพื่อจะจัดการเขาเชียวนะ
แน่นอนอยู่แล้วว่าหลัวซิวก็ไม่มีความคิดที่จะไปตามคิดบัญชีกับพวกเขาทีหลังเช่นกัน จากระดับขั้นที่เขาคงอยู่ ณ บัดนี้ ปัจจุบันคนเหล่านั้นก็เป็นเพียงมดตัวจ้อยเท่านั้น เขายังไม่ถึงขั้นคิดเล็กคิดน้อยกับพวกมดตัวจ้อยที่ไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึง
หลังจากเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า งานประมูลที่เนื่องจากคนเยอะจึงเอะอะเสียงดังก็ค่อย ๆ เงียบสงบลง มีเงาร่างของชายชราที่ไว้หนวดแพะปรากฏกลางเวทีประมูลที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง เขาทำท่าคารวะไปทั่วทุกด้านของงานประมูลด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานประมูล ข้าเป็นผู้ดูแลตำหนักหลักเมืองแห่งเมืองมังกรครามยักษ์ ซ่งเฉิง เวลาไม่เคยคอยท่า ข้าก็จะตรงเข้าประเด็นหลักโดยตรงเช่นกัน ของประมูลชิ้นแรกคือแก่นดาราชั้นล่างชิ้นหนึ่ง ไม่ต้องให้ข้าแนะนำแก่นดาราแล้วกระมัง? นี่เป็นแก่นสารที่ผนึกรวมมาจากดาราดวงหนึ่ง”