มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2495
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2495
อ้างอิงจากคำบรรยายของซ่งเฉิง เจ้าเมืองมังกรครามยักษ์ค้นพบแดนปริศนาแห่งหนึ่งที่เก่าแก่มาก ๆ เนื่องจากกาลเวลาผ่านพ้นไปยาวนานมากแล้ว ค่ายกลต้องห้ามดั้งเดิมที่อยู่ภายในแดนปริศนาแห่งนั้นก็ไม่มีพลานุภาพอะไรตั้งนานแล้ว
และเจ้าเมืองมังกรครามยักษ์ก็คือผู้ที่โชคดีอย่างยิ่งคนหนึ่งแน่นอน เขาได้รับสมบัติและทรัพยากรจากแดนปริศนาเป็นจำนวนมาก และเขาก็นำสมบัติบางส่วนที่คิดว่าไม่มีประโยชน์ต่อตนเองออกมาประมูล เดิมทีวางแผนไว้ว่าหลังจากขายทรัพยากรส่วนหนึ่งแล้ว เขาก็จะออกจากโลกะดาราอัมพรเทวเพื่อมุ่งหน้าไปยังมหาโลกาพันสามเลย
หากไม่มีอะไรผิดพลาดละก็ ใช้เวลาอีกไม่กี่ปี เจ้าเมืองมังกรครามยักษ์ก็จะสามารถบรรลุกลายเป็นจ้าวมหาเทพในมหาโลกาพันสาม อาศัยทรัพยากรทรัพย์สินที่เขาได้รับมาในแดนปริศนา ขอแค่ไม่สร้างปัญหา อนาคตยิ่งมีโอกาสบรรลุเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพ
แต่ทว่าสวรรค์ไม่ให้ความฝันเขาสมความปรารถนา แผนการทั้งหมดนี้ของเจ้าเมืองมังกรครามยักษ์ยังไม่ทันได้ดำเนินการให้บรรลุผล เนื่องจากทำให้ข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับหนังสือยุทธภัณฑ์หลุดรอดออกไป ส่งผลให้ดึงดูดหายนะแห่งการถูกสังหารเข้าตัว
ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น หลัวซิวยังทราบมาจากปากซ่งเฉิงอีกว่าการกวาดล้างเมืองมังกรครามยักษ์ในครั้งนี้ มีจ้าวมหาเทพของเกาะเทียนเหอมาถึงสามคน ยิ่งกว่านั้นคือแม้แต่จ้าวเกาะเทียนเหอยังลงมือด้วยตนเอง
เมืองมังกรครามยักษ์ถูกกวาดล้างให้กลายเป็นพื้นที่เรียบ กองกำลังทั้งหมดบนดารามังกรครามยักษ์ล้วนถูกปราบปรามกำจัด เบื้องล่างของเกาะเทียนเหอโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง แทบจะไม่ปล่อยให้มีผู้รอดชีวิตเลย
สาเหตุที่ซ่งเฉิงสามารถรอดมาได้นั้น เป็นเพราะหลังจากสิ้นสุดงานประมูล เขาได้ออกไปเยี่ยมเยียนสหายคนหนึ่งพอดี
หลัวซิวไม่รู้สึกแปลกใจต่อการปรากฏของจ้าวเกาะเทียนเหอแต่อย่างใด เวลาผ่านพ้นไปสิบกว่าปีแล้ว เขาฟื้นฟูตัวหยั่งรู้ที่ได้รับบาดเจ็บในโลกะดาราอัมพรเทว สภาพอาการบาดเจ็บของจ้าวเกาะเทียนเหอก็น่าจะฟื้นฟูกลับคืนมาแล้ว
ปัจจุบันหลัวซิวไม่ได้นำจ้าวเกาะเทียนเหอมาไว้ในสายตาหรอกนะ เมื่อปีนั้นสาเหตุที่จ้าวเกาะเทียนเหอสามารถหนีไปจากเงื้อมมือของเขาได้นั้น เป็นเพราะเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ดีเลิศที่สุด ศักยภาพที่สามารถปลดปล่อยออกมาได้นั้นก็มีเพียงหกถึงเจ็ดส่วนเท่านั้น
หากศักยภาพของจ้าวเกาะเทียนเหอยังเป็นเหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อน เมื่อทั้งสองได้ประมือกันอีกครั้ง หลัวซิวรู้สึกว่าการที่ตัวเองจะสังหารเขานั้น น่าจะไม่ใช่ปัญหาอะไร
หลัวซิวก็เคยศึกษาค้นคว้าหอกปรปักษ์สวรรค์สังหารมารเช่นกัน มันคืออาวุธสงครามที่สมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติชิ้นหนึ่งจริง ๆ ทว่ากลับเป็นอาวุธเทพระดับสี่ ความล้ำลึกของวิชาหนังสือยุทธภัณฑ์ที่แฝงซ่อนอยู่ภายในมีไม่มาก หลัวซิวจึงตระหนักความลี้ลับอะไรจากมันไม่ได้
วิถีไร้ลักษณ์ก็ไม่ได้ครอบจักรวาลเช่นกัน แม้จะสามารถวิวัฒนาการกฎจำนวนมากออกมาได้ แต่เมื่อเป็นสิ่งที่อยู่เหนือขอบเขตความสามารถ วิถีไร้ลักษณ์วิวัฒนาการอนุมานออกมาไม่ได้เช่นกัน
และในเวลานี้เอง จู่ ๆ หลัวซิวก็สัมผัสออร่าที่ปริภูมิสั่นเทิ้มได้ เขามักจะโคจรกฎปริภูมิอยู่บ่อยครั้ง จึงต้องคุ้นเคยและอ่อนไหวต่อออร่าประเภทนี้มากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ในขณะที่ปริภูมิสั่นเทิ้มอยู่นั้น ก็มีจิตสังหารที่มากมายมหาศม้วนซัดมา ภายใต้การผนึกจากจิตสังหารนี้ ซ่งเฉิงขยับไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
แต่ทว่าหลัวซิวกลับไม่เกรงกลัวจิตสังหารนี้ เขายกมือขึ้นมาจับไหล่ของซ่งเฉิงเอาไว้ จากนั้นร่างกายก็กระพริบและหายวับไปกับที่
ตู้ม!
เสียงระเบิดที่น่าทึ่งดังลั่นขึ้นมา ลำรัศมีเทวที่เปล่งแสงแพรวพรายทะลวงห้วงดารา เหมือนดั่งดาวหาง ทำการพุ่งชนตำแหน่งดั้งเดิมของหลัวซิวและซ่งเฉิงจนทะลุ ทำให้ห้วงดาราผืนหนึ่งกลายเป็นฝุ่นผง ว่างเปล่า
ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น พลานุภาพของรัศมีเทวนี้ไม่ลดน้อยลงเลย ก่อนจะพุ่งชนเข้ากับดารามังกรครามยักษ์อีกครั้งจนเสียงดังตู้ม ดาราที่ลอยโคจรอยู่ในห้วงดาราแห่งนี้มายาวนานอย่างไม่รู้จบก็ระเบิดแตกกะทันหัน!
ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพสามารถทำลายดาราดวงหนึ่ง แต่นั่นก็เป็นดาราที่ค่อนข้างเล็กเท่านั้น จ้าวมหาเทพทั่วไปไม่สามารถทำลายดาราที่ใหญ่โตอย่างดารามังกรครามยักษ์ได้เลยด้วยซ้ำ
อีกทั้งพลานุภาพที่ดาราระเบิดแตกนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง มีจ้าวมหาเทพบางส่วนมีความสามารถในการทำลายล้างดาราดวงหนึ่ง แต่ใช่ว่าจะสามารถมีชีวิตรอดออกจากควันหลงอันน่ากลัวหลังดาราระเบิดแตกได้เสมอไป