มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2513
บูม!
ในปริภูมิมืดมิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด ศิลาผนึกปีศาจตกลงมา มันตกลงอย่างช้า ๆ แต่การปราบปรามที่น่าสะพรึงกลัวที่แผ่ขยายออกไปได้กักขังซูอี้เฉินอย่างแน่นหนา ไม่สามารถขยับได้เลยทำได้เพียงเฝ้าดูศิลาเทพที่ร่วงหล่น
คราม ศิลาผนึกปีศาจร่วงลงทีละนิ้ว ซูอี้เฉินไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต้านทาน และร่างกายของเขาก็พังทลายลงในพริบตา
ในเวลาเดียวกัน หลัวซิวก็รู้สึกอ่อนแออย่างมากที่มาจากร่างกายของเขา แม้ว่าเขาจะสังเวยศิลาผนึกปีศาจในสถานะอภินิหารรวมร่าง ผลการฝึกฝนของเขาก็สูดจนหมดลงทันที
ไม่จำเป็นต้องพูด หลังจากอภินิหารรวมร่างถูกปลด อสูรกลืนจิตจะต้องนอนพักระยะหนึ่งกว่าจะฟื้นตัวได้
ศิลาผนึกปีศาจร่วงหล่น และร่างกายของหลัวซิวรู้สึกว่างเปล่า เขาไม่สามารถเก็บเอาพลังที่เหลือของศิลาผนึกปีศาจกลับมาได้ด้วยซ้ำ
ในขณะนี้ลำแสงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและหายไปในห้วงดาราอันไกลโพ้นในทันที
สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของหลัวซิวขรึมลง แสงที่บินหนีไปคือปราณวิญญาณดั้งเดิมของซูอี้เฉิน จะเห็นได้ว่าแม้ว่าร่างกายของซูอี้เฉินจะถูกทำลายโดยศิลาผนึกปีศาจ แต่ช่องจิตที่กลายมาจากวิญญาณดั้งเดิมได้หลบหนีไป
เมื่อต้องรับมือกับศัตรู ลักษณะพฤติกรรมของหลัวซิวมักจะเป็นการขุดรากถอนโคน ครั้งนี้ซูอี้เฉินหนีไปได้ อาจจะมีปัญหามากมายตามมาในอนาคต
ในความเป็นจริง หลัวซิวไม่รู้ว่าซูอี้เฉินรู้สึกถึงพพลังแห่งชิงเทียนที่บรรจุอยู่ในศิลาผนึกปีศาจ และรู้สึกกลัวมาก ในบรรดาวังนภาสิบสอง วังชิงเทียนนั้นลึกลับและคาดเดาไม่ได้เสมอมา และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นวังอันดับหนึ่งอีกด้วย เขานึกเองว่าหลัวซิวต้องเป็นผู้เก่งกาจของวังชิงเทียนให้ความกล้าหาญเต็มร้อยแก่เขา เขาก็ไม่กล้ามาหาเรื่องเขา
แม้ว่าวิญญาณช่องจิตของซู่อี้เฉินจะหนีไปได้ แต่ดายเทพที่มีพลังแห่งสวรรค์ไม่ได้ถูกเอาไปด้วย
ตอนนี้ หลัวซิวเข้าใจแล้วว่าซูอี้เฉินมาจากตำหนักเวหา ดังนั้นพลังแห่งสวรรค์ที่เขาใช้คือพลังแห่งเวหา สำหรับมฤตยูมหากาพย์นั้นเป็นเพียงพลังแห่งชางเทียนหมิงเท่านั้นและยังสามารถเรียกได้ว่าพลังแห่งยมโลก
และสิ่งที่บรรจุอยู่ในศิลาผนึกปีศาจก็คือพลังแห่งชิงเทียน
ชิงเทียน ในบรรดาภูตสวรรค์สิบสองในยุคไท่ชู เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดและยังเก่าแก่ที่สุดในรุ่นแรกภูตสวรรค์ สามารถเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของภูตสวรรค์!
สิ่งนี้ทำให้หลัวซิวสับสนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากชิงเทียนเป็นสิ่งที่ทรงพลังเช่นนี้ จะเป็นเทพปีศาจที่แข็งแกร่งถึงเพียงใดถึงทำให้ไม่สามารถฆ่าตายได้ ทำได้เพียงแค่ปราบปราม?
เขาเป็นไท่ซ่างฉิงกลับชาติมาเกิด เทพปีศาจที่ถูกศิลาผนึกปีศาจปราบปราม มีบุญคุณการสอนยุทธ์ต่อไท่ซ่างฉิง ไท่ซ่างฉิงนับว่าเป็นอาจารย์ ฝึกฝนวิถียุทธ์ตลอดชีวิตเพื่อช่วยอาจารย์ออกมาจากหุบเขาผนึกปีศาจ
ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าปรปักษ์สวรรค์เทพปีศาจที่ถูกปราบปรามอยู่ใต้หุบเขาผนึกปีศาจก็เป็นอาจารย์ครึ่งหนึ่งของหลัวซิวเช่นกัน
เรื่องในอดีตนี้เก่าเกินไป และทุกอย่างสามารถเดาได้เท่านั้น หลัวซิวเพียงแค่ส่ายหัวและหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ท่านชาย!”
ชายในชุดดำและสตรีสองคนหน้าซีดด้วยความตกใจ พวกเขาคาดไม่ถึงว่าแข็งแกร่งอย่างซูอี้เฉินจะถูกฆ่าตายที่นี่ แม้ว่าจะไม่ได้ถูกฆ่าตายจริงๆ แต่ช่องจิตดั้งเดิมของซูอี้เฉินที่หลบหนีไปต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายร้อยปีในการฟื้นฟู
เมื่อหลัวซิวได้ยินเสียงอุทานของพวกเขา เขาก็รู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว เขาหยิบยาเซียนออกมาและกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผลการฝุกตนที่หมดไปสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากเมื่อครู่นี้ที่สังเวยศิลาผนึกปีศาจ ทำให้อสูรกลืนจิตจึงตกอยู่ภายใต้ภาระหมดแรงและมีแรงกดดันอย่างมาก ปราณบนร่างของหลัวซิวลดลงอย่างรวดเร็วและอ่อนแอลง อภินิหารรวมร่างถูกปลดปล่อย
สำหรับอสูรกลืนจิตก็หลับลึกอยู่ในตัวหยั่งรู้ของเขาโดยตรง มันอ่อนแอมาก
บูม! บูม! …
มีเสียงอึกทึกดังหนวกหู ชายชุดดำและสตรีสองคนที่เป็นลูกน้องของซูอี้เฉินก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลบหนีกัน พระโอรสจ้านเทียนและคนอื่น ๆ ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้
สำหรับหลัวซิว เขาก็จนปัญญาแล้ว ในตอนนี้เขาอ่อนแอเกินไปและเขาไม่สามารถห้ามทั้งสามคนนั้นได้เลย