มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2596
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2596
แต่ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนไม่มีความเกี่ยวข้องกับหลัวซิวแล้ว เขาออกจากดาราเสินหยูอย่างรวดเร็ว แล้วควบคุมเรือรบระดับจักรพรรดิเทพลำหนึ่งมุ่งหน้าตรงไปยังดาวหิมะ
นี่คือดาราสีขาวหิมะดวงหนึ่ง มันที่อยู่ในห้วงดาราเด่นชัดมาก แค่เข้าใกล้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก และจะมีแสงกลบินออกมาจากดาวหิมะอยู่บ้างเป็นครั้งคราว ไม่ก็บินเข้าไปในดาวหิมะ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นจอมยุทธ์ที่เดินทางมาฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ณ ดาราดวงนี้
เหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ถูกหลัวซิวจัดแจงให้อยู่ภายในตำหนักวัฏสงสารเช่นเคย จากนั้นเขาก็พาดูดจิตและลาร์เข้าไปในดาวหิมะ
เริ่มตั้งแต่บริเวณรอบนอก เมื่อยิ่งเข้าใกล้แถบแกนกลางของดาวหิมะ ความเย็นยะเยือกก็ยิ่งอยู่ยิ่งเข้มข้นขึ้น เมื่อมาถึงละแวกใกล้เคียงของหุบเขาหิมะเยือก ความหนาวเย็นของที่นี่ก็สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพช่วงปลายหลบเลี่ยงได้แล้ว
จีเสี่ยวจื่อและหนิงหานยู่ต่างบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพแล้ว มิเช่นนั้นละก็ พวกนางอาจจะไม่มีแม้แต่ความสามารถในการหลบหนีเข้าไปในหุบเขาหิมะเยือก
เบิ่งมองออกไปไกล ๆ นี่คือหุบเขาขนาดใหญ่ที่เกิดจากการก่อตัวของหิมะ สาเหตุที่เรียกมันว่าหุบเขาหิมะเยือกนั้น นอกจากเป็นเพราะภายในหุบเขามีหิมะสีขาวกองอยู่เป็นจำนวนมากแล้ว ส่วนบนของหุบเขามีกำแพงน้ำแข็งกั้นอยู่หนึ่งชั้น ราวกับท้องฟ้าถูกน้ำแข็งผนึกไว้ยังไงอย่างนั้น ฉะนั้นถึงได้เรียกว่าหุบเขาหิมะเยือก
ปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดประเภทนี้ อาจจะทำให้คนจำนวนมากคิดว่ามันเป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติรังสรรค์ แต่ทว่าหลัวซิวกลับไม่คิดเช่นนั้น
อดีตเขาไม่เคยมาหุบเขาหิมะเยือก ทว่าหลังจากเข้ามาถึงที่นี่แล้ว และเห็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เขาก็รู้แล้วว่าบริเวณรอบ ๆ ของหุบเขาหิมะเยือกนี้มีค่ายกลขนาดใหญ่จัดวางอยู่หนึ่งค่าย
ซึ่งค่ายกลดังกล่าวได้ทำการดูดซับพลังกฎธาตุน้ำแข็งของดาวหิมะดวงนี้เองโดยธรรมชาติ ส่งผลให้ค่ายกลเกิดการโคจรตลอดทั้งปี ก็ไม่รู้เช่นกันว่าค่ายกลนี้คงอยู่มายาวนานมากเพียงใดแล้ว หลายจุดของค่ายกลเริ่มมีการคลายตัว เพราะฉะนั้นถึงได้มีออร่าเย็นเยือกรั่วไหลออกมาจากภายใน
แค่ออร่าเย็นเยือกที่รั่วไหลออกมาจากภายในหุบเขาหิมะเยือก ก็ทำให้ผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพช่วงปลายไม่กล้าเข้าใกล้เขตพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับหุบเขาหิมะเยือกแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงแสดงให้เห็นเลยว่าออร่าเย็นเยือกที่อยู่ภายหุบเขาหิมะนี้ มีเพียงแต่น่ากลัวมากกว่าเดิม
เมื่อคิดเช่นนี้ได้ หลัวซิวก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ แม้นเสี่ยวจื่อและยู่เอ๋อร์ต่างจะกลายเป็นจ้าวมหาเทพแล้ว แต่รากฐานของพวกนางค่อนข้างอ่อนบาง หากประสบความอันตรายละก็ จากศักยภาพของพวกนางทั้งสองคน เกรงว่าน่าจะรับมือยากมาก
“พวกเจ้าสองคนตามข้ามา หลังจากเข้าไปในหุบเขาแล้วอย่าเพ่นพ่านไปทั่ว”หลัวซิวพูดกับดูดจิตและลาร์ที่อยู่ข้างกายประโยคหนึ่ง ก่อนจะกลายร่างเป็นลำแสงหนึ่งบินเข้าไปในหุบเขาหิมะ
ทันทีที่เข้าไปในหุบเขา ออร่าเย็นเยือกที่ดุดันก็ตีเข้าหน้า หลัวซิวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าไอความร้อนที่เขาพ่นออกมาได้กลายเป็นผลึกน้ำแข็งภายในพริบตา จากนั้นมันก็ตกลงพื้น
ออร่าเย็นเยือกภายในหุบเขาหิมะบรรลุถึงระดับของกฎธาตุน้ำแข็งขั้น 8 แล้ว ไม่มีหิมะตกลงมาจากฟ้าแต่อย่างใด ทว่าหิมะได้สะสมกันอยู่ภายในหุบเขามาเป็นเวลานาน ราวกับมันไม่มีวันละลายยังไงอย่างนั้น
หลัวซิวไม่ได้บุกไปไหนมั่วซั่วแต่อย่างใด แต่เป็นการสำรวจลายเส้นของค่ายกลที่อยู่ภายในหุบเขาหิมะก่อน เขาพบว่าค่ายกลดังกล่าวไม่ใช่ค่ายสังหารและค่ายยากเย็น แต่เป็นค่ายกลที่ผนึกรวมมาจากออร่าเย็นเยือก น่าจะใช้เพื่อเป็นตัวช่วยในการฝึกตน
“น่าจะเคยมีผู้แข็งแกร่งกฎธาตุน้ำแข็งคนหนึ่งเคยฝึกตนอยู่ที่นี่”หลัวซิวคาดการณ์ในใจคนเดียว
กาลเวลาที่จักรวาลกันดารคงอยู่มานั้นยาวนานอย่างยิ่ง ในยุคไท่ชูอันเก่าแก่ เกณฑ์ฟ้าดินในจักรวาลกันดารนั้นสมบูรณ์แบบอยู่ แต่ทว่าหลังจากผ่านภัยพิบัติและสงครามใหญ่การเข่นฆ่ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เกณฑ์ฟ้าดินของดาราจักรวาลผืนนี้พังทลาย ส่งผลให้จอมยุทธ์ในยุคหลังสามารถฝึกตนสูงสุดได้เพียงแดนเทพมารระดับหก หากอยากบรรลุสู่เทพมารระดับเจ็ด ก็มีเพียงเข้าไปในฟ้าดินที่โลกมหาศักดิ์ทั้งแปดคงอยู่เท่านั้นถึงจะสามารถทำได้
ทว่าท้ายที่สุดแล้วโบราณสถานบางส่วนที่เก่าแก่ก็คงอยู่มาจวบจนปัจจุบันอยู่ดี ยกตัวอย่างเช่นหุบเขาหิมะเยือกแห่งนี้ หลัวซิวสันนิษฐานว่านี่คือโบราณสถานในยุคไท่ชู เขายืนอยู่ขอบนอกของหุบเขาหิมะ ตัวสำนึกกลับเริ่มสำรวจส่วนลึกของหุบเขาหิมะแล้ว สัมผัสออร่าธาตุน้ำแข็งขั้น 9 ตลอดจนขั้น 10 ได้