มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2607
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2607
พูดขนาดนี้แล้ว หลัวซิวจึงพยักหน้า ก่อนจะคารวะพลางพูด: “ในเมื่อมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิจริงใจเช่นนี้ เช่นนั้นข้าก็ขอเรียกเจ้าว่าสหายโยหมิงก็แล้วกัน”
“ฮ่าฮ่า การที่ได้เป็นมิตรสหายกับคนอย่างสหายหลัวนั้น เป็นเกียรติของโยหมิงข้า!”มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิหัวเราะดังลั่นแล้วพูด
แต่พวกเขาทั้งสองต่างเข้าใจดีมาก ๆ ว่าพวกเขายังไม่ถือเป็นสหายที่แท้จริง อย่างน้อยจากความหมายในใจหลัวซิว สหายเป็นผู้ที่สามารถฝากฝังความเป็นความตายให้กันและกันได้ อย่างนั้นถึงจะเรียกว่ามิตรสหายที่แท้จริง ในส่วนของความสัมพันธ์ที่เกิดจากผลประโยชน์แล้วแทนกันและกันว่าสหายนั้น หลัวซิวไม่คิดว่านั่นคือสหาย แต่เป็นเพียงพันธมิตร
อย่างน้อยภายในจิตใจหลัวซิว ณ วินาทีนี้ มากสุดมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็มีคุณสมบัติเป็นเพียงพันธมิตรเท่านั้น
“สหายโยหมิงเดินทางมาด้วยตนเอง น่าจะไม่ได้มาเพื่ออยากเป็นสหายกับข้าหรอกกระมัง?”หลัวซิวยิ้มพลางถาม
เมื่อได้ยินหลัวซิวถามเช่นนี้ มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิจึงรีบตอบกลับว่า: “ข้าเคยบอกบุญคุณความแค้นระหว่างข้าและเขาดึกดำบรรพ์ให้เจ้าฟังแล้ว เพราะฉะนั้นในมหาโลกะดึกดำบรรพ์จึงมีเส้นสายที่ข้าส่งไปเยอะมาก ซึ่งจะคอยสำรวจทุกกิริยาท่าทางของเขาดึกดำบรรพ์มาโดยตลอด”
“หลังจากทราบมาว่าเจ้าลงมือล้มล้างตำหนักเสินหยูด้วยตนเอง ข้าก็รู้แล้วว่าตำหนักเสินหยูไม่มีทางจบเรื่องนี้ง่าย ๆ แน่นอน เพราะฉะนั้นขณะที่หรงเทาและซือถูเซิ่งเจี๋ยออกจากมหาโลกะดึกดำบรรพ์ ข้าจึงทราบข่าวเป็นเวลาแรก ทราบว่าพวกเขาจะมาจัดการเจ้า”
คำอธิบายนี้ของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ สามารถพูดได้เลยว่าสมเหตุสมผลมาก แม้แต่ตัวหลัวซิวเองก็หาจุดบกพร่องอะไรไม่ได้
ถึงแม้เมื่อปีนั้นมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิจะไม่สามารถเข้าไปในเส้นทางดาราแล้วมุ่งหน้าไปสู่โลกมหาศักดิ์ แต่เขากลับรู้อยู่ว่าเส้นทางดาราของเขาดึกดำบรรพ์ได้เชื่อมต่อไปยังโลกร้าง หลังจากผ่านพ้นยุคสมัยของมหาจักรพรรดิยุทธ์ดึกดำบรรพ์ไป เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ในทุกยุคอยากเดินทางผ่านเส้นทางดาราเพื่อมุ่งหน้าไปยังโลกร้าง ก็ล้วนจะถูกควบโดยเขาดึกดำบรรพ์ อีกทั้งเมื่อไปถึงฝั่งโลกร้างแล้ว ก็จะถูกเขาดึกดำบรรพ์ผูกมัดเช่นกัน
อ้างอิงจากข่าวคราวที่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิสืบเสาะมาได้ อีกฝั่งหนึ่งของเส้นทางดารา ยังมีเขาดึกดำบรรพ์อีกหนึ่งลูก ซึ่งเป็นกองกำลังที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ดึกดำบรรพ์ก่อตั้งขึ้นมาหลังจากเข้าไปในโลกร้างเมื่อปีนั้น ต่อมาผลการฝึกตนของมหาจักรพรรดิยุทธ์ดึกดำบรรพ์มีการบรรลุ ถึงได้บุกเบิกเส้นทางดารานั้นออกมา เชื่อมต่อเขาดึกดำบรรพ์ทั้งสองลูกในโลกร้างและมหาโลกะดึกดำบรรพ์เข้าด้วยกัน
ต่อมามหาจักรพรรดิยุทธ์เฉินหยูก็เข้าสู่โลกร้างผ่านเส้นทางดารา และก่อสร้างตำหนักเสินหยูในเขาดึกดำบรรพ์แห่งโลกร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งนี่ก็คือความเป็นมาของตำหนักเสินหยูนั่นเอง
“บางครั้งกองกำลังทั้งหลายของเขาดึกดำบรรพ์แห่งโลกร้างก็จะข้ามผ่านเส้นทางดารามายังมหาโลกาพันสาม แล้วคัดเลือกอัจฉริยะที่ดีเลิศจากตระกูลสำนักจักรพรรดิทั้งหลายเพื่อพาไปยังโลกร้างเช่นกัน เจ้าล้มล้างตำหนักเสินหยูไปแล้ว ก็เท่ากับทำลายรากฐานจุดหนึ่งของตำหนักเสินหยูที่อยู่ในมหาโลกาพันสาม ตำหนักเสินหยูจึงต้องมาจัดการเจ้าอยู่แล้ว”
ดูเหมือนเรื่องที่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิทราบนั้นจะมีไม่น้อยเลย จึงแสดงให้เห็นเลยว่าเขาจดจำเรื่องราวของเส้นทางดารามาโดยตลอด ดังนั้นตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้จึงรวบรวมข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกันได้เยอะมาก
“โชคดีที่สหายโยหมิงมาช่วยข้าอีกแรงหนึ่ง มิเช่นนั้นละก็ เกรงว่าครั้งนี้ข้าคงรอดยากแล้วล่ะ”
หลัวซิวพูดอย่างทอดถอนใจหนึ่งประโยค ก่อนจะพูดอีกว่า “บัดนี้ข้าก็มีความแค้นต่อเขาดึกดำบรรพ์แล้ว อนาคตหากสหายโยหมิงจะบุกไปยังเส้นทางดาราของเขาดึกดำบรรพ์ ข้าก็จะช่วยเหลือเจ้าอีกแรงหนึ่งแน่นอน”
หลัวซิวพูดคำพูดเช่นนี้ออกมาก็เท่ากับตกลงเป็นพันธมิตรร่วมกับมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิแล้ว
“ฮ่าฮ่า ดี!”มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิมีความสุขมาก เขาลงมือช่วยเหลือหลัวซิวไว้ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็กระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายอีก ซึ่งจุดประสงค์ของเขาก็เพื่อสิ่งนี้นี่แหละ
แท้จริงแล้วมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็ทราบเช่นกันว่าต่อให้ไม่เดินทางผ่านเส้นทางดารา หากสามารถครอบครองยันต์ทะลุฟ้าเทพระดับเจ็ด ก็สามารถฉีกกระชากพื้นโลกปริภูมิแล้วเข้าไปในโลกมหาศักดิ์ได้เช่นกัน ทว่าเขากลับตัดใจทำเช่นนั้นไม่ได้ เขาจำเป็นต้องฝ่าฟันเส้นทางดาราหนึ่งหน เพื่อลบล้างความอัปยศเมื่อปีนั้น ถ้าเกิดมีความเป็นไปได้เขาก็จะทำลายล้างเส้นทางดาราเพื่อให้เขาดึกดำบรรพ์ได้ชดใช้กับการกระทำของตัวเองด้วย