มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2626
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2626
อ้างอิงจากเบาะแสบางอย่างที่เขาทราบมา หลัวซิวนี่มีโอกาสเป็นร่างที่ผู้แข็งแกร่งแห่งยุคกลับชาติมาเกิดสูงมาก มาตรแม้นว่าไม่ใช่ เขาก็ต้องเคยได้รับโชคโอกาสสุดล้ำมาก่อนแน่นอน เขาอยากจับกุมตัวหลัวซิวกลับไป จากนั้นค่อยค้นวิญญาณสอบปากคำ แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าเนื่องจากเดินก้าวนี้ผิดพลาด ส่งผลให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายเช่นนี้
หลัวซิวเบื่อที่จะพูดจาไร้สาระกับฝ่ายตรงข้ามแล้ว ลาร์เฝ้าอยู่ข้าง ๆ หากทั้งสองฝ่ายปะทะกันจนสาหัสทั้งคู่และผลการฝึกตนแห้งเหือดจริง ๆ ถึงครานั้นเมื่อชายชุดคลุมยาวเทาอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอที่สุด ลาร์ต้องสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแน่นอน
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร อย่างน้อยฝั่งหลัวซิวก็มีโอกาสคว้าชัยมากที่สุด มิเช่นนั้นชายชุดคลุมเทาก็ไม่มีทางเอ่ยปากขอสงบศึกหรอก
ชายชุดคลุมยาวเทาก็ทราบเช่นกันว่าสถานการณ์ไม่ดีต่อตัวเองมาก ๆ ต่อให้เขาจะสามารถรบติดพันกับนายแห่งเผ่าจี้และหลัวซิวจนทั้งสองตาย แต่ข้าง ๆ ยังมีลาร์อีกคน ถึงครานั้นหากพละกำลังทั้งหมดของเขาแห้งเหือด และอ่อนแอถึงขีดสุด ฝ่ายตรงข้ามก็สามารถสังหารเขาได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ระยะเวลาก็ได้ล่วงเลยไปอีก 15 นาที พลังและเลือดภายในร่างกายหลัวซิวแทบจะแห้งเหือดแล้ว ทันทีที่พลังและเลือดสูญสิ้น ชีวีดั้งเดิมของเขาก็จะพังทลาย มันก็จะเหมือนกับครั้นเมื่อเขาประสบหายนะครั้งยิ่งใหญ่อย่างการย้อนเวลา ซึ่งต้องหลอมสร้างร่างเนื้อกลับคืนมาใหม่
หากชีวีดั้งเดิมของจอมยุทธ์คนอื่น ๆ พังทลาย โดยส่วนใหญ่แล้วทั้งชีวิตนี้ของคนดังกล่าวก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้ว แต่หลัวซิวกลับแตกต่างกัน ไร้ลักษณ์ของเขาสามารถวิวัฒนาการสรรพวิชา ต่อให้ชีวีดั้งเดิมพังทลาย ร่างเนื้อถูกทำลาย ขอแค่มีทรัพยากรที่เพียงพอ เขาก็สามารถหลอมสร้างให้มันฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพปกติได้
ทว่าปัจจุบันกลับแตกต่างจากอดีต ผลการฝึกตนของเขาเมื่อครั้นนั้นยังไม่สูงเท่าบัดนี้ หลอมสร้างชีวีดั้งเดิมร่างเนื้อกลับคืนมาใหม่ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด ปัจจุบันหากเขาจะฟื้นฟู มันต้องยากลำบากมากกว่าครั้งก่อนหลายเท่าตัวแน่นอน
นายแห่งเผ่าจี้ก็ถึงขีดจำกัดแล้วจริง ๆ หากเขาส่งมอบผลการฝึกตนให้หลัวซิวโดยที่ไม่สนว่าต้องแลกกับอะไรต่อ รากฐานวิถียุทธ์ของเขาก็จะพังทลายเช่นกัน เขาไม่มีวิถีไร้ลักษณ์ของหลัวซิวหรอกนะ หากรากฐานวิถียุทธ์พังทลาย ก็เท่ากับผลการฝึกตนวิถียุทธ์ทั้งหมดสูญสิ้น
“ผู้อาวุโสนายแห่งเผ่าจี้ ท่านทุ่มสุดกำลังสามารถแล้ว ที่เหลือฝากให้ข้าจัดการเถิดขอรับ”หลัวซิวค่อย ๆ เอ่ยปากพูด เขาวางแผนที่จะทุ่มสุดกำลังสามารถเพื่อเอาเป็นเอาตายกับชายชุดคลุมยาวเทาคนนี้โดยไม่สนว่าต้องแลกกับอะไร มีเพียงการทำเช่นนี้ เขาถึงจะสามารถช่วงชิงเวลามาได้มากกว่า
ในส่วนของตำหนักเสินหยูนั้น ทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า คอยเขากลับคืนสู่โลกมหาศักดิ์ เขาจะชำระบัญชีในครั้งนี้กับพวกเขาดี ๆ สักตั้ง แล้วก็เขาดึกดำบรรพ์ด้วย เขาจะทำให้คนพวกนั้นได้รู้ว่าผลลัพธ์ของการรุกรานเขาเป็นอย่างไร
“หลัวซิว ข้ามีเรื่องหนึ่งที่อยากขอร้องเจ้า”สิ่งที่ทำให้หลัวซิวรู้สึกสงสัยคือจู่ ๆ นายแห่งเผ่าจี้ก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “ข้าอยากขอร้องให้เจ้าช่วยดูแลเผ่าจี้ด้วย”
“ผู้อาวุโส ท่าน……”สีหน้าอารมณ์ของหลัวซิวดูงุนงง เขาไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนายแห่งเผ่าจี้
“ตู้มม!”
และในเวลานี้เอง ก็มีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมาจากตัวนายแห่งเผ่าจี้ ซึ่งนี่คืออัคคีแห่งชีวี หากบอกว่าผลการฝึกตนสูญสิ้นจะทำให้ชีวีดั้งเดิม รากฐานวิถียุทธ์พังทลาย แต่มันยังไม่ถึงขั้นตาย ทว่าการเผาผลาญอัคคีแห่งชีวีด้วยตนเองนั้น ทันทีที่เริ่มเผาผลาญก็จะไม่สามารถหยุดลงได้ อัคคีแห่งชีวีจะถูกเผาผลาญจนหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็นชีวีดั้งเดิมหรือวิญญาณดั้งเดิม ทุกสิ่งอย่างจะถูกเผาผลาญจนไม่เหลือแม้แต่ซาก!
“ข้าแตกต่างจากเจ้า การที่ผลการฝึกตนของข้าสามารถบรรลุถึงเทพมารระดับห้านั้น โดยส่วนใหญ่ก็ถือเป็นขีดจำกัดแล้ว ไม่มีทางนำพาเผ่าจี้ฟื้นฟูกลับไปรุ่งโรจน์และมีเกียรติยศอย่างในอดีตได้เลยด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับทำเช่นนั้นได้ ข้ามองเห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่จากตัวเจ้า บางทีอนาคตเจ้าจักกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไม่ด้อยกว่าบรรพบุรุษเผ่าจี้ของเรา ข้าเชื่อในการปฏิบัติตัวของเจ้า เจ้าจะปฏิบัติต่อเผ่าจี้ของเราอย่างยุติธรรมแน่นอน……”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น มือทั้งสองข้างของนายแห่งเผ่าจี้ก็ได้กดนาบลงหลังหัวใจหลัวซิว ถัดจากนั้นพลังที่มากมายมหาศาลก็ไหลทะลักเข้าไปในร่างกายหลัวซิว ทำให้ร่างกายที่ใกล้จะแห้งเหือดถึงขีดจำกัดของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังอีกครั้ง