มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2639
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2639
โดยส่วนใหญ่แล้วทุกอย่างแทบจะอยู่ในแผนการของหลัวซิวหมดเลย บางทีภายในนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่น่าจะไม่มีเหตุร้ายที่อยู่เหนือการคาดหมายเกิดขึ้น
ขณะที่ศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ลาร์ก็กลับมาก่อนแล้ว เขาและผู้แข็งแกร่งเผ่าปีศาจไปจู่โจมตระกูลหง สำนักจักรพรรดิแสงดาวรวมไปถึงสำนักจักรพรรดิจ้านเทียนพร้อมกัน เนื่องจากการมาจัดการเผ่าจี้ ทำให้ตระกูลหงใช้ผู้แข็งแกร่งจำนวนมาก ฉะนั้นภายในตระกูลหงจึงว่างเปล่ามาก ถูกลาร์และผู้แข็งแกร่งเผ่าปีศาจตีแตก จนกลายเป็นพื้นที่เรียบ
ศึกสงครามในครั้งนี้ ไม่ว่าฝ่ายใดจะได้รับชัยชนะ อย่างน้อยตระกูลหงก็ไม่มีรากฐานหลงเหลืออยู่อีกแล้ว ในส่วนของสำนักจักรพรรดิแสงดาวและสำนักจักรพรรดิจ้านเทียนนั้น กลับไม่ได้จัดการง่ายขนาดนั้น ภายในสำนักเขาของทั้งสำนักมีภูมิฐานอุบายต่าง ๆ คอยปราบปรามพวกเขา ลาร์และผู้แข็งแกร่งเผ่าปีศาจก็ทำได้เพียงปั่นป่วนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่สามารถตีทลายสำนักเขาเข้าไปได้
“ฆ่า!”
ซือถูเซิ่งเจี๋ยลุกขึ้นจากราชรถ ตะโกรเสียงดังคำหนึ่ง ภายในเวลาชั่วขณะ ทั้งห้วงดาราก็ดังก้องและตลบฟุ้งไปด้วยจิตสังหารอันไร้ขอบเขตที่มากมายมหาศาล
“ทุกท่าน รบเถอะ!”
ไม่มีคำประกาศที่ตื่นเร้าก่อนสงคราม หลัวซิวยกมือโบกทีหนึ่ง ผู้คนที่เตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยตั้งนานแล้วก็พากันพุ่งทะยานขึ้นฟ้า
บรรพอาจารย์วังเซียนมหาวาลตันเม่ยนำพาผู้อาวุโสและศิษย์ทั้งหลาย รวมพลังกระตุ้นหอคอยเทพมหาวาล ศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่ได้ปะทุกลางห้วงดารา แต่ก็ยังมีควันหลงกระทบถึงดารายอดอัมพรอยู่ดี แผ่นดินใหญ่และกลุ่มภูเขาบริเวณโดยรอบนับพันไมล์แตกทลาย สรรพสิ่งนิพพาน
เสี้ยววินาทีที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ก็มีจอมยุทธ์สิบกว่าคนตายทันที เสียงตะคอกคำรามต่าง ๆ ดังขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน พลังอมตะของขลังจำนวนมากครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ภาพฉากที่เอิกเกริกยิ่งใหญ่ทำให้เลือดของผู้คนร้อนระอุ เมื่ออยู่กลางสนามรบที่หากเจ้าไม่ตายข้าตาย ทุกคนล้วนไม่เกรงกลัวความตายเลย มีเพียงสังหารคู่ต่อสู้ ตนถึงจะมีโอกาสรอดชีวิตต่อไป
ตู้มม!
ทหารปะทะกับทหาร ขุนพลปะทะกับขุนพล ตันเม่ยมหาวาลก็ปะทะกับบรรพอาจารย์ตระกูลหงอยู่บนห้วงดาราที่สูงกว่าอย่างดุเดือดเช่นกัน ไม่มีผู้ใดบังอาจเข้าใกล้รัศมีนับหมื่นไมล์จากศูนย์กลางพื้นที่ที่พวกเขาทั้งสองประมือกันเลย เนื่องจากการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์นั้น ถึงแม้จะเป็นเพียงควันหลง มันก็สามารถทำให้ร่างกายของผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพแตกสลายเป็นฝุ่นผงได้
“หงซาน นึกไม่ถึงเลยว่าตระกูลหงของพวกเจ้าจะพึ่งพาเขาดึกดำบรรพ์ เจ้านี่มันลำบากฝึกตนถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เสียเปล่าเลยนะ ถึงกับเป็นหมาให้ผู้อื่น กระดิกหางอย่างน่าสงสาร ช่างเวทนายิ่งนัก!”
ตันเม่ยถากถางด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น ขณะที่ลงมือก็ไม่ออมมือเลยแม้แต่น้อย ส่วนบรรพอาจารย์ตระกูลหงนั่นกลับไม่ตอบโต้อะไร ในระหว่างที่โจมตีก็มีตรีภพที่มโหฬารพันลึกเคลื่อนตัวออกมา
ในขณะเดียวกัน มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็นำพากำลังคนพุ่งเข้าไปฆ่าสังหารกับคนในสำนักจักรพรรดิจ้านเทียน บรรพอาจารย์มหาจักรพรรดิยุทธ์ผู้เป็นอัจฉริยะบุคคลเพียงหนึ่งเดียวที่เหลือรอดของสำนักจักรพรรดิจ้านเทียน อ่อนกว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนรุ่นก่อนมาก ๆ ซึ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิเลยด้วยซ้ำ ทันทีที่ปะทะกันก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างต่อเนื่อง
“ผู้เพื่อนยุทธ์จ้านเทียนไม่ต้องกลัว ข้าจักมาช่วยเจ้าเอง!”
นายแห่งสำนักจักรพรรดิแสงดาวตะคอกเสียงดังลั่น ทางช้างเผือกที่มีแสงเงินเป็นประกายระยิบระยับพรั่งพรูปรากฏ ทว่ากลับถูกรูเล็ตที่มีรัศมีเทวหลากหลายสีสันวนเป็นเกลียวอยู่รอบ ๆ ต้านทานเอาไว้
และรูเล็ตนี้ก็คือเข็มทิศสรรพสวรรค์ ซึ่งเป็นสมบัติที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ตระกูลมู่ทิ้งไว้
ตู้มม!
พลังออร่าหนึ่งที่แข็งแกร่งและมากมายมหาศาลเคลื่อนตัวออกมาจากพระราชวังบนภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์มีรุ้งเทวดวงหนึ่งพุ่งออกมา ก่อนจะพุ่งตรงไปทางมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ
“ช่างกล้าหาญยิ่งนักโยหมิง ไปตายซะ!”
ซึ่งผู้ที่ลงมือก็คือหรงเทาจากตำหนักเฉินหยูนั่นเอง ผลการฝึกตนของเขาคือมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลาย ทันทีที่เขาปรากฏ ก็กลายเป็นผู้ที่มีพลานุภาพแข็งแกร่งมากที่สุดบนสนามรบ ทำให้ผู้คนตกใจกลัว
หรงเทาเรียกกระบี่เทพเล่มหนึ่งที่ยาวหลายหมื่นเมตรออกมา ภายใต้การฟาดฟันครั้งเดียวก็สามารถทำให้ห้วงดาราแตกสลายแล้ว แสงกระบี่ยังไม่ทันได้เฉือนสับมา จอมยุทธ์จำนวนมากจากสำนักจักรพรรดิมรณะก็ต้านทานไม่ไหว ร่างกายพากันระเบิดแตกตายจากไป