มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2648
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2648
เขาดึกดำบรรพ์ลึกลับตั้งแต่ไหนแต่ไรมา รากฐานลึกจนมิอาจคาดเดา แต่ถึงอย่างไรก็เป็นสิ่งสืบทอดของมหาโลกาพันสาม ซือถูเซิ่งเจี๋ยในฐานะประมุขเขา แม้จะไม่ใช่คนที่มีผลการฝึกตนสูงสุด ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาดึกดำบรรพ์จะมีเทพมารระดับเจ็ดอยู่
เพราะหากเป็นผู้แข็งแกร่งที่ฝึกฝนจนถึงแดนเทพมารระดับเจ็ด ต้องไม่ยินดีอยู่ในมหาโลกาพันสามแน่ เพราะเกณฑ์ฟ้าดินในห้วงดาราแห่งนี้ไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถทำให้เทพมารระดับเจ็ดสัมผัสรู้ความอัศจรรย์ของพลังแห่งเกณฑ์ได้
สำหรับหลัวซิวแล้ว ไม่มีเทพมารระดับเจ็ดก็นับว่าไม่มีอันตรายอะไรมากนัก ต่อให้เป็นสำนักจักรพรรดิตระกูลต่าง ๆ ของเขาดึกดำบรรพ์มีผู้อยู่เบื้องหลังในโลกร้าง ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเจ็ดพวกนั้น ก็ไม่มีใครเต็มใจมามหาโลกาพันสามห้างดาราที่เกณฑ์ไม่สมบูรณ์แห่งนี้
เสิ่นปิงหยูอยู่ที่นี่ต่อ หลัวซิวไม่ได้พานางออกไปด้านนอกด้วย แต่ได้ให้นางฝึกตนอยู่ในแดนปริศนาเผ่าจี้
ทุกคนที่อยู่ข้างกายเขา ตอนนี้มีเพียงยู่เอ๋อร์ที่บรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพเป็นคนแรก พรสวรรค์ของคนอื่น ๆ ด้อยกว่ายู่เออร์มากนัก ต้องการฝึกฝนถึงแดนจักรพรรดิเทพนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย
หลัวซิวได้มาที่นิรยะเพชฌฆาตอีกครั้ง ตอนนั้นเขาให้อัคคีเทพชีวีเลื่อนขั้นอยู่ที่นี่ เขายังจำได้ว่าพบเข้าโดยบังเอิญกับคนคนหนึ่งอยู่ที่นี่ เป็นสตรีที่มีนามว่าไป๋เฟยชิง
สตรีนางนั้นลึกลับมาก สามารถมอบโอสถแก่นแท้ระดับห้าให้เขานับพันนับหมื่นให้เขาได้อย่างง่ายดาย และทรัพยากรฝึกตนอย่างโอสถแก่นแท้ ใช้กันทั่วไปแค่ในโลกมหาศักดิ์เท่านั้น ดังนั้นหลัวซิวจึงรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ไป๋เฟยชิงน่าจะเป็นคนประเภทเดียวกันกับลิ่งฮู๋จื่อเซวียนและชีชี พวกเขาล้วนมาจากโลกมหาศักดิ์
ที่หลัวซิวมานิรยะเพชฌฆาตในครั้งนี้มีจุดประสงค์สองอย่าง เป้าหมายอย่างหนึ่งนั้นคือต้องการให้อัคคีเทพชีวีเลื่อนขั้นอีกครั้ง แม่ว่าอัคคีเทพชีวีซิวหลัวของเขาจะกลายเป็นเปลวเพลิงระดับจักรพรรดิเทพแล้ว แต่มันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเขา ส่วนลึกของนิรยะเพชฌฆาตนั้นมีอัคคีเทพระดับหกหรือระดับเจ็ดอยู่ จากพรสวรรค์ของอัคคีเทพซิวหลัวที่สามารถกลืนกินอัคคีเทพอื่นเพื่อเลื่นขั้นได้นั้น ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้มันได้เลื่นขั้น
ส่วนเป้าหมายอีกอย่างหนึ่งนั้น ก็คือชุบร่างเนื้อ จากเศษของหนังสือยุทธภัณฑ์ หลัวซิวได้สัมผัสรู้ถึงวิชาก่อเกิดกายแขนงหนึ่ง วิชาก่อเกิดกายแขนงนี้สามารถอาศัยพลังภายนอกเพื่อช่วยขัดเกลาและกระตุ้นให้สำเร็จเป้าหมายเพิ่มระดับผลการฝึกตนของการกลั่นร่างได้
หลัวซิวทราบเป็นอย่างดีว่าจากระดับความยากในการฝึกตนของเขาในตอนนี้ ต้องการให้ผลการฝึกตนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในมหาโลกาพันสามนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก ดังนั้นเขาจึงได้แต่คิดหาความเป็นไปได้ทุกวิถีทาง เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง
เพิ่มระดับผลการฝึกตนนั้นมันยากนัก เขาจึงได้แต่คิดหาวิธีด้านการกลั่นวิญญาณกับกลั่นร่าง
กรองแก้วมรกตดั้งเดิมยังเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะสามารถช่วยให้ผลการฝึกตนของข้าบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพขั้นสูงได้หรือไม่ แต่สิ่งที่ทำให้ข้าปวดหัวที่สุดคือจะสามารถทะลวงเส้นกั้นแดนจักรพรรดิเทพได้อย่างไร?
หลัวซิวนวดขมับ ตอนเขาบรรลุจ้าวมหาเทพในตอนนั้นก็ได้ใช้ยาเซียนระดับหกแล้ว บรรลุจักรพรรดิเทพยากกว่าร้อยเท่าพันเท่า ยาเซียนขั้นหกคงไม่เป็นผลเท่าไรแน่ เขาต้องใช้วิธีและเส้นทางอื่น ถึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้
ทิ้งความคิดทั้งหมดเอาไว้ที่ด้านหลัง ในนิรยะเพชฌฆาตหลัวซิวได้เข้าสู่การปิดตัวฝึกตนในระดับที่ลึกยิ่งขึ้น ลาร์ได้ถูกเขาสั่งให้อยู่ประจำการที่เผ่าจี้ ทันทีที่มีสถานการณ์เกิดขึ้น ทางเผ่าจี้ก็จะบีบม้วนหยกในทันที ส่วนเขาก็จะรีบกลับไป
วันเวลาเลือนลับไปในขณะที่เขาปิดตัวฝึกฝน อัคคีเทพซิวหลัวนั้นมีภูตอัคคี ไม่จำเป็นต้องให้หลัวซิวไปควบคุม มันก็จะกลืนกินพลังงานอัคคีที่อยู่ในนิรยะเพชฌฆาตเอง สะสมพลังงานและรากฐานอย่างไม่ขาดสาย เพื่อนำมาเลื่อนขั้น
หลัวซิวเองก็ได้มาถึงเขตแดนที่มีอัคคีเทพระดับหกลุกลาม เข้าจะชุบร่างเนื้ออยู่ที่นี่ ขณะเดียวกันนั้นเขาก็ได้นำกรองแก้วมรกตดั้งเดิมออกมาเพื่อเพิ่มระดับผลการฝึกตนของตัวเอง