มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 272 ปี้เซียนเสว่เข้าร่วมสำนักฉางเหอ
บทที่ 272 ปี้เซียนเสว่เข้าร่วมสำนักฉางเหอ
ในด้านการฝึกยุทธ์ อัจฉริยะที่มีคุณสมบัติร่างกายพิเศษ มีความได้เปรียบที่ดีเป็นพิเศษ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน ทุกคนต่างรู้ดี
หลัวซิวก็คิดไม่ถึงว่าหลังจากบอกว่าปี้เซียนเสว่มีร่างแห่งเสวียนหยิน ราชายุทธ์สองคนนี้ จะมีปฏิกิริยาใหญ่โตขนาดนี้
ในความรู้ของคนจำนวนมาก คุณสมบัติร่างกายพิเศษ เป็นสิ่งที่พบได้ยากมาก ทั้งชีวิตของคนส่วนใหญ่ อาจไม่เจออัจฉริยะที่มีคุณสมบัติร่างกายพิเศษ
แต่หลัวซิวกลับเจอติดต่อกันสองคน คนหนึ่งคือร่างอสูรฟ้า อีกคนคือร่างเสวียนหยิน ดังนั้นจึงไม่รู้สึกว่าคุณสมบัติร่างกายพิเศษ เป็นสิ่งที่พบได้ยากขนาดนั้น
โดนแววตาเป็นประกายของราชายุทธ์สองคนจ้อง ปี้เซียนเสว่ทำอะไรไม่ถูก ดวงตาสวยหันไปมองหลัวซิวอัตโนมัติ ไม่รู้จะทำยังไงดี
“ราชวงศ์ตระกูลฝาน ไม่ปล่อยเธอไว้แน่ ถ้าเธอเข้าร่วมสำนักฉางเหอได้ สำนักฉางเหอให้ความสำคัญกับพรสวรรค์ของเธอ ต้องตัดสินใจให้เธอแน่นอน” หลัวซิวพูดกับเธอ
เมื่อหลัวซิวพูดออกมา กู้โจว๋เสวียน ราชายุทธ์ของสำนักเสวียนหยาง มีสีหน้าเคร่งขรึม “ถ้าเธอเข้าร่วมสำนักเสวียนหยางของเรา ข้ารับรองได้เหมือนกันว่า ราชวงศ์ตระกูลฝาน ไม่กล้าทำอะไรเธอแน่”
“ไม่ต้องมาใช้ไม้นี้ สำนักเสวียนหยางของนายกับราชวงศ์ตระกูลฝาน ลงเรือลำเดียวกัน ถ้าแม่นางคนนี้เขาสำนักเสวียนหยาง ก็เท่ากับเนื้อเข้าปากเสือ” เหลียงชิวจู่วสีหน้ายิ้มแย้ม ใช้โอกาสแซะสำนักเสวียนหยาง
ปี้เซียนเสว่เข้าใจความหมายของหลัวซิว จะให้เธอเข้าร่วมสำนักฉางเหอ เมื่อเป็นเช่นนี้ จะได้รับการคุ้มครองจากสำนักฉางเหอ เพราะมีผู้แข็งแกร่งระดับมกุฏยุทธ์ ดำรงตำแหน่งอยู่ในสำนักฉางเหอ ไม่มีทางกลัวสำนักเสวียนหยางกับราชวงศ์ตระกูลฝาน
แต่ถ้าเธอเข้าร่วมสำนักฉางเหอ หลัวซิวจะทำยังไง
เธออยากให้หลัวซิวไปสำนักฉางเหอกับตัวเอง แต่เมื่อกี้หลัวซิวเพิ่งพูดว่าตัวเองไม่ยอมเข้าร่วมสำนัก จะทำยังไงดี
“เหอะๆ ไม่ว่าพวกนายมีบุญคุณความแค้นอะไรกับราชวงศ์ตระกูลฝาน ขอแค่เป็นศิษย์ของสำนักฉางเหอ ก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกนาย”
เหลียงชิวจู่วยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น ความหมายนอกคำพูดก็คือ หวังให้หลัวซิวเข้าร่วมสำนักฉางเหอด้วย
“สำนักฉางเหอน่าเกรงขามมาก!”
กู้โจว๋เสวียนรู้ว่าเรื่องไม่สำเร็จแล้ว ส่งเสียงฟึดฟัด สะบัดแขนเสื้อเดินออกไป ก่อนจากไป มองหลัวซิวด้วยแววตาอาฆาต
สุดท้ายหลัวซิวก็ปฏิเสธการชักชวนมาเป็นพวกของเหลียงชิวจู่วอย่างสุภาพ ส่วนเรื่องสยบวิญญาณ เขากำชับไม่ให้ปี้เซียนเสว่พูดกับคนอื่น ไม่งั้นจะเกิดเรื่องได้
ถึงไม่สามารถชักชวนหลัวซิวเข้ามาในสำนักฉางเหอได้ แต่ได้ร่างเสวียนหยินมาคนหนึ่ง ก็ทำให้เหลียงชิวจู่ว มีรอยยิ้มเต็มหน้า
จนถึงตอนนี้ กำจัดอันตรายไปได้ชั่วคราว ในที่สุดหลัวซิวก็โล่งอกได้เล็กน้อย
ตอนนี้ปี้เซียนเสว่ มีชื่อเป็นศิษย์ของสำนักฉางเหอแล้ว มีผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์อย่างเหลียงชิวจู่ว คุ้มครองด้วยตัวเอง หลัวซิวไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของเธออีก
เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าสำนักเสวียนหยางหรือราชวงศ์ตระกูลฝาน จะจัดการตัวเองยังไง หลัวซิวไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว รับมืออย่างไม่สะทกสะท้าน
เวลาผ่านไปอย่างเงียบๆ เรือรบกลับมายังเมืองเทียนหวู
เรื่องที่อำนาจใหญ่ต่างๆ สูญเสียศิษย์อัจฉริยะเกือบร้อย ในแดนปริศนา ดังไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว
ในเมืองเทียนหวู มีศิษย์อัจฉริยะของอำนาจใหญ่ต่างๆ ที่เข้าไปในแดนปริศนา ตกใจกับข่าวนี้ พวกตระกูลชั้นนำอย่างเช่น ตระกูลเหยียน ตระกูลสวี ผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ของอำนาจใหญ่ต่างๆ พากันสอบถามราชวงศ์ตระกูลฝาน
เมื่อก่อน ทุกครั้งที่แดนปริศนาเปิด สูญเสียอย่างมากก็ไม่เกินครึ่ง แต่ครั้งนี้กลับสูญเสียไปเกือบร้อย มีแค่ 30 กว่าคนที่รอดออกมา นี่ทำให้พวกคนอายุน้อย ที่ยังอายุต่ำกว่า 30 ปี ของอำนาจใหญ่ต่างๆ ห่อเหี่ยว ใครกล้ายืนหยัดต่อไปบ้างล่ะ
ไม่นาน ก็มีข่าวอีกข่าว เผยแพร่ในเมืองเทียนหวู เข้าหูผู้แข็งแกร่งในฝ่ายอำนาจต่างๆ
มีคนเห็นหลัวซิวฆ่าอัจฉริยะอายุน้อยกับปรมาจารย์ฝึกจิตอาวุโส ของอำนาจฝ่ายต่างๆ เป็นจำนวนมาก ขนาดอัจฉริยะของสำนักเสวียนหยาง อย่างกู้เค่ออาน ถาวโจว่จวิ้น นายน้อยตำหนักจื่อ องค์ชายสามของราชวงศ์ตระกูลฝาน ล้วนตายคามือหลัวซิว!
เมื่อข่าวเผยแพร่ออกไป เกิดความฮือฮาทั้งเมือง!
หลังเรือรบกลับมายังเมืองเทียนหวู หลัวซิวยังอยู่ในองค์กรนักล่ายุทธ์ ส่วนปี้เซียนเสว่ ออกจากประเทศเทียนหวู ไปพร้อมกับเหลียงชิวจู่ว เพื่อไปยังสำนักฉางเหอ
“สำนักเสวียนหยางกับราชวงศ์ตระกูลฝาน ไร้ยางอายจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะปล่อยข่าวลือ พุ่งเป้ามาที่ฉันงั้นเหรอ”
หลังหลัวซิวทราบข่าว ก็อดสบถออกมาไม่ได้ แต่จากนั้นเขาก็ลูบคาง ยกยิ้มมุมปาก พูดกับตัวเองว่า “แต่คนส่วนใหญ่ก็โดนฉันฆ่าจริงๆ……”
จากข่าวลือภายนอก ที่แพร่ไปทั่วทุกที่ หลัวซิวอยู่ในสำนักงานใหญ่องค์กรนักล่ายุทธ์ ไม่มีใครกล้ามาเหิมเกริมที่นี่
การไปแดนปริศนาครั้งนี้ หลัวซิวประสบความสำเร็จมาก แหล่งสมบัติต่างๆ นับไม่ถ้วน ยาวิเศษ หินหยิน วัตถุดิบ ถ้านับดีๆ มูลค่าเกือบสองแสนหินพลังจิตชั้นกลาง
อีกทั้งกลับมาเมืองเทียนหวูไม่นาน กล่องส่งเสียงของหลัวซิว ก็ได้รับข้อความอย่างต่อเนื่อง
ชิวลั่วสุ่ยส่งข้อความมาถามว่าเขาฆ่าพวกถาวโจว่จวิ้นแห่งตำหนักจื่อหรือเปล่า
เห็นได้ชัดว่า คนตำหนักจื่อ ไม่มีใครถูกส่งออกมาจากแดนปริศนา จึงสร้างความสงสัยให้ชิวลั่วสุ่ย
ไม่ว่าเธอคิดอะไร หลัวซิวก็บอกความจริงกับเธอไม่ได้ และไม่ยอมรับอยู่แล้ว
ยังมีข้อความจากโอวโหเหลียง จากเมืองซานหยวน ถามแทนนายท่านตระกูลสวี ว่ากลั่นยาสำเร็จหรือเปล่า
หลัวซิวตอบไปว่าอีกสักระยะจะส่งไปให้
นอกจากนั้นยังมีข้อความที่ทำให้หลัวซิวขมวดคิ้ว เป็นข้อความที่ลู่เมิ่งเหยาส่งมา บอกว่าออกจากเขตการปกครองโตว้ไห่แล้ว ฝากตัวเป็นศิษย์กับผู้แข็งแกร่งท่านหนึ่ง และเพ็ญตนตามเขา
หัวหน้าแก๊งเสิ่นหยวนหนาน ที่เขตการปกครองโตว้ไห่ ก็ส่งข้อความมาเหมือนกัน บอกว่าผู้แข็งแกร่งลึกลับที่พาลู่เมิ่งเหยาไป เหมือนจะมีที่มาที่ไป ส่วนโดยรวมคืออะไร ยังไม่ได้เล่าละเอียด ให้เขาไม่ต้องกังวล
หลัวซิวเอาของในตัวส่วนหนึ่ง ขายออกไปตามช่องทางภายในขององค์กรนักล่ายุทธ์ ในที่สุดก็ได้ผลหู่หยางจู มูลค่าหนึ่งแสนหินพลังจิตชั้นกลาง มาอยู่ในมือ
ส่วนหญ้าวิญญาณ ไม่มีขายภายในองค์กรนักล่ายุทธ์ หลัวซิวจำเป็นต้องหาทางอื่น
แต่หน้าที่เร่งด่วน คือต้องไปหาภูตอัคคีก่อน เขาถึงจะสามารถกลั่นยาระดับ6 ได้
หลัวซิวได้แผนที่ฉบับหนึ่งจากชิวลั่วสุ่ย บนนั้นมีภาพจำลองสถานที่รกร้างผืนหนึ่ง ที่อยู่เหนือสุดของประเทศเทียนหวู
ตรงมุมซ้ายของแผนที่ มีการเน้นเป็นสัญลักษณ์รูปไฟ เป็นตำแหน่งที่อาจารย์สุ่ยเยว่จง เคยเจอภูตอัคคี
ตอนอาจารย์สุ่ยเยว่จงพบภูตอัคคี ห่างจากตอนนี้ประมาณเกือบร้อยปีแล้ว ใครก็ไม่มีทางรู้ว่าภูตอัคคีฟ้าดินยังอยู่หรือเปล่า
สถานที่รกร้างทางตอนเหนือ เป็นสวรรค์ของอสูรกาย มีเผ่าพันธุ์อสูรกายอยู่ในแผ่นดินอันกว้างใหญ่ผืนนั้น บริเวณตำแหน่งใกล้ๆ ภูตอัคคี มีอสูรกายระดับสูงที่แข็งแกร่งอาศัยอยู่ ถึงใช้พละกำลังของอาจารย์สุ่ยเยว่จง ก็เกือบเฉียดตายแบบรอดมาได้หวุดหวิด
ข่าวที่สูญเสียคนไปเกือบร้อย ในแดนปริศนา เป็นข่าวโด่งดังในโลกภายนอก ส่วนหลัวซิวนั่งค่ายวาร์ป ในสำนักงานใหญ่องค์กรนักล่ายุทธ์ ไปยังสถานที่รกร้างทางตอนเหนือ
########################