CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2736 เทพมารระดับเจ็ด

  1. Home
  2. มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake
  3. บทที่ 2736 เทพมารระดับเจ็ด
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2736 เทพมารระดับเจ็ด

“หากข้าสามารถกลั่นแปรยาเซียนพรสวรรค์ต้นนี้ได้ ผลการฝึกตนจะต้องผ่านพันธนาการ ก้าวเข้าสู่แดนเทพมารระดับเจ็ดได้อย่างแน่นอน!”

ต่อให้เป็นผู้มีตัวธรรมที่สงบอย่างหลัวซิว ตอนนี้ก็หวั่นไหวเช่นเดียวกัน ทว่าไม่นานเขาก็ได้ขมวดคิ้ว เพราะบริเวณใกล้เคียงของยาเซียนต้นนี้ มีตัวต้องห้ามอันแข็งแกร่งอยู่

แม้ว่าสำหรับหลัวซิวในตอนนี้แล้ว ขอเพียงไม่ใช่วิชาห้ามค่ายกลระดับเทพขั้นเก้า โดยทั่วไปแล้วเขาล้วนสามารถทำลายได้ทั้งนั้น ทว่าตอนนี้กลับไม่มีเวลาให้เขาไปคิดหาวิธีทำลาย เพราะเขาได้สัมผัสถึงพลังอันแข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งกำลังพุ่งเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว

คิดมาถึงตรงนี้ หลัวซิวพลันขยับ ร่างของเขาหายไปจากที่เดิม จากนั้นก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ยันต์ค่ายสลักซ่อนกลิ่นอายประทับลงบนร่างตนเอง ไม่ปล่อยให้มีกลิ่นอายเล็ดลอดออกไปด้านนอกเลยสักนิด

ไม่กี่อึดใจ ก็มีเงามหึมาร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า เป็นคนของชนเผ่าเฉว่ซ่าที่ยื่นอยู่บนหลังของอสุรกายร่างใหญ่หน้าตาน่าเกลียด ซึ่งมีเทพมารระดับเก้าอย่างเทียนซ่าเเจินจวินเป็นผู้นำ!

ศิษย์ของชนเผ่าเฉว่ซ่าต่างก็มีรัศมีพลังอันแรงกล้า เมื่อมองเห็นยาเซียนพรสวรรค์ที่อยู่ข้างบ่อน้ำต้นนั้น สีหน้าท่าทางบนใบหน้าตะลึงยิ่งกว่าหลัวซิวในเมื่อสักครู่เสียอีก

“ฮ่า ๆ คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเข้ามาในแดนปริศนาแห่งนี้ก็พบเข้ากับสมบัติชั้นยอดอย่างยาเซียนพรสวรรค์เข้าเสียแล้ว!”

เทียนซ่าเเจินจวินอารมณ์ดีเป็นพิเศษ กระจายตัวสำนึกกวาดไปทั่วบริเวณ กลับไม่พบว่ามีใครอยู่เลย เช่นนั้นแล้วยาเซียนพรสวรรค์ต้นนั้นย่อมต้องเป็นของเขาไปโดยปริยาย

ยาเซียนพรสวรรค์ต้นหนึ่งหากใช้ประโยชน์จากมันได้ดี ก็เพียงพอที่จะช่วยเขาทะลวงพันธนาการ ทำให้ผลการฝึกตนของเพิ่มถึงแดนเทพมารระดับเก้าช่วงกลาง ผนึกรวมกงล้อเทพวงที่สอง!

กงล้อเทพ เป็นสัญลักษณ์ของผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเก้า กงล้อเทพยิ่งเยอะ ความสามารถก็จะยิ่งแข็งแกร่ง

ระหว่างที่หัวเราะอยู่นั้น เทียนซ่าเเจินจวินก็ลงมือโดยไม่ลังเล แม้ว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงตัวต้องห้ามที่อยู่บริเวณใกล้กับบ่อน้ำ แต่ยาเซียนพรสวรรค์ต้นนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเอามันมาให้ได้

“ครืนนน!”

อัสนีเทวสายหนึ่งได้ปรากฏขึ้น ตามมาด้วยเสียงมังกรคำราม กลายเป็นมังกรสายฟ้าหน้าตาดุร้ายตัวหนึ่ง มังกรสายฟ้าตัวนี้เป็นเหมือนดั่งอสูรจิตที่มีอยู่จริง รัศมีพลังทัดเทียมได้กับเทพมารระดับเก้าแผ่ซ่านออกมาจากร่างของมัน

หลัวซิวที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักมองเห็นภาพนี้ ก็ดูออกทันทีว่า มังกรสายฟ้าตัวนี้ไม่ใช่อสูรจิตที่แท้จริง แต่มันถูกสร้างขึ้นมาจากค่ายกล

“หึ ก็แค่สิ่งที่ค่ายกลสร้างขึ้นมา มีสิ่งใดให้กลัว?”

เทียนซ่าเเจินจวินทำเสียงฮึดฮัดอย่างเหยียดหยาม เงากระบี่เทพสีเลือดเล่มหนึ่งลอยตั้งขึ้นมาด้านหลัง ซึ่งสร้างขึ้นมาจากจิตตั้งบู๊ของเขา เห็นเพียงเขายกมือขึ้นจับ เงากระบี่เทพสีเลือดก็ได้หดเล็กลงไปเรื่อย ๆ กลายเป็นกระบี่สังหารเล่มหนึ่ง หล่นลงสู่มือของเขา

ทันทีทันใด เทียนซ่าเเจินจวินกับมังกรสายฟ้าก็ได้ต่อสู้เข้าด้วยกัน การประมือของเทพมารระดับเก้าทั้งสองนั้นพูดได้ว่าฟ้าถล่มดินทลาย

ฝีมือของเทียนซ่าเเจินจวินร้ายกาจกว่ามังกรสายฟ้าอยู่บ้าง แต่มังกรสายฟ้านั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยค่ายกล เมื่อร่างกายถูกทำร้ายก็จะฟื้นฟูอย่างรวดเร็วภายใต้การปลุกเสกเบิกเนตรของค่ายกล เหมือนดั่งร่างอมตะ

เมื่อเป็นเช่นนี้ เทียนซ่าเเจินจวินกลับตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถูกมังกรสายฟ้ากัดเข้าที่ไหล่ เลือดไหลอาบ ฟ้าแลบแปล๊บ ๆ กลิ่นไหม้ลอยมาเป็นระยะ

ทว่าเทียนซ่าเเจินจวินกลับไม่ยินยอมที่จะกลับไปเช่นนี้ เขาใช้พลังทั้งหมดต่อสู้กับมังกรสายฟ้า ปากก็ตวาดขึ้นมา: “มังกรสายฟ้าตัวนี้ถูกข้ารั้งเอาไว้แล้ว พวกเจ้าไปเก็บยาเซียนนั่นมา!”

“ขอรับ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชั่วพริบตาบรรดาเทพมารระดับแปดของชนเผ่าเฉว่ซ่าสิบกว่าคนได้พุ่งเข้าหายาเซียนพรสวรรค์ที่อยู่ข้างบ่อน้ำต้นนั้น

ทว่าในตอนนี้เอง หลัวซิวที่แอบอยู่ในที่ลับพลันได้ลงมือ เขาใช้กระบี่ร่องฟ้าออกมาโดยไม่ลังเล

“ทะยานเซียน!”

ทันใดนั้นเอง เหมือนดั่งว่าบนโลกนี้เหลือเพียงแสงกระบี่อันแวววาวอยู่เพียงเท่านั้น ผู้แข็งแกร่งขั้นเทพมารระดับแปดสิบกว่าคน ทุกการเคลื่อนไหวเหมือนดั่งถูกทำให้ชะงัก หยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น

แสงกระบี่สายนี้ สวยงามล้ำเลิศ ดั่งเซียนไร้เทียมทาน ทะยานสู่นภา

“พลัวะ”

อัสนีโลหิตเบ่งบานดอกแล้วดอกเล่า เทพมารระดับแปดสิบกว่าคน ถูกแสงกระบี่กวาดผ่าน ร่างของแต่ละคนแตกสลาย กลายเป็นผุยผง

ปริภูมิกับความเร็วปลุกเสกเบิกเนตรทวีคูณ บวกกับยันต์ค่ายความเร็วทั้งสามสิบสามสายที่สลักบนร่างตนเอง หลัวซิวได้ปรากฏขึ้นที่ริมบ่อน้ำภายในพริบตา โบกมือเก็บเอายาเซียนพรสวรรค์เข้าไว้ในกล่องหยกที่ประณีตงดงามกล่องหนึ่ง

“เดรัจฉาน บังอาจ!”

เทียนซ่าเเจินจวินที่กำลังต่อสู้อยู่กับมังกรสายฟ้าโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เขารั้งมังกรสายฟ้าที่ค่ายกลสร้างขึ้นไว้ด้วยชีวิต กลับกลายเป็นสร้างประโยชน์ให้ศัตรู ซึ่งมันทำให้เขาแทบกระอักเลือดออกมา

ภายใต้ความโมโห เทียนซ่าเเจินจวินไม่สนใจการโจมตีของมังกรสายฟ้า ยกมือฟันกระบี่เข้าหาหลัวซิว กระบี่นี้เกิดขึ้นจากความโกรธ อานุภาพทรงพลัง

“ตึง!”

เตากลั่นนภาจื่อเซียวปรากฏขึ้นมาบนศีรษะของหลัวซิว ขณะเดียวกันนั้นสองมือได้แสดงพลังอมตะ เพลาไหลรวยสายหนึ่งปรากฏขึ้น ภายใต้ผลกระทบจากเพลาไหลรวย กระบี่ที่เกิดจากความโมโหของเทียนซ่าเเจินจวิน จึงมีอานุภาพลดลงไปไม่น้อย

ครืนนน!

แสงกระบี่ฟันลงไปบนเตาเซียน หลัวซิวร่างสั่นสะท้าน ผิวหนังภายนอกแตกออก เลือดสด ๆ ไหลอาบ

ถึงแม้ว่าเขาจะดูเหมือนได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ความจริงแล้วเป็นเพียงบาดเจ็บภายนอกเท่านั้น เงาร่างเคลื่อนไหว เหาะเหินไกลออกไปอย่างรวดเร็ว

“สมควรตายนัก!”

เทียนซ่าเเจินจวินเตรียมที่จะตามไป ทว่ามังกรสายฟ้ากลับได้คำรามขึ้นมา ร่างของมันได้พัวพันเขาเอาไว้

……

ยาเซียนพรสวรรค์ได้ถูกหลัวซิวใช้เวทย์ฝึกตนเซ่นออกมา ขับเคลื่อนวิถีไร้ลักษณ์ ฤทธิ์ยาอันบริสุทธิ์ที่แฝงอยู่ในยาเซียนพรสวรรค์จึงได้ทะลักเข้าสู่ร่างกายของเขา

ยาเซียนหายากยิ่งนักบนโลกใบนี้ โดยเฉพาะเมื่อวิถียุทธ์ได้ค่อย ๆ พัฒนาจนถึงทุกวันนี้ ยาเซียนที่ยิ่งล้ำค่าหายาก ก็ยิ่งพบเห็นได้ยากขึ้นไป เพราะยาเซียนชั้นสูงนั้นกว่าจะเกิดขึ้นมาได้ล้วนต้องใช้เวลาอันยาวนานเพื่อตกตะกอน

ในบรรดายาเซียน ยาเซียนพรสวรรค์ล้ำค่าที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ก็ยิ่งหายากขึ้น

ภายใต้การกลั่นแปลของแก่นยาเซียน หลัวซิวสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าผลการฝึกตนที่ถูกกักมานานของเขาได้เกิดการเคลื่อนไหวเล็กน้อย เสียงเหมือนดั่งฟ้าคำรามดังก้องไปในร่างกายของเขา เวทย์ฝึกตนอันมหาศาลซัดสาดเข้ามาเฉกเช่นคลื่นทะเล จู่โจมประตูแห่งการพันธนาการ!

การโจมตีประตูแห่งการพันธนาการในแต่ละครั้งนั้น ร่างกายของเขาก็จะสั่นสะท้านตาม เวทย์ฝึกตนที่กระจัดกระจายก็มิได้สิ้นเปลืองเสียเปล่า ถูกร่างเนื้อดูดซับจนหมดสิ้น

ผ่านไปเช่นนี้ไม่รู้เป็นเวลานานแค่ไหน……

ครืนนน!

เฉกเช่นประตูแห่งโลกใบใหม่ได้เปิดออกที่ตรงหน้าของเขา เวทย์ฝึกตนซึ่งทรงพลังยิ่งกว่าที่ผ่านมาไม่รู้กี่เท่าได้ก่อเกิดขึ้นมาในร่างกายของเขา ไหลโหมซัดสาด

“ครืนนน……”

ในขณะเดียวกัน เมฆดำกระจายอย่างหนาแน่นในนภาสูง หลังจากเขาได้บรรลุแดนใหญ่ ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธก็จะผ่าลงมา นอกจากนี้ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธของแดนใหญ่นั้น จะมีอานุภาพที่ร้ายกาจกว่าทัณฑ์สายฟ้าพิโรธของแดนเล็กหลายเท่ายิ่งนัก

“มาได้ถูกเวลานัก!”

สัมผัสได้ถึงกระแสพลังและความกดดันอันน่าสะพรึงกลัวของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ หลัวซิวไม่กลัวแต่กลับดีใจ ผลการฝึกตนของเขาเพิ่งจะบรรลุ กำลังต้องการการฝึกหลอมเพื่อทำให้แดนเทพมารระดับเจ็ดของเขามั่นคงยิ่งขึ้น เสริมสร้างรากฐานของวิถียุทธ์

ส่วนร่างเนื้อของเขานั้น ก็เพิ่งจะบรรลุถึงร่างเทวระดับแปดได้ไม่นาน ก็ต้องการค้อนด้ามใหญ่อย่างทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ เพื่อทำให้ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเขาก้าวหน้าไปอีกขั้น!

ทันทีทันใด พื้นที่ในรัศมีหลายพันลี้ที่หลัวซิวอยู่ล้วนถูกปกคลุมไปด้วยอสนีบาต เขาได้สร้างค่ายกลตัดขาดเอาไว้ที่บริเวณนี้ นอกเสียจากว่าจะมีคนผ่านมาในบริเวณนี้ ไม่อย่างนั้นหากอยู่ห่างเกินไป ก็จะไม่สังเกตเห็นว่าทางนี้กำลังมีคนข้ามผ่านทัณฑ์อยู่

หลายวันถัดมา หลัวซิวข้ามผ่านทัณฑ์ได้สำเร็จ หลังจากเวทย์ฝึกตนของเขาได้ผ่านการฝึกหลอมของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ ก็ได้ผนึกมั่นคงยิ่งขึ้น ผลการฝึกตนในเทพมารระดับเจ็ดขั้นปฐมภูมิคงตัวในทันที ไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาสร้างความเสถียรให้แดนฝึกตนอีก

สิ่งที่ทำให้คนปีติยินดียิ่งกว่านั้นคือร่างยุทธ์ร่างเนื้อได้อาศัยการฝึกหลอมของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ ก้าวเข้าสู่ร่างเทวระดับแปดช่วงกลาง

เนื่องจากความแข็งแกร่งของวิถีไร้ลักษณ์กับหนังสือยุทธภัณฑ์วิชากลั่นร่าง ร่างเทวระดับแปดช่วงกลางของหลัวซิว ไม่ได้ด้อยไปกว่าร่างเทวระดับแปดขั้นสูงของคนอื่นอย่างแน่นอน หรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ

“ยินดีกับท่านนายที่บรรลุผลการฝึกตนขอรับ!”

ลาร์ที่คอยอารักขาอยู่ด้านข้างก็ดีใจมากเหมือนกัน แต่ภายในใจนั้นรู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อย เมื่อก่อนตอนผลการฝึกตนของนายท่านค่อนข้างจะอ่อนแอ เขายังพอมีประโยชน์มากอยู่บ้าง แต่พอนายท่านแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อย ๆ องครักษ์ประจำกายอย่างเขาก็เหมือนจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไรนักแล้ว เป็นได้แค่สัตว์ที่ใช้ขี่แทนการเดินเพียงเท่านั้น

ตอนที่เป็นไท่ซ่างฉิงในชาติก่อน ที่กำราบลาร์ก็ทำไปตามอารมณ์เท่านั้น แต่ชาตินี้ลาร์ได้ช่วยเหลือเขามากมายหลายอย่าง หลัวซิวจึงเตรียมที่จะช่วยให้ความสามารถของลาร์เพิ่มระดับขึ้นไปอีก

หลังจากผลการฝึกตนได้บรรลุ หลัวซิวกับลาร์ก็ได้เดินลึกเข้าไปในแดนปริศนาแห่งนี้ต่อไป และได้พบยาเซียนระดับเก้าเข้าอีกหลายต้นในเวลาถัดมา ยาเซียนแต่ละต้นนั้นล้วนมีฤทธิ์อันแข็งแกร่ง แม้จะไม่ล้ำค่าเท่ายาเซียนพรสวรรค์ แต่นำออกไปยังโลกด้านนอกล้วนเป็นของล้ำค่าที่หาได้ยาก

หลัวซิวได้สั่งให้ลาร์รีบเดินทาง ส่วนเขานั้นได้เซ่นเตากลั่นนภาจื่อเซียวออกมา นำยาเซียนพวกนี้ใส่เข้าไปในเตาเซียนเพื่อกลั่นแปรเป็นยาเซียนลูกกลอน

หลังจากผลการฝึกตนบรรลุถึงเทพมารระดับเจ็ด ความชำนาญทางกฎของเขาได้บรรลุถึงแดนใหม่ทั้งหมด เพียงพอที่จะกลั่นแปรยาเซียนลูกกลอนระดับเก้าที่กลั่นไม่ค่อยยากสักเท่าไรนัก

ยักษ์ตรีภพมีร่างใหญ่มหึมา ด้วยเหตุนี้การเพิ่มระดับจึงยากยิ่งกว่า เพราะยิ่งมีรูปร่างใหญ่ พลังที่ต้องดูดซับก็ยิ่งมาก นอกจากนี้เนื่องจากพลังของยักษ์ตรีภพเป็นAttrตรีภพดังนั้นความยากในการเพิ่มระดับยิ่งสูงขึ้นไปหลายเท่า

ยกตัวอย่างเช่นแดนราชาเทพระดับเจ็ดของลาร์ในตอนนี้ หากต้องการให้เขาบรรลุถึงมกุฎเทพระดับเจ็ด จักรพรรดิเทพ หรือแม้กระทั่งแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ต้องยากกว่าจอมยุทธ์ทั่วไปหลายเท่ายิ่งนัก ทรัพยากรที่ต้องใช้ก็ยิ่งสิ้นเปลืองกว่าหลายเท่านัก

แม้ว่าจะมีความลำบากสูง แต่ถ้าหากลาร์สามารถบรรลุได้ เช่นนั้นในแดนเดียวกัน เวทย์ฝึกตนของเขาก็จะไม่มีใครทัดเทียมได้ ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเขาก็แทบจะไร้เทียมทาน!

นี่ก็คือข้อได้เปรียบของยักษ์ตรีภพ

หลัวซิวเพิ่งจะบรรลุผลการฝึกตน ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้ยาเซียนระดับเก้าพวกนี้ ดังนั้นเขาจึงมอบยาเซียนให้กับลาร์ ซึ่งทำให้ลาร์ซาบซึ้งใจยิ่งนัก

เงยหน้ามองดู บริเวณดวงอาทิตย์ลอยอยู่ทางทิศตะวันออก มีผู้แข็งแกร่งมากมายกำลังต่อสู้กันอยู่ แย่งชิงความเป็นเจ้าของของขลังชิ้นนี้

ทางทิศตะวันตกที่พระจันทร์แขวนอยู่ ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน ในถ้ำปริศนาแห่งนี้มีโอกาสโชคชะตามากมาย หลัวซิวเชื่อว่าเขาได้รับโอกาสโชคชะตาซึ่งเป็นของเขา คนอื่น ๆ ก็ต้องเก็บเกี่ยวได้ไม่น้อยเหมือนกัน

“ลาร์ เจ้าเข้าไปในของขลังของข้าก่อน”

ตรงกลางระหว่างคิ้วของหลัวซิวเปิดออก ในถ้ำปริศนาแห่งนี้ ความสามารถของลาร์ไม่ค่อยมีประโยชน์อันใดนัก ไม่สู้ให้เขาเข้าไปในตำหนักวัฏสงสารและอาศัยยาเซียนระดับเก้าเพิ่มผลการฝึกตน

สำหรับของวิเศษทั้งสองอย่างตำหนักวัฏสงสารกับลูกแก้วความเป็นตาย หลังจากมาที่โลกร้างเขาก็ได้ใช้มันน้อยมาก เพราะเขาทราบดีว่าชิ้นส่วนกงล้อวัฏจักรธรรมนั้นไม่ธรรมดา แม้อานุภาพของตำหนักวัฏสงสารกับลูกแก้วความเป็นตายจะไม่นับว่ายิ่งใหญ่นัก แต่เพราะมูลเหตุจากกงล้อวัฏจักรธรรม จะนำปัญหามาให้เขาอย่างไม่ขาดสาย

ร่างของเขาเดินขึ้นสู่อากาศ ตัวสำนึกกระจายออกไป หลัวซิวได้ใช้พลังแห่งญาณเทวปลุกเสกเบิกเนตรให้กับตัวสำนึก แล้วอาศัยการสัมผัสจากของวิเศษทั้งสามอย่างยันต์เทพสงคราม เกราะเทพสงครามและหอกเทพสงคราม ในที่สุดก็ได้เล็งเป้าไปที่ตำแหน่งหนึ่ง

สวบ!

ทันใดนั้นเองร่างของเขาก็ได้หายไปจากที่เดิม อาศัยปริภูมิกับความเร็วปลุกเสกเบิกเนตรทวีคูณ การเคลื่อนไหวของเขานั้นเร็วมาก เป็นเหมือนดั่งฝนดาวตก พุ่งไปในอากาศอย่างรวดเร็ว

  

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 2736 เทพมารระดับเจ็ด"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์