มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 311 เป็นเรื่องยากที่จะผ่อนคลาย
หลัวซิวเพิ่งพบว่า หลังจากที่ตนหลอมรวมเป็นหนึ่งกับลูกแก้วความเป็นตาย ตลอดเกือบสามปีที่ผ่านมานี้ เขาล้วนใช้ชีวิตไปกับการเข่นฆ่าต่อสู้และฝึกฝนด้วยความยากลำบาก
ไม่เคยมีเสี้ยววินาทีไหน ที่ชีวิตของเขาผ่อนคลายเหมือนกับตอนนี้มาก่อน เดินทางอยู่ใกล้แดนตันแห่งความเป็นตายนับครั้งไม่ถ้วน แสวงหาโอกาสที่การบรรลุแต่ละขั้น เพียงเพื่อให้ตนแปรเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ปกป้องญาติมิตรของตน และปกป้องทุกอย่างที่ตนต้องการ
การต่อสู้บนเส้นทางแห่งความเป็นความตายที่น่าตกตะลึงนี้ มีเพียงตัวหลัวซิวที่รู้ดี แต่เขากลับพูดอย่างชัดเจน ไม่อยากให้เหยียนเยว่เอ๋อร์เป็นกังวล
แต่ว่า เหยียนเยว่เอ๋อร์เป็นคนฉลาดระดับไหน? มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าหลัวซิวกำลังคิดอะไร?
หลังจากผ่านไปสองวัน เหยียนเย่ว์เอ๋อร์อาศัยยาวิญญาณหยินหยาง ฟื้นบาดแผลของเทพจิตจนหาย
เพราะบาดแผลเทพจิตเป็นมานานไม่หายสักที จึงทำให้ผลการฝึกตนของเธอไม่สามารถกลับไปอยู่ในขั้นสูงเหมือนเมื่อก่อนในครั้งเดียว ทำได้เพียงฟื้นตัวกลับไปยังแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น2
นี่เป็นเพราะยาวิญญาณหยินหยางที่หลัวซิวกลั่นออกมานั้นเป็นยาบริสุทธิ์ที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอม มิเช่นนั้นอยากมากเธอก็สามารถฟื้นตัวกลับไปถึงแค่แดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น1 ถึงขั้นมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะลดจากจักรพรรดิยุทธ์ไปยังราชายุทธ์ขั้น9
ไม่ได้กลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ของตนมานานแล้ว หลังจากบาดแผลเทพจิตของเหยียนเยว่เอ๋อร์หายดี หลัวซิวนั่งค่ายวาร์ป จากเขตการปกครองหยุนหลง มายังเมืองชิงหยุน
บรรยากาศในลานสวนรื่นรมย์ พ่อกับแม่ผมขาวอย่างเห็นได้ชัด
หลัวซงหลินผู้เป็นพ่อ ดื่มชาและตากแดดอยู่ในสวน ส่วนแม่อุ้มหลานของตนอยู่ข้างๆ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ดังก้องไปทั่วสวน
ตอนที่หลัวซิวปรากฏตัวในสวน คล้ายเวลาหยุดเดิน
“ซิว?” ในสายตาของพ่อกับแม่ ทอประกายด้วยน้ำตาแห่งความตื้นตัน
มีเพียงเด็กน้อยที่ร้องอ้อแอ้ ดวงตาเปล่งประกายคู่นั้น มองคนสวมชุดดำด้วยความสงสัยใคร่รู้
ใช้ชีวิตอยู่ด้านนอก ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่จะไม่เป็นห่วง เวลาเกือบสองปีที่ไม่ได้เจอกัน พวกเขาเองก็คิดถึงหลัวซิวอย่างมาก
หลิวชูหยุนผู้เป็นแม่จับมือเหยียนเย่ว์เอ๋อร์แล้วถามสารทุกข์สุกดิบ แววตาที่มองเธอนั้นอ่อนโยนอย่างมาก คล้ายแววตาที่มองลูกสะใภ้ของตนอย่างไรอย่างนั้น
สิ่งที่ทำให้หลัวซิวแปลกใจก็คือ เหยียนเยว่เอ๋อร์เองก็ยินดีที่จะพูดคุยกับแม่ของตนมาก ทั้งยังเล่นกับหลานชายของตน กับแม่อีกด้วย
“ลูกคนนี้ สายตาเฉียบแหลม”
อีกด้านหนึ่ง หลัวซงหลินนั่งอยู่ตรงข้ามหลัวซิว ดื่มน้ำชาและพูดคุยกัน
หลัวซงหลินมองหญิงสาวชุดคลุมยาวแดงที่หลัวซิวพากลับมา พยักหน้าและยิ้มด้วยความพอใจ
“สายตาของผมเฉียบแหลมอยู่แล้วครับ ผมได้มาจากพ่อนะครับเนี่ย” หลิวซิวยิ้มแล้วพูด
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลัวซงหลินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดัง ผ่านไปสองปีแล้ว เด็กน้อยในตอนนั้น เวลานี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
เขาในอดีต คือคนที่เข้าไปเก็บยาสมุนไพรในป่า เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับนักยุทธ์มาบ้าง รับรู้ถึงความอันตราย
คนฝึกยุทธ์ ดูเหมือนจะสวยหรู แต่ความเป็นจริงนั้นเดินมักจะใช้ชีวิตอยู่บนความเป็นความตาย หากไม่ระวังเพียงเล็กน้อย ก็มีโอกาสที่จะวิญญาณบุบสลาย
หลัวซิ่วเอ๋อรืผู้เป็นพี่ได้ยินข่าวหลัวซิวกลับมา เธอเองก็กลับมาที่บ้านพร้อมกับสามี เป็นเรื่องที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว
ตอนกลางคืน พระจันทร์ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า หลัวซิวถือจอกสุรา นั่งอยู่ในสวน
“ถึงแม้ชีวิตของคนทั่วไปจะเรียบง่าย ทว่าครอบครัวก็มีความอบอุ่น ถ้าสามารถเลือกได้ ฉันอยากจะเป็นคนทั่วไป”
คนที่นั่งอยู่ข้างหลัวซิว เหยียนเยว่เอ๋อร์มองพระจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน พูดด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหวเล็กน้อย
“น่าเสียดายที่พวกเราไม่อาจทำตามใจตนเองได้” หลัวซิวยิ้มแล้วส่ายหน้า จากนั้นดื่มสุราหนึ่งอึก
“ที่ฉันฝึกยุทธ์ เริ่มแรกเพื่อให้ญาติมิตรของตนได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข สามารถมีชีวิตที่รุ่งโรจน์”
“กระทั่งตอนหลัง ฉันเพิ่งรู้ว่าโลกของนักยุทธ์นั้นโหดร้ายมากแค่ไหน เป้าหมายในการฝึกยุทธ์ของฉัน ไม่ใช่เพื่อความรุ่งโรจน์ แต่เพื่อปกป้องญาติมิตรที่อยู่รอบตัวของฉัน”
“แต่ตอนนี้ นอกจากปกป้องญาติมิตรของตนแล้ว เป้าหมายในการฝึกยุทธ์ของฉัน ก็เพื่อดุว่า ไปถึงจุดสูงสุดในการฝึกยุทธ์ จะเป็นทิวทัศน์อย่างไร”
หลัวซิวดื่มสุราอึกใหญ่ สุราร้อนๆ รินไหลเข้าไปในคอ คล้ายเป็นความภาคภูมิใจที่อยู่ในใจของเขา
เหยียนเยว์เอ๋อร์หันหน้าไปมองบุรุษที่เพิ่งอายุสิบเจ็ดปี หัวเราะ รอยยิ้มของเธองดงาม “ฉันยินดีที่จะอยู่เคียงข้างนาย”
ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดมากมาย สาบานต่อภูเขาและท้องทะเล แค่คำพูดธรรมดาที่สุดเพียงหนึ่งคำ ก็อบอุ่นเหมือนลำธาร รินไหลอยู่ในหัวใจ
ช่วงชีวิตที่เงียบสงบนี้ ถูกลิขิตไม่ให้ยืนยาว
หลังจากนั้นสามวัน ท่ามกลางแววตาอาลัยอาวรณ์ของคนในครอบครัว หลัวซิวเดินเคียงบ่างเคียงไหล่จากไปพร้อมกับเหยียนเย่ว์เอ๋อร์ หลงหมิงประสานเป็นหนึ่งกับพื้นที่ ติดตามไปราวกับเงา
สำหรับสิงห์ทิพย์อัคคีอร่าม ถูกหลัวซิวเก็บเอาไว้ที่บ้านในเมืองชิงหยุน ปกติแปลงกายเป็นขนาดเล็กเท่าลูกสุนัข แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คุกคามคนในครอบครัวของเขาให้ตกอยู่ในอันตราย เขาจะกลายเป็นอสูรกายพันธุ์โบราณที่มีพลังยุทธ์ระดับฝึกจิตขั้น9
สิ่งที่หลัวซิวต้องทำก็คือ พัฒนาความสามารถของเขาเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน กำจัดทุกอย่างที่มีโอกาสคุกคามญาติมิตรของตน
สิ่งนี้ คือเหตุผลที่เขาเลือกเดินบนเส้นทางโลกยุทธ์!
ในอดีตตอนที่อยู่ในเขตการปกครองหวู่เฟิง หลัวซิวได้รับลูกแก้วดำและภาพปริศนามาจากตระกูลจู เป็นเบาะแสของร่องถ้ำในสมัยโบราณ
จากเส้นทางที่ภาพปริศนาอธิบายนั้น ร่องถ้ำนี้ตั้งอยู่ในเมืองไห่หยุน คือหนึ่งในหกเมืองของประเทศเทียนหวู
ช่วยเหยียนเยว่เอ๋อร์ออกมาจากตระกูลเผย ทั้งยังอาศัยยาวิญญาณหยินหยางในการฟื้นฟูบาดแผล หลัวซิวไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายลงเพราะเรื่องนี้
ยังไม่ต้องพูดถึงตำหนักจื่อที่เป็นศัตรูของเหยียนเยว่เอ๋อร์ ราชวงศ์ตระกูลฝาน สำนักเสวียนหยาง ตระกูลเหยียน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นภัยคุกคามที่ซ่อนตัวเอาไว้ ด้วยความสามารถของเขากับเหยียนเยว่เอ๋อร์ ไม่สามารถที่จะสู้กับอำนาจที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่นี้ได้
ดังนั้นครั้งนี้หลังจากออกมาจากเขตการปกครองหยุนหลง หลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์มุ่งหน้าไปยังเมืองไห่หยุน หวังว่าจะสามารถอาศัยร่องถ้ำสมัยโบราณนี้ หาโอกาส เพื่อพัฒนาความสามารถของตนเอง
ระหว่างทาง หลัวซิวเริ่มฝึกทักษะยุทธ์ระดับ9วิชาภูตผีเซินหลัว ตั้งแต่เขาได้ทักษะยุทธ์นี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่มีเวลาได้ศึกษาอย่างถี่ถ้วน
นี่คือทักษะยุทธ์ที่ข้องเกี่ยวกับพลังแห่งความตาย ใช้ห้วงยุทธ์แห่งความตายในการขับเคลื่อน พลานุภาพแข็งแกร่ง
“ถ้าฉันสามารถบรรลุแดนราชายุทธ์ อาศัยพลังแปรเสวียนเทียน ตราธรรมจุติมรณะ วิชาภูตผีเซินหลัว ถึงแม้จะไม่เทียบเท่าจักรพรรดิยุทธ์ แต่ก็น่าจะปกป้องตนเองได้”
ภายใต้การวางแผนและคิดคำนวณของหลัวซิว สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือพัฒนาผลการฝึกตน ไม่อย่างนั้นไม่สามารถต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์และผู้แข็งแกร่งมกุฎยุทธ์เหล่านั้นได้
อีกทั้งผลการฝึกตนของเหยียนเยว่เอ๋อร์ก็จำเป็นต้องค่อยๆ ฟื้นตัว หลัวซิวเชื่อว่าอาศัยวิชากลั่นยาของตน พัฒนาผลการฝึกตนของเหยียนเยว่เอ๋อร์ไม่มีปัญหาแน่นอน
ระหว่างมุ่งหน้าไปยังเมืองไห่หยุน หลิวซิวฝึกตนจนไม่กินไม่นอน ตระหนักรู้ถึงความลับของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพผัวกฎดั้งเดิมที่สอง
ตอนนี้ เขาตระหนักรู้ผังกฎดั้งเดิมที่สองเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว ใช้เวลาอีกไม่นานก็จะกระจ่างทุกอย่าง มั่นใจและเข้าใจพลังแห่งความเป็นความตายขั้น2 มากขึ้นกว่าหนึ่งแล้ว
ผังกฎดั้งเดิมที่หนึ่ง เขาเข้าใจตราธรรมจุติมรณะ หลัวซิวตั้งหน้าตารอว่าหลังจากที่ตนเข้าใจผังกฎดั้งเดิมที่สองทั้งหมด จะได้รับอะไรบ้าง
ในป่าโล่งที่กว้างขวาง หลัวซิวตั้งค่ายกลเอาไว้ทั้งสี่ทิศ เตาทยานนภามังกรคู่ปรากฎด้านหน้า เปลวไฟสีแดงน้ำตาพลุ่งพล่าน เผาไหม้ในเตาไม่หยุดหย่อน