มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 349 ทำลายค่ายคุ้มกันโบราณ
หลังจากผทำลายค่ายกลห้ามบินที่กักขังเมื่อคราวก่อน ธงค่ายโบราณหกด้านเสียหายเล็กน้อย เหว้ยห้าวหรนาลูบจับธงค่าย เผยสีหน้าปวดใจ
ตอนที่เหว้ยห้าวหรานศึกษาวิธีการทำลายค่ายกล หลัวซิวกลับมีความรู้สึกหนึ่ง คล้ายว่าขอเพียงตนจับลูกแก้วดำในมือ ก็จะสามารถทะลุผ่านลำแสงม่านค่ายกล เข้าไปในกระท่อมมุงจากตรงหน้าได้
เหว้ยห้าวหรานลีลาอยู่นานมาก หลังจากนั้นค่อยเริ่มวางธงค่าย โดยมีธงค่ายโบราณหกด้านเป็นหลัก เขาหยิบธงค่ายแปดสิบเอ็ดด้านออกมา ใช้เวลาเกือบสองวัน กว่าจะวางค่ายกลทั้งหมดเสร็จ
“ระดับของค่ายกลนี้สูงมาก ลำพังฉันเพียงคนเดียวไม่สามารถควบคุมได้ ต้องใช้พลังจิตแท้ของพวกนายมาช่วยฉัน”
หลังจากวางค่ายกลเสร็จ เหว้ยห้าวหรานเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก แล้วพูดกับจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงและพวก
จักรพรรดิยุทธ์ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างไม่มีข้อคิดเห็นใด พวกเขาเดินไปด้านหน้า ทำตามที่เหว้ยห้าวหรานต้องการ ใช้พลังจิตแท้ของตนเอง อัดฉีดเข้าสู่ธงค่ายในค่ายกล
หลังจากพลังจิตแท้อัดฉีดเข้าไป ธงค่ายแต่ละอันฉายแสงทอประกายแวววับ กลายเป็นสัญลักษณ์สีต่างๆ ที่ทำให้คนตาลาย
สัญลักษณ์ทุกอัน ล้วนเกิดจากการตกผนึกของลายเส้น ถูกเรียกว่าสัญลักษณ์ค่ายกล
สัญลักษณ์ค่ายกลและสัญลักษณ์ค่ายกลเชื่อมประสานกัน ทำให้เกิดแรงปะทะที่รุนแรง เคล้าไปด้วยความพิศวงที่ลึกซึ้ง ทำให้ค่ายกลสามารถสร้างพลังที่ไม่ธรรมดา
ช่วงเวลาสั้นๆ ธงค่ายแปดสิบเอ็ดด้านและธงค่ายโบราณหกด้านล้วนถูกกระตุ้นไม่หยุด กลายเป็นสัญลักษณ์ค่ายกลนับร้อย ปะทะและเสียดสีรุนแรงกับ ค่ายคุ้มกันของกระท่อมมุงจาก
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม แววตาของทุกคนล้วนฉายความคาดหวัง คล้ายเห็นความหวังในการทำลายค่ายคุ้มกันโบราณ
มีหลัวซิวเพียงคนเดียวที่หัวเราะเยือกเย็นในใจ เพราะเกิดสถานการณ์แบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าค่ายคุ้มกันโบราณสั่นเทาแล้วจะถูกทำลาย แต่ว่าเป็นระยะแรกที่พลานุภาพของค่ายกล จะระเบิดออกมา
เหว้ยห้าวหรานเองก็สังเกตเห็นข้อนี้อย่างรวดเร็ว สีหน้าแปรเปลี่ยนทันที “ถอยเร็ว!”
ทันทีที่ประโยคนี้โพล่งออกมา จักรพรรดิยุทธ์ทุกคนเองก็รู้สึกถึงสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก แต่ละคนรีบถอนพลังจิตแท้กลับมา แล้วถอยหลัง
ตั้ง!
ม่านลำแสงสีดำทองของค่ายคุ้มกันโบราณ ระเบิดพลานุภาพที่น่าเกรงขามออกมากะทันหัน
พลังที่ร้ายกาจแผ่ซ่านออกมา ธงค่ายที่เหว้ยห้าวหรานวางเอาไว้ แตกสลายกันหมด ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ในชั่วพริบตา ถูกพลังที่น่าสะพรึงกลัว พัดปลิวออกไป
ธงค่ายโบราณหกด้าน ธงค่ายแปดสิบเอ็ดด้านระดับหกที่ราคาสูงลิ่ว ไม่เหลือแม้แต่อันเดียว กลายเป็นขยะ พังเสียหาย
เหว้ยห้าวหรานผมเผ้ายุ่งเหยิง แววตาเหม่อลอย ในสมองมีเพียงคำพูดเดียวที่วนเวียนไม่หยุด “เสียหายหมดแล้ว!”
ไม่พูดถึงธงค่ายโบราณหกด้านที่ราคาสูงลิ่ว แค่ธงค่ายแปดสิบเอ็ดด้านระดับหก แต่ละอันก็ราคานับหมื่น
ถ้าหากสามารถทำลายค่ายกลโบราณก็ไม่เป็นไร ทันทีที่ด้านในมีของล้ำค่า เลือกเรื่อยเปื่อยมาสักหนึ่งชิ้น ก็สามารถชดใช้ความเสียหายของตนได้แล้ว
แต่ผลสุดท้ายคือ ค่ายกลไม่ได้ถูกทำลาย ทว่าธงค่ายทั้งหมดของเขา กลับถูกทำลายจนหมด!
ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทุกคน สีหน้าเคร่งขรึม ถึงแม้จะคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอาจจะล้มเหลว แต่ว่าเมื่อล้มเหลวจริงๆ ภายในใจกลับยังคงรู้สึกยากที่จะยอมรับ
“หื้ม? หลัวซิวเล่า?……”
จู่ๆ จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงก็ขมวดคิ้วเป็นปมขึ้นมากะทันหัน สายตาของเขากวาดมองรอบๆ แต่กลับไม่เห็นร่องรอยของหลัวซิว
ก่อนหน้านี้ตอนที่จักรพรรดิยุทธ์ทุกคนร่วมมือกันทำลายค่ายกล เขาจำได้ว่าหลัวซิวยืนอยู่ไม่ไกล แต่เวลานี้กลับหายไป หรือว่าจะถูกการะระเบิดของค่ายกลเมื่อครู่ทำร้ายเข้า?”
นอกจากจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงแล้ว จักรพรรดิยุทธ์คนอื่นๆ ไม่ได้สังเกตเห็นการหายตัวไปของหลัวซิว ความคิดของทุกคนล้วนอยู่ที่ค่ายกลโบราณ
สีหน้าของเหว้ยห้าวหรานเต็มไปด้วยความเจ็บใจ นั่งอยู่ตางด้านนอกม่านลำแสงสีทองดำแล้วศึกษาวิธีทำลายค่ายกล
“ภายในตำหนักมีขนาดใหญ่มาก พวกเรายังมีพื้นที่บางส่วนที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ”
“ดูเหมือนว่าไม่สามารถเปิดค่ายกลได้ในเร็วๆ นี้ ถ้าอย่างนั้นสู้ไปหาโอกาสดีที่อื่นๆ ก็ยังดีกว่า”
ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ที่ผลการฝึกตนต่ำหน่อยหวั่นไหวเล็กน้อย เพราะถึงอย่างไรต่อให้ค่ายกลถูกทำลาย ของดีๆ ด้านใน คาดว่าก็คงไม่ตกมาถึงตน
“หื้ม? เจ้าเด็กหลัวซิวล่ะ? หรือว่าอาศัยตอนที่คนแก่อย่างพวกเราทำลายค่ายกล เขาแอบหนีไปหาของล้ำค่าที่อื่นแล้ว”
ในเวลานี้เอง มีคนสังเกตเห็นว่าหลัวซิวหายตัวไป แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
มีเพียงสวีจิงเหนียนแห่งอาจาร์ตระกูลสวี ที่สีหน้าฉายความสับสน ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เขารู้สึกว่าหลัวซิวลึกลับมาก ไม่มีทางตามผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์กลุ่มหนึ่งมาที่นี่อย่างไร้เหตุผล ต้องมีเงื่อนงำอะไรไม่น้อยแน่นอน
สวีจิงเหนียนสามารถคิดเรื่องนี้ได้ ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์คนอื่นๆ ย่อมคิดถึงได้เหมือนกัน เกิดความคาดเดาขึ้นในใจ
ฝ่านไท่เต๋อหัวเราะในใจ ส่งเสียงผ่านตัวสำนึกไปให้ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่ง “ไปหาเจ้าเด็กหลัวซิว แล้วจัดการเก็บกวาดให้เรียบร้อย”
ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์คนนี้คืออาจารย์ตระกลูหลู่ซึ่งเป็นอาจารย์หนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ สนับสนุนราชวงศ์ตระกูลฝาน
อาจารย์ตระกูลหลู่พยักหน้า หลังจากนั้นหมุนตัวหันหลังเดินออกไป พร้อมทั้งแผ่ซ่านตัวสำนึกของตนเอง ตามหาหลัวซิว
จักรพรรดิยุทธ์หลายคนเริ่มแยกย้ายกันตามหาของล้ำค่า มีแค่เหว้ยห้าวหราน จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง ฝานไท่เต๋อและคนจำนวนน้อยอีกไม่กี่คน ยังคงยืนอยู่บริเวณใกล้ๆ กระท่อมมุงจาก ไม่ยอมถอดใจ
ถึงแม้หลัวซิวจะมีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงให้ความสำคัญกับเขา แต่เมื่อเทียบกับสืบทอดผู้แข็งแกร่งโบราณแล้ว เขาให้ความสำคัญกับอย่างหลังมากกว่า
อีกทั้งก่อนหน้านี้เขาเตือนหลัวซิวแล้ว อย่าอยู่ห่างจากเขา แต่หลัวซิวกลับไม่ฟังคำเตือนของตน ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ เขาก็เป็นคนรนหาเรื่องเอง
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงก็ไม่ได้สนใจอีก หันไปมองเหว้ยห้าวหราน “นายยังมีวิธีอื่นในการทำลายค่ายกลไหม”
เหว้ยห้าวหรานส่ายหน้ายิ้มเศร้า “ค่ายคุ้มกันนี้ ถ้าหากฉันคาดเดาไม่ผิด มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นค่ายกลระดับ9ขั้นสูงสุด ผ่านมานานนับหมื่นปี ค่ายกลเสียหายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่นักค่ายกลขั้น6อย่างฉันจะทำลายได้”
“แต่ว่าถึงแม้ก่อนหน้านี้จะทำลายค่ายกลได้ไม่สำเร็จ แต่ฉันสัมผัสได้ว่าค่ายคุ้มกันนี้เพราะผ่านเวลาที่ยาวนานทำให้เสียหายจึงมีจุดบกพร่อง ขอแค่หาจุดบกพร่องเจอ น่าจะมีความหวังในการทำลายค่ายกล” เหว้ยห้าวหรานกัดฟันพูด
ในเวลานี้เอง หลัวซิวกลับมาตามทางที่ทุกคนเดินเข้ามาตอนมาแล้ว ยืนอยู่ด้านหน้าแท่นบูชาที่มีลวดลายค่ายกล
อาศัยการสัมผัสของลูกแก้วดำ หลัวซิวมั่นใจว่า ตำหนักสีดำนี้ กับเขาทองดำไท่เสวียน และคีตโลกาถ้ำเทพสถิต เป็นหนึ่งเดียวกัน
ลูกแก้วดำ เป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าหากเปรียบเทียบคีตโลกาถ้ำเทพสถิตเป็นแม่กุญแจ ถ้าอย่างนั้นลูกแก้วดำ ก็คือกุญแจที่ใช้สำหรับไขแม่กุญแจนี้
แต่ว่าทุกอย่าง ล้วนเป็นการคาดเดาของหลัวซิวตามเบาะแสต่างๆ ที่ได้มาเท่านั้น สำหรับเรื่องที่ว่าลูกแก้วดำจะทำให้เขาควบคุมที่นี่ได้จริงหรือไม่ เขาเองก็ไม่สามารถรับประกันได้
“ลองดูเถอะ ไม่อย่างนั้นใต้จมูกของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทั้งกลุ่ม ฉันจะไม่ได้สิ่งดีๆ อะไรเลย”
หยิบลูกแก้วดำออกมาจากแหวนเก็บของ หลัวซิวกระโดด แล้วขึ้นไปบนแท่นบูชา
เวลานี้ ลูกแก้วดำสั่นอย่างรุนแรง เปล่งประกายลำแสงพิศวงออกมา คล้ายจะหลุดจากมือของเขา รวมเป็นหนึ่งกับแท่นบูชาที่อยู่ด้านล่าง