มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 371 เข้าร่วมทีม
เธอไม่มีทางลืมได้ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า คือคนเปลี่ยนชะตาชีวิตของตัวเอง ทำให้เธอสามารถระงับออร่าอสรูร่างอสูรฟ้า ที่เป็นความสามารถติดตัวแต่กำเนิดเอาไว้ได้ และสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ
ความรู้สึกแปรปรวน ทำให้ออร่าอสูรฟ้าบนตัวฮู๋ชิงชิงแผ่ซานออกมาเบาๆ ดูท่าเหมือนว่าจะระงับเอาไว้ไม่ได้
เพราะวิชาปฐมอสูรฟ้าที่หลัวซิวถ่ายทอดให้เธอ สามารถฝึกตนได้ถึงแค่แดนฝึกจิต แต่ผลการฝึกตนของเธอถึงระดับแดนราชายุทธ์แล้ว จากผลการฝึกตนที่ยกระดับขึ้น ทำให้ออร่าอสูรฟ้าแข็งแกร่งขึ้นด้วย ต้องได้รับวรยุทธ์ที่ตามมาทีหลัง จึงจะสามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้
ฮู๋ชิงชิงก็สัมผัสได้ว่าออร่าอสูรฟ้าของตัวเองผิดปกติ เธอรีบหลับตา หมุนเวียนวรยุทธ์ ระงับออร่าอสูรฟ้าในร่างกาย ที่กำลังแปรปรวนเอาไว้
หลัวซิวสังเกตได้ว่าผลการฝึกตนของฮู๋ชิงชิง ถึงระดับราชายุทธ์ขั้น5 แล้ว ตอนที่ทั้งสองเพิ่งเจอกันครั้งแรก เขาจำได้ดีว่า ฮู๋ชิงชิงอยู่แค่ระดับฝึกจิตขั้น 1
“ระดับความเร็วในการฝึกตนของร่างอสูรฟ้าน่ากลัวจริงๆ”
หลัวซิวแอบสบถในใจ เขาคิดว่าการฝึกตนของตัวเองเร็วมากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับฮู๋ชิงชิง ยังคงห่างชั้นกันไม่น้อย
อีกทั้งร่างอสูรฟ้า ไม่เพียงแค่จะฝึกตนได้อย่างรวดเร็ว ความสามารถในการต่อสู้ก็แข็งแกร่งมากด้วย อย่าคิดว่าฮู๋ชิงชิงเป็นเพียงราชายุทธ์ขั้น5 ถึงเป็นผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ขั้น 7 ขึ้นไป เธอก็สามารถทัดเทียมกับพวกเขาได้
เพราะมีคุณสมบัติทางร่างกายที่พิเศษ ดังนั้นหลังจากฮู๋ชิงชิงเข้าร่วมแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองฝูถู น่าจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก นี่จึงเป็นเหตุที่ทำไมเมื่อครู่ เหยียนเฟยไห่ถึงเกรงอกเกรงใจเธอมาก
“คุณคืออาจารย์ใช่ไหม”
หลังจากฮู๋ชิงชิงระงับความแปรปรวนของออร่าอสูรฟ้า จึงพูดผ่านตัวสำนึกอย่างระแวดระวัง
“มิกล้าเป็นอาจารย์หรอก ตอนนั้นช่วยแม่นางไว้ครั้งหนึ่ง เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” หลัวซิวยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
ถ้าไม่เจอฮู๋ชิงชิงอีกครั้ง หลัวซิวเกือบลืมเรื่องนั้นไปแล้ว เมื่อพูดขึ้นมา ตอนนั้นฮู๋ชิงชิงน่าสงสารมาก เป็นเพราะร่างอสูรฟ้า เธอจึงไม่กล้าสัมผัสกับโลกภายนอกเลย หญิงสาวผู้ซื่อสัตย์คนหนึ่ง กลับหลบอยู่ในป่าลึก เพื่อแยกตัวกับโลกภายนอก
ตอนนั้นหลัวซิวเกิดความเห็นอกเห็นใจ ดังนั้นจึงเอาเศษคัมภีร์ของวิชาปฐมอสูรฟ้า ที่ได้จากเทพแห่งวัฏจักรชีวิต ถ่ายทอดให้เธอ
“อาจารย์อย่าพูดอย่างนี้เด็ดขาดเลยนะคะ สำหรับอาจารย์เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับฉัน เหมือนได้เกิดใหม่เลยค่ะ” ฮู๋ชิงชิงส่ายหน้าแล้วเอ่ยขึ้น
“อาจารย์ ฉันได้ยินว่าหลังเข้าไปแดนแต่งตั้งราชา มีอันตรายมากมาย ถ้าอาจารย์ไม่รังเกียจ มาเข้าร่วมทีมเมืองฝูถูของเราชั่วคราว เป็นไงคะ”
จะเข้าร่วมทีมใดนั้น หลัวซิวไม่ได้สนใจ แต่เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย เข้าร่วมทีมเมืองฝูถูเป็นการชั่วคราว ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเหมือนกัน
“งั้นขอบคุณแม่นางชิงชิงมาก” หลัวซิวเอามือประสานกัน ทำความเคารพ และตอบตกลง
เขารู้ว่าการที่ฮู๋ชิงชิงเชิญตัวเองเข้าร่วมทีมเมืองฝูถู เพราะเห็นแก่บุญคุณในตอนนั้น
ราชายุทธ์จำนวนมาก ที่อยู่บริเวณรอบๆ เห็นหลัวซิวโดนเชิญเข้าร่วมทีมเมืองฝูถู คนจำนวนไม่น้อยมีแววตาอิจฉา เพราะในทีมแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองฝูถู มียอดฝีมือไม่น้อย ได้อยู่กับยอดฝีมือมากมายเช่นนี้ ต้องมีความปลอดภัยมากขึ้นแน่นอน
เมื่อกี้คนที่พูดข่มขู่ว่าจะสั่งสอนหลัวซิวอย่างเหยียนเฟยไห่ มีสีหน้าอึมครึม แต่กลับสะกดกลั้นเอาไว้ ไม่ระเบิดอารมณ์ออกมา
ถูโรว่อาน คนที่เป็นหัวหน้าทีมแดนศักดิ์สิทธิ์ กระบี่สุดขั้ว หันมามองทางนี้ ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องชิงชิงรู้จักกับสหายท่านนี้เหรอ”
“จะรู้จักหรือไม่ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับศิษย์พี่ถูนะ” ฮู๋ชิงชิงตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ และไม่สนใจ
ถูโรว่อานกลับไม่สนใจ หัวเราะเหอะๆ แล้วไม่พูดอะไรอีก
“เฮียซิวหลัว ฉันขอแนะนำสักหน่อย ท่านนี้คือศิษย์พี่กู้เผิงของเมืองฝูถู ผลการฝึกตนของศิษย์พี่กู้ ถึงแดนราชายุทธ์ขั้น8 แล้ว……”
ฮู๋ชิงชิงช่วยแนะนำพวกแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองฝูถู ให้หลัวซิวอย่างเป็นกันเอง
ส่วนใหญ่เพราะเห็นแก่หน้าของฮู๋ชิงชิง คนที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ จึงเก็บท่าทีหยิ่งผยองเอาไว้ และพยักหน้าให้หลัวซิว นับว่าเป็นการทักทาย
หลัวซิวเข้าใจดีว่าคนพวกนี้พยักหน้าได้ เพราะเห็นแก่หน้าฮู๋ชิงชิงมากแล้ว ไม่งั้น จากนิสัยหยิ่งผยองของพวกทายาทแดนศักดิ์สิทธิ์ คงไม่มีทางสนใจราชายุทธ์ขั้น1 กระจอกๆ แบบเขา
หลังผ่านเรื่องวุ่นวายเล็กๆ ทางฝั่งหลัวซิว พวกราชายุทธ์ที่มีผลการฝึกตน ต่างพากันเข้าร่วมทีมอื่นตามลำดับ
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง พื้นล่างเท้าของทุกคน ยกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านหน้าเป็นประตูหินสีเขียวมรกตสองบานที่ปิดสนิท สูงประมาณสิบกว่าฟุต สูงใหญ่เป็นอย่างมาก บนประตูหิน มีลายเส้นสัญลักษณ์สลักอยู่นับไม่ถ้วน มีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย
ตอนนี้ราชายุทธ์ทุกคนอยู่ในความสงบ คนที่ค่อนข้างรู้จักแดนแต่งตั้งราชาล้วนรู้ดี ประตูหินสองบานด้านหน้า คือทางเข้าแดนแต่งตั้งราชา
หกแดนที่ได้รับฉายาแดนลึกลับของโลกแสงดาว ทั้งชีวิตของทุกคน สามารถเข้าไปได้เพียงครั้งเดียว ถึงเป็นเวลาเปิดแดนครั้งที่สอง ถ้าคุณยังอยู่ในแดนระดับใดระดับหนึ่ง ก็ไม่สามารถเข้าไปแย่งชิงโควต้ารายชื่อเข้าแดนแต่งตั้งราชา เป็นครั้งที่สองได้อีก
“อาจารย์ ฉันอยู่แดนศักดิ์สิทธิ์เมืองฝูถู ได้ยินมาว่า ถ้าได้รับฉายาที่แดนแต่งตั้งราชา อาจมีโอกาสได้เข้าใจกฎฟ้าดิน ยิ่งชื่ออยู่สูงเท่าไร ก็จะมีโอกาสได้มากเท่านั้น”
จู่ๆ ฮู๋ชิงชิงส่งเสียงผ่านตัวสำนึกพูดกับหลัวซิว “เมืองฝูถูมีหนึ่งคนที่ได้รับการขนานนามว่าราชายุทธ์ คือราชาฉีซานอยู่อันดับแปดในรายชื่อแดนแต่งตั้งราชา เมื่อร้อยปีก่อน ได้ยินว่าเขาใช้ผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้น9 ฆ่าข้ามขั้นคนที่เป็นจักรพรรดิยุทธ์ เพราะเขาเข้าใจในพลังของกฎฟ้าดินเพียงเล็กน้อย”
“แต่ฉายาไม่ใช่ได้มาง่ายๆ นอกจากผู้แก่งแย่งของอำนาจด้านต่างๆ ยังมีบททดสอบสุดโหดต่างๆ ในแดนปริศนา โอกาสสูญเสียสูงมาก”
“พลังแห่งกฎงั้นเหรอ” หลัวซิวอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้
จากที่เขารู้ พลังแห่งกฎ อยู่เหนือกว่าพลังAttr มีเพียงคนที่ถึงระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ ถึงจะเริ่มสัมผัสกับพลังกฎฟ้าดินได้
ถ้าสามารถทำความเข้าใจกับความลึกลับของกฎฟ้าดิน ตั้งแต่แดนราชายุทธ์ ใช้โอกาสนี้ฆ่าข้ามขั้นระดับจักรพรรดิยุทธ์ ก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผล
ลูกแก้วความเป็นตาย เป็นหนึ่งในคำสอนพื้นฐานกฎการเวียนว่ายตายเกิดของศาสนาพุทธ แฝงไปด้วยความลึกลับสูงสุดของสองระดับความเป็นตาย แต่เพราะผลการฝึกตนของตัวเองต่ำเกินไป ระดับขั้นความเข้าใจพลังAttr ยังห่างชั้นจะสัมผัสกับระดับของกฎได้
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จู่ๆ ประตูหินสองบานที่ผ่านกาลเวลามานาน มีชั้นสีเขียวบางๆ กระเพื่อมขึ้น ประตูหินทั้งสองบานสั่นเบาๆ และค่อยๆ เปิดออก ท่ามกลางเสียงดังสนั่น
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!……
ขณะนั้น เงาคนสี่คนปรากฏตัวกลางอากาศบนหัวของทุกคน ผู้อาวุโสหนึ่งในนั้นพูดเสียงดังว่า “แดนแต่งตั้งราชาเปิดแล้ว มีระยะเวลาหนึ่งปี ตอนนี้ทุกคนสามารถเข้าไปได้แล้ว”
ลมปราณของผู้อาวุโสสี่คนนี้ ลึกล้ำจนยากจะคาดเดา ลายเส้นชีวิตก็เปล่งประกายออกมา เป็นสี่ผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์สมาคมเป่ยเซี๋ย รับหน้าที่ดูแลแดนแต่งตั้งราชา
เมื่อผู้อาวุโสพูดออกมา ราชายุทธ์ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากทั้งโลกแสงดาว ที่มีพละกำลังแข็งแกร่งที่สุด รีบพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เข้าไปในประตูหินสีเขียวมรกตที่เปิดอยู่
เมื่อมองจากด้านนอก ในประตูหินเป็นสีขาวโพลน มองไม่เห็นอะไรเลย แต่เมื่อตัวผ่านประตูหินเข้าไปแล้ว มีทางเดินกว้างใหญ่ยาวไปสุดลูกหูลูกตา มองไม่เห็นปลายทางอยู่เส้นหนึ่ง
“ปราณทิพย์ฟ้าดิน!”
มีคนอดไม่ไหว อุทานออกมาอย่างตกใจ หลังผ่านประตูหินเข้ามา ทุกคนรับรู้ได้ถึงออร่าที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในแดนแต่งตั้งราชา ไม่ใช่พลังฟ้าดินจิตทั่วไป แต่เป็นปราณทิพย์ฟ้าดินที่มีระดับสูงยิ่งกว่า