มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 379 กวาดล้างแทนสวรรค์
คิดย้อนไปตอนเด็ก เติบโตมากับการได้ยินตำนานของผู้แข็งแกร่งโลกยุทธ์ ความฝันวัยเด็กของเขา คือต้องเป็นยอดฝีมือแห่งโลกยุทธ์ให้ได้สักวันหนึ่ง ถือกระบี่ท่องไปในโลก บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ ขจัดความชั่ว ส่งเสริมความดี
“พวกขยะ!”
หลัวซิวกวาดตามองพวกแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ด้วยสายตาเย็นชา ในแววตาหลัวซิวมีความดูหมิ่นอย่างไม่พอใจ และความอาฆาตอันน่ากลัว
“ลงมือ!”
เหอหวู่เจียงกับชายหน้าบากมีสีหน้าเย็นชาเช่นกัน ออกคำสั่งให้คนแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ลงมือฆ่า
คนแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ต่ำสุดคือมีผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้น7 อีกทั้งยังมีจำนวนมาก เกือบยี่สิบคน!
เมื่อคนยี่สิบคนล้อมเข้ามา ลมปราณพลังจิตแท้บนตัวหลัวซิวปลดปล่อยออกมา ผลักฮู๋ชิงชิงที่อยู่ข้างๆ ไปด้านหลัง
“เธอออกไปจากตรงนี้ก่อน ถ้าฉันลงมือ คงไม่มีเวลาดูแลเธอ” หลัวซิวส่งเสียงผ่านตัวสำนึกพูดกับเธอ
ส่วนคนเมืองฝูถูคนอื่น จะอยู่หรือไป เขาไม่ได้สนใจ
ตู้ม!
เพลิงมรณะสีดำ อัคคีขาวเสวียนหยาง อัคคีสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถูกปล่อยออกมาจากตัวหลัวซิว
เมื่อก่อน หลัวซิวต่อสู้กับศัตรู จะใช้พลังสองระดับความเป็นตาย เพียงอย่างใดอย่างอย่างหนึ่งเท่านั้น
แต่ตอนนี้วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพของเขา ทำความเข้าใจผังกฎดั้งเดิมถึงรูปที่สามแล้ว ตระหนักรู้ถึงพลังสองระดับความเป็นตายเยอะขึ้นมาก สามารถใช้พลังทั้งสองประเภท ต่อสู้กับศัตรูได้แล้ว
“ราชายุทธ์ขั้น2 งั้นเหรอ”
“เป็นไปได้ยังไง เป็นแค่ราชายุทธ์ขั้น2 เหรอ”
เมื่อสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของพลังจิตแท้จากตัวเขา เสียงตกใจดังออกมาจากพวกแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด
“ฉันคิดออกแล้ว ตอนไอ้หมอนี่เข้าแดนแต่งตั้งราชา เกือบมีเรื่องกับคนของแดนศักดิ์สิทธิ์กระบี่สุดขั้ว เขาไม่ใช่ราชายุทธ์ขั้น1หรอกเหรอ ทำไมถึงกลายเป็นขั้น2 ได้ล่ะ”
“อาจจะได้รับโอกาสดีในหนึ่งเดือนกว่านี้ จึงทำให้บรรลุได้ แต่ราชายุทธ์ขั้น2 คิดไม่ถึงว่ามีพลานุภาพแข็งแกร่งกว่าราชายุทธ์ขั้น7”
การเคลื่อนไหวของลมปราณพลังจิตแท้ จะแสดงให้เห็นถึงผลการฝึกตน นี่เป็นความรู้ทั่วไปของโลกการฝึกยุทธ์
แต่ผลการฝึกตนคือผลการฝึกตน พลานุภาพที่ระเบิดออกจากตัวหลัวซิวในตอนนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ราชายุทธ์ขั้น2 มี ถึงขนาดทำให้ผู้แข็งแกร่งผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้น9 ของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ทั้งสามคน รู้สึกถึงแรงกดดัน
นี่หมายความว่า คนๆ นี้ใช้ผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้น2 สามารถทัดเทียมกับผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ขั้น 9 อย่างนั้นเหรอ
“คิดไม่ถึงว่านายเป็นยอดฝีมือที่ปกปิดเอาไว้ ถึงพละกำลังของนายจะแข็งแกร่ง แต่ผลการฝึกตนของนายยังต่ำเกินไป ต้านทานคนของเราเยอะขนาดนี้ ไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย!”
เหอหวู่เจียงส่งเสียงหึ แล้วพูดว่า “ในเมื่อนายสามารถฆ่าศัตรูข้ามขั้นได้ ต้องฝึกวิชาขั้นสูงสินะ หรือบางที่นายอาจได้รับโอกาสดีอะไรบางอย่างใช่หรือเปล่า แค่นายเอาออกมา ฉันจะไม่เอาชีวิตนาย!”
“ไม่เอาชีวิตฉันเหรอ” หลัวซิวยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์ “แต่ฉันไม่ได้จะไว้ชีวิตพวกนาย”
พูดยังไม่ทันจบ ตัวของหลัวซิวกลายเป็นเงามังกรสีเขียว หายไปจากที่เดิม
ต่อมา เขาถือกระบี่อาถรรพ์ฟันเสือ พุ่งเข้าไปฆ่าพวกแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ห้วงยุทธ์กระบี่สังหาร ห้วงยุทธ์แห่งความเป็นตาย ถูกปลดปล่อยออกมา
“ฆ่ามัน!” เหอหวู่เจียงแผดเสียงออกมา จากนั้นพูดกับชายหน้าบากข้างๆ ว่า “นายไปวางค่ายกล”
ระหว่างพูด เหอหวู่เจียงพุ่งเข้าไป อีกทั้งคนของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดยี่สิบคน ก็ลงมือเช่นกัน ส่วนชายหน้าบากสะบัดมือ เอาธงค่ายออกมาจากแหวนเก็บของ เริ่มวางค่ายกลรอบๆ
ตู้ม!
เพลิงมรณะกับอัคคีขาวเสวียนหยาง ระเบิดออกมาถึงขีดสุด ลุกโชนนอกร่างกายหลัวซิว สูงเป็นฟุต
ตอนนี้เขาเหมือนยักษ์อัคคี พลังกระบี่ขาวดำอันน่ากลัว ฆ่าไปทั่วทุกทิศ ทำให้อากาศแปรปรวนไปหมด หมุนวนฆ่าทุกอย่าง
“วิชาภูตผีเซินหลัว!”
หลัวซิวฟาดกระบี่ลงไป เพลิงมรณะกลายเป็นกระดูกญาณ เกิดเสียงดังกรอบ กัดกินอากาศจนกระจาย เต็มไปด้วยกลิ่นความตายอันน่าหวาดผวา
มีคนกระเด็นออกไปทีละคนอย่างต่อเนื่อง หลัวซิวเข้าไปฆ่า ราวกับเข้าไปในแดนไร้ผู้คน ตัดเหอหวู่เจียงกับหรงเซี๋ยออกไป คนอื่นไม่มีใครต้านทานการโจมตีของเขาได้
แต่คนพวกนี้กลับไม่ใช่ราชายุทธ์ทั่วไป ล้วนเป็นยอดฝีมือของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด แต่ละคนมีพรสวรรค์การฝึกตนที่สูงส่งมาก ทักษะยุทธ์ที่ฝึกตนก็เป็นอันดันต้นๆ เป็นผู้โดดเด่นในบรรดาแดนเดียวกัน
ถึงหลัวซิวจะเก่งกาจ แต่ยังไงก็ตัวคนเดียว ขณะที่เขาฟันราชายุทธ์แต่ละคน จนกระเด็นออกไป เขาก็โดนโจมตีเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้ร่างเนื้อถึงระดับร่างยุทธ์ระดับราชา ขั้นขีดสุด ก็โดนฟันจนเป็นแผล เลือดสาดกระเซ็นออกมา
“ไปตายซะ!”
ความเร็วของหรงเซี๋ยเร็วกว่าเหอหวู่เจียง มาปรากฏตัวด้านหลังหลัวซิวเหมือนผี ดาบสั้นในมือเกิดเสียงสวบ แทงไปกลางหลังของหลัวซิว
การแทงเช่นนี้ ถ้าเป็นราชายุทธ์ขั้น9 น่าจะโดนกำจัดไปแล้ว แต่เมื่อความคมของดาบทะลุเข้าไปในเนื้อ มันกลับโดนสกัดกั้นเอาไว้ทันที ไม่สามารถแทงทะลุต่อไปได้
“ร่างเนื้อแข็งแกร่งมาก เขาเป็นนักยุทธ์กลั่นร่าง!”
หรงเซี๋ยหน้าเปลี่ยนสี จากนั้นรู้สึกเหมือนมีลมพุ่งเข้ามาโจมตี เขารีบถอยหลังทันที
เสียงดังสวบ แขนอีกข้างของเขาโดนฟันจนขาด ยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้อง ก็เห็นแววตาอันดุดันของหลัวซิว มองมายังตัวเอง
ตู้ม!
ตัวสำนึกอันแข็งแกร่งทะลุเข้ามายังตัวหยั่งรู้ สีหน้าของหรงเซี๋ยตกใจเป็นอย่างมาก “เขาไม่เพียงแต่จะเป็นนักยุทธ์กลั่นร่าง แถมยังเชี่ยวชาญการโจมตีวิญญาณด้วยเหรอ”
กลั่นวิญญาณ กลั่นร่าง พลังจิตแท้ สามระบบนี้ หลัวซิวล้วนฝึกตนมาแล้ว
แต่ด้านกลั่นวิญญาณ เขาฝึกแค่พลังก่อรวมวิญญาณระดับ8 เท่านั้น จากผลการฝึกตนที่สูงขึ้น ประสิทธิภาพก็ยิ่งไม่โดดเด่นเท่าไร
ดังนั้นพลังการต่อสู้ของหลัวซิวจึงแข็งแกร่งมาก แต่ระดับตัวสำนึกไม่นับว่าสูงมาก แค่ถึงระดับราชายุทธ์ขั้น5 เท่านั้น
แต่หรงเซี๋ยมีผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้น9 ไม่ได้ฝึกวรยุทธ์กลั่นวิญญาณ จึงมีตัวสำนึกระดับราชายุทธ์ขั้น9
ดังนั้นการโจมตีวิญญาณที่เขาใช้ จึงมีประสิทธิภาพไม่มาก แค่ทำให้หรงเซี๋ยตกใจเท่านั้น และตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ตัวสำนึกของอีกฝ่ายไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนที่จินตนาการไว้ ไม่สามารถทำอันตรายตัวเองได้
แม้เป็นเช่นนี้ หรงเซี๋ยก็ตกใจจนเหงื่อแตกทั้งตัว “ไอ้หมอนี่เป็นปีศาจชัดๆ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เป็นแค่ราชายุทธ์ขั้น2 แต่มีพละกำลังทัดเทียมกับขั้น9 แถมยังรู้วิธีโจมตีวิญญาณด้วย นี่ถ้าเป็นราชายุทธ์ขั้น9 เหมือนกัน ฉันคงต้านทานโจมตีวิญญาณของเขาไม่ได้แน่ๆ เผชิญหน้าครั้งเดียว ต้องโดนฆ่าตายแน่นอน!”
“หึ”
การโจมตีวิญญาณไม่สำเร็จ เพราะระดับตัวสำนึกของอีกฝ่ายเหนือกว่าตัวเอง กลับกันทำให้ตัวเองถูกแว้งกัด ความเจ็บปวดถูกส่งผ่านตัวหยั่งรู้ อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหึอย่างอึดอัดใจ
การแว้งกัดของวิญญาณหยั่งรู้ ทำให้เขามีสติขึ้นทันที รับรู้ว่าผลการฝึกตนของตัวเองยังต่ำอยู่ ใช้โจมตีวิญญาณจัดการกับคนที่ห่างชั้นกันไม่มากได้ แต่จัดการราชายุทธ์ขั้น7 ขึ้นไปไม่ได้แล้ว
พรวด! พรวด! พรวด!……
เลือดสาดกระเซ็น เผชิญหน้ากับยอดฝีมือแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ที่ฝึกการเข่นฆ่าพวกนี้ เนื้อตัวของหลัวซิวเต็มไปด้วยบาดแผล ถ้าไม่ใช่เพราะพลังป้องกันของร่างยุทธ์ระดับราชาแข็งแกร่งมาก ถึงเขามีร้อยชีวิต ก็คงตายไปนานแล้ว
แต่ฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ก็โดนเขาฆ่าราชายุทธ์ขั้น7 และขั้น8 ไปหลายคน
“จัดการสามราชายุทธ์ขั้น9 ให้ได้ก่อน จะได้จัดการส่วนที่เหลือได้ง่าย”