มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 398 วิญญาณบริสุทธิ์
“ลู่เจิ้งเซี๋ยง เราต่างมาจากองค์กรนักล่ายุทธ์ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่มีความคิดที่ไม่ดี ไม่เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าเสียใจไปตลอดชีวิต”
แววตามีความเย็นยะเยือกผ่านวูบไป หลัวซิวได้เปิดใช้งานค่ายผนึกปราณทันที พลังฟ้าดินจิตที่อุดมสมบูรณ์บริสุทธิ์ได้แยกออกมาอย่างต่อเนื่องจากหินพลังจิตชั้นสูงจำนวนหนึ่งแสนก้อน ควบแน่นอยู่รอบ ๆ แท่นบัวทิพย์ห้าสีแล้วเปลี่ยนแปลงโดยแท่นบัว กลายเป็นพลังฟ้าดินจิตล้อมรอบร่างของหลัวซิว
เขาหลับตาลง หมุนวรยุทธ์วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ และนึกภาพผังกฎดั้งเดิมภาพที่สามในใจของเขา เบื้องหลังปรากฏเป็นเงาลวงวัฏจักรที่ลึกลับและคาดเดาไม่ได้ หมุนไปอย่างช้าๆ เต็มไปด้วยความลึกลับไม่รู้จบ
ห่างกันสักพัก เขาจะหยิบเม็ดยาออกมาทาน พลังจิตพลานุภาพและบริสุทธิ์จะรวบรวมเข้าสู่ร่างกายของเขา กลั่นมันให้เป็นพลังจิตแท้ปราณเป็นตาย 2 ระดับ และเสริมความแข็งแกร่งของยาชีวีที่อยู่ในตันเถียนชี่ไห่
ภายใต้สภาวะการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ สิบวันต่อมา ยาชีวีขาวดำในตันเถียนชี่ไห่ของหลัวซิว สว่างและพร่างพรายในทันที
ภายใต้การฝึกฝนการสนับสนุนของพลังจิตพลานุภาพ พลังปราณของเขาได้ทะลุถึงแดนราชายุทธ์ขั้น 3 และไปถึงจุดสูงสุดของยาเขียว
เมื่อแสงสีเขียวที่เบ่งบานของยาเทพจิต กลายเป็นแสงสีม่วง หมายความว่าฐานการฝึกฝนของเขาได้เข้าสู่อดนราชายุทธ์ขั้น 4
มีเวลาเหลือให้เขาไม่มาก และอีกห้าวันที่เหลือไม่เพียงพอที่จะทะลุผ่านแดนการฝึกฝน ทำได้เพียงทำให้แดนราชายุทธ์ขั้น 3 มั่นคงขึ้นได้เท่านั้น
เมื่อเทียบกับความก้าวหน้าในการฝึกฝน ร่างยุทธ์ระดับราชา มีผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้แต่วิชาชุบร่างเนื้อที่แปลงมาจากวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพมีผลไม่มาก
หลัวซิวรู้ดีว่าร่างเนื้อจะถึงแดนระดับจักรพรรดิยุทธ์ ต้องการโอกาสที่ดี แค่พึ่งสูดลมหายใจเข้าออก ยากต่อการทะลุแดน
ในวันนี้ หลัวซิวสัมผัสได้ถึงการป้องกันค่ายกลที่เขาจัดถูกแตะต้อง
เขาตื่นจากสภาพการฝึกฝนทันทีและเก็บแท่นบัวทิพย์ห้าสีอย่างสบาย ๆ สำหรับหินพลังจิตชั้นสูงจำนวน หนึ่งแสนก้อนที่จัดเรียงอยู่รอบ ๆ แม้ว่าพลังจะไม่หมด แต่ก็เหลือไม่มาก
“พวกเจ้าทั้งสอง จะถึงหุบเขาจิตนภาในไม่ช้าแล้ว”
เสียงผ่านค่ายกลเข้ามาในหูของหลัวซิวแล เหยียนเยว่เอ๋อร์
หลังจากนั้นไม่นาน หลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์ก็มาที่ดาดฟ้าเรือ ก็มองเห็นหุบเขาลึกที่เรียงรายไปด้วยหินแปลก ๆ ตรงหน้าพวกเขา
“หือ? ภายในเวลาเพียงสิบกว่าวัน การฝึกฝนของผู้น้อยซิวหลัวได้ทะลุแล้วเหรอ?” ลู่เจิ้งเซี๋ยงมองหลัวซิวอย่างประหลาดใจ
ถ้าไม่ใช่ว่าเขาสามารถสัมผัสถึงออร่าของชายหนุ่มผู้นี้ได้ว่าเพิ่งทะลุไปถึงแดนราชายุทธ์ขั้น 3 ออร่าไม่ค่อยมั่นคงนัก ไม่เช่นนั้น เขาคงคิดว่าอีกฝ่ายมีวิชาลับบางอย่างในการซ่อนเร้นพลัง
“ผู้น้อยอยู่ขอบแดนเกือบจะทะลุเป็นเวลานานแล้ว ครั้งนี้เป็นเรื่องบังเอิญที่สามารถทะลุไปได้” หลัวซิวยิ้มอย่างสุภาพ
“ข้าไม่รู้ว่าน้องชายปีนี้อายุเท่าไหร่ ข้าคดูว่าเจ้าดูหนุ่มมาก เจ้าสามารถฝึกฝนจนถึงราชายุทธ์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย พรสวรรค์ของเจ้าน่าจะดีมาก” ไป๋หลิงเซวียนที่อยู่ข้างๆกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“น่าละอายมาก แม้ว่าผู้น้อยจะดูหนุ่ม แต่จริงๆ แล้วอายุจริง 32 ปีแล้ว” หลัวซิวยิ้ม
ปีนี้เขาอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น ราชายุทธ์ขั้น 3 วัย 18 ปี วางอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์สูงสุดสามารถเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้
หลัวซิวไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์พลิกผันมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงปกปิดอายุที่แท้จริงของเขาไว้
สำหรับภายใน องค์กรนักล่ายุทธ์ ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บเป็นความลับเว้นแต่ผู้มีอำนาจสูงกว่าเขาจะสามารถดูข้อมูลของเขาผ่านองค์กรได้ สำหรับลู่เจิ้งเซี๋ยง อำนาจยังไม่เพียงพอ
เมื่อได้ยินหลัวซิวบอกว่าเขาอายุ 32 ปีแล้ว ไป๋หลิงเซวียนยิ้มและไม่พูดอะไร แม้ว่าฝึกฝนถึงแดนราชายุทธ์ในอายุ32ปีก็นับว่าเก่งแล้ว แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเกินไป
นอกจากนี้ราชายุทธ์ขั้น 3 ยังเป็นอุปสรรคต่อการฝึกฝนของนักยุทธ์อีก
ตั้งแต่ราชายุทธ์ขั้น 3 วันข้างหน้าการทะลุจะยากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนจำนวนมากสามารถไปถึงแดนราชายุทธ์ ขั้น 3 ได้หลังจากฝึกฝนมา 20 ถึง 30 ปี แต่เป็นไปได้ที่ทะลุแดนราชายุทธ์ขั้น 4 เมื่อพวกเขามีอายุร้อยปี
สำหรับการฝึกฝนจนถึงราชายุทธ์ขั้น 9 ผู้ที่มีพรสวรรค์ที่ดีจะใช้เวลาหนึ่งหรือสองร้อยปี และอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบปี
ในนี้ วรยุทธ์การสืบทอด สมบัติ โอกาสนั้นขาดไม่ได้
ภายใต้การควบคุมของลู่เจิ้งเซี๋ยง เรือรบเริ่มลงจอด เพราะอยู่ใกล้กับหุบเขาจิตนภาแล้ว และการโจมตีวิญญาณสามารถปรากฏขึ้นได้ทุกเมื่อ
ฮึ่ม!
ทันใดนั้น หลัวซิวรู้สึกว่าตัวหยั่งรู้ได้รับผลกระทบจากการระเบิดของพลังงาน การโจมตีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ไม่สามารถเตรียมพร้อมรับมือได้ทัน
หลัวซิวรู้ทันที นี่คงเป็นสิ่งที่ลู่เจิ้งเซี๋ยงพูดเกี่ยวกับการโจมตีวิญญาณนอกหุบเขาจิตนภา เพราะพลังของผลกระทบนี้ที่มีต่อตัวหยั่งรู้ ยังไม่ถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ ซึ่งเทียบเท่ากับการโจมตีวิญญาณแดนราชายุทธ์ขั้น 4
ระดับของการโจมตีวิญญาณนี้ ไม่ได้คุกคามถึงหลัวซิวเลย ระดับตัวสำนึกของเขาเองนั้นเทียบได้กับราชายุทธ์ขั้น 7
เหยียนเย่วเอ๋อร์ ลู่เจิ้งเซี๋ยงและไป๋หลิงเซวียน เป็นจักรพรรดิยุทธ์ เมื่อหลัวซิวถูกโจมตีโดยจิตวิญญาณ พวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกได้ ยกเว้นเหยียนเย่วเอ๋อร์และไป๋หลิงเซวียนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ลู่เจิ้งเซี๋ยงก็ดูเป็นปกติ
การโจมตีวิญญาณมาและไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่หลัวซิวต้านทานได้สำเร็จ พลังที่กระทบกับตัวหยั่งรู้ก็กลายเป็นแสงสีเงินซึ่งห่อหุ้มด้วยตัวสำนึกของเขา
แสงสีเงินนี้เป็นแหล่งกำเนิดของการโจมตีวิญญาณที่มองไม่เห็น
มันมีพลังงานวิญญาณบริสุทธิ์
“นี่คือ… วิญญาณบริสุทธิ์?”ในฝ่ามือซ้ายของหลัวซิว จักรพรรด์ยุทธ์เสวียนดำกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“วิญญาณบริสุทธิ์?” หลัวซิวถามอย่างสงสัย
“ระดับวิญญาณแบ่งออกเป็นสามขั้นตอน ขั้นแรกคือสถานะวิญญาณ หลังจากไปถึงแดนจักรพรรดิยุทธ์ จะผนึกรวมเป็นเทพจิต ซึ่งเป็นขั้นที่สอง ว่ากันว่าผู้แข็งแกร่งที่เหนือกว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์ จะผนึกรวมเป็นชิ่งจิต ซึ่งเป็นขั้นที่สาม”
จักรพรรด์ยุทธ์เสวียนดำกล่าวอย่างช้า ๆ “วิญญาณบริสุทธิ์ เป็นพลังชีวิตวิเศษที่ถูกสร้างจากพลังฟ้าดิน นักยุทธ์สามารถจับและกลั่นมาฝึกฝน เพื่อเพิ่มและเสริมสร้างพลังวิญญาณของตัวเอง”
“แน่นอนว่าพลังชีวิตนี้ยังสามารถกลืนกินพลังวิญญาณของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เพื่อพัฒนาตงเองอย่างต่อเนื่อง”
ตามคำกล่าวของจักรพรรด์ยุทธ์เสวียนดำ พลังชีวิตชนิดนี้ โดยทั่วไปไม่มีรูปร่าง และเมื่อถูกจับได้เท่านั้นจึงจะปรากฏเป็นแสงสีเงิน
“คาดไม่ถึงว่าจะมีสถานที่มหัศจรรย์อยู่ในโลกนี้”
แม้จักรพรรด์ยุทธ์เสวียนดำ จะรู้เรื่องของวิญญาณ แต่ในสมัยโบราณเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับหุบเขาจิตนภาสถานที่เช่นนี้
เห็นได้ชัดว่าแม้แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์ บางสิ่งบางอย่างก็ไม่สามารถรู้ได้ทุกอย่าง
หลัวซิวใช้พลังก่อรวมวิญญาณทันที ดึงพลังวิญญาณบริสุทธิ์ออกจากแสงสีเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อกลั่นและเพิ่มเป็นพลังทางวิญญาณของเขา
“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าผู้น้อยซิวหลัว น่าจะได้อะไรมาบ้าง”
ลู่เจิ้งเซี๋ยงรู้สึกได้ถึงคลื่นวิญญาณบริสุทธิ์ที่ไหลออกมาจากหลัวซิว เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
วิญญาณระดับนี้ไม่มีผลมากนักในกานเพิ่มพลังตัวสำนึกของจักรพรรดิยุทธ์ หากพวกเขาต้องการเพิ่มพลัง พวกเขาจะต้องจับวิญญาณระดับเทพจิต
หลังจากนั้น ทั้งสี่คนยังคงเดินหน้าต่อไป ยิ่งเข้าใกล้ใจกลางหุบเขานี้มากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งถูกโจมตีโดยวิญญาณบริสุทธิ์บ่อยขึ้นเท่านั้น
ดูเหมือนว่ามีความลับซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหุบเขานี้ และวิญญาณที่บริสุทธิ์เหล่านี้ถูกฝังไว้ที่นี่เพื่อปกป้องที่แห่งนี้