มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 512
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 512
การวางค่ายกลทั้งหมดแบบนี้มาป้องกันการตรวจสอบ ซ่อนงำลมปราณ ก็เป็นเพราะหลัวซิสเตรียมจะใช้พละกำลังของชิ้นส่วนกฎแล้ว
“เจ้าวางแผนจะสร้างค่ายซ่อนงำ เพราะอยากซ่อนงำความลับบางอย่างบนร่างกายของเจ้า?” รูม่านตาของเจียงตงหลิวหดลง
ราชายุทธ์คนหนึ่งแต่กลับสามารถต่อสู้กับมกุฎยุทธ์ได้ ถึงแม้ว่าจะเสียเปรียบ แต่ก็สามารถสะท้านฟ้าได้อย่างเด็ดขาด เจียงตงหลิวใช้แค่หัวแม่เท้าก็สามารถเดาได้ว่าร่างกายของไอ้เจ้านี่ต้องมีความลับอย่างแน่นอน
คิดเชื่องโยงจนถึงการตายของป๋ายหลี่หยวนหลงกับคนผู้นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน สีหน้าของเจียงตงหลิวเคร่งรึมระมัดระวังขึ้นมาทันที
เขาเชื่อว่าอาศัยศักยภาพของตนเอง ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีอุบายไพ่ตายที่ยอดเยี่ยมล้ำเลิศแบบไหน ตนเองก็สามารถที่จะก้าวหน้าหรือถอยหลังได้อย่างอิสระ
ปัง!
เสียงโจมตีดังมาจากอากาศ เจียงตงหลิวจ้องมองไป เห็นเพียงด้านหลังของหลัวซิว ปรากฏปีกคู่หนึ่งกางออกจนสั่นสะเทือนหลายเมตร ปีกสองด้าน มีด้านหนึ่งสีดำด้านหนึ่งสีขาว มีลมปราณที่ลึกลับยากที่สัมผัสได้ไม่มีที่สิ้นสุดเคลื่อนไหวไปทั่ว
“นี่คือสมบัติอะไรกัน?” เจียงตงหลิวผ่านประสบการณ์รู้เห็นมามาก แค่แวบเดียวก็ดูออกว่าสิ่งที่หลัวซิวใช้ต้องเป็นวิชาร่างกลบางอย่างแน่นอน และยังเป็นสมบัติหกเหินอย่างหนึ่ง
เพียงแค่ในขอบเขตความรู้และประสบการณ์ของเขา กลับไม่รู้จักว่าสมบัติชิ้นนี้สรุปเป็นอย่างไรกันแน่
ในช่วงเวลาที่ไม่ทันนึกคิด เงาร่างของหลัวซิวก็หายไปจากที่เดิม ลูกตาของเจียงตงหลิวแข็งทื่อ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีลมปราณที่มีพลังจู่โจมมาจากด้านหลัง
“รวดเร็วมาก นี่ไม่ใช่การเคลื่อนย้ายพริบตาเดียว แต่เป็นความรวดเร็วบริสุทธิ์ ปีกคู่นั้นที่ด้านหลังของเขา เป็นสมบัติที่สุดแย่งยุคอย่างแน่นอน!”
เจียงตงหลิวยกมือโจมตีไปด้านหลัง หันหลังกลับไปในพริบตา แต่กลับมองเห็นแผ่นแสงจิตห้าสีซัดสาดมาทันที
“นี่คือ……ออร่าแห่งกฎ!”
ในใจของเจียงตงหลิวประหลาดใจ เขาเข้าใจชัดเจน ในโลกนี้สามารถเข้าใจพลังแห่งกฎได้ แต่นอกจากได้รับชิ้นส่วนกฎของแดนอนาคิน ก็น้อยมากที่อาศัยความสามารถของตนเองแล้วบรรลุพรสวรรค์ที่สุดของพลังแห่งกฎได้
อีกทั้งสิ่งที่ให้เขาตกใจจนสั่นก็คือคาดไม่ถึงว่าหลัวซิวจะโจมตีด้วยแสงจิตห้าสี แค่เข้าใจพลังกฎเบญจธาตุเท่านั้น ถึงจะสามารถแสดงพลังอมตะออกมาได้!
แสงจิตห้าสีผ่านหลัวซิวที่เข้าใจต่อกฎตรีภพ พลานุภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก แสงจิตผสมผสานกันกลางอากาศ กลายเป็นเขาห้าสี ตกลงมาดังสะเทือนเลื่อนลั่น มุ่งกดอัดไปทางเจียงตงหลิว
แค่เห็นเจียงตงหลิวคำรามด้วยความโกรธ อัสนีหลังศีรษะทะลักจนกลายเป็นทะเลอัสนี มือใหญ่อัสนีสองมือยื่นออกมา ค้ำยันด้านบนไว้ ไม่ให้เขาห้าสีนั้นหล่นทับลงมาได้
เจียงตงหลิวผู้นี้ผลการฝึกตนเรียบ ๆ แต่มีพลัง เอามือค้ำยันเขาห้าสี แต่แสงจิตห้าสีกลับทรงพลังมาก หนักหน่วงจนหาใดเปรียบ ทำให้เขาก็ไม่มีวิธีเคลื่อนย้าย แม้แต่จะเล็งเป้าหมายดี ๆ ก็ยังทำไม่ได้ง่าย ๆ
นี่จึงเป็นศักยภาพทั้งหมดของหลัวซิว ลงมือใช้ลูกแก้วเสวียนดำกับกฎเบญจธาตุ ศักยภาพของเขาพอสามารถยับยั้งผู้แข็งแกร่งมกุฎยุทธ์ขั้นสี่ได้!
“เจียงตงหลิว ป๋ายหลี่หยวนหลงตายไปก็ไม่สาสมกับความผิดที่ได้กระทำ ข้าก็ได้ส่งเจ้าอีกขั้น ให้ไปยมโลกอยู่เป็นเพื่อนเขา”
หลัวซิวยกมือแล้วโยน ตราขลังมังกรเขียวลอยออกไป กลายเป็นเนินเขาใหญ่โตมหึมา มุ่งโจมตีเจียงตงหลิวออกไปอย่างดุร้าย
เจียงตงหลิวตกใจจนหน้าถอดสี เมื่อครู่เขามีประสบการณ์จากพลานุภาพของตราขลังนี้มา ถ้าหากอยู่ในสภาพที่เต็มที่ ตกลงมาก็ไม่กลัว แต่ในขณะนี้เขาห้าสีกดอัดจนหนักหนา หากถูกตราขลังนี้โจมตีต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
“ร่างทองฝ่าเซียง!”
เจียงตงหลิวคำรามอย่างโมโห ทะเลอัสนีหลังศีรษะ ปรากฏเงาคนที่แสงอัสนีผสมผสานกันออกไป แสงสว่างโชตช่วงกระจายออกแวววับจับตา กำลังจะต้านทานตราขลังมังกรเขียวอยู่ด้านนอก ไม่มีทางเข้าใกล้ร่างกายได้
“ผู้แข็งแกร่งของมกุฎยุทธ์ขั้นสี่แท้จริงแล้วช่างเก่งกาจ แสงจิตห้าสีกับตราขลังมังกรเขียวล้วนทำอะไรเจ้าไม่ได้ ข้าก็ได้แต่เพียงใช้วิธีที่สามแล้ว”
แค่คำพูดหลัวซิวออกไป สีหน้าของเจียงตงหลิวก็เปลี่ยนทันที สีหน้าเคร่งขรึมจนหาใดเปรียบ พูดคำรามด้วยความโมโห “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะยังมีวิธีอะไรอีกที่สามารถทำลายการป้องกันร่างทองฝ่าเซียงของข้าได้!”
สำหรับการคำรามของเจียงตงหลิว หลัวซิวไม่สนใจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แล้วเปลวไฟสีแดงคล้ำก็พุ่งสาดออกไปตรงเขตพื้นที่นั้นที่เจียงตงหลิวอยู่ทั้งหมด ทับถมปกคลุมไปทั่ว
ตราขลังมังกรเขียวไม่มีทางทำลายแสงโชติช่วงกระจายของร่างทองฝ่าเซียงได้ แต่อยู่ใต้การแผดเผาของภูตอัคคีกลืนกิน แสงโชติช่วงแวววับนั้นจะถูกละลายไม่หยุด เปลวไฟประชิดใกล้เขตพื้นที่ของเจียงตงหลิวไม่ขาดสาย อีกทั้งตราขลังมังกรเขียวก็กำลังบุกไปข้างหน้า ทันทีทันใดก็พุ่งชนร่างกายของเขาแล้ว
“เจ้า นี่มันคือ……ภูตอัคคีฟ้าดิน?เจ้ามีของพันธุ์นี้เชียวหรือ?”