มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 612
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 612
ตามที่เขารู้ วิชายิ่งเลิศเก้าวิชาของสำนักไท่เสวียน วิชาฝึกจิตไท่เสวียนจัดว่าอยู่ในประเภทวิชายิ่งเลิศด้วย สามารถต้านการโจมตีได้มาก
“การโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ หลัวซิวป้องกันอยู่ได้อย่างไร”
“เปลวไฟสีดำรอบตัวเขาคือพลัง Attr อะไรกันแน่”
ในตอนนั้นเริ่มมีคนสังเกตเห็นเปลวเพลิงสีดำรอบกายหลัวซิว และพยายามเดาว่าสิ่งที่เห็นคือพลัง Attr อะไรกันแน่
นักยุทธ์ทุกคนเมื่อฝึกตนจนถึงแดนพรสวรรค์แล้วก็จะเริ่มฝึกฝนพลัง Attr ซึ่งพลังประเภทนี้มีระดับสูงต่ำเช่นกัน ยิ่งเป็นAttr ที่ยิ่งใหญ่มากเท่าไหร่ พลังในการสู้รบก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
แต่เนื่องจากรอบเวทีประลองยุทธ์มีค่ายกลป้องกันเอาไว้ ตัวสำนึกของผู้ชมการประลองจึงไม่มีทางเข้ามาในบริเวณนี้ได้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของเปลวไฟสีดำนั้น และไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็น Attr ประเภทใด
“คงจะเป็นเปลวไฟพิเศษกระมัง” มีคนกล่าวคาดเดาขึ้นมา
นักยุทธ์ธรรมดาอาจจะมองไม่ออก แต่บุคคลยิ่งใหญ่ที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมทั้งสี่เจ้ายุทธจักร ตัวสำนึกของพวกเขาสามารถทะลุผ่านค่ายกลสัมผัส Attr ของหลัวซิวได้
Attr ความตาย! จัดอยู่ในประเภทพลัง Attr ขั้นสูงสุด!
“จิตใจของหนุ่มคนนี้ป่าเถื่อนนัก ถึงขั้นเลือกฝึก Attr ความตายเสียด้วย” ผู้ใหญ่ที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์เริ่มเอ่ยปากพูด
“ผู้ที่สามารถฝึก Attr ความตายมาถึงแดนนี้ได้ เขาน่าจะมีวรยุทธ์ในการฝึกพลังแห่งความตายด้วย วรยุทธ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก”
ยิ่งพลัง Attr แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ระดับความยากในการฝึกฝนก็ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น วรยุทธ์ประเภทเดียวกันก็ยิ่งขาดแคลน
“หึ พลังAttr อันแข็งแกร่งก็สามารถเอาเปรียบได้เพียงผู้ที่อยู่ต่ำกว่าแดนเจ้ายุทธจักรลงไป ข้าที่เข้ามาในแดนเจ้ายุทธจักรแล้ว ย่อมเคยสัมผัสถึงความมีอยู่ของพลังแห่งกฎ ต่อให้เป็นพลัง Attr ที่แข็งแกร่งมากเพียงใด แต่หากไม่สามารถเข้าใจความลับของกฎได้อย่างถ่องแท้แล้ว สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมก้มหัวให้กับแดนมหายุทธ์อยู่ดี”
“แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่หากเด็กคนนี้สามารถเข้าใจกฎความเป็นตายได้เมื่อไหร่ ถ้าวันหนึ่งเขาก้าวเข้าสู่แดนเจ้ายุทธจักรแล้ว ในแดนเดียวกันก็คงหาคนที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้ยาก”
สำหรับบุคคลใหญ่โตที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว พลัง Attr ขั้นสุดยอดอย่างมากก็แค่ดึงดูดให้พวกเขาชายตาไปมองได้เท่านั้น มีเพียงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพลังแห่งกฎเท่านั้นถึงจะสามารถดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้อย่างแท้จริง
ในสายตาของนักยุทธ์ผู้แข็งแกร่งแล้ว หากไม่สามารถผ่านด่านแห่งกฎนี้ไปได้ ต่อให้เป็นอัจฉริยะไร้เทียมทาน มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมก็ยังคงเป็นได้แค่มด
เวทีประลองยุทธ์ที่ถูกหอกรบพลังดินทำลายจนยุ่งเหยิงนั้น หลัวซิวยืนอยู่ตรงกลางอย่างไม่สะทกสะท้าน เปลวไฟรอบตัวลุกโชน ผมยาวของเขาปลิวไสว ราวกับปีศาจที่เดินออกมาจากอเวจี
พลังรอบกายของเขาดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เปลวไฟสีดำลุกโชนรอบกายเขาก็ลุกสูงขึ้นมากเรื่อยๆ ไม่นานนักก็ลามสูงขึ้นไปเป็นความสูงสามจั้งกว่า
ร่างของเขาสูงไม่เกิดเจ็ดฟุต แต่เปลวไฟสีดำของเขากลับลุกโชนขึ้นกว่าสิบเมตรอย่างน่าหวาดหวั่นเกรงขามราวเทือกเขา
สำหรับสวีเฟิงที่เป็นอัจฉริยะขั้นสุดที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ การฝึกตนระดับมกุฎยุทธ์ขั้น 7 ที่เทียบเท่าได้กับมกุฎยุทธ์ขั้น 9 นั้น
ศัตรูเช่นนี้ หลัวซิวจำเป็นต้องรับมืออย่างระมัดระวัง ดังนั้นเขาจึงใช้พลังจากลูกแก้วเสวียนดำ
ถึงอย่างไรคนที่อยู่ในที่นี้คงพอเดาได้แล้วว่าเขามีวิชาลับที่สามารถทำให้การฝึกตนแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก
ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงลมหายใจเข้าออกสามครั้ง การฝึกตนของหลัวซิวใช้พลังจากลูกแก้วเสวียนดำมาช่วยยกระดับเขาไปสู่แดนมกุฎยุทธ์ขั้น 7
“เมื่อเป็นเช่นนี้ การฝึกตนของข้ากับเจ้าก็เทียบเท่ากันแล้ว เช่นนี้ก็ถือว่าศึกครั้งนี้มีความเป็นธรรมแล้ว”
หลัวซิวยิ้มพลางขยับคอของเขาเพื่อเคลื่อนเส้นเอ็น สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
โฮ่ว!
เสียงมังกรคำรามขึ้นมาจากปลายเท้า เขาใช้วิชาท่าร่างบรรลุมังกรเขียว ทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุด