มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 637
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 637
ตัวอย่างเช่น พลังไฟที่เกิดมาจากพลังดารา เรียกว่าอัคคีดารา ซึ่งแข็งแกร่งกว่าธาตุไฟทั่วไปมาก
การผสมผสานของธาตุที่แตกต่างกัน สามารถเกิดธาตุที่มีพลังแข็งแกร่งกว่า เช่น เบญจธาตุทั้ง 5 พลังตรีภพ พลังควบคุมเวลา พลังแห่งชีวิต พลังแห่งความตายและอื่นๆ
ในบรรดาพลังแห่งกฎธาตุระดับสูงสุดสี่ธาตุ มีเพียงพลังแห่งเวลาเท่านั้นที่ลึกลับที่สุดตั้งแต่สมัยโบราณ และไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีใครสามารถฝึกฝนสำเร็จได้
ดาวเก้าดวงลอยอยู่กลางอากาศ ความเจิดจ้าของดาราปกคลุมทั่วทั้งเวทีการแข่งขัน ก่อตัวเป็นอาณาจักร
จนถึงตอนนี้ ในบรรดาอัจฉริยะทั้งหลาย มีเพียงซิงหลิงและหวูหยุนเท่านั้นที่เชี่ยวชาญบรรลุความเข้าใจในเรื่องนี้
หวูหยุนคืออาณาจักรโซน ซิงหลิงคืออาณาจักรดารา
สีหน้าของกุ่ยโยวเคร่งขรึม ทันทีที่เริ่มแข็งขัน เขาก็ใช้ดาบมารของขลังชั้นสูงทันที ดาบมารในมือฟันออกไป แสงสีดำหลายสิบแสงจากดาบมารฟันไปยังซิงหลิง
แต่ซิงหลิงไม่แยแส และไม่เห็นว่าเขาทำอะไรไปบ้าง วินาทีที่แสงจากดาบเข้าใกล้เขา ก็สลายหายไปในอากาศ
“พลังของอาณาจักร” รูม่านตาของหลัวซิวหดลง
แม้ว่าเขาจะเข้าใจกฎการเวียนว่ายตายเกิดแล้ว แต่เขาไม่ได้เข้าใจทีละขั้นตอน แต่ผ่านของประทานจากกฎดั้งเดิมตั้งแต่แรกจนจบ ขาดกระบวนการทีละขั้นตอนและเข้าใจอย่างช้าๆไป
นอกจากนี้ ยังรวมเวลาที่เขาทำความเข้าใจค่อนข้างสั้น และเขายังไม่ได้คิดหาวิธีใช้กฎการเวียนว่ายตายเกิดมาสร้างอาณาจักรเฉพาะของตัวเอง
อาณาจักรโซนที่หวูหยุนเคยใช้มาก่อนหน้านี้ ประกอบกับอาณาจักรดาราของซิงหลิงในตอนนี้ ทำให้หลัวซิวมีแรงบันดาลใจไม่น้อย ทำให้เขาเข้าใจถึงทักษะบางอย่างในนั้น
นี่เหมือนกับการเป็นปรมาจารย์แห่งวิชากระบี่ แม้ว่าจะไม่เคยฝึกฝนวิชากระบี่ใด ๆ มาก่อน แต่เขาก็สามารถรู้แก่นแท้ของมันได้เพียงแค่ดูสองสามครั้ง
“มารศักดิ์สิทธิ์อวยพรให้ข้า!”
บนเวทีการแข่งขัน กุ่ยโยวตะโกนอย่างกะทันหัน พลังมารทั้งหมดที่ล้อมรอบร่างกายของเขารวมตัวกันเข้าไปในร่างของเขา มีเงาสีดำขนาดใหญ่สูงตระหง่านปรากฏขึ้นข้างหลังเขา จากนั้นหดตัวและรวมเข้ากับร่างกายของเขาในทันที
ทันใดนั้น แสงสีดำทองก็แผ่ออกมาจากร่างของกุ่ยโยว พร้อมกับดาบมารดำในมือของเขา ก็เปลี่ยนเป็นดาบมารสีดำ-ทอง
พรึบ!
ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาก็ปรากฏตัวด้านข้างซิงหลิงในชั่วพริบตา พลังอาณาจักรดาราตรงหน้าเขาราวกับไร้ตัวตนต่อหน้าเขา ไม่สามารถทำให้เกิดสิ่งกีดขวางแม้แต่น้อย
“นี่คือ… ร่างทองมารศักดิ์สิทธิ์?”
“หนึ่งในสามวิชายิ่งเลิศเฉพาะของนิกายมารศักดิ์สิทธิ์ เมื่อร่างทองมารศักดิ์สิทธิ์ฝึกฝนสำเร็จ กล่าวกันว่าในระดับแดนเดียวกันไร้คู่ต่อสู้!”
“ร่างยุทธ์ของกุ่ยโยวเป็นแดนมกุฎช่วงปลายอยู่แล้ว คาดไม่ถึงว่าเขาจะฝึกฝนร่างทองมารศักดิ์สิทธิ์สำเร็จ ความแข็งแกร่งทางร่างเนื้อของเขาเทียบได้กับแดนมหายุทธ์ช่วงกลางแล้ว!”
มีเสียงอุทานดังขึ้นในฝูงชน และในเวลาเดียวกัน บางคนก็สงสัยในเมื่อร่างทองมารศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังมากขนาดนี้ ทำไมกุ่ยโยวไม่ใช้วิชายิ่งเลิศนี้ตอนที่ต่อสู้กับหลัวซิว?
“เปลวไฟสีน้ำตาลแดงที่หลัวซิวใช้นั้น น่าจะเป็นภูตอัคคีที่ทรงพลังแข็งแกร่งมาก เว้นแต่ร่างทองมารศักดิ์สิทธิ์จะฝึกฝนไปอยู่ในระดับที่สูงมาก ไม่อย่างนั้นไม่สามารถทนต่อการเผาไหม้ของภูตอัคคีได้” มีคนอธิบายกล่าวว่า
อันที่จริง โดยพื้นฐานแล้วสิ่งที่คนผู้นี้คาดเดานั้นใกล้เคียงกับความจริง เมื่อต่อสู้กับหลัวซิว กุ่ยโยวคิดจะใช้ร่างทองมารศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่รอให้เขาใช้ หลัวซิวก็ใช้ภูตอัคคีกลืนกินเสียก่อน รัศมีที่น่าสะพรึงกลัวที่ราวกับจะทำลายทุกสิ่งทำให้เขารู้ว่าแม้แต่ร่างทองมารศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถต่อต้านได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้มัน
สำหรับการต่อสู้กับต้าวหวูซิน เขาไม่จำเป็นต้องใช้ร่างทองมารศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถชนะได้ จากนี้ จะเห็นได้ว่าความแข็งแกร่งของกุ่ยโยวผู้นี้ก็แข็งแกร่งอย่างมากเช่นกัน