มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 859
ทางฝั่งค่ายสว่าง เสียงตระโกนด้วยความโกรธดังขึ้นมา ชายร่างกำยำสวมเกราะสีทองและเสื้อคลุมสีเขียวเดินเข้ามา
มีกระบี่อยู่สองฝักที่ด้านหลังเกราะสีทองของเขา กระบี่ยุทธ์ทั้งสองเล่มไขว้ทับกัน ช่างยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม
มองไปเห็นเขากระโดดลอยขึ้นมา ขาทั้งสองข้างเหยียบลงบนพื้นของแท่นประลอง ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นเหมือนระเบิดที่ที่ตกลงบนพื้น พื้นทั่วบริเวณนั้นสั่นไหวตามเสียงขึ้นมาในทันที
“นั่นมันลูน!” ทางฝั่งค่ายมืด มีบางคนตกใจเสียจนเผลอส่งเสียงออกมา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความหวาดกลัว
“ลูน เจ้าคนนี้มีพลังเก่งกล้ามากกว่าดาซีเสียอีก เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงเลื่องลือแห่งชั้นหนึ่งของตำหนักเทวปฐพี”
“ร่างเนื้อของลูนนั้นแข็งแกร่งมาก มีสายเลือดผสมระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์ยักษ์ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือการป้องกันต่างก็แข็งแกร่งมาก ต้องสามารถฆ่าเจ้าหนุ่มบนแท่นประลองนั้นได้เป็นแน่”
“ลูน ฆ่าเจ้าไอ้เจ้าตัวชั่วร้ายแห่งค่ายมืดคนนี้เสีย!”
คนจากค่ายสว่างพากันกู่ร้องขึ้นมา ครั้งนี้มาเยือนที่ตำหนักเทวมืด ไม่ได้มีแค่เพียงผู้คนจากหอคอยเทวสว่าง ทั้งยังเชื้อเชิญตำหนักเทวอื่น ๆ ที่อยู่ในเครือเดียวกับค่ายสว่างอย่างตำหนักเทวปฐพีมาด้วย
“ความมืดมิดที่ชั่วร้าย แน่นอนว่าจะต้องถูกชำระล้าง เจ้าฆ่าดาซี ข้าจะตัดสินเจ้าเอง” คนที่มีนามว่าลูนนี้ มีร่างกายที่สูงใหญ่อย่างมาก ราวกับเป็นยักษ์ตนเล็ก ๆ ตนหนึ่ง มีความสูงราว ๆ สามเมตรกว่า
“ตัดสินบ้านพ่อแกสิ!” หลัวซิวยิ้มเยาะ สำหรับค่ายสว่างพวกนี้ หายใจเข้าหายใจออกต่างก็คิดแต่จะไปตัดสินคนอื่น หลัวซิวรู้สึกรังเกียจเป็นที่สุด
“ฝ่าแสงแยกข่มปฐพี!”
ลูนตะโกนเสียงดังสนั่น สาวเท้ายาวก้าวเข้ามา สองมือของเขากำดาบเล่มหนึ่งที่มีขนาดกว้างและใหญ่เอาไว้ พลังงานที่เข้มข้นของธาตุดินหลวมรวมกัน ยังประกอบไปด้วยออร่าแห่งกฎธาตุดินบาง ๆ
เห็นได้ชัดว่า เจ้าลูนคนนี้ยังไม่ได้บรรลุถึงแดนเจ้ายุทธจักร แต่กลับสัมผัสรู้พลังแห่งกฎบาง ๆ ได้แล้ว ถือว่าเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์แนวหน้าเลยก็ว่าได้
แดนกฎระดับนี้นั้น หลัวซิวไม่ได้ให้ความสำคัญ แต่ว่าร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเขานั้น กลับบรรลุถึงแดนเจ้ายุทธจักรแล้ว!
ลูนครอบครองสายเลือดผสมระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์ยักษ์ เผ่าพันธุ์ยักษ์คือลุกรักของเทพแห่งปฐพี เกิดมาพร้อมกับร่างเนื้อที่แข็งแกร่งถึงขั้นสุด อีกทั้งยังอยู่ในกระบวนการฝึกตนชุบร่างร่างยุทธ์ร่างเนื้อ โดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
ร่างยุทธ์ของแดนเจ้ายุทธจักร จับคู่กับกระบี่ยุทธ์ระดับอาวุธขลังชั้นดี นี่คือสิ่งที่ลูนครอบครอง ไม่เพียงแต่สามารถข้ามแดนต้านทานเจ้ายุทธจักรได้ อีกทั้งยังมีความสามารถในการฆ่าเจ้ายุทธจักรอีกด้วย
นอกจากนี้ คนผู้นี้ก็ยังเป็นอัจฉริยะคนแรกที่นับว่ามีความสามารถไม่เลวเลย นับตั้งแต่ที่หลัวซิวมาถึงยังโลกเชิ่งถิง
“ถึงแม้จะไม่เลว แต่เทียบกับข้าแล้ว ยังห่างชั้นอยู่มากนัก”
หลัวซิวยกมือขึ้นสะบัดนิ้ว ราวกับมีสายฟ้าผ่าลงมาสองครั้ง เสียงชิ้ง ๆ ดังขึ้น กระบี่ยุทธ์สองด้ามในมือของลูนก็ถูกดีดกระเด็นลอยขึ้นไปกลางอากาศ ใบมีดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“อย่างใดกัน? ร่างเนื้อของเจ้าหนุ่มคนนี้ สามารถด้านลูนเอาไว้ได้อย่างนั้นหรือ?”
“ไม่เพียงแค่สามารถด้านไว้ได้ แต่ดูเหมือนกับว่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าลูนเสียอีก ไม่เห็นกระบี่คู่ของลูนที่สั่นเทือนอย่างรุนแรงนั่นหรือ? นั่นมันเป็นถึงกระบี่ยุทธ์ชั้นยอด!”
“ถึงว่าเจ้าหนุ่มคนนี้สามารถฆ่าดาซีได้อย่างง่ายดาย ค่ายมืดมีเด็กหนุ่มที่เก่งกาจมากถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?”
หลัวซิวสำแดงพลังออกมาทำให้ทุกคนต่างกันพากันตกตะลึงอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้สำแดงกลวิธีอื่น ๆ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เขายังใช้เพียงแค่นิ้วมือเดียวเท่านั้น
“กายามัดปฐพี!”
ลูนกระทืบเท้าลงไปบนพื้นดิน พลังงานของกฎธาตุดินค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมา ราวกับโซ่กักขัง โพล่ออกมาจากทุกทิศทางพุ่งตรงเข้าไปพันรอบตัวหลัวซิว
หลัวซิวไม่ได้สะทกสะเทือน ปล่อยให้โซ่เหล่านี้พันรอบตัวเขาอย่างแน่นหนาโดยไม่ได้ต้านทานใด ๆ
“ครั้งนี้เจ้าตายแน่!” ลูนมองภาพตรงหน้า และหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น กระบี่คู่ในมือพุ่งเข้ามาหมายจะสังหาร
ในช่วงเวลาที่ลูนพุ่งตรงเข้ามาด้านหน้านั้น สีหน้าของหลัวซิวยังคงสงบนิ่งไม่ได้มีความกังวลใด ๆ กฎความตายกลั่นแปรเป็นอัคคีดำปะทุขึ้น ทันใดนั้นก็แผดเผาโซ่ที่พันแน่นรอบตัวเขาจนสลายไปไม่เหลือแม่แต่ผุยผง