มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 900
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 900
“บูม!”
วังที่ทรุดโทรมห่างออกไปสองสามร้อยเมตรถล่มลง ส่งผลให้ฝุ่นผงปลิวอยู่อากาศ
“มีอะไรหรือ?” บาเค่อและคนรับใช้ชราชุดดำก็เดินตามไปด้วย
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าดังขึ้น และในตำหนักโดยรอบ ร่างต่างๆ ก็เดินออกมา
คนเหล่านี้สวมเสื้อผ้าโบราณ เต็มไปด้วยกลิ่นเน่าเสียเก่าแก่ แต่พวกเขาไม่มีชีวิตสักนิดเลย
บนใบหน้าของพวกเขาไร้สีหน้าใดๆทั้งสิ้น แสงกระหายเลือดส่องประกายในรูม่านตาของพวกเขา
“พวกนี้เป็นข้ารับใช้ของเหล่าทวยเทพในสมัยโบราณ!” บาเค่ออุทาน
“พูดให้ถูกก็คือ พวกเขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แต่เป็นภูตมรณะ” หลัวซิวกล่าวด้วยดวงตาที่หรี่ลง
เมืองเทพโบราณเป็นที่พำนักของเหล่าทวยเทพ แต่ก็มีผู้เชื่อในเทพมารมากมายอาศัยอยู่ที่นี่ เพื่อรับใช้เทพเจ้าที่พวกเขาเชื่อในฐานะผู้รับใช้เทพ
เทพฟ้าแห่งโลกาชั้นฟ้าได้ส่งผู้แข็งแกร่งของพวกเขาไปสังหารสู้รบกับเหล่าทวยเทพในเมืองเทพ ในที่สุด เหล่าทวยเทพในเมืองเทพก็พ่ายแพ้ รวมทั้งบรรดาผู้เชื่อและผู้รับใช้ที่เชื่อในพวกเขาก็ประสบภัยพิบัติเช่นกัน
แต่พลังแห่งความตายได้ปกคลุมโลกของพื้นที่นี้ ทำให้ผู้ที่เสียชีวิตไปนับไม่ถ้วนกลายเป็นภูตมรณะที่กระหายเลือด
การฟื้นคืนชีพของภูตมรณะ เป็นวิธีการใช้กฎความตายอย่างหนึ่ง สามารถชุบชีวิตผู้แข็งแกร่งที่ตายไปแล้วให้กลายเป็นภูตมรณะ โดยคงความแข็งแกร่งและพลังไว้บางส่วนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่จะไม่มีความทรงจำอีกต่อไป และจะเชื่อฟังเพียงเจ้าท่าน ผั้เรียกมันออกมา หรือทำตามสัญชาตญาณของภูตมรณะที่กระหายเลือด
แดนกฎความตายของหลัวซิวนับได้ว่าไม่ต่ำ ที่จริง เขาก็เป็นวิชาลับแบบนี้เพื่อชุบชีวิตภูตมรณะได้เช่นกัน ม้วนหยกที่เทวทูตจื่อเยียนเคยให้เขา ได้บันทึกวิธีการของวิชาลับนี้ไว้ด้วย
โดยทั่วไปแล้ว ความแข็งแกร่งของภูตมรณะที่ฟื้นคืนชีพนั้น แดนจะต่ำกว่าตอนที่มีชีวิตอยู่แดนหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าหากศพของผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ฟื้นคืนชีพ ความแข็งแกร่งจะลดลงสู่เจ้ายุทธจักร
ในขณะนี้ ภูตมรณะโบราณมากกว่าสิบกว่าร่างได้ปรากฏตัวขึ้นรอบๆ หลัวซิวทั้งสาม และออร่าของแต่ละคนก็อยู่ในระดับเจ้ายุทธจักร!
นี่ก็หมายความว่า ตอนที่คนเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์
“โฮก!”
ภูตมรณะสิบกว่าคนคำรามอย่างน่ากลัว ดวงตาสีแดงฉายแสงอันน่าสะพรึงกลัว กลายเป็นเงาพร้อมพุ่งมาหา
แม้ว่าภูตมรณะเหล่านี้ได้สูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับตอนที่ยังมีชีวิตไปแล้ว แต่ก็ยังมีสัญชาตญาณการต่อสู้และการเคลื่อนไหวอยู่บ้าง พลังของการโจมตีนั้นทรงพลังอย่างยิ่ง การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็มีพลังกฎความตายซ่อนอยู่ ซึ่งแข็งแกร่งมากกว่าเจ้ายุทธจักรระดับเดียวกัน
“อ๊าก! อ๊าก!…”
มีเสียงร้องโหยหวนจากทางอื่นจากระยะไกลดังมา ไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้ว่าจะต้องมีคนอื่นที่เจอภูตมรณะคล้ายคลึงกัน
ตอนนี้หลัวซิวแข็งแกร่งที่สุดก็คือร่างยุทธ์ร่างเนื้อ เขาพลิกมือหยิบหอกยุทธ์มังกรดำออกมา หอกพุ่งออกไปราวกับมังกรดำ เกิดเสียงดังกึกก้อง ร่างของภูตมรณะโบราณแตกสลาย
แต่แม้ว่าร่างกายจะแตกสลายกลายเป็นเป็นผง ภูตมรณะเหล่านี้ก็ยังพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่เกรงกลัวความตาย
พวกมันที่กลายเป็นภูตมรณะ ได้สูญเสียสติสัมปชัญญะและความเจ็บปวดไปนานแล้ว ดุร้ายและบ้าคลั่ง
สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดคือแม้ว่าร่างของเหล่าภูตมรณะจะแตกสลาย พวกมันจะหลอมรวมใหม่อย่างรวดเร็วราวกับว่าพวกมันเป็นอมตะ
“ความตายถึงขีดสุดคือความเป็น!”
เมื่อเห็นฉากนี้ หลัวซิวก็นึกถึงประโยคหนึ่งในของขวัญที่กฎดั้งเดิมมอบให้ ได้อธิบายความลึกลับของอาณษจักรกฎ
ประโยคนี้หมายความว่าหลังจากพลังแห่งความตายถึงขีดสุด ก็สามารถมีผลคล้ายกับพลังแห่งชีวิตได้
และหากพลังแห่งชีวิตถึงขีดจำกัด มันก็มากเกินไป และจะนำมาซึ่งความตายและความหายนะ
และเนื่องจากพวกมันเป็นภูตมรณะที่ฟื้นคืนชีพ ไม่มีวิญญาณ และไม่กลัวการโจมตีวิญญาณ ประกอบกับความเป็นอมตะของพวกมัน ทำให้ใครๆ ก็ปวดหัวได้มากนัก
บทที่ 899
บทที่ 901