ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 105 โทสะและความโกรธเกรี้ยวของเขี้ยวหมาป่า (2)
ภูเขาลูกนี้ไม่ได้ชันมากนัก แต่มันเต็มไปด้วยหนามและพุ่มไม้หนาทึบซึ่งทำให้การเดินทางนั้นยากลำบากและจะทำให้หลงทางได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเขี้ยวหมาป่ามี เฟิงหลาน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำสงครามในป่าเป็นผู้นำทาง จึงทำให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีไม่มีปัญหาใด ๆ แต่เนื่องจากพวกเขาอยู่ในดินแดนของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ พวกเขาจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เย่เชียนหันไปหาม่อหลงและส่งสัญญาณมือให้เขา จากนั้นม่อหลงก็พยักหน้าก่อนจะแยกตัวออกจากกลุ่มไป
ม่อหลง เป็นพลซุ่มยิงที่เก่งที่สุดในกลุ่มเขี้ยวหมาป่า อีกทั้งทักษะการพรางตัวของเขาก็สมบูรณ์แบบที่สุดอีกด้วย ดังนั้นการให้เขาเป็นคนเข้าไปกำจัดทหารเฝ้ายามรักษาการณ์ของกองกำลังติดอาวุธคือกลยุทธ์ที่ดีที่สุด
ในขณะที่พวกเขากำลังเคลื่อนพลอยู่นั้น เจมส์ก็ได้ทิ้งสัญลักษณ์พิเศษของเขี้ยวหมาป่าเอาไว้ เหตุผลที่เจมส์ต้องทำอย่างนั้น ประการแรกก็เพื่อป้องกันการหลงทางในป่า และประการที่สองก็เพื่อให้หลี่เหว่ยยี่สามารถตามมาสมทบและเข้าร่วมกลุ่มกับพวกเขาได้เร็วที่สุดเมื่อเขาได้รับข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับศัตรู เนื่องจากภูมิประเทศมีความหนาแน่นและซับซ้อน จึงทำการพรางตัวได้ง่ายมาก ดังนั้นทุกคนจึงสื่อสารกันผ่านภาษามือพิเศษทางทหารเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูไหวตัวและรู้ตัวได้
ในป่านั้นเต็มไปด้วยงูและแมลงต่าง ๆ มากมาย ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่มีพิษก็ตาม แต่การถูกพวกมันกัดก็ยังคงเจ็บหรือแสบคันซึ่งสร้างความรำคาญไม่น้อยเลย
ตอนนี้ทุกคนกำลังพรางตัวอยู่ในป่าลึกและพวกเขาก็ยังทาสีพิเศษบนใบหน้าเพื่อให้เกิดความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ พวกเขาเคลื่อนตัวไปตามพุ่มไม้อย่างเชื่องช้าเพราะการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามในป่า มันอาจก่อให้เกิดเสียงโดยไม่ทันระวังได้ง่าย สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือพวกเขาต้องรักษาความเงียบสงบและความกลมกลืนให้ได้มากที่สุด
เวลาประมาณเที่ยงคืน หลี่เหว่ยยี่และม่อหลงก็กลับมารวมกลุ่มกับคนที่เหลือทั้งหมดอีกครั้ง หลังจากนั่งล้อมกันเป็นวงกลม เย่เชียนก็ดึงแผนที่ฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธออกมาจากกระเป๋าที่หวังเต๋อเซินมอบให้เขามา เห็นได้ชัดว่าหวังเต๋อเซินมีความตั้งใจที่จะกำจัดตี่ลุนมานานแล้ว
“ทุกคนดูตรงนี้… จุดนี้คือฐานที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธของตี่ลุน มันถูกล้อมรอบด้วยรั้วไม้ทั้งสี่ด้าน ทั้งทางทิศเหนือ ทิศใต้ ตะวันออก และตะวันตก ในแต่ละทิศจะมีหอสังเกตการณ์อยู่ ภารกิจของพวกเราในตอนนี้คือ การแทรกซึมเข้าไปและค้นหาว่าเทียนเฉินถูกจับอยู่หรือไม่ ถ้าไม่จำเป็นอย่าเพิ่งเข้าปะทะเด็ดขาด เข้าใจมั้ย ?” เย่เชียนพูดด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ ถึงแม้ว่าม่อหลงจะเคลียร์ทหารยามโดยรอบไปหมดแล้ว แต่ถึงยังไงก็ต้องเคลื่อนพลด้วยความระมัดระวัง เพราะหากปลาหลุดเข้าไปในอวนแล้ว ความพยายามก่อนหน้าจะได้ไม่เสียเปล่า แม้ว่าความเป็นไปได้จะน้อยมากก็ตาม แต่ก็ต้องเคลื่อนไหวอย่างเงียบ ๆ เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน
“หลี่เหว่ยยี่… รายงานข้อมูลมาทุกอย่างที่นายได้มาให้เราทราบที” เย่เชียนกระซิบเบา ๆ
หลี่เหว่ยยี่พยักหน้า จากนั้นก็ชี้ไปที่แผนที่และพูดเบา ๆ ว่า “มีทหารสองนายประจำการอยู่ทุก ๆ หอสังเกตการณ์ ซึ่งแต่ละคนจะยืนเฝ้าประจำจุดปืนกลหนักดับเบิ้ลยูเก้าสิบห้า ลำกล้อง 12.7 มม. พิกัดนี้น่าจะเป็นคลังแสงของพวกมัน มีทหารเฝ้ากะละสิบคน ผลัดกันเฝ้าและเปลี่ยนกะทุก ๆ สองชั่วโมง… ส่วนประตูทางทิศเหนือ มีทหารรักษาการณ์ประมาณยี่สิบคน ไม่ทราบชนิดของอาวุธ…
ทางทิศตะวันออก ทิศตะวันตกและทิศใต้เป็นรั้วทั้งหมดสูงราว ๆ สองเมตร มีทหารแค่สิบคนที่รับผิดชอบในการลาดตระเวนในบริเวณนี้ และมันก็ไม่มีทางออกอื่นอีกนอกจากทิศเหนือ และพิกัดนี้เป็นที่คุมขังของพวกมัน มีทหารประมาณห้าคนรักษาการณ์อยู่ ผมคิดว่าถ้าพี่เทียนเฉินอยู่ในนั้นจริง ๆ เขาก็น่าจะถูกขังไว้ในคุกใต้ดิน…”
เย่เชียนพยักหน้าและพูดเบา ๆ ว่า “เอาล่ะ… เดี๋ยวผมจะมอบหมายหน้าที่ให้พวกคุณเลยก็แล้วกัน! เจมส์… คุณไปทางทิศใต้นะ ส่วนวิลเลียม… คุณไปทางทิศตะวันออก ม่อหลง คุณสแตนด์บายอยู่ที่นี่ เราจะพยายามแทรกซึมเข้าไปให้เงียบที่สุด แต่ถ้าหากว่าเราถูกศัตรูพบล่ะก็ ผมอนุญาตให้คุณใช้เครื่องยิงจรวดคุ้มกันให้พวกเราได้ ชิงเฟิง… นายและพี่เฟิงหลานลักลอบเข้าไปทางทิศใต้และเป้าหมายของพวกคุณคือการทำลายคลังแสง ถ้าหากหลี่เหว่ยยี่กับผมสามารถช่วยเทียนเฉินได้แล้ว หรือถ้าเราถูกศัตรูพบตัว ให้พวกคุณระเบิดคลังแสงทิ้งทันที หลี่เหว่ยยี่กับผมจะเข้าจากทางทิศตะวันตกและลอบเข้าไปยังห้องขัง จำไว้ว่าถ้าไม่จำเป็นก็อย่าปะทะจะดีที่สุดรวมถึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงจากสายตาของศัตรู เข้าใจมั้ย ?”
ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน จากนั้นเย่เชียนก็ยื่นมือออกไปและทุกคนก็วางมือทับบนมือของเขา ทุกคนมองตากันแล้วก็พูดขึ้น
“เขี้ยวหมาป่า… พิฆาตลงทัณฑ์!”
หลังจากนั้น เย่เชียนก็ชูมือขึ้นก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะแยกย้ายกันไปยังสถานที่ที่กำหนดไว้…
บริเวณตีนเขาด้านล่างนั้นเป็นที่ตั้งฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของตี่ลุน และในตอนกลางคืนไฟทุกดวงจะดับสนิท มีแค่แสงไฟจากสปอตไลต์บนหอสังเกตการณ์แต่ละแห่งที่ส่องไปมารอบ ๆ อยู่ตลอดเวลา
เย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่มาถึงทางทิศตะวันตกตามแผนที่วางเอาไว้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่แสงไฟสปอตไลต์กำลังจะส่องมาทางพวกเขา ทั้งสองคนก็รีบมุดตัวลง และไม่นานนัก แสงไฟสปอตไลต์ก็ส่องเลยไป ซึ่งมันใช้เวลาอย่างน้อยสิบนาทีก่อนที่มันจะวนกลับมาส่องยังตำแหน่งนี้อีกที
เย่เชียนส่งสัญญาณมือให้หลี่เหว่ยยี่ที่ก็เข้าใจได้ทันทีว่าในครั้งต่อไปที่แสงไฟสปอตไลต์ส่องผ่านตำแหน่งของพวกเขาทั้งสองคน พวกเขาจะต้องรีบลุกขึ้นและปีนขึ้นไปบนรั้วให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว รั้วสูงแค่สองเมตรสำหรับพวกเขานั้นมันก็เป็นเพียงแค่ของเด็กเล่น
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนด้วยดี เย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่ก้มตัวลงหมอบคลานอย่างรวดเร็วไปยังตำแหน่งของคุกใต้ดิน ขณะที่คอยเฝ้าระวังหลังของกันและกัน เมื่อหลบเลี่ยงจากการลาดตระเวนของทหารยามระหว่างทางได้ พวกเขาก็มาถึงหน้าคุกในที่สุด
ที่ข้างคุกมีทหารยามอยู่ห้าคนนั่งอยู่บนพื้นอย่างเกียจคร้านและกำลังพูดคุยกันเป็นภาษาเมียนมาร ซึ่งเย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่ไม่เข้าในในบทสนทนาของพวกเขา เย่เชียนส่งสัญญาณมือให้หลี่เหว่ยยี่เพื่อสื่อให้เขาย่องเข้าไปหาทหารยามทั้งห้าจากตำแหน่งนี้ในขณะที่เย่เชียนจะอ้อมไปหาพวกเขาจากอีกด้านหนึ่ง จากนั้นทั้งสองก็เข้าไปใกล้ทหารยามทั้งห้าอย่างช้า ๆ และเมื่ออยู่ห่างประมาณหนึ่งเมตร เย่เชียนก็พุ่งเข้าใส่พร้อมด้วยมีดหมาป่าสีเลือดในมือ
เขาเชือดคอของทหารยามอย่างแม่นยำ! และหลังจากที่เย่เชียนกำจัดทหารยามไปได้หนึ่งคน เขาก็หมุนตัวพร้อมเหวี่ยงมือที่ถือมีดอยู่เฉือนเข้าไปที่คอของทหารยามอีกคน
ภายในเวลาเพียงห้าวินาทีสั้น ๆ เย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่ส่งทหารยามทั้งห้าคนไปยมโลกอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นพวกเขาก็ลากศพไปซ่อนอยู่ในมุมมืด ๆ มุมหนึ่งและเตรียมตัวเข้าไปในคุก
ทว่าติดปัญหาเล็กน้อย จู่ ๆ ทหารยามอีกคนก็เดินก้มหัวมา เขากำลังดึงกางเกงของเขาขึ้น ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะเข้าห้องน้ำเสร็จ พวกเขาสองคนเห็นดังนั้นจึงปามีดที่อยู่ในมือใส่ทันที เย่เชียนปามีดหมาป่าสีเลือดของเขาตรงไปที่ลำคอของทหารยามอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันนั้นเองที่มีด M9 ของหลี่เหว่ยยี่พุ่งทะลุเข้าไปที่หน้าอกของทหารยามคนนั้นอย่างแรงเช่นกัน ทหารยามคนนั้นตาเหลือกขึ้นขณะที่เขากำลังจะตาย และในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เขาก็โอดครวญขึ้นมาในใจว่า ‘นายท่าน!’
หลังจากซ่อนศพเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว ทั้งสองก็เข้าไปในคุก เนื่องจากมันเป็นคุกใต้ดิน สภาพของมันจึงเหมือนกับสระน้ำมาก ๆ ตรงกลางมีเสาไม้แนวตั้ง ซึ่งเหล่านักโทษและเชลยจะถูกมัดติดกับเสา เหลือไว้แค่เพียงส่วนหัวเท่านั้นที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ
ในคุกแห่งนี้มีนักโทษเชลยศึกอยู่เพียงคนเดียว ศีรษะของเขาห้อยต่ำลงด้วยความอ่อนล้าและใบหน้าก็มีรอยฟกช้ำอยู่มากมาย เนื่องจากคุกแห่งนี้ค่อนข้างมืดจึงทำให้เย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นมาก จากนั้นพวกเขาก็ก้าวลงไปในน้ำอย่างระมัดระวังและเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
นักโทษเชลยศึกรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหว ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายก็ตาม แต่ดวงตาของเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเกรี้ยวกราด แต่เมื่อเขาเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาคือเย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่ นักโทษเชลยศึกคนนั้นก็ตกตะลึงและอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว