ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 149 นางฟ้าเจ้าเสน่ห์
“พี่หลันหลันทำไมไม่บอกผมล่ะว่าพี่จะมาจีนน่ะ” เย่เชียนพูดพร้อมรอยยิ้มเจื่อน ๆ
“ฉันแค่มาตรวจสอบอะไรบางอย่างนิดหน่อยน่ะ อยากรู้ว่าจะเจออะไรที่มันจะทำให้คนอย่างฉันรู้สึกประหลาดใจอีกบ้างมั้ย อีกอย่าง… ฉันเองก็อยากมาจับตาดูนายด้วยว่านายมีแผนหลอกฉันรึเปล่าเวลาที่ฉันอยู่ที่อื่น ขืนบอกนายก่อนนายก็ไหวตัวทันน่ะสิ” ซ่งหลันยิ้มอย่างมีเสน่ห์ จากนั้นเธอก็ย้ายก้นอันงามงอนนั้นไปนั่งลงบนตักของเย่เชียนพร้อมกับเชยคางของเขาขึ้นมา ดวงตาที่มีเสน่ห์ทั้งคู่ของเธอนั้นจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาอันสุขุมนุ่มลึกของเขา “ว่าแต่… น้องชายที่แสนดีของพี่คนนี้จะคิดถึงพี่สาวบ้างมั้ยนะ ?”
เย่เชียนรู้สึกเขินอายอย่างมาก เขาแอบคิดในใจว่า ‘ให้ตายเถอะ! ถ้าคิดจะมายั่วยวนกันขนาดนี้ ทำไมไม่ไปทำตอนอื่นกันล่ะ ดูสิพวกพี่ ๆ น้อง ๆ มองเราตาเป็นมันแล้วเนี่ย’
“เอ่อ… พี่หลันหลัน! ทุกคนกำลังมองเราอยู่นะ!” เย่เชียนพูดด้วยความประหม่า
“ก็ปล่อยให้พวกเขามองไปสิ! ไม่เห็นจะต้องไปสนใจอะไรเลย ทำอย่างกับพวกเขาไม่รู้หยั่งงั้นแหละว่าพวกเราน่ะใกล้ชิดกันขนาดไหน” ซ่งหลันพูดเบา ๆ
ม่อหลง แจ็คและอู๋หวนเฟิงต่างพากันหัวเราะคิกคัก พวกเขาไม่กล้าหัวเราะกันออกมาดัง ๆ จึงได้แต่ฝืนข่มความสนุกเอาไว้จนใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง
“นี่… นายยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะว่านายคิดถึงฉันหรือเปล่าน่ะ ?” ซ่งหลันพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย
“คะ… คิดถึงก็ได้!” เย่เชียนตอบ
“แล้วนายคิดถึงฉันมากแค่ไหนงั้นเหรอ ?” ซ่งหลันถามต่ออย่างเย้ายวน
“คิดถึงม๊าก…มาก!” เย่เชียนรู้สึกว่าตัวเองนั้นแตกสลายเพราะผู้หญิงคนนี้จริง ๆ
“ฮิ ๆ ๆ ดีใจจัง แล้วนายคิดถึงฉันที่ไหน เมื่อไหร่ล่ะ ?” ซ่งหลันยิ้มอย่างมีเสน่ห์และแกล้งถามต่อ
“คิดถึงทุกที่ทุกเวลาเลย!” เย่เชียนตอบอย่างประหม่า
“ถ้างั้นที่นายมาหาฉัน ก็เป็นเพราะนายคิดถึงฉันใช่มั้ย ?” ขณะที่ซ่งหลันพูด เธอก็แอบยื่นมือออกไปลูบไล้ส่วนที่ต้องห้ามอันศักดิ์สิทธิ์ของเย่เชียนอย่างยั่วยวน
ร่างกายของเย่เชียนสั่นสะท้านไปทั้งตัว นี่ซ่งหลันกำลังฆ่าเขาทางอ้อมอย่างเลือดเย็นชัด ๆ “พี่หลันหลัน! พี่ช่วยอะไรผมหน่อยสิ!” เย่เชียนพูดด้วยสีหน้าที่ขมขื่น
ซ่งหลันจ้องเขม็งไปที่เย่เชียนแล้วพูดว่า “เฮ้อ! นายนี่มันเป็นคนที่ไม่โรแมนติกเอาเสียเลย!”
พูดเสร็จซ่งหลันก็ลุกพรวดออกจากตักของเย่เชียนไปนั่งลงบนโซฟาอย่างสุภาพเรียบร้อย เธอเป็นหญิงสาวที่ฉลาดมาก มิฉะนั้นบุคลากรทั้งหมดของน่านฟ้ากรุ๊ปคงจะไม่ยอมรับเธอขนาดนี้
ซ่งหลันนั้นรู้จักตัวตนของเย่เชียนดีกว่าใครทั้งสิ้น หากว่าสถานการณ์ทุกอย่างเป็นปกติไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เธอก็คงจะแกล้งเขาเล่นต่อ แต่ถ้ามีปัญหาอะไรเมื่อไหร่ เธอจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนและจริงจังกับงานอย่างที่สุด เธอรู้ว่าเย่เชียนรักเธอมาก แต่ถ้าขืนเธอยังคงมัวแต่แกล้งเขาท่ามกลางความตึงเครียดแบบนี้ ต่อให้เย่เชียนจะไม่โกรธเธอจริง ๆ จัง ๆ เขาก็คงจะหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งเธอเองก็ไม่อยากทำให้เขาต้องหงุดหงิดหรือลำบากใจ
เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูร้อน เย่เชียนจึงสวมเพียงแค่เสื้อยืดแขนสั้นเท่านั้น ซึ่งมันทำให้ซ่งหลันสามารถมองเห็นแขนซ้ายที่มีผ้าพันแผลอยู่ได้อย่างชัดเจน
ในทันใดนั้น ซ่งหลันก็คว้าแขนของเย่เชียนและจ้องมองเขาอย่างดุดันแล้วพูดว่า “นี่นายบาดเจ็บได้ไง ? เจ็บมากรึเปล่าเนี่ย ?”
“ไม่มีอะไรหรอกหน่า มันดีขึ้นมากแล้วล่ะแค่แผลเล็ก ๆ เอง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอก” เย่เชียนพูด
“ได้ยินว่านายอยากจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในประเทศจีนนี่ แต่ทำไมนายถึงมีผู้หญิงตั้งหลายคนมาคอยวนเวียนอยู่รอบตัวนายเยอะขนาดนั้น แถมยังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกเธออีกด้วยนะ น้องชายตัวน้อยของฉันกำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่นะ ? นายไม่ต้องการพี่สาวคนนี้แล้วใช่มั้ย ?” ซ่งหลันพูดอย่างหมดหนทาง
“พี่หลันหลันไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้ มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดหรอก ที่อยู่ด้วยกันนั่นมันก็แค่เพื่อให้ผมสะดวกต่อการทำงานเฉย ๆ ” เย่เชียนยิ้มแหย ๆ
“นายน่ะทำร้ายจิตใจของพี่สาวคนนี้มากเลยนะรู้มั้ย!” ซ่งหลันพูด “เฮ้อ! อันที่จริงฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะถ้านายจะหาน้องสาวให้ฉันน่ะ ดูแล้วสาว ๆ พวกนั้นก็เหมาะสมกับนายดี พวกเธอเป็นผู้หญิงที่ดีนะ”
เย่เชียนตกตะลึง เขาถามด้วยความประหลาดใจว่า “นี่พี่รู้ทุกอย่างหมดแล้ว ? พี่ส่งคนมาสืบเรื่องของผมตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ”
ซ่งหลันกลอกตาไปมาและพูดว่า “ก็นายดันประมาทเองนี่ มัวแต่ใช้ชีวิตง่าย ๆ สบายใจเฉิบอยู่นั่นแหละ ไม่สนใจฉันเลย! เฮ้อ… ฉันนี่มันเกิดมาภายใต้ดวงดาวที่ไม่ดีจริง ๆ ชีวิตฉันมันเลยเฮงซวยแบบนี้ นายมันขี้โกง เล่นโยนทุกสิ่งทุกอย่างมาให้ฉันแบบนี้ นายไม่รู้หรอกว่าการบริหารบริษัทขนาดใหญ่เท่านี้มันเหนื่อยแค่ไหนน่ะ นายไม่เคยสนใจเลยด้วยซ้ำว่าฉันจะเป็นจะอยู่ยังไง หนึ่งปีที่ผ่านมา บริษัทน่านฟ้ากรุ๊ปของนายได้เริ่มเติบโตและขยายตัวในจีนแล้วนะ ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่มีสาขาอย่างเป็นทางการที่นี่ก็ตามที แต่แผนกธุรกิจของบริษัทก็ได้เริ่มดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
และที่ฉันมาที่นี่ในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะจัดตั้งบริษัทน่านฟ้ากรุ๊ปในเซี่ยงไฮ้นี้อย่างเป็นทางการนี่แหละ! ฉันได้คิดแผนเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้วล่ะ ได้ยินมาว่าศาลากลางเซี่ยงไฮ้มีแผนปรับปรุงและปฏิรูปเมืองใหม่ใช่มั้ย ? ที่นี่จะเป็นที่แรกที่น่านฟ้ากรุ๊ปของนายจะดำเนินการ ครั้งนี้น่ะมีคู่แข่งที่ทรงอำนาจอยู่แค่สามรายในการประมูลโครงการ ตงเซียนกรุ๊ป ชิงกรุ๊ปและเทียนหยากรุ๊ป พวกเขาทั้งสามล้วนเป็นบริษัทชั้นนำระดับประเทศ ดังนั้นหากน่านฟ้ากรุ๊ปต้องการดำเนินโครงการปฏิรูปและพัฒนาเมืองใหม่ เราก็ต้องจัดการกับทั้งสามยักษ์ใหญ่นี่ก่อน!”
เย่เชียนตกตะลึงไปชั่วขณะ ดูเหมือนว่าซ่งหลันจะเตรียมพร้อมมากกว่าที่เขาคาดหวังเอาไว้เสียอีก เขาพึมพำกับตัวเองสักพักหนึ่งแล้วก็พูดว่า “พี่หลันหลัน… แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้น่านฟ้ากรุ๊ปเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้เลย”
ซ่งหลันผงะไปชั่วขณะแล้วถามด้วยความประหลาดใจว่า “ทำไมล่ะ ? นายไม่รู้หรือไงว่าโครงการนี้มันจะทำให้เราทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำขนาดไหน ? ถ้าเราชนะโครงการนี้น่านฟ้ากรุ๊ปของเราก็จะถือได้ว่ามีความยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง”
เย่เชียนพูดว่า “แน่นอนผมเข้าใจดี… แต่โครงการปฏิรูปเมืองในครั้งนี้มันซับซ้อนและวุ่นวายมากเกินไป พวกเราไม่ควรประมาทกับทั้งสามบริษัท เหว่ยตงเซียงกรุ๊ปเป็นผู้ลักลอบค้าอาวุธและยาเสพติดรายใหญ่ที่สุดในจีน ชิงกรุ๊ปเป็นแค่ฉากบังหน้าของมาเฟียแก๊งชิง ส่วนเทียนหยากรุ๊ปก็มีหงเหมินกรุ๊ปคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ผมเกรงว่าใครก็ตามที่ชนะการประมูลไป ก็จะดำเนินการไม่ราบรื่นอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นหากน่านฟ้ากรุ๊ปเข้าร่วมอย่างเร่งรีบ มันก็มีแต่จะทำให้ทั้งสามมังกรรวมพลังกันต่อต้านเราไปเสียเปล่า ๆ ต่อให้เราชนะโครงการนี้ก็เถอะ ผมกลัวว่าน่านฟ้ากรุ๊ปจะไม่มีที่ยืนอยู่ในเซี่ยงไฮ้แห่งนี้”
ซ่งหลันขมวดคิ้วอย่างน่ารัก เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเธอเองได้มองเฉพาะด้านธุรกิจของพวกเขาเท่านั้น แต่ไม่ได้ล้วงลึกไปถึงข้อมูลในด้านอื่น ๆ เท่าที่ควร เธอไม่เคยนึกเลยว่าทั้งสามบริษัทจะมีภูมิหลังที่ลึกซึ้งเช่นนี้
“แล้วนายคิดยังไงกับเรื่องนี้บ้างล่ะ ?” ซ่งหลันถาม
“ตอนนี้ทั้งสามบริษัทกำลังต่อสู้กันอย่างเปิดเผย ผมว่าเราแค่นั่งดูเสือพวกนี้ต่อสู้กันเองไปก่อนจะดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นใครที่ชนะการประมูล แต่ท้ายที่สุดพวกเขาอาจจะไม่ใช่ผู้ชนะที่แท้จริงก็ได้ ผมว่าสำหรับตอนนี้มันจะเป็นการดีที่สุด ถ้าเราจะไม่ทำอะไรเลย!” เย่เชียนพูด
ซ่งหลันพึมพำกับตัวเอง จากนั้นยิ้มอย่างมีเสน่ห์เหลือล้นและพูดว่า “แหม… สมองของน้องชายของฉันยังดีเยี่ยมอยู่สินะ เอาล่ะ! ถ้างั้นพี่สาวคนนี้ก็จะทำตามที่น้องชายว่าก็แล้วกัน”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งซ่งหลันก็พูดต่อไปอีกว่า “น้องชายที่แสนดีของพี่… แล้วเมื่อไหร่นายจะพาแฟนสาวมาพบคุณพี่สาวคนนี้สักทีล่ะ ? มันจะดีกว่านะถ้าให้พวกเราสนิทสนมกันแบบพี่น้องน่ะ”
เย่เชียนยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “พี่หลันหลัน! ผมขอล่ะ อย่าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เลยนะ แค่นี้ผมก็ปวดหัวมากพอแล้ว!”
ซ่งหลันมองเย่เชียนด้วยสายตาอันทรงเสน่ห์และแพรวพราวพร้อมกับพูดว่า “ใช่สิ! พวกผู้ชายมันก็เป็นแบบนี้กันไปหมดนั่นแหละ! พอมีคนใหม่ก็ลืมคนเก่า! แฟนของนายชื่อฉินหยูใช่มั้ย ?”
เย่เชียนจ้องมองเธอด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “โธ่! พี่หลันหลัน ฉินหยูยังไม่ใช่แฟนผมสักหน่อย!”
“ยังไม่ใช่แฟนเหรอ ? หึ… นายอย่ามาทำเป็นเสแสร้งต่อหน้าฉันหน่อยเลย! ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวเธอก็เป็น!” ซ่งหลันพูดด้วยหน้าตาที่บึ้งตึงแต่ยังคงน่ารัก “ครั้งที่แล้วนายเจอมือสังหารจากดาร์คลิลลี่ใช่มั้ย ? ฉันไปสืบให้แล้วนะ เป้าหมายของพวกเธอก็คือฉินหยูแฟนนายนั่นแหละ! ประธานเหว่ยตงเซียนจากตงเซียนกรุ๊ปเป็นคนจ้างมา!”