ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 163 การสนับสนุนจากผู้ว่าการเทศบาลหวัง
ถึงแม้ว่าสำนักงานรักษาความปลอดภัยจะเป็นบริษัทที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่มันก็แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะมีบุคลากรที่แฝงตัวอยู่ในเงามืดรวมอยู่ภายในองค์กรนั้นด้วย
หลี่ฮ่าวผู้ซึ่งเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี เมื่อเขาได้ยินคำถามของหวังปิง เขาก็ชะงักไปชั่วครู่จากนั้นก็ถามว่า “สำนักงานรักษาความภัยไอร่อนบลัด ? ผมไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย มันเพิ่งจะก่อตั้งอย่างนั้นใช่ไหม ?”
“ใช่แล้ว… บริษัทของเราเพิ่งจะก่อตั้งได้ไม่นาน คุณเย่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทของเรา เขาทำให้บริษัทสามารถดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็ว ต้องขอบคุณการมีส่วนร่วมของคุณเย่เลยล่ะครับ” แจ็คพูด
สิ่งที่แจ็คพูดออกไปเมื่อครู่นั้นคือสิ่งที่เย่เชียนสั่งให้เขาพูดก่อนที่จะมาถึงที่นี่ เขาไม่ต้องการให้หวังปิงรู้เรื่องของเขาเร็วจนเกินไป เขาจึงบอกกับแจ็คให้พูดแค่ว่าเขานั้นอยู่ในฐานะผู้ถือหุ้น ไม่ใช่ซีอีโอที่แท้จริงของสำนักงานรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัด
“โอ้… เยี่ยมมากเลย เพราะบริษัทรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ ในเมืองของเราเนี่ยไม่ค่อยจะยอมปฏิบัติตามกฎหมายกันเลย นั่นเป็นสิ่งที่ฉันกังวลอยู่มากเลยล่ะตอนนี้น่ะ อันที่จริงบริษัทรักษาความปลอดภัยสามารถช่วยรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อยได้อย่างมากเลยทีเดียวนะ ในเมื่อเสี่ยวเย่เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทนี้ล่ะก็… ในอนาคตเราคงจะต้องขอความช่วยเหลือจากพวกคุณเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชุมชนบ้านเมืองของเรา” หวังปิงพูดอย่างยินดีด้วยรอยยิ้ม
“ท่านหวังปิง… คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วครับ บริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดเพิ่งจะก่อตั้งขึ้นมาไม่นานนี้เอง ในตอนนี้การบริหารหลายอย่างมันก็ยังไม่ครบองค์ประกอบ แต่ผมเชื่อว่าเราทุกคนจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อความสงบสุขของเซี่ยงไฮ้ได้อย่างแน่นอน แต่วันนี้ที่ผมพาแจ็คมาที่นี่ก็เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากท่านหวังปิงสักเล็กน้อยน่ะครับ” เย่เชียนพูด
“เรื่องนั้นไว้ค่อยคุยกันทีหลัง” หวังปิงยิ้มแล้วถามว่า “เสี่ยวเย่กินข้าวมาหรือยัง ?”
เย่เชียนจ้องมองอย่างตกตะลึงและอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น หวังปิงเป็นคนฉลาดและมีไหวพริบที่ยอดเยี่ยม เขารู้ว่าเย่เชียนนั้นต้องการความช่วยเหลือจากเขา ซึ่งเขานั้นยังไม่ได้ปฏิเสธไปเสียทีเดียว ดังนั้นเย่เชียนจึงคิดว่าน่าจะเป็นการดีที่สุดถ้าเขาจะไม่ใจร้อนจนเกินไป เพราะบางครั้งการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเหล่านี้ก็ต้องใช้ความอดทนและใจเย็นมากเป็นพิเศษ เขาต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงเหล่านี้เป็นพันธมิตรกับเขาอย่างสมบูรณ์ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เย่เชียนยิ้มพร้อมกับตอบว่า “ผมทานไปแล้วครับก่อนมาที่นี่”
“โอ้… ไม่เป็นไรหรอก กินแล้วก็กินอีกได้ ฉันมัวแต่ประชุมทั้งวันเลยไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้ฉันก็เลยหิวมาก งั้นเรามาคุยกันระหว่างกินข้าวดีกว่า” หวังปิงพูดขณะที่เขาลุกขึ้นตะโกนสั่งคนรับใช้ในบ้าน “น้องเซี่ย! เอาอาหารออกมาเสิร์ฟหน่อย”
เย่เชียนคิดว่าเขาไม่ควรที่จะปฏิเสธหวังปิงในตอนนี้ เขาจึงพูดว่า “ถ้างั้นผมขอรบกวนด้วยครับ”
“เอาหน่า คนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องเกรงใจหรอก แจ๊ค! ถ้าคุณไม่รังเกียจ คุณก็มากินข้าวด้วยกันสิ” หวังปิงพูดอย่างยินดี
“ขอบคุณครับ!” แจ็คพูดขณะที่เขามองไปที่เย่เชียน ซึ่งเย่เชียนก็มองเขากลับอย่างมั่นใจ
แจ็คเป็นคนจัดการหลายอย่างให้กับกลุ่มเขี้ยวหมาป่า ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าเย่เชียนนั้นจะมีวิธีการในการเสวนากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐอย่างไร ซึ่งมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงหากต้องเปรียบเทียบระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐของประเทศจีนกับเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศอื่น ๆ แจ็คไม่สามารถเข้าถึงได้ เขาจึงปล่อยให้เย่เชียนคุยกับคนจีนด้วยกันเอง
เมื่อพวกเขานั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้ว หวังปิงก็หันไปหาคนรับใช้และถามว่า “เสี่ยวยู่อยู่ไหนน่ะ ? เธอยังไม่กลับมาบ้านอีกเหรอ ?”
“คุณหนูกลับมาแล้วค่ะ… ตอนนี้เธอกำลังพักผ่อนอยู่ที่ชั้นบน คุณหนูทานข้าวเย็นเรียบร้อยแล้วและเธอก็บอกว่าไม่ต้องเรียกเธอเมื่อคุณมาถึง”
หวังปิงพยักหน้า “เอาล่ะ… ถ้างั้นเธอไปทำงานต่อเถอะ”
คนรับใช้ตอบตกลงและเดินออกไป
หวังปิงหันไปหาเย่เชียนและพูดพร้อมรอยยิ้มที่ค่อนข้างคลุมเครือว่า “ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของฉันกันนะ ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังกังวลหรือมีอะไรในใจของเธอ เธอน่ะเอาแต่เหม่อลอยทั้งวันมาตั้งสองสามวันแล้ว ฉันถามอะไรไป เธอก็ไม่ยอมบอกอะไรฉันเลย!”
แจ็คเหลือบมองเย่เชียนอย่างตำหนิและเย่เชียนเองก็เหมือนจะมีลางสังหรณ์บางอย่าง แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังไม่ชัดเจนนัก เขาจึงไม่อยากพูดแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ถึงแม้ว่าลางสังหรณ์ของเขาอาจจะเป็นความจริงก็ตาม แต่เย่เชียนก็ไม่รู้ว่าจะพูดมันออกมาอย่างไรดี
“หวังยู่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องตรวจดูคดีฆาตกรรมทั้งวัน มันอาจจะกดดันเธอมากจนเกินไปล่ะมั้งครับ ผมเชื่อว่าเธอนั้นเข้มแข็งมากพอ ไม่นานเธอก็คงจะดีขึ้นเอง” เย่เชียนพูด
“ฉันไม่รู้เลยนะนี่ว่าเสี่ยวเย่จะเรียนด้านจิตวิทยามา” หวังปิงพูด
“ท่านหวังปิงอย่าหยอกผมเล่นสิครับ คนอย่างผมจะไปมีความรู้ด้านจิตวิทยาได้ยังไง ฮ่า ๆ ๆ ” เย่เชียนพูดและหัวเราะเบา ๆ
“เอาล่ะ! มาดื่มกันสักหน่อยมั้ย ?” หวังปิงถาม
“ไม่ดีกว่าครับ… ผมต้องขับรถกลับบ้านน่ะ เมาแล้วขับมันเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงมากนะครับ และผมไม่อยากถูกตำรวจจับอีกแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ” เย่เชียนหัวเราะเบา ๆ เขารู้ว่าหวังปิงนั้นแค่ถามเขาเป็นมารยาทเท่านั้น เพราะไม่มีไวน์สักขวดวางอยู่บนโต๊ะเลย เห็นได้ชัดว่าหวังปิงนั้นไม่ได้ต้องการที่จะดื่ม
หวังปิงยิ้มและพูดว่า “มา ๆ งั้นกินข้าวกันเถอะ!” พูดเสร็จเขาก็หันไปหาหลี่ฮ่าวและพูดว่า “เสี่ยวหลี่! เสียวเย่เป็นพี่ชายของนาย นายควรจะดูแลเขาให้มากกว่านี้นะ”
จากนั้นหวังปิงก็หันไปพูดกับเย่เชียนว่า “เสี่ยวเย่! พวกเราทั้งหมดก็เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน อย่าเกรงใจหรือสุภาพมากนักเลย”
“อ่อ… ครับผม” เย่เชียนพูดแล้วยิ้มเจื่อน ๆ อย่างหมดหนทางกับคำพูดที่ดูคลุมเครือของหวังปิง
หวังปิงพยักหน้าและหันไปหาแจ็ค “แจ็ค! คุณมาจากไหนเหรอ ?”
“อเมริกาครับ… ผมทำงานด้านความมั่นคงสาธารณะรัฐ และประเทศจีนก็เป็นประเทศที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วและก้าวหน้าขึ้นมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมมั่นใจว่าประเทศจีนจะกลายเป็นประเทศมหาอำนาจของโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน เพราะงั้นผมจึงมาศึกษาที่ประเทศจีน เพื่อที่จะได้กลับไปสร้างองค์กรของตัวเองในอนาคตครับ ผมกับคุณเย่พบกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผมก็ศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีนผ่านความรอบรู้ของคุณเย่นี่แหละครับ” แจ็คพูดอย่างคล่องแคล่ว “การลงทุนในเซี่ยงไฮ้ของผมนี่ก็ได้รับคำแนะนำมาจากคุณเย่นี่แหละครับ หลังจากตรวจสอบตามสถานการณ์แล้ว ผมรู้สึกว่ามันมีช่องโหว่ในด้านความปลอดภัยของสังคมในเซี่ยงไฮ้ ทั้งในด้านเทคโนโลยีและด้านบุคลากร ผมหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนที่ดีจากท่านผู้ว่าการหวังในเรื่องนี้”
“ฮ่า ๆ ๆ ประวัติศาสตร์ของชนชาติจีนนั้นมีมาอย่างยาวนานและมีเกียรติที่ยิ่งใหญ่ สถานที่แห่งนี้ได้รับเกียรติจากวีรบุรุษในอดีตมากมาย ฉันหวังว่าเราจะไม่ทำให้คุณแจ็คผิดหวังนะ คุณแจ็คทำงานทางด้านความมั่นคงในประเทศสหรัฐอเมริกา ฉันมั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ของคุณและเทคโนโลยีขั้นสูงของอเมริกาจะทำให้เซี่ยงไฮ้ของเรานี้ได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนมากมายในการพัฒนาในอนาคต ฉันขอพูดตรง ๆ เลยว่า ฉันเองก็รู้สึกขอบคุณพวกคุณมาก” หวังปิงพูดพร้อมหัวเราะเบา ๆ “โอ้ใช่… คุณแจ็คเรียนรู้การพูดภาษาจีนมาจากเสี่ยวเย่อย่างงั้นหรือ ?”
“ใช่ครับ ผมเห็นว่าภาษาจีนนั้นน่าสนใจมาก ตอนที่ผมเรียนอยู่ที่อเมริกา ผมก็ให้พวกนักเรียนแลกเปลี่ยนมาช่วยสอนผมด้วยอีกทางนึง” แจ็คพูด
“คุณแจ็คเรียนที่มหาวิทยาลัยไหนอย่างนั้นหรือ ?” หวังปิงถาม