ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 299 การต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่ง
ตอนที่ 299 การต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่ง
หลังจากที่จู้จือพูดจบแล้วหมาป่าผีไป๋ฮวยก็หัวเราะอย่างเย้ยหยันและพูดว่า “อะไรกันเนี่ย..แกกลัวงั้นเหรอ?”
จู้จือก็ยิ้มอย่างเฉยเมยและไม่ได้พูดอะไรใดๆ ส่วนไอซอลเดแฮมป์ตันก็ผงะไปชั่วขณะและก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันก็ไม่ได้ละเมิดข้อตกลงอะไรเลยหนิ..เพราะเมื่อเรื่องที่นี่จบลงแล้วฉันก็จะจับหมาป่าผีไป๋ฮวยเอง..และจากนั้นทุกคนก็จะมาประชุมกันอีกครั้งเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีจัดการกับมัน”
จู้จือก็แสยะยิ้มและพูดว่า “ก็ถ้าหากฉันตายไป..คุณคิดว่าคุณจะจับเขาได้มั้ยล่ะ?”
“นั่นมันก็เรื่องของฉัน..คุณไม่ต้องรู้หรอก” ไอซอลเดแฮมป์ตันพูด
“ถามไปก็ไร้ประโยชน์..เพราะถึงยังไงแกก็ต้องตายในวันนี้!” ทันทีที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดจบเขาก็ดึงมีดออกมาและพุ่งเข้าไปหาจู้จือ เนื่องจากหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นอยู่ในเขี้ยวหมาป่ามานานหลายปีเขาจึงรู้ดีว่าจู้จือนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน ดังนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยจึงไม่คิดที่จะออมแรงหรือยั้งมือใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเขาจึงหยิบมีดออกมาโดยไม่ลังเลใดๆ
ในสมัยก่อนนั้นจู้จือและกัปตันเทียนเฟิงได้ร่วมกันก่อตั้งกองกำลังทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าขึ้นมา ซึ่งมันก็เป็นความเชื่อมั่นและความุ่งมั่นที่แท้จริงและในเวลานั้นเองไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านความเชี่ยวชาญด้านปืนหรือฝีมือในการต่อสู้ก็ตามเทียนเฟิงนั้นเทียบไม่ได้กับจู้จือเลย แต่ทว่าอย่างไรก็ตามจู้จือนั้นก็ยินดีที่จะถอยมาอยู่เบื้องหลังโดยคอยเป็นผู้สนับสนุนเทียนเฟิงมาโดยตลอดและคอยพิทักษ์เขี้ยวหมาป่าอย่างแท้จริง ซึ่งหากเปรียบองค์กรเขี้ยวหมาป่าดั่งต้นไม้แห่งชีวิตล่ะก็เทียนเฟิงจะเป็นลำต้นและจู้จื้อก็เป็นรากของต้นไม้นั่นเอง ซึ่งอดีตราชาแห่งโลกทหารรับจ้างเสือดาวหิมะก็ถึงกับเคยพูดเอาไว้ว่าหากต้องการเอาชนะและโค่นล้มเขี้ยวหมาป่าล่ะก็สิ่งแรกที่จำเป็นต้องทำเลยคือการกำจัดจู้จือและหน่วยย่อยหมาป่าเพชฌฆาตไปเสียก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งสิ่งนี้ก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าจู้จือนั้นคือผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง!
เมื่อเห็นหมาป่าผีไป๋ฮวยโจมตีเข้ามาจู้จือนั้นก็ไม่ได้รู้สึกประหม่าหรือหวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย จากนั้นร่างกายของเขาก็ถอยกลับหลังเล็กน้อยและรอสวนกลับจังหวะที่หมาป่าผีไป๋ฮวยใช้มีดโจมตีมานั้นได้อย่างชาญฉลาด จากนั้นเขาก็ใช้มือเปล่าๆ รับมีดของหมาป่าผีไป๋ฮวยเอาไว้
หมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดอัฉริยะผู้มากความสามารถในด้านการต่อสู้และเป็นนักสู้อันดับหนึ่งในเหล่าเขี้ยวหมาป่า ดังนั้นความสามารถและทักษะการต่อสู้ของเขานั้นก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ อย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อหมาป่าผีไป๋ฮวยเห็นจู้จือกำลังจะคว้ามีดของเขาเอาไว้เขาจึงหัวเราะออกมาเล็กน้อยและใช้มีดแทงเข้าไปที่ข้อมือของจู้อย่างอย่างรวดเร็ว ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ใช้ข้อศอกของแขนอีกข้างตอกเข้าไปที่ใบหน้าของจู้จืออย่างรุนแรง
เมื่อผู้แข็งแกร่งทั้งสองมาเผชิญหน้ากันตรงๆ แล้วมันก็ย่อมไม่มีใครได้เปรียบใครอย่างแน่นอน ซึ่งในตอนนี้หมาป่าผีไป๋ฮวยก็โกรธเกรี้ยวอย่างมากและด้วยการกระแทกข้อศอกใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายไปตรงๆ นั้นก็ทำให้จู้จือกระเด็นลอยขึ้นไปบนอากาศและหมาป่าผีไป๋ฮวยก็กระโดดตามไปพร้อมกับมีดของเขาเพื่อจะปิดฉากจู้จือ แต่ทว่าจู้จือนั้นก็หลบได้ทันและหลังจากที่เท้าของจู้จือเหยียบลงบนพื้นแล้วจากนั้นจู้จือก็กระโดดสวนขึ้นไปและสวนกลับด้วยหมัดอันทรงพลังของเขาเข้าไปที่หมาป่าผีไป๋ฮวยอย่างรุนแรง
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็ถึงกับผงะไปและรีบใช้มีดของเขาแทงสวนเข้าไปที่หมัดของจู้จืออย่างรวดเร็ว แต่ทว่าเมื่อจู้จือเห็นได้ว่าหมัดของเขากำลังจะไปปะทะกับมีดของหมาป่าผีไป๋ฮวยเช่นนี้ทันใดนั้นกำปั้นของจู้จือก็คลายออกเปลี่ยนเป็นฝ่ามือและคว้าข้อมือของหมาป่าผีไป๋ฮวยเอาไว้อย่างแน่นหนา ส่วนมืออีกข้างหนึ่งของจู้จือก็ตามมาพร้อมกับหมัดอันทรงพลังของเขาและส่งตรงไปที่หมาป่าผีไป๋ฮวยอย่างรุนแรง
การต่อสู้ที่แข็งแกร่งระดับปรมาจารย์เช่นนี้ทำให้ไอซอลเดแฮมป์ตันกับลูกน้องทั้งสองคนต่างก็ตกตะลึงอย่างมาก ซึ่งครั้งหนึ่งนั้นเย่เชียนก็เคยแสดงทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ต่อหน้าต่อตาของเขาแต่ทว่าในตอนนี้การได้เห็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ของเหล่าเขี้ยวหมาป่าแล้วก็ยิ่งทำให้ไอซอลเดแฮมป์ตันประหลาดใจอย่างมาก และเมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็คิดถูกแล้วว่าเขี้ยวหมาป่านั้นคู่ควรกับการเป็นราชาแห่งโลกทหารรับจ้างอย่างจริงแท้ และยิ่งไปกว่านั้นด้วยทักษะเช่นนี้เพียงอย่างเดียวนั้นก็ทำให้ในการออกปฏิบัติภารกิจตัดหัวหรือล่าหัวใครนั้นก็จะทำได้ง่ายดายอย่างมาก
หมาป่าผีไป๋ฮวยเองก็ไม่มีเวลาที่จะมาครุ่นคิดใดๆ เขาจึงรีบโต้กลับด้วยหมัดของเขา แต่ทว่าอย่างไรก็ตามจู้จือนั้นไม่ได้เพิกเฉยหรือชะล่าใจแต่อย่างใดเพราะเมื่อเขาเห็นหมาป่าผีไป๋ฮวยกำลังโต้กลับมาด้วยหมัดเช่นนั้นจู้จือก็ได้ปล่อยหมัดอย่างต่อเนื่องตรงไปที่หน้าอกของหมาป่าผีไป๋ฮวยอย่างรุนแรง ซึ่งภายใต้ความเจ็บปวดนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ถึงกับกระเด็นถอยหลังไปสองสามก้าวพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น
“หืม! ..แกต้องการจะฆ่าฉันด้วยฝีมือแค่นี้น่ะเหรอ..แกประเมินตัวเองสูงเกินไปนะ” จู้จือแสยะยิ้มและพูด ซึ่งหลังจากพูดจบแล้วจู้จือก็รีบพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับถือมีดที่เขาคว้ามาจากมือของหมาป่าผีไป๋ฮวยในทันที ซึ่งในตอนนี้หมาป่าผีไป๋ฮวยก็เผยเจตนาฆ่าที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นและเขาก็ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ทันทีที่จู้จือเข้ามาใกล้เขาแล้วหมาป่าผีไป๋ฮวยจึงก็กลิ้งหลบไปและใช้ขาของเขาเตะเข้าไปที่เป้ากางเกงของจู้จืออย่างรุนแรงจนจู้จือถึงกับอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ถึงยังไงจู้จือก็ยังคงพุ่งไปหาหมาป่าผีไป๋ฮวยอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งหมาป่าผีไป๋ฮวยเองก็กลิ้งตัวหลบอีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของจู้จือ จากนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ดึงมีดอีกเล่มที่ซ่อนอยู่ที่ข้อเท้าของเขาออกมาและแทงไปทางจู้จืออย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดเลยว่าจู้จือนั้นไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์เช่นนี้เพราะเขาถึงกับผงะไปเล็กน้อยและรีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่ถึงยังไงมันก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะมีดเล่มนั้นมันได้เจาะเข้าไปที่ลำตัวของเขาแล้ว ซึ่งในทันใดนั้นร่างทั้งร่างของจู้จือก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างมากที่มันแผ่ออกมา แต่ทว่าจู้จือก็ยังคงใช้มีดแทงสวนเข้าไปที่หมาป่าผีไป๋ฮวยอย่างรุนแรงเช่นกัน ซึ่งหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นก็หลับไม่ทันเช่นกัน ซึ่งเมื่อหมาป่าผีไป๋ฮวยรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดแล้วจู้จื้อก็ดึงมีดออกจากหมาป่าผีไป๋ฮวยและจับข้อมือของหมาป่าผีไป๋ฮวยเพื่อพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดึงมีดที่หมาป่าผีไป๋ฮวยแทงเขาอยู่ออกมา แต่ทว่าอย่างไรก็ตามมีหรือที่หมาป่าผีไป๋ฮวยจะพลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้ เพราะแน่นอนว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะไม่ปล่อยจู้จือไปง่ายๆ อย่างแน่นอน
ทันใดนั้นจู้จือก็ตะโกนอย่างเดือดดาลและเลือดของเขาก็ไหลออกมาอย่างไม่หยุดไม่ยั้ง ซึ่งเมื่อเห็นเช่นนี้หมาป่าผีไป๋ฮวยก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แต่ทว่าเสียงหัวเราะนั้นมันไม่ได้หมายถึงความสุขใดๆ แต่เป็นเพียงความเศร้าและความเสียใจมากกว่า
ไอซอลเดแฮมป์ตันและลูกน้องสองคนของเขาก็ขมวดคิ้วแน่นและเต็มไปด้วยความสยดสยองกับฉากตรงหน้า
หมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นใช้มือลากมีดที่แทงอยู่ที่ร่างกายของจู้จื้อโดยกรีดลำตัวของจู้จืออย่างน่าสยดสยองและด้วยความเจ็บปวดควบคู่ไปกับการเสียเลือดอย่างมากจึงทำให้จิตใจและจิตวิญญาณของจู้จือนั้นสูญเสียไปชั่วขณะ แต่ทว่าจู้จือเองก็ไม่คิดว่าเขาจะพ่ายแพ้ให้กับหมาป่าผีไป๋ฮวยเช่นนี้ จู้จือก็กัดฟันแน่นและพูดอย่างหนักแน่นและแน่วแน่ว่า “ฉันจะไม่ปล่อยให้มันมาทำลายเขี้ยวหมาป่าอย่างเด็ดขาด!”
ทันทีที่พูดจบจู้จือก็เตะไปที่ลำตัวของหมาป่าผีไป๋ฮวยอย่างรุนแรง ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นไม่ได้คาดหวังถึงผลลัพธ์เช่นนี้เพราะจนกระทั่งเวลาเช่นนี้จู้จือกลับยังคงมีความแข็งแกร่งที่พร้อมจะตอบโต้เช่นนี้ได้ ด้วยความประหลาดใจอย่างมากหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ถึงกับต้องกลิ้งถอยออกไปด้านหลัง
ในเวลานี้จู้จือก็จับด้ามของมีดที่มันกำลังปักอยู่ที่ร่างกายของเอาไว้อย่างแน่นและดึงมันออกมาอย่างดุเดือดและทันใดนั้นเลือดของเขาก็พุ่งออกมาราวกับน้ำพุ จากนั้นจู้จือก็ประคบแผลลึกของเขาเอาไว้ด้วยเสื้อของเขาอย่างรวดเร็วและจ้องเขม็งไปที่หมาป่าผีไป๋ฮวยและพุ่งเข้าไปหาอย่างต่อเนื่อง
จู้จือผู้ที่ตัดสินใจทิ้งชีวิตและความตายไปแล้วในตอนนี้นั้นซึ่งอย่างน้อยๆ เขาก็ต้องตายไปพร้อมๆ กับหมาป่าผีไป๋ฮวย ซึ่งจู้จือนั้นพุ่งเข้าไปหาหมาป่าผีไป๋ฮวยด้วยเจตจำนงของเหล่าเขี้ยวหมาป่าในวาระสุดท้ายของเขา ซึ่งเมื่อเห็นเช่นนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็หัวเราะและพูดว่า “ใกล้ตายแล้วแต่แกยังดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์อยู่ได้อีกนะ!” หมาป่าผีไป๋ฮวยก็หลบหลีกอย่างรวดเร็วและคว้าข้อมือของจู้จือเอาไว้และดันมันกลับไปแทงที่หน้าอกของจู้จือเอง หลังจากนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็หมุนตัวเตะซ้ำเข้าไปที่มีดเล่มนั้นที่ปักอยู่จนมันทะลุไปถึงหลังของจู้จืออย่างน่าสยดสยองอย่างแท้จริง
จู้จือก็เดินโซซัดโซเซออกไปไม่กี่ก้าวและรอยยิ้มที่น่าเศร้าก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาและเขาก็พึมพำว่า “ไอ้หนูเย่เชียนเอ๋ย..ฉันหวังว่าเอ็งจะไม่ทำให้เทียนเฟิงต้องผิดหวังนะเหอะๆ ..อึกอึก..เทียนเฟิง..ฉันมาหานายแล้ว”
หลังจากพูดจบร่างของจู้จือก็ค่อยๆ ล้มลงกับพื้น หัวหน้าหน่วยย่อยหมาป่าเพชฌฆาตผู้แข็งแกร่ง ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกอดีตราชาแห่งโลกทหารรับจ้างเสือดาวหิมะขนานนามว่าเป็นบุคคลที่น่ากลัวที่สุด บัดนี้เขาได้สิ้นชีพลงบนทะเลทรายแห่งนี้แล้ว…
“เอื้อออออ๊าาาา! ..” เมื่อมองไปที่ร่างอันไร้วิญญาณของจู้จือแล้วหมาป่าผีไป๋ฮวยก็เงยหน้าขึ้นและตะโกนออกมาด้วยเสียงที่น่าสังเวชและอำมหิตอย่างมาก
“หมาป่าผีไป๋ฮวย! ..ถึงเวลาของแกแล้ว!” ไอซอลเดแฮมป์ตันพูด ซึ่งทันทีที่พูดจบลูกน้องทั้งสองคนของเขาก็จ่อปืนไปที่หมาป่าผีไป๋ฮวยอย่างรวดเร็ว
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็ค่อยๆ หันกลับมามองไปที่ไอซอลเดแฮมป์ตันและแสยะยิ้มอย่างเย็นยะเยือกจากนั้นก็พูดว่า “หืม! ..คุณจะฆ่าฉันงั้นเหรอ?”
“ไม่ว่าทักษะการต่อสู้ของแกจะยอดเยี่ยมแค่ไหนก็เถอะ..ถึงยังไงแกก็ไม่สามารถหนีจากลูกตะกั่วไปได้หรอกใช่มั้ย!” ไอซอลเดแฮมป์ตันพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน “ฉันต้องกำจัดแก..เพื่อที่แกจะได้ไม่กลายเป็นปัญหาใหญ่ของเย่เชียนในภายหลัง”
“เดี๋ยว!” จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นและทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองและเห็นเย่เชียนที่กำลังวิ่งเข้ามา
“เย่เชียน!” ไอซอลเดแฮมป์ตันตะโกนออกมาด้วยความดีใจ และถึงแม้ว่าเขาจะรู้ได้จากหมาป่าผีไป๋ฮวยแล้วว่าเย่เชียนนั้นยังไม่ตายก็ตาม แต่ทว่าการได้เห็นเย่เชียนด้วยตาของตัวเองเช่นนี้นั้นก็ทำให้ไอซอลเดแฮมป์ตันรู้สึกตื่นเต้นและโล่งใจอย่างมาก
เย่เชียนยิ้มให้ไอซอลเดแฮมป์ตันเล็กน้อยและมองไปที่ร่างอันไร้วิญญาณของจู้จือบนพื้นและเย่เชียนก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ จากนั้นเย่เชียนก็เงยหน้าขึ้นช้าๆ และมองไปที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพร้อมกับพูดว่า “ผมไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้”
“มาเถอะ! ..วันนี้ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งแหละที่ต้องตาย!” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดอย่างเยือกเย็น “ฉันฆ่าพี่ใหญ่ของพวกเอ็งไปแล้ว..และฉันก็จะฆ่าเอ็ง..จากนั้นก็พวกหมาป่าที่เหลือ..และฉันก็จะทำลายเขี้ยวหมาป่าให้สิ้นซาก..เพราะนี่คือพิธีรำลึก การตายของพี่ชายแท้ๆ ของฉัน!”
ไอซอลเดแฮมป์ตันพูดอย่างดุดันว่า “แกจะเอาชนะพวกเราด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง..แกลืมไปแล้วเหรอว่าที่นี่มันเป็นทะเลทราย..มันไม่มีที่ให้แกซุกหัวหรอก..แกจะหนีลูกตะกั่วของพวกเราไปได้ยังไง!”
เย่เชียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “ท่านนายพลไอซอลเด..นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับไป๋ฮวย..ให้เราจัดการกันเองเถอะ..คุณอย่ายื่นมือเข้ามาเลย..ผมขอร้อง”
“แต่… “ไอซอลเดแฮมป์ตันพูดด้วยความกังวลเพราะเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของหมาป่าผีไป๋ฮวยมาต่อหน้าต่อตาเขาแล้ว ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงเป็นห่วงเย่เชียนอย่างมาก
“ไม่ต้องกังวลครับ!” เย่เชียนพูดและยิ้มให้ไอซอลเดแฮมป์ตัน จากนั้นเย่เชียนก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับพูดว่า “พี่ไป๋ฮวย..ผมไปหาอาจารย์มาเมื่อไม่กี่วันก่อน”
“จริงเหรอ..เขายังไม่ตายอีกเหรอ!” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดอย่างเย็นชา
ปากของเย่เชียนกระตุกสองสามครั้งจากนั้นก็พูดว่า “หยุดเถอะพี่..เรายังเป็นพี่น้องกันอยู่มั้ย”
“เอ็งก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้..เอ็งกับฉันน่ะ..คนที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้มันมีได้เพียงคนเดียว!” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูด
เย่เชียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “เอาล่ะ..มาเถอะ..ใครจะอยู่หรือใครจะไปก็มาตัดสินกันให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย!”
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็แสยะยิ้มและพูดว่า “ดี! ..ดูเหมือนว่าเอ็งจะตัดสินใจได้แล้วสินะ” หลังจากพูดจบเจตนาฆ่าและจิตสังหารก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของหมาป่าผีไป๋ฮวย จากนั้นเท้าของเขาก็เริ่มขยับและร่างทั้งร่างก็พุ่งเข้าไปหาเย่เชียนอย่างรวดเร็ว
พวกเขาทั้งสองคนนั้นไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมหรือแผนการอะไรใดๆ เลยทั้งสิ้นและมันก็ไม่เหมือนกับการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตาย ซึ่งมันเป็นเหมือนการสนทนาระหว่างพี่น้องเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามมีเพียงพวกเขาทั้งสองคนเท่านั้นที่สามารถเข้าใจได้ว่ามันคือชีวิตและความตายอย่างจริงแท้และไม่มีใครกล้าที่จะประมาทเลย เพราะต่างคนต่างก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นจะไม่เมตตาและไม่เห็นใจใดๆ ไม่ว่าเราจะตายหรือเขาจะตายก็ตาม
ไอซอลเดแฮมป์ตันที่เฝ้าดูอยู่ใกล้ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นและตกตะลึงอย่างมาก เพราะการต่อสู้ระหว่างหมาป่าผีไป๋ฮวยกับจู้จื้อเมื่อครู่นี้นั้นเป็นการต่อสู้ที่นองเลือดและห้ำหั่นกันจนน่าหวาดกลัว แต่ทว่าในตอนนี้นั้นมันเป็นการต่อสู้ระหว่างหมาป่าผีไป๋ฮวยและราชาหมาป่าเย่เชียนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ เพราะทั้งสองคนสลับกันจู่โจมกันไปๆ มาๆ เหมือนกับการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก
“ฉึก! …” ในทันใดนั้นมีดของราชาหมาป่าเย่เชียนและหมาป่าผีไป๋ฮวยต่างก็แทงเข้าไปที่หน้าอกของกันและกันจนแทบจะพร้อมกันในพริบตาเดียว!
.
.
.
.
.
.
.