ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 321 การแถลงข่าว
ตอนที่ 321 การแถลงข่าว
งานตัดริบบิ้นโครงการและกองทุนต่างๆ รวมไปถึงการแถลงข่าวในครั้งนี้นั้นได้รับการรักษาความสงบเรียบร้อยโดยเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทไอร่อนบลัด ซึ่งสถานการณ์โดยรวมในตอนนี้ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งเหล่าสื่อมวลชนและแขกที่เข้าร่วมงานต่างก็เข้ามาในล็อบบี้ของโรยแรงและนั่งลงกันอย่างเป็นระเบียบ
หลังจากที่ทุกคนนั่งลงแล้วซ่งหลันก็โบกมือขึ้นและตบไมโครโฟนสองสามครั้งเบาๆ และพูดว่า “แขกผู้มีเกียรติทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบนะคะ” เสียงที่ดูวุ่นวายจากการพูดคุยกันของเหล่าแขกและสื่อมวลชนภายในล็อบบี้ก็หายไปอย่างรวดเร็วและนักข่าวต่างก็หยุดการสนทนากันไปทีละคนๆ “งานแถลงข่าวของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปและกองทุนแห่งอนาคตจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้ค่ะ..พี่ๆ น้องๆ จากสื่อมวลชนทั้งหลายอย่าลังเลที่จะถามคำถามใดๆ ..ทางเรายินดีตอบทุกคำถามค่ะ!” ซ่งหลันพูดอย่างมืออาชีพ “นี่คือCEOของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปของเราคุณเย่เชียนค่ะ..ส่วนนี่คือคุณหลินโรวโร่วผู้จัดการกองทุนแห่งอนาคตของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปของเรา..ส่วนท่านต่อไปดิฉันเชื่อว่าทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี..ท่านหวังปิงผู้ว่าการเทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้ของเราและคุณผู่ซู่จิ่วผู้อำนวยการกระทรวงการศึกษาธิการเมืองเซี่ยงไฮ้ของเราค่ะ”
“โปรดยกมือขึ้นเพื่อถามคำถามได้เลยค่ะ..ทางเราจะให้คำตอบอย่างละเอียดสำหรับคำถามทั้งหมดของคุณผู้สื่อข่าว” หลินโรวโร่วพูด
“สวัสดีค่ะ..ฉันเป็นนักข่าวจากสำนักข่าวซินหัว..ฉันอยากจะถามว่าเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเป็นองค์กรที่ได้รับทุนจากต่างประเทศและเป็นองค์กรเงินทุนระดับโลก..แล้วเหตุใดจึงจัดตั้งกองทุนดังกล่าวขึ้นมาและมีจุดประสงค์อะไรคะ? ..ขอบคุณค่ะ”
เย่เชียนเป็นคนรับหน้าที่ตอบหัวข้อนี้ด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็พูดว่า “คำถามของคุณนักข่าวคนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นมิตรสักหน่อยนะฮ่าๆ ..เครือน่านฟ้ากรุ๊ปน่ะก่อตั้งในต่างประเทศและพัฒนาในต่างประเทศก็จริง..แต่ผมก็เป็นคนจีนเชื้อสายชาวจีนแท้ๆ ..และผมก็ไม่ได้ลืมตัวตนของผมในฐานะชาวจีน..และผมเองก็ไม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ..เพราะงั้นผมจึงคิดว่าเราควรจะตอบแทนสังคมบ้าง..และสิ่งนี้ก็ควรเป็นความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ของทุกคนเพราะนับตั้งแต่ก่อตั้งเครือน่านฟ้ากรุ๊ปขึ้นมาพวกเราก็ได้จัดตั้งกองทุนบรรเทาทุกข์ขึ้นเป็นพิเศษซึ่งรวมถึงกองทุนนักเรียนกองทุนการแพทย์กองทุนช่วยเหลือสังคมเป็นต้น..และล่าสุดก็กองทุนแห่งอนาคตที่เราแยกออกจากกองทุนทั้งหมดเป็นพิเศษ…เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและให้บทบาทของกองทุนนี้อย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือนักเรียนและเด็กยากไร้ที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถอ่านและศึกษาได้อย่างเต็มที่และคลายความกังวลในฐานะพลเมืองคนหนึ่งที่ด้อยโอกาส..เพราะงั้นเราควรแบ่งปันความรับผิดชอบบางประการให้กับประเทศและรัฐบาลบ้าง..ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อประเทศชาติของเราและเพื่อเป็นการขอบคุณเพื่อนร่วมชาติของเรานั่นเอง”
“สวัสดีครับคุณเย่..ผมเป็นนักข่าวจากสำนักข่าวของรัฐ..คำถามของผมคือทำไมคุณถึงแยกกองทุนแห่งอนาคตออกจากกองทุนอื่นๆ ล่ะครับ..แล้วทำไมคุณถึงใช้ชื่อนี้? ..ขอบคุณครับ!”
“ทำไมต้องแยกกันน่ะหรอ..ผมบอกได้แค่ว่าเราต้องบริหารและดูแลและผลักดันกองทุนนี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น..เพราะตอนที่ผมยังเด็กน่ะผมยากจนและไม่มีเงินเรียนแม้แต่จะไปศึกษาเล่าเรียนดังนั้นผมจึงรู้ดีว่าความทุกข์ทรมานของนักเรียนที่โชคชะตากลั่นแกล้งและมีชีวิตที่ไม่เรียบง่ายจนไม่สามารถเรียนได้ของเด็กๆ เหล่านั้นเป็นอย่างดี..เพราะฉะนั้นกองทุนนี้จึงก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักเรียนเหล่านั้นที่ด้อยโอกาสน่ะครับ” เย่เชียนพูดต่อ “ส่วนสาเหตุที่ทำไมกองทุนนี้ถึงมีชื่อว่ากองทุนแห่งอนาคตนั่นก็เพราะว่าผมน่ะคิดว่าพวกเขาคืออนาคตของชาติและอนาคตของประเทศจีนต่อๆ ไป..ซึ่งถ้าหากว่าพวกเขาได้โอกาสเหล่านี้ไปผมเชื่อว่าพวกเขาจะนำพาความรุ่งโรจน์และอนาคตที่ดีมาสู่ประเทศของเราอย่างแน่นอนครับ!”
“สวัสดีครับคุณเย่..ผมเป็นนักข่าวจาก News Daily ผมอยากถามว่ากองทุนนี้ทำงานกันอย่างไรและมีรูปแบบการปฏิบัติแบบไหนและพวกคุณจะแยกแยะนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ ได้อย่างไร..และมูลนิธิกองทุนแห่งอนาคตที่จัดตั้งขึ้นในครั้งนี้ก็เพื่อผลกำไรของบริษัทและชื่อเสียงเหมือนมูลนิธิอื่นๆ ที่ผ่านมาหรือไม่ครับ! ..ขอบคุณครับ!”
“ผมขอตอบคำถามสุดท้ายของคุณก่อนนะครับ” เย่เชียนพูด “ผมเองก็ยอมรับว่าตอนนี้หลายๆ คนในสังคมตีตราและมองมูลนิธิกองทุนเป็นเพียงใบเบิกทางเพื่อหากำไรหรือได้รับชื่อเสียงเพียงเท่านั้น..แต่ทว่าผมนั้นมั่นใจว่ากองทุนแห่งอนาคตนี้จะมีบทบาทและช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ และจะเป็นรูปธรรมให้ทุกคนได้เห็นกันจริงๆ ครับ..โดยครั้งนี้มีท่านผู้ว่าการหวังและผู้อำนวยการผู่ที่รับหน้าที่กำกับดูแล..เพราะฉะนั้นเรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ..เครือน่านฟ้ากรุ๊ปของเราก็เป็นองค์กรขนาดใหญ่ระดับนานาชาติและเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพูดถึงเรื่องนี้..ผมพูดได้เลยว่าผมได้ใช้เงินทุนไปกับกองทุนนี้เป็นจำนวนมหาศาลและพูดตรงๆ ได้เลยว่าเครือน่านฟ้ากรุ๊ปจะไม่ได้รับกำไรใดๆ จากเรื่องนี้เลย..ผมไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพูดนะครับเรื่องทำเพื่อให้ได้ชื่อเสียงและเกียรติยศอย่างที่คุณกล่าวมา..อันที่จริงแล้วผมเองก็ไม่ได้ต้องการมีส่วนร่วมในการออกหน้าและตัดริบบิ้นของกองทุนแห่งอนาคตนี้เลย..แต่ท่านผู้ว่าการหวังและผู้อำนวยการผู่ต่างก็วางงานในมือและสละเวลามาที่นี่ผมจึงละอายใจที่ต้องซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังมาตลอด..ยังไงก็เถอะสำหรับเรื่องชื่อเสียงและความมั่งคั่งนั้นก็เหมือนกับสำนวนที่ว่าคนใจดีมักจะมองเห็นคนที่มีเมตตาและคนฉลาดก็มักจะมองเห็นโอกาส..เพราะฉะนั้นผมจึงไม่สามารถไปเปลี่ยนความคิดของทุกคนได้..แต่ว่าเมื่อถึงเวลาทุกคนก็จะรู้เองในอนาคตว่าผมจัดตั้งกองทุนนี้เพื่อสร้างชื่อเสียงหรือความมั่งคั่งหรือไม่นั้นรอดูกันได้เลยครับ”
หลังจากที่หยุดพักไปชั่วครู่เย่เชียนก็หยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบชาแล้วพูดว่า “สำหรับวิธีการดำเนินงานของมูลนิธิกองทุนแห่งอนาคตนั้นเชิญถามคุณหลินโรวโร่วผู้จัดการของกองทุนแห่งอนาคตได้เลยครับ..เพราะเธอจะเป็นคนดูแลจัดการเกี่ยวกับกองทุนแห่งอนาคตทั้งหมดครับ..ขอบคุณครับ!”
“การดำเนินงานและวิธีการของกองทุนแห่งอนาคตนั้นโดยพื้นฐานแล้วจะต้องผ่านการจัดสรรรายปีของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปและรวมกับการบริจาคจากสาธารณะ..ซึ่งกองทุนส่วนนี้จะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าใดๆ ค่ะ..และดิฉันก็มีหน้าที่ดูแลและจัดการสิ่งต่างๆ ..ในส่วนของบุคลากรหรือเจ้าหน้าที่ของโครงการนั้นคือจะต้องผ่านการสมัครและการสอบสวนจริงของรัฐบาลอย่างถี่ถ้วนรวมไปถึงการสอบสวนประวัติอย่างเคร่งครัดและจะต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเราด้วย..และเนื่องจากกองทุนนี้เพิ่งจะเริ่มดำเนินการเพราะฉะนั้นก็อาจจะมีข้อผิดพลาดในการดำเนินงานบางประการแต่ทางเราจะพยายามให้ทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือเพื่อได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนแห่งอนาคตนี้อย่างทั่วถึงและบุคลากรที่รับผิดชอบการดำเนินงานทั้งหมดของกองทุนนี้ก็คือพนักงานของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปโดยตรงและเงินเดือนของพวกเขาก็จะจ่ายโดยเครือน่านฟ้ากรุ๊ปโดยตรง..เพราะฉะนั้นจะไม่มีการใช้เงินของกองทุนแห่งอนาคตใดๆ อย่างแน่นอน..ทั้งนี้ทั้งนั้นกองทุนแห่งอนาคตนี้เป็นกองทุนเพื่อสังคมดังนั้นเราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีอาสาสมัครจำนวนมากที่เต็มใจเข้าร่วมมูลนิธิกองทุนของเราเพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของกองทุนเพื่อให้กองทุนของเราทั่วถึงและกว้างขวางมากขึ้นค่ะ” หลินโรวโร่วพูด
มีเสียงปรบมือจากผู้ชมและแขกผู้มีเกียรติรอบหนึ่งหลังจากนั้นก็มีผู้หญิงอีกคนก็ยืนขึ้นและถามว่า “สวัสดีค่ะคุณเย่..ฉันเป็นนักข่าวจาก Global Daily ฉันอยากจะถามว่าคุณเย่คิดยังไงเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมบ้างคะ..ขอบคุณค่ะ!”
“ประเด็นเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมก็ค่อนข้างกว้างขวางเลยนะ..แต่ผมเข้าใจในความหมายแคบๆ โดยรวมก็คือทุกคนสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้และในขณะที่ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่เราก็ตอบแทนสังคมไปด้วยได้..และก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเงินก้อนใหญ่อะไรเลยในการทำเพื่อสังคม..ยกตัวอย่างเช่นถ้าหากคุณพบหญิงมีครรภ์บนรถประจำทางคุณก็ลุงให้เธอนั่ง..และถ้าหากคุณพบหญิงชราบนถนนแล้วช่วยเธอข้ามถนนนั่นก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว..เพราะฉะนั้นผมก็เชื่อว่าตราบใดที่ทุกคนยังมีจิตสำนึกเพื่อนร่วมโลกแล้วล่ะก็เราทุกคนก็สามารถตอบแทนสังคมได้แล้ว..และถ้าเป็นแบบนั้นประเทศชาติของเราก็จะมีเสถียรภาพมากขึ้นและมั่นคงมากขึ้นและสังคมก็จะมีความสามัคคีกันมากขึ้นและนำมาซึ่งความรุ่งโรจน์และความเจริญรุ่งเรืองนั่นเอง” เย่เชียนพูด
“สวัสดีครับคุณเย่..ผมเป็นนักข่าวบันเทิงจาก Gossip Weekly ผมอยากจะถามว่าตั้งแต่ที่เครือน่านฟ้ากรุ๊ปเข้ามาในประเทศจีนประธานก็คือคุณซ่งหลันไม่ใช่หรือครับ..เพราะงั้นทำไมคุณเย่ถึงไม่เคยแสดงตัวต่อหน้าสาธารณะเลยล่ะครับ..และภูมิหลังของครอบครัวคุณเย่ล่ะครับเป็นยังไงบ้าง? ..ขอบคุณครับ!”
เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ และพูดขึ้นมาว่า “คำถามที่คุณถามเนี่ยเป็นเรื่องส่วนตัวเลยนะ..แต่ก็ไม่เป็นไรในเมื่อคุณต้องการที่จะทราบ..เพราะงั้นผมก็จะบอกคุณเอง..เรื่องของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปน่ะคุณซ่งหลันบริหารจัดการมาโดยตลอด..ส่วนผมก็มีหน้าที่รับผิดชอบในการวางแผนและกำหนดทิศทางและวิสัยทัศน์เท่านั้น..และผมก็ไม่ค่อยที่จะมีส่วนร่วมในเรื่องต่างๆ ของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสักเท่าไหร่..เพราะงั้นผมจึงไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณะน่ะครับ..ส่วนเรื่องครอบครัวของผมน่ะความทรงจำเกี่ยวกับพ่อและแม่แท้ๆ ของผมน่ะเลือนรางไปหมดแล้ว..แม้กระทั่งตอนนี้เองผมก็ไม่รู้เลยว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วกันแน่..ส่วนคนที่เลี้ยงดูผมมาน่ะเขาเป็นชายชราและที่ผมเรียกเขาว่าชายชราน่ะก็เพราะว่าเขาเป็นเพียงชายชราคนหนึ่งที่เก็บขวดและเศษขยะขาย..แต่เขาก็ไม่เคยลังเลเลยที่จะรับเลี้ยงเด็กกำพร้าถึงสี่คน..ในใจของผมน่ะผมรู้สึกว่าสิ่งที่ชายชราทำนั้นให้พวกผมนั้นน่านับถือที่สุดในชีวิตและสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้น่ะก็เพื่อเป็นการสานต่อความดีและความเมตตาของเขาครับ”
มีเสียงปรบมือดังสนั่นขึ้นอีกรอบจากผู้ชมและแขกซึ่งมอบให้กับเย่เชียนและพ่อของเขาด้วยเช่นกัน
“คุณเย่ครับ! ..เมื่อครู่นี้เราเห็นว่าคุณเย่กับคุณหลินเดินออกมาพร้อมกันและควงแขนกันแบบนั้น..พวกคุณทั้งสองเป็นคู่รักหรือกำลังคบหาดูใจกันอยู่หรือเปล่าครับ?” นักข่าวบันเทิงจาก Gossip Weekly ยังคงถามต่อในประเด็นอื้อฉาว
เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เรื่องนี้ผมเชื่อว่านักข่าวสายบันเทิงแบบคุณน่ะสามารถหาคำตอบเองได้..เพราะตอนนี้หัวข้อในการแถลงข่าวของเรายังคงมุ่งเน้นไปที่มูลนิธิกองทุนแห่งอนาคตนะครับ..เพราะเรื่องนี้เป็นประเด็นหลักของวันนี้..และผมเองก็แค่ตอบในนามของผมเท่านั้นเอง”
“สวัสดีค่ะท่านผู้ว่าการหวัง..ดิฉันเป็นนักข่าวจาก China Summer Daily ดิฉันอยากจะถามว่าคุณคิดยังไงกับมูลนิธิกองทุนแห่งอนาคตครั้งนี้..ขอบคุณค่ะ!”
“ฮ่าๆ ..พวกเราในฐานะรัฐบาลก็ต้องสนับสนุนเรื่องนี้แน่นอนอยู่แล้ว..มูลนิธิกองทุนแห่งอนาคตน่ะคือการกระทำที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนเพราะฉะนั้นแน่นอนว่ารัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว..เราเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีผู้คนในสังคมเข้าร่วมมูลนิธิมากขึ้น..เพราะถึงยังไงบุคลากรในตอนนี้ก็มีจำนวนที่จำกัดถ้าหากมีผู้เข้าร่วมมากขึ้นก็จะทำให้มูลนิธินี้กว้างขวางยิ่งขึ้น..ซึ่งถ้าตราบใดที่ทุกคนสามัคคีกันและมาเข้าร่วมช่วยสนับสนุนกันฉันก็เชื่อว่าสังคมของเราจะปรองดองยิ่งขึ้น!”
“สวัสดีครับคุณเย่..ผมเป็นนักข่าวจาก Economic Daily ผมอยากจะถามว่าทิศทางและวิสัยทัศน์ในการพัฒนาของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปในอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไรครับ..ขอบคุณครับ!”
“ทิศทางและวิสัยทัศน์โดยรวมของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็คือการเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจความบันเทิงและการเงินครับ..สำหรับแผนดำเนินการเฉพาะเจาะจงเราก็ต้องถามประธานบริหารคุณซ่งหลันครับผม” เย่เชียนพูด
ซ่งหลันก็พูดว่า “ทิศทางการพัฒนาที่เฉพาะเจาะจงนั้นเกี่ยวข้องกับความลับทางการค้าค่ะ..ดิฉันขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ตอบนะคะ..แต่ดิฉันสามารถบอกคุณได้ว่าการพัฒนาของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปน่ะจะไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ..เพราะในขณะที่กำลังพัฒนานั้นพวกเราก็จะให้ความสำคัญกับประเด็นความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้นด้วยค่ะ..วอนพี่ๆ น้องๆ ประชาชนและแขกผู้มีเกียรติทุกท่านโปรดติดตามวิสัยทัศน์ของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปของเราได้เลยค่ะ”
“งานแถลงข่าวของวันนี้จะสิ้นสุด ณ ตอนนี้แล้วค่ะ..พี่ๆ น้องๆ นักข่าวสามารถพักทานอาหารได้นะคะ..ทางเราได้เตรียมของว่างเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ให้แล้วค่ะและดิฉันก็หวังว่าพี่ๆ น้องๆ นักข่าวจะชอบนะคะ” ซ่งหลันพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์และงดงาม
“พรึบๆ ..!” จู่ๆ เสียงปรบมือปริศนาก็ดังมาจากด้านนอกตามด้วยเสียงของชายชราว่า “การกระทำของคุณเย่น่ะเป็นแบบอย่างที่ดีของโลกใบนี้!”
ทันทีที่สิ้นเสียงพูดสายตาของทุกคนต่างก็หันไปจับจ้องโดยไม่ได้ตั้งใจและหลังจากที่เหล่าผู้สื่อข่าวเห็นชายชราคนนั้นพวกเขาก็เริ่มถ่ายรูปกันอย่างดุเดือดและสถานการณ์ดังกล่าวก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนกกันอีกครั้ง ซึ่งเย่เชียนเองก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมามองและปรากฏว่าเป็นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่มาพร้อมกับชายชราอีกคนและเหล่าบอดี้การ์ดที่เดินเข้ามาช้าๆ อย่างสง่าผ่าเผย
.
.
.
.
.
.
.