ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 328 วิธีที่ดีที่สุดในการฆ่า
ตอนที่ 328 วิธีที่ดีที่สุดในการฆ่า
ในขณะที่เย่เชียนทำแบบนี้เขาก็ยังคงมีความกังวลใจอยู่บ้างเพราะเขาต้องระมัดระวังในการพูดอย่างมากเพราะบทสนทนาระหว่างเขากับหลี่ลู่หลานนั้นก็ถูกส่งตรงไปยังห้องของหลินยี่อีกด้วยซึ่งหลินโรวโร่วเองก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเย่เชียนเองก็กลัวว่าเขาอาจจะถูกภรรยาของเขาลงโทษอยู่เหมือนกันถ้าหากว่าเขาพูดอะไรที่ไม่สมควรออกไป
เมื่อเห็นว่าหลินยี่กำลังจะพรวดพราดออกไปเช่นนี้หลินโรวโร่วก็ยืนขึ้นและตะโกนว่า “หยุดเดี๋ยวนี้!” หลินยี่เองก็ยังคงกลัวความโกรธเกรี้ยวของหลินโรวโร่วอยู่เช่นกันดังนั้นเขาเลยหยุดอย่างเชื่อฟังและหลินโรวโร่วก็พูดด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “ตั้งแต่ต้นจนจบนายเองก็ได้ยินแล้วนี่! ..แล้วทำไมถึงยังคิดว่าเย่เชียนกำลังล่อลวงหลี่ลู่หลานอยู่กันล่ะ? ..นายก็เห็นแล้วหนิว่าหลี่ลู่หลานกำลังล่อลวงและยั่วยวนพี่เขยของนายอยู่..เธอไม่ได้รักนายหรอก..แล้วนายยังเป็นลิงโง่ที่คิดเองเออเองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์แบบนั้น..และตอนที่เย่เชียนบอกนายน่ะนายก็ไม่เชื่อ..แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ? ..นายก็ยังหลอกตัวเองอยู่อีก..นายมันเด็กโง่..นายมันอ่อนต่อโลกภายนอกเกินไป”
หลินยี่กัดฟันแน่นและเดินกลับไปที่โซฟาและนั่งลงอย่างโกรธเกรี้ยว
ถึงแม้ว่าเย่เชียนต้องการที่จะสัมผัสหน้าอกของหลี่ลู่หลานมากแค่ไหนก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็ต้องหลีกเลี่ยงและยับยั้งชั่งใจเอาไว้ เพราะไม่เช่นนั้นมันอาจจะไม่สามารถแก้ไขอะไรใดๆ ได้อีกและเย่เชียนก็ต้องคุกเข่าลงต่อหน้าของหลินโรวโร่วอย่างแน่นอน หลังจากนั้นเย่เชียนก็หัวเราะแห้งๆ และสะบัดมือออกและพูดว่า “คุณหลี่..ผมไม่สนใจซิลิโคนหรือถุงน้ำเกลือของคุณหรอกนะ..เพราะผมค่อยกลับบ้านไปแล้วซื้อเนื้อหมูมาบีบเล่นซะยังดีกว่า”
คิ้วของหลี่ลู่หลานก็ขมวดเข้าหากันแน่นในทันทีและเธอก็รู้สึกตัวได้แล้วว่าเย่เชียนนั้นกำลังเล่นตลกกับเธออยู่ เมื่อคิดเช่นนั้นเธอก็พูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “คุณเย่คะ..ถ้าวันนี้คุณมาเพื่อแค่ล้อฉันเล่นก็พอเถอะค่ะ!” หลังจากนั้นเธอก็หันหลังกลับไป
“คุณหลี่! ..คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิครับ..ผมขอโทษ..ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น..จริงๆ แล้วผมเห็นว่าคุณหลี่น่ะสวยมากจนคิดว่าคุณไปทำศัลยกรรมมาน่ะ..ก็เพราะว่าคุณสวยเกินไป..คำพูดของผมอาจจะสื่อออกมาได้ไม่ดี..เพราะผมทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ต่อหน้าคุณ..ผมหวังว่าคุณจะยกโทษให้ผมนะครับ” เย่เชียนยิ้มและพูด
“คุณประหม่าเพราะฉันหรอ” หลี่ลู่หลานหันกลับมาและถาม ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะรู้นิสัยของผู้ชายได้เป็นอย่างดี และเธอก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าด้วยประสบการณ์ระยะยาวของเย่เชียนที่ได้รับมาจากซ่งหลันนั้นเย่เชียนเองก็ยอมรับเลยว่าหลี่ลู่หลานคนนี้มีเสน่ห์ที่ดึงดูดใจของผู้ชายอย่างมาก
เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ อย่างมีความสุขและเดินเข้าไปหาเธออย่างคลุมเครือและถามว่า “ช่างมันเถอะ..ว่าแต่คุณหลี่มีแฟนรึยังครับ..เพราะเมื่อไม่นานมานี้ตอนที่ผมยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาน่ะเหมือนว่าผมจะเห็นคุณไปดินเนอร์กับผู้ชายคนนึง”
“ประเทศอเมริกาน่ะหรอ?” หลี่ลู่หลานก็ขมวดคิ้วและเห็นได้ชัดว่าเธอจำไม่ได้ แต่หลังจากที่เธอครุ่นคิดอยู๋สักพักหนึ่งหลี่ลู่หลานหลี่ก็ยิ้มแหยงๆ และพูดว่า “คุณเย่หมายถึงหลินยี่รึเปล่าคะ?”
ในอีกห้องหนึ่งหลินยี่ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านเมื่อหลี่ลู่หลานเอ่ยชื่อของเขาซึ่งทำให้เขามีความสุขอยู่เต็มใบหน้าของเขา ซึ่งสิ่งนี้นั้นแสดงให้เห็นว่าเธอยังจำเขาได้และตอนนี้เขาก็กังวลอย่างมากและอยากรู้ว่าเธอจะตอบอย่างไรต่อไป
“เอ่อใช่ๆ ..เหมือนว่าเขาจะชื่อนี้แหละ..ผมจำไม่ค่อยได้น่ะเพราะครั้งล่าสุดที่ผมมาที่เมืองหางโจวเรื่องธุรกิจผมก็ได้พบเขาพร้อมกับหลินไห่ลุงของเขาน่ะ..เอ่อเขาคือรองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำมณฑลเจ้อเจียง..ผมไม่รู้มาก่อนว่าเขาคนนั้นจะเป็นแฟนของคุณ..ผมขอโทษนะครับที่ขอให้คุณออกมาหาผมแบบนี้..ผมไม่รู้จริงๆ ..ผมละอายใจตัวเองจริงๆ ที่มาชอบคุณหลี่” ท่าทางและการแสดงออกของเย่เชียนนั้นดูผิดหวังเล็กน้อยและแนบเนียนอย่างมาก ซึ่งน่าเสียดายอย่างมากที่ฉากเหล่านี้ไม่ได้ถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์หรือละคร
“เดี๋ยวสิ!” หลี่ลู่หลานก็ยิ้มแหยงๆ และพูดอย่างเร่งรีบว่า “คุณเย่คะอย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิ..ฉันกับผู้ชายคนนั้นเราไม่ได้เป็นอะไรกันเลย..เขามาตามตื๊อฉันเองฉันก็เลยยอมๆ ไป..ฉันเหรอจะไปชอบเขา? ..ต่อหน้าคุณเย่แล้วเขายังไม่ได้แม้แต่หนึ่งในพันของคุณเย่เลยค่ะ”
ที่ห้องถัดไปของโรงแรมหลินยี่ที่ได้ยินคำพูดของหลี่ลู่หลานแล้วเขาก็เหมือนถูกสายฟ้าฟาดและเขาก็ตกตะลึงในทันที หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและรีบวิ่งออกไปแต่หลินโรวโร่วก็ดึงตัวเขาเอาไว้และตะคอกว่า “นี่นายจะทำอะไร!”
“ก็ผม…ผมจะไปหาเธอและไปถามเธอให้ชัดเจนไงล่ะ” หลินยี่พูดด้วยความโกรธเกรี้ยว
“อะไรอีกล่ะเนี่ย..นี่นายไม่ได้ยินที่เธอพูดเหรอ..เธอหลอกนายมาตลอด..พอเถอะทุกอย่างมันก็ชัดเจนแล้ว..นายควรจะตัดใจและกลับบ้านกับฉันซะ” หลินโรวโร่วตำหนิและติเตียนหลินยี่
ใบหน้าของหลินยี่ก็มืดมนลงและเจตนาฆ่าก็ฉายอยู่ภายในดวงตาของหลินยี่และเขาก็เริ่มเดือดดาลขึ้นมาและรีบวิ่งออกไป ซึ่งหลินโรวโร่วเองก็รีบตามไปเพื่อกันไม่ให้หลินยี่พรวดพราดเข้าไปในห้องของหลี่ลู่หลาน ซึ่งตอนนี้หลินโรวโร่วเองก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ได้สังเกตเห็นความขาดสติและเจตนาฆ่าที่มืดมนที่ออกมาจากดวงตาของหลินยี่เลย
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของหลี่ลู่หลานแล้วปากของเย่เชียนก็ฉีกยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้ายและพูดว่า “คุณหลี่..ในเมื่อคุณพูดแบบนี้แล้วผมก็จะพูดกับคุณตรงๆ เลยก็แล้วกัน..ผมเป็นพี่เขยของหลินยี่เอง..ผมหวังว่าในอนาคตคุณจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหลินยี่อีกนะ”
หลี่ลู่หลานก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจและหลังจากนั้นความโกรธเกรี้ยวของเธอก็เพิ่มขึ้นในใจของเธอเพราะเย่เชียนทั้งเล่นตลกและใช้เล่ห์เหลี่ยมกับเธอมาตลอดจนถึงตอนนี้ ซึ่งสำหรับผู้หญิงอย่างเธอนั้นเธอคิดมาเสมอว่าเธอสามารถควบคุมและสยบผู้ชายทุกคนในโลกใบนี้ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างไม่ต้องสงสัยและเธอก็พูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ถ้าคุณเย่พูดแบบนี้ฉันก็พูดกับคุณตรงๆ เลยนะว่าฉันน่ะถูกหลินยี่หลอกเหมือนกัน..ถ้าคุณไม่ต้องการให้ฉันเข้าใกล้เขาคุณควรจะไปบอกเขาเองนะคะ”
เย่เชียนก็ทำสีหน้าที่เย็นชาและหยิบบุหรี่ออกมาจากสื้อของเขาแล้วจุดไฟและก็สูบเข้าไปช้าๆ หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “ไม่ว่าเขาจะเป็นฝ่ายเข้าหาคุณหรือคุณจะเข้าหาเขาก็เถอะมันไม่สำคัญแล้ว..ต่อจากนี้ไปก็อย่าได้พบกันอีกเลย..คุณลี่เข้าใจมั้ยครับ”
“นี่คุณกำลังขู่ฉันเหรอ?” หลี่ลู่หลานพูดอย่างเย้ยหยัน “ฉันก็บอกคุณไปแล้วหนิว่าคุณต้องไปพูดกับหลินยี่เอง..มาพูดกับฉันมันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก..แล้วที่คุณเย่ทำให้ฉันต้องอับอายแบบนี้ในวันนี้น่ะ..จำเอาไว้เลยว่าไม่ช้าก็เร็วฉันจะส่งมันคืนให้คุณ!”
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มและใช้นิ้วลูบปากของตัวเองและพูดว่า “หลี่ลู่หลาน! ..ผมรู้ดีว่าเบื้องหลังและพื้นเพของคุณน่ะเป็นยังไง..คุณไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะทำอะไรผมได้เลย..ประธานต้นสังกัดของคุณก็เหมือนกันเขาไม่ได้อยู่ในสายตาของผมเลย..เอาเถอะคุณหลี่คุณใช้ชีวิตในฐานะดาราและทำเพลงของคุณต่อไปเถอะ..อย่าได้มายุ่งกับคนใกล้ตัวของผมอีก..ไม่งั้นผมจะทำให้คุณหายออกไปจากโลกใบนี้ได้ง่ายๆ ..คุณได้ยินผมชัดเจนมั้ย!”
เย่เชียนก็ลุกขึ้นยืนและเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของหลี่ลู่หลานเบาๆ และพูดว่า “ช่างเป็นใบหน้าที่สวยงามจริงๆ ..ถ้ามันหายไปคงจะเสียดายแย่”
ภัยคุกคามที่กะทันหันเช่นนี้ทำให้หลี่ลู่หลานตัวสั่นโดยไม่ได้ตั้งใจและจ้องมองชายผู้สงบเสงี่ยมเยือกเย็นที่อยู่ตรงหน้าเธอและถึงแม้ว่าหลี่ลู่หลานจะไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเย่เชียนนั้นทรงพลังอย่างที่เขาพูดหรือไม่ก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็คงจะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อคิดเช่นนั้นเธอก็ฝืนระงับความโกรธเกรี้ยวในใจของเธอเอาไว้
“ผมรู้ว่าคุณหลี่น่ะเป็นคนที่ฉลาด..เพราะงั้นคุณรู้ใช่มั้ยว่าคุณควรทำยังไง?” เย่เชียนยิ้มอย่างไร้พิษสงและพูดว่า “งั้นผมก็จะไม่รบกวนคุณแล้ว..ผมขอตัวก่อนก็แล้วกัน”
หลังจากพูดจบเย่เชียนก็หันกลับไปและเดินออกไปอย่างช้าๆ ส่วนหลี่ลู่หลานก็จ้องมองไปที่เย่เชียนที่กำลังจะเดินจากไปเธอก็โกรธเกรี้ยวและเตะโต๊ะกาแฟตรงหน้าเธอลงกับพื้นอย่างเดือดดาล ซึ่งเมื่อบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกของประตูได้ยินเสียงดังกล่าวพวกเขาจึงรีบวิ่งเข้ามาทันทีและเมื่อพวกเขาเห็นท่าทางที่โกรธเกรี้ยวของหลี่ลู่หลานแล้วพวกเขาก็ยืนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยความงุนงง
หลังจากที่เย่เชียนลงไปที่ชั้นล่างแล้วก็พบว่าหลินโรวโร่วกับหลินยี่ก็ไปรออยู่ข้างๆ รถแล้ว เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ยิ้มและเดินไปหา “ป่ะ..ขึ้นรถ!” เย่เชียนตบไหล่ของหลินยี่เบาๆ และเปิดประตูรถเข้าไปและสตาร์ทรถเพื่อขับไปที่บ้านของหลินโรวโร่ว
“เป็นไง..พอนายรู้แล้วมีอะไรจะพูดบ้างมั้ยล่ะ?” เย่เชียนพูดขณะที่เขาขับรถ “จริงๆ แล้วเรื่องของแก๊งที่คาสิโนนั่นน่ะนายต้องทำให้ชัดเจนว่าพวกเขาจะจริงใจกับนายนะ..เหมือนว่าพวกเขากำลังพึ่งพานายอยู่..พูดให้เข้าใจก็คือแทนที่จะปล่อยให้พวกนั้นใช้นายแบบนี้แล้วทำไมนายถึงไม่ใช้พวกเขาซะเลยล่ะ..ทำให้มันเป็นระบบซะสิ..ส่วนหลี่ลู่หลานน่ะถ้าเธอเป็นผู้หญิงที่ดีฉันก็เข้าใจนายอยู่หรอก..แต่นายก็รู้แล้วหนิว่าเธอเป็นยังไง..เธอก็เป็นแค่โสเภณีที่เลิศหรูก็แค่นั้น..แล้วนายจะยอมทิ้งอนาคตเอาไว้กับเธอมันคุ้มมั้ยล่ะ?”
“พี่เขย..ผมยอมไม่ได้หรอก!” หลินยี่พูดออกมาหลังจากที่เงียบไปนาน
ใบหน้าของเย่เชียนก็มีรอยยิ้มขึ้นมาทันทีเพราะท้ายที่สุดแล้วเด็กคนนี้ก็พ่ายแพ้ให้กับเขาแล้ว ส่วนหลินโรวโร่วเองก็ตกตะลึงมากเช่นกันหลังจากนั้นรอยยิ้มที่พึงพอใจและมีความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “แล้วนายจะทำยังไงล่ะ?” เย่เชียนถาม
เจตนาฆ่าอย่างรุนแรงก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของหลินยี่และเขาก็พูดอย่างเยือกเย็นว่า “ผมอยากให้เธอไปตายซะ!”
ผู้ชายที่ดื้อรั้นและหยิ่งผยองมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเคียดแค้นต่อการทรยศและการหลอกลวงและหักหลังมากขึ้นเท่านั้น! เห็นได้ชัดเลยว่าหลินยี่นั้นเป็นคนประเภทที่โกรธแค้นและเกลียดชังอย่างมากกับการถูกทรยศและการหลอกลวงและการหักหลัง ซึ่งมันก็สมเหตุสมผลอยู่ที่เขาต้องการให้หลี่ลู่หลานตายไป
หลินโรวโร่วก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านและเธอก็รีบพูดว่า “เจ้าน้องบ้านี่..ลืมมันไปซะ!”
เย่เชียนก็ยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้หลินโรวโร่วสบายใจและพูดว่า “มันก็มีอยู่หลายวิธีนะที่จะทำให้คนคนนึงตาย..และถึงแม้ว่าชีวิตจะไม่ดับสูญก็เถอะแต่เขาคนนั้นก็เหมือนตายทั้งเป็นนั่นแหละ..และต้องเลือกวิธีที่จะไม่ทำร้ายตัวนายเองด้วยและขจัดความเกลียดชังและความโกรธเกรี้ยวของนายได้ด้วย…ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว..ถ้าเป็นฉันน่ะเหรอ..ฉันก็จะไม่เข้ายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้..แต่ฉันก็หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ”
“เย่เชียน! ..ทำไมคุณถึง…” หลินโรวโร่วพูดด้วยความประหลาดใจ
เย่เชียนก็หัวเราะและขัดจังหวะเธอว่า “การแก้แค้นโดยไม่เอาชีวิตมันก็เหมือนกับสนามรบที่มีดินปืน..การโจมตีแบบเงียบๆ และมีชั้นเชิงต่อศัตรูของเราน่ะมันไม่ใช่สิ่งที่สามารถตัดสินได้เพียงแค่การกระทำเพียงเท่านั้น..และไม่ว่าจะแก้แค้นยังไงจะทำให้ถึงชีวิตหรือไม่นั้นจำเอาไว้นะว่าไม่ว่ามันจะแบบไหนก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออย่าทำร้ายตัวเองหรืออย่าให้มันมีผลเสียต่อตัวเอง..โรวโร่วคุณไม่ต้องกังวลหรอก..ปล่อยให้เขาแก้ปัญหาของเขาเองเถอะ..ยิ่งคุณไปต่อต้านเขามากเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งแย่ขึ้นเท่านั้น..ถ้าเกิดอะไรขึ้นล่ะก็คุณมั่นใจได้เลยเพราะคุณยังมีผมอยู่และผมก็สัญญาเลยว่าผมจะก้าวลงมาจัดการให้อย่างแน่นอน”
หลินโรวโร่วเหลือบมองไปที่เย่เชียนและพยักหน้าเบาๆ และพูดว่า “ฉันเองก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก..และฉันก็ต้องกลับไปที่เมืองเซี่ยงไฮ้ในอีกไม่กี่วันนี้ด้วย..เย่เชียนคะเรื่องของหลินยี่น่ะฉันของฝากคุณด้วยก็แล้วกัน..เขาเป็นครอบครัวตระกูลหลินของเรา..ฉันไม่อยากให้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขาน่ะ”
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “ผมจะปล่อยให้น้องชายภรรยาเจอเรื่องที่เลวร้ายได้ยังไง..ไม่งั้นผมก็แย่น่ะสิ..เพราะผมก็คงจะโดนคุณลงโทษบนเตียง..ซึ่งมันต้องเหนื่อยมากแน่ๆ เลย”
หลินโรวโร่วจ้องเขม็งเย่เชียนและกระซิบเบาๆ ว่า “นี่ๆ หลินยี่ก็อยู่ที่นี่ด้วยนะ..อย่าพูดแบบนั้นสิ!”
เย่เชียนก็หัวเราะและโน้มตัวไปจูบแก้มของหลินโรวโร่วอย่างไม่อายใคร
.
.
.
.
.
.
.