ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 343 รวยนักเหรอ
ตอนที่ 343 รวยนักเหรอ?
เมื่อเสียงของเย่เชียนจบลงบอดี้การ์ดทั้งสามก็หยุดชะงักและสายตาของพวกเขาก็หันไปที่เย่เชียนส่วนชายชรากับผู้หญิงคนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเย่เชียนเช่นกัน ซึ่งหลังจากนั้นชายชราก็หัวเราะอย่างเย้ยหยันและพูดว่า “ทำไม? ..อยากเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่นงั้นเหรอ..แกต้องชั่งน้ำหนักตัวเองให้ดีก่อน”
เย่เชียนก็หัวเราะเยาะและเดินไปหาหม่าหงจงและช่วยพยุงเขาขึ้นมาและถามว่า “คุณเป็นอะไรมั้ย? ”
หม่าหงจงก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจและก็ส่ายหัวอย่างหนักหน่วงและพูดว่า “ขอบคุณๆ” ใบหน้าของเขามีรอยแผลฟกช้ำไปทั่วทั้งใบหน้าและมันก็เริ่มบวมแล้ว
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและจ้องมองไปที่ชายชราและพูดว่า “คุณแย่งภรรยาของเขาไปแล้วและทำไมถึงต้องไปทำร้ายเขาด้วยล่ะ? ..คุณคิดว่าพอคุณมีเงินแล้วคุณจะทำอะไรใครก็ได้งั้นเหรอ?”
“ก็แล้วไงเพราะฉันมีเงิน! ..ยุคนี้น่ะมันเป็นยุคสมัยของคนรวย..ไอ้พวกคนจนที่น่าเวทนาอย่างพวกแกน่ะสมควรที่จะถูกเหยียบย่ำไปตลอดชีวิต!” ชายชราพูดอย่างหยิ่งผยองและโอหัง
“แล้วคุณรวยมากขนาดนั้นเลยเหรอ?” เย่เชียนถามอย่างเย้ยหยัน
“ก็ไม่เชิง..เพราะอย่างน้อยๆ ฉันก็รวยกว่าพวกแกก็แล้วกัน..ดูสิฉันมีบ้านพักตากอากาศและรถ BMW ฉันน่ะมีรายได้ปีละไม่ต่ำกว่าสิบล้าน..คนอย่างพวกแกน่ะต่อให้ทำงานทั้งชีวิตก็ไม่มีวันได้สัมผัสเงินนั่นหรอก” ชายชราพูดด้วยความภาคภูมิใจอย่างมาก
“ห๊ะ! ..สิบล้านเหรอ?” เย่เชียนแสร้งพูดด้วยท่าทางทีดูประหลาดใจอย่างมาก “โถ่ๆ ..ก็แค่สิบล้านเอง..ผมก็นึกว่าคุณจะเป็นมหาเศรษฐีหรืออะไรซะอีก..และนี่ BMW เหรอ..เหอะๆ” เย่เชียนพูดขณะที่เขาเดินเข้าไปที่รถ BMW ของชายชราและหยิบท่อเหล็กจากข้างทางขึ้นมาและทุบรถ BMW ของชายชราอย่างรุนแรง
ชายชราก็อดไม่ได้ที่จะตกใจและรีบพูดว่า “เฮ้ยแก! ..นี่แกกำลังทำอะไรของแกกันเนี่ย?” จากนั้นเขาก็ตะโกนบอกบอดี้การ์ดทั้งสามว่า “รีบไปจัดการมันสิวะ..ไม่นะ BMW ของฉัน!”
เมื่อบอดี้การ์ดทั้งสามได้ยินคำพูดของชายชราแล้วพวกเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาเย่เชียน เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ใช้ท่อเหล็กฟาดเข้าไปที่เหล่าบอดี้การ์ดทั้งสามทันทีและบอดี้การ์ดทั้งสามก็ร้องโอดครวญและล้มลงไปกับพื้นในทันทีหลังจากนั้นเย่เชียนก็ตะคอกว่า “ผมเห็นว่าพวกคุณก็แค่มาทำงานให้เขา..เพราะงั้นวันนี้ผมจะปล่อยพวกคุณไป..แล้วก็อย่ามาให้ผมเจอหน้าพวกคุณอีกก็แล้วกัน..และออกไปซะ!”
บอดี้การ์ดทั้งสามก็ยืนขึ้นและมองหน้ากันจากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ และเดินหนีไปในทันที จากช่วงเวลาสั้นๆ ในการต่อสู้นั้นพวกเขาได้รู้แล้วว่าพวกเขากับเย่เชียนนั้นแตกต่างกันเกินไปและพวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งสำหรับพวกเขาแล้วในโลกใบนี้นั้นคนรวยที่สุดก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนที่โหดร้ายที่สุดเพราะคนที่สิ้นหวังและหมดหนทางนั้นก็คือคนที่โหดร้ายที่สุดในโลกนั่นเอง
หลังจากนั้นไม่นานรถ BMW ของชายชราก็ถูกเย่เชียนทุบจนจำแทบจะไม่ได้และเมื่อเห็นว่าเหล่าบอดี้การ์ดของเขาก็ไม่อยู่แล้วชายชราจึงไม่ได้ทำตัวหยิ่งผยองอีกต่อไปและเขาก็ใช้มือชี้ไปที่เย่เชียนอย่างสั่นกลัวและพูดว่า “แก! …แกอย่าหนีไปไหนนะ..ฉันจะโทรหาตำรวจ! ..แกเตรียมล้างก้นรอเข้าคุกได้เลย!”
“ไม่ต้องกังวลไป..ผมจะรออยู่ที่นี่แหละ” เย่เชียนพูด
เมื่อหม่าหงจงได้ยินเช่นนี้เขาก็รีบเดินไปที่ด้านข้างของเย่เชียนและพูดอย่างกระวนกระวายว่า “น้องชาย..นายรีบหนีไปเถอะ..พวกเราสู้คนรวยพวกนี้ไม่ได้หรอก..ถ้าพวกตำรวจมาจับนายล่ะก็ฉันคงไม่สบายใจและรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตเลย”
เย่เชียนตบไหล่หม่าหงจงเบาๆ และพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปพี่ชาย..มันไม่มีอะไรหรอก” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและกดเบอร์โทรศัพท์ของซื่อเหวินจื้อแล้วพูดว่า “ท่านนายกเทศมนตรีซื่อครับ..ตอนนี่คุณสะดวกหรือเปล่า? ..ผมมีบางอย่างที่อยากจะรบกวนคุณหน่อยน่ะครับ..เมื่อครู่นี้มีคนขับรถจะมาชนผมแต่โชคดีที่ผมหลบได้ทัน..แต่เขากลับบอกว่าผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้รถของเขาเสียหายน่ะครับ..และเขาก็ต้องการที่จะแจ้งความจับผมด้วย”
“ไอ้พวกไร้สาระนั่นมันต้องถูกปรับทัศนคติสักหน่อยแล้ว..คุณเย่ไม่ต้องกังวลไปครับ..ฉันจะรีบส่งคนไปจัดการทันที..แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?” ซื่อเหวินจื้อพูดอย่างรีบร้อน
“แถวๆ ชานเมือง..ใกล้ๆ ภูเขาเจ้าแม่กวนอิมครับ!” เย่เชียนตอบ
“เอาล่ะๆ ..ฉันจะรีบส่งคนไปทันที..ต้องขอโทษคุณเย่ด้วยที่พลเมืองของไทเปทำให้คุณต้องขุ่นเคือง..เดี๋ยวทางรัฐบาลไทเปจะไล่ปราบปรามพวกแกะดำและพวกจอมปลอมเหล่านั้นเอง” ซื่อเหวินจื้อ
“ถ้างั้นผมก็ขอรบกวนท่านนายกเทศมนตรีซื่อด้วยนะครับ!” เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มและวางสายโทรศัพท์ไป
หลังจากนั้นเย่เชียนก็หันหน้าไปมองหม่าหงจงและพูดว่า “คุณขับแท็กซี่หรอ?”
“ใช่ๆ ..ฉันหารายได้จากการขับรถแท๊กซี่ได้แค่เดือนละไม่กี่พันหยวนเอง..แต่เมื่อก่อนทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เป็นไปด้วยดี..แต่ทว่าจู่ๆ ลูกสาวของฉันกลับล้มป่วยและได้รับการวินิจฉัยจากหมอว่ามีความผิดปกติของเม็ดเลือดตั้งแต่กำเนิด..และค่าผ่าตัดก็มากกว่า 500,000 หยวน..แต่ฉันหาและรวบรวมเงินมาได้แค่ 200,000 หยวนและผู้หญิงคนนี้ก็เห็นว่าฉันยากจนและหนีไปอยู่กับคนอื่น..มันน่าเศร้ามากใช่มั้ยที่ฉันไม่มีเงินที่ฉันเกิดมาเป็นคนจน?” หม่าหงจงพูดด้วยสีหน้าที่ขมขื่นและหดหู่อย่างมาก
เย่เชียนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ และพูดว่า “เอาหน่าๆ ..ยังมีคนดีๆ อีกมากมายในโลกนี้..อย่าไปคิดมากเลย..ผมจะช่วยจ่ายค่าผ่าตัดให้ลูกสาวของคุณเอง” เย่เชียนหยิบเช็คเงินสดออกมาจากกระเป๋าและเขียนตัวเลขจำนวนหนึ่งลงไปและยื่นให้หม่าหงจงแล้วพูดว่า “คุณรับเอาไว้นะ”
หม่าหงจงจ้องมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นเลยหลังจากนั้นเขาก็พูดอย่างตะกุกตะกักว่า “นะ..นี่..นี่..คือฉันจะรับเงินน้องชายเอาไว้โดยไม่มีเหตุผลได้ยังไง?” เมื่อเห็นจำนวนเงินหนึ่งล้านหยวนในเช็คเงินสดหม่าหงจงก็ถึงกับผงะไป
“คุณรับเอาไว้เถอะ..เงินนั่นไม่ได้ให้คุณฟรีๆ หรอก..ยังไงคุณก็ต้องจ่ายคืนอยู่แล้ว” เย่เชียนพูดง่ายๆ สบายๆ
“ฉัน..ฉันไม่สามารถหามาคืนได้หรอก” หม่าหงจงพูดด้วยความหดหู่
“มันก็มีอยู่หลายวิธีที่จะจ่ายเงินคืนน่ะ” เย่เชียนพูด “เอ่อ..คุณอยู่ในวงการแท็กซี่มานานแค่ไหนแล้ว?”
“สิบห้าปี!” หม่าหงจงตอบ
“โห..ถ้างั้นคุณก็ต้องรู้จักกับคนขับแท็กซี่มากมายเลยใช่มั้ย..อันที่จริงแล้วผมก็อยากที่จะเปิดบริษัทขนส่งสาธารณะและท่ารถแท็กซี่อยู่เหมือนกันน่ะ..แต่ผมไม่ค่อยคุ้นเคยหรือเข้าใจเรื่องนี้มากนัก..แต่สำหรับคุณที่ทำอาชีพนี้มานานแล้วเพราะงั้นคุณก็จะสามารถช่วยผมได้เยอะอย่างแน่นอน” เย่เชียนพูด
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอก..เพราะฉันอยู่ในสายงานนี้มานานแล้วและฉันก็ถือได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ของถนนไทเปและตราบใดที่ฉันพูดออกไปล่ะก็พี่ๆ น้องๆ เหล่านั้นก็จะตามมาอย่างแน่นอน” หม่าหงจงพูด
เย่เชียนตบบ่าของหม่าหงจงเบาๆ และพูดว่า “ได้เลย..เรื่องนั้นค่อยเอาไว้ว่ากันทีหลัง..ส่วนตอนนี้คุณรับเงินนี้ไปก่อนและก็ค่อยๆ หักออกจากเงินเดือนในอนาคตของคุณไป..เพราะอาการป่วยลูกสาวของคุณน่ะเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าตัวเงินมาก”
หม่าหงจงกัดฟันแน่นและรับเช็ดเงินสดมาพร้อมกับคุกเข่าลงต่อหน้าของเย่เชียนและพูดว่า “ฉันเป็นหนี้คุณน้องชายมากฉันไม่สามารถชดใช้ให้ได้เลย..เพราะงั้นจากนี้ไปชีวิตของฉันจะคอยรับใช้คุณน้องชายไปตลอดชีวิต..และในอนาคตฉันจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณน้องชายขอให้ฉันทำ..ไม่ว่าจะเป็นอะไรฉันก็ยินดีที่จะทำ!”
เย่เชียนยิ้มเบาๆ และพยุงหม่าหงจงขึ้นมาและพูดว่า “การคุกเข่าของผู้ชายนั้นมีค่าดั่งทองคำ..เพราะผู้ชายอย่างเราๆ ก็มีศักดิ์ศรีกันทุกคนไม่ว่าจะรวยหรือจน..และเรื่องนี้มันก็ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น..ผมอยากให้คุณมีชีวิตที่ปกติแล้วก็อย่าไปคิดอะไรมากจนเกินไป..เอาล่ะ..คุณจดเบอร์โทรศัพท์ของผมเอาไว้ก็แล้วกันและก็โทรมาหาผมได้ทุกเมื่อถ้าคุณมีปัญหาอะไรในอนาคต”
หม่าหงจงขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าสำหรับความเมตตาของเย่เชียนและหม่าหงจงก็รู้สึกว่าเย่เชียนนั้นเป็นดั่งเทพเจ้าที่มีตัวตนอยู่จริง ในขณะนี้หูวเค่อก็เดินไปที่ด้านข้างของเย่เชียนและโน้มตัวเข้าไปข้างๆ หูของเย่เชียนและกระซิบว่า “คุณซื้อใจคนได้เก่งดีหนิ!”
เย่เชียนก็จ้องเขม็งหูวเค่อและพูดว่า “คุณพูดแบบนั้นได้ยังไงกันเนี่ย..เขาเรียกว่าสัมพันธไมตรีที่ดีต่างหากล่ะ”
ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันจู่ๆ ก็รถตำรวจหลายคันก็ขับเข้ามาและหยุดอยู่ข้างๆ พวกเขาและเนื่องจากมันไม่ใช่อุบัติเหตุทางรถยนต์หรือเหตุการณ์ปกติทั่วไปจึงไม่ใช่ตำรวจจราจรที่มายังที่แห่งนี้ เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและตำรวจราดตระเวนจำนวนหลายคนที่ลงมาจากรถและเหลือบมองไปที่ฝูงชนและหัวหน้าทีมตำรวจชุดหน่วยสืบสวนคนหนึ่งก็ถามว่า “ใครเป็นคนโทรแจ้งตำรวจ!”
“ก็ฉันนี่แหละ..ฉันเองๆ” ชายชรารีบพูดอย่างร้อนรน “ประสิทธิภาพในการทำงานของพวกคุณนี่ชักจะแย่เกินไปแล้วนะ! ..ทำไมพวกคุณเพิ่งจะมาเอาตอนนี้..พวกคุณรู้มั้ยว่าฉันกับหัวหน้าของพวกคุณน่ะมักจะกินดื่มอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ..เอาล่ะ! ..รีบไปจับไอ้เวรนั้นเร็วๆ ..มันทุบรถฉันจนแบบนี้..ฉันอยากจะแจ้งความเขา!”
ตำรวจหัวหน้าทีมตำรวจชุดหน่วยสืบสวนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยซึ่งเห็นได้ชัดว่าชายชรานั้นทำให้เขาไม่พอใจอย่างมากเพราะถึงแม้ว่าเขานั้นจะเป็นเพียงผู้บังคับการตำรวจหน่วยสืบสวนอาชญากรรมธรรมดาๆ ก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็เป็นคนของข้าราชการซึ่งแน่นอนว่าการที่โดนใครบางคนมาดูถูกเช่นนี้แล้วเขาก็ต้องไม่พอใจเป็นธรรมดาโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
หม่าหงจงรีบไปยืนอยู่ตรงหน้าของเย่เชียนและพูดว่า “ฉันเองที่เป็นครทุบรถ..เขาคนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย..ถ้าพวกคุณต้องการจะจับก็มาจับฉันได้เลย!” เขาตั้งใจอย่างมากเพื่อที่จะปกป้องเย่เชียนถึงแม้ว่าเขานั้นจะรู้อยู่แก่ใจว่าเย่เชียนที่สามารถมอบเงินให้กับเขาจำนวนหนึ่งล้านได้ง่ายๆ เช่นนี้นั้นเย่เชียนจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาๆ อย่างแน่นอนและต่อให้เย่เชียนถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจแต่เย่เชียนก็สามารถจ่ายค่าเสียหายได้อย่างง่ายดายและจะไม่ถูกดำเนินการทางกฎหมายอย่างแน่นอน
หัวหน้าทีมตำรวจชุดหน่วยสืบก็เดินเข้าไปหาเย่เชียนและถามด้วยความเคารพว่า “เอ่อ..ขอโทษนะครับ..คุณเย่ใช่มั้ยครับ?” โชคดีที่เมื่อซื่อเหวินจื้อโทรมาสั่งเขานั้นซื่อเหวินจื้อก็เอ่ยถึงลักษณะและรูปพรรณสัณฐานของเย่เชียนเป็นพิเศษเพราะไม่นั้นเขาก็คงจะคิดว่าชายชรานั้นคือเย่เชียนอย่างแน่นอน
“ใช่! ..ผมเย่เชียนครับ” เย่เชียนพูด
“ผมชื่อหานซีเผิง..หัวหน้าทีมชุดหน่วยสืบสวนพิเศษ..ยืนดีที่ได้พบคุณครับ” หานซีเผิงพูดด้วยความเคารพ
“นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่! ..ฉันโทรเรียกให้พวกคุณมาที่นี่เพื่อจับกุมเขาไม่ใช่ให้มายืนคุยกันแบบนี้! ..ได้! ..เดี๋ยวฉันจะโทรไปหาหัวหน้าของคุณตอนนี้เลยและปล่อยให้พวกคุณตกงานไปซะ!” ชายชราตะคอกพวกเขาอย่างเดือดดาล
หานซีเผิงก็หัวเราะอย่างเย้นหยันเพราะนี่เป็นคำสั่งของบุคคลระดับนายกเทศมนตรีของเมืองไทเปและเขาก็มั่นใจอย่างมากในการทำเช่นนี้และเขาก็ไม่เกรงกลัวการคุกคามและการข่มขู่ของชายชราเลยแม้แต่น้อย “คนเฒ่าคนแก่แถวนี้น่ารำคาญนิดหน่อยน่ะครับ..ปล่อยให้ผมจัดการเถอะคุณเย่..คุณไปทำธุระต่อได้เลยครับ” หานซีเผิงพูดอย่างสุภาพ
“ถ้างั้นผมต้องขอรบกวนคุณด้วยนะครับ..เอาไว้คราวหน้าเราไปดื่มกินด้วยกันสักหน่อยก็แล้วกันครับ” เย่เชียนพูด หลังจากนั้นเย่เชียนก็หันหน้าไปมองหม่าหงจงและพูดว่า “คุณเองก็รีบไปที่โรงพยาบาลซะนะและก็ไปจ่ายค่าผ่าตัดให้ลูกสาวของคุณ..แล้วก็หลังจากที่อาการลูกสาวของคุณคงที่แล้วเราค่อยมาคุยเรื่องธุรกิจกันนะ” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็จับมือหูวเค่อเดินกลับไปที่ภูเขาเจ้าแม่กวนอิม
“นี่แก…ทำไมแกถึงปล่อยมันไปล่ะ? ..มันทุบรถของฉันแบบนี้เพราะงั้นมันก็ควรถูกจับเข้าคุกสิ! ..ฉันจะบอกแกอีกครั้งนะว่าฉันน่ะรู้จักผู้กำกับการกรมตำรวจของพวกแกเป็นอย่างดี..แกต้องการแบบนั้นเหรอ?” เมื่อเห็นเย่เชียนและหูวเค่อเดินออกไปอย่างง่ายๆ สบายๆ จนเขาก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะและก็พูดออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว
หานซีเผิงก็หัวเราะอย่างเย้ยหยันอีกครั้งและพูดว่า “นี่เป็นคำสั่งจากเบื้องบน..เพราะงั้นถ้าคุณต้องการที่จะพบหัวหน้าของฉันขนาดนั้นล่ะก็..เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปพบเขาเดี๋ยวแหละ!”
เมื่อหานซีเผิงพูดจบเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนก็เดินเข้าไปจับมือชายชราและใส่กุญแจมือ “เฮ้ยๆ …พวกแกจะทำอะไร? ..ฉันจะฟ้องพวกแกให้หมด! ..ฉันจะทำให้พวกแกไม่สามารถเป็นตำรวจได้อีกในชีวิตนี้!” ชายชราตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
“ถ้างั้นก็จำใส่สมองเอาไว้นะว่าฉันชื่อหานซีเผิงและหมายเลขประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจของฉันก็คือ 64088 เพราะงั้นตอนนี้คุณก็สามารถร้องเรียนฉันได้ตลอดเวลาแล้ว..เอาสิ!” หานซีเผิงหยิบบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาและเขย่ามันต่อหน้าชายชราและพูดว่า “จับเขาขึ้นรถ!”
.
.
.
.
.
.
.