ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 361 นายมีแฟนกี่คน
ตอนที่ 361 นายมีแฟนกี่คน?
มีร้านสะดวกซื้ออยู่ชั้นล่างซึ่งเมื่อเย่เชียนถูกวานมาเช่นนี้แล้วเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเข้าไปในร้านสะดวกซื้ออย่างหมดหนทาง ซึ่งบางทีเย่เชียนก็อาจจะมีรูปลักษณ์ที่ดูเหมือนขโมยเพราะเจ้าของร้านสะดวกซื้อที่เป็นหญิงสาวก็จ้องมองเขาอย่างกระมัดระวังราวกับว่าเย่เชียนต้องการจะมาขโมยอะไรบางอย่างไปจากร้านของเธอ
เมื่อถูกเธอจ้องมองเช่นนี้เย่เชียนก็รู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากที่เขาเดินไปรอบๆ มาสักพักหนึ่งเขาก็ไม่พบสิ่งของที่เรียกว่าผ้าอนามัยเลย ด้วยความสิ้นหวังและหมดหนทางเย่เชียนจึงต้องจำใจเดินไปที่เคาน์เตอร์และถามเจ้าของร้าน แต่เมื่อมองไปที่หญิงสาวที่กำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่เย่เชียนก็แน่นิ่งไปเป็นเวลานานและไม่ได้พูดอะไรใดๆ ซึ่งเมื่อลูกค้าอีกคนเห็นเช่นนั้นเธอจึงตะโกนว่า “คุณคะ! ..คุณกำลังทำอะไรอยู่คะเนี่ย? ..ถ้าคุณไม่ซื้ออะไรก็เชิญออกไปค่ะ..คุณอย่ามายืนขวางทางสิคนอื่นเขาจะซื้อของกัน!”
เย่เชียนนั้นก็รู้สึกว่าเขาหน้าด้านพอตัวแต่ถึงยังไงมันก็ยังไม่พอเพราะเขาก็ทนไม่ได้กับคำพูดของคนอื่นๆ และเขาก็อยากออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งหญิงสาวที่เคาน์เตอร์เห็นท่าทางของเย่เชียนแล้วเธอจึงหยิบกล่องถุงยางอนามัยออกมาจากลิ้นชักเคาน์เตอร์และวางมันลงบนเคาน์เตอร์แล้วพูดว่า “คุณต้องการซื้อถุงยางอนามัยใช่มั้ยคะ!”
ทันทีที่พูดคำเหล่านี้หลุดออกมาก็ทำให้ฉากนี้ยิ่งน่าอับอายมากขึ้นและสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่เย่เชียนทันทีและทันใดนั้นเย่เชียนก็รู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าของเขาทันทีและเขาก็พูดอย่างตะกุกตะกักว่า “เอ่อคือ..ไม่ๆ ..ผมแค่อยากจะถามว่า..ผ้าอนามัยอยู่ตรงไหนหรอ?”
“ผู้ชายมาซื้อผ้าอนามัยเนี่ยนะ!” เสียงที่เย้ยหยันก็ดังมาจากด้านหลังของเขา แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าแต่ละคนนั้นมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเพราะว่าหญิงสาวเจ้าของร้านนั้นรู้สึกว่าผู้ชายคนหนึ่งที่กล้าลงแรงมาซื้อของแบบนี้ให้แฟนของเขานั้นช่างน่าชมเชยเสียจริง และเมื่อเธอคิดเช่นนั้นเธอก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วชี้ไปที่ชั้นวางของข้างๆ เธอและพูดว่า “อยู่ตรงนั้นค่ะ!”
“ขอบคุณครับ..ขอบคุณ!” เย่เชียนก็รีบวิ่งไปที่ชั้นวางของด้วยความตื่นตระหนกเพราะเขาไม่อยากอยู่ที่นี่นานมากกว่านี้แล้วไม่เช่นนั้นเขาอาจจะถูกคนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนที่น่าสมเพชและวิปริตอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อมาถึงหน้าชั้นวางสายตาของเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะกวาดมองไปทั่วเพราะผ้าอนามัยเหล่านี้มันเต็มไปหมดและมีแบรนด์มากมายและอะไรที่ผู้หญิงเธอใช้กันตอนกลางวันและอันไหนตอนกลางคืนเย่เชียนก็คิดจนหัวแทบจะระเบิดออกมา ซึ่งตอนนี้เขาไม่สามารถสนใจอะไรได้อีกต่อไปแล้วเย่เชียนจึงหยิบผ้าอนามัยมาอย่างลวกๆ หลายๆ ชิ้นและเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วหยิบเงินหนึ่งร้อยหยวนออกมาแล้ววางมันเอาไว้พร้อมกับพูดว่า “ไม่ต้องทอนครับ!” จากนั้นเย่เชียนก็รีบวิ่งออกไปอย่างกระวนกระวาย
เมื่อหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่เคาน์เตอร์เห็นท่าทางแบบนั้นของเย่เชียนแล้วเธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเพราะถ้าเธอเจอคนแบบเย่เชียนมากกว่าล่ะก็นี้เธอก็เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องขายอะไรเลยเพราะเย่เชียนนั้นเหมาสินค้าของเธอไปตั้งหลายอย่างจนเธอได้กำไรอย่างมาก
หลังจากนั้นเย่เชียนก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำของผู้หญิงในห้องสนุกเกอร์ชั้นบนและก็เคาะประตู แต่ก็ไม่มีใครตอบกลับจนเย่เชียนก็เคาะอีกครั้งและถามเบาๆ ว่า “เอ่อ..ขอโทษนะครับมีใครอยู่ข้างในหรือเปล่า” เขาดูเหมือนโจรถ้ำมองโดยมองไปรอบๆ อย่างลับๆ ล่อๆ และถ้าหากตอนนี้มีผู้หญิงเข้ามาล่ะก็ต่อให้เขาจะกระโดดลงไปในแม่น้ำหวงผู่ก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็ไม่สามารถลบล้างความร้าวฉานนี้ไปได้
ทันใดนั้นเสียงของเจ๊ฮงก็ดังมาจากข้างในว่า “เข้ามา!”
เย่เชียนก็มองไปรอบๆ อีกครั้งและพบว่าไม่มีใครมาเขาจึงรีบเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เย่เชียนนั้นอยู่ในห้องน้ำผู้หญิงของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปในครั้งนั้นจากนั้นมาเย่เชียนก็รู้สึกหวาดกลัวไปโดยปริยาย แต่ในเวลานี้เขาก็ดูเหมือนพวกถ้ำมองอย่างมาก ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ถ้าหากมีใครมาเห็นล่ะก็จะไม่มีใครมาช่วยเขาได้เลย
โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำหญิงในตอนนี้ดังนั้นเย่เชียนจึงรีบยื่นผ้าอนามัยจากช่องว่างด้านล่างและหลังจากนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไปและในที่สุดเย่เชียนก็รู้สึกสบายใจและโล่งใจขึ้นมากเพราะไม่มีใครสังเกตเห็น แต่ทว่าเย่เชียนก็โชคไม่ดีที่จู่ๆ หญิงสาวคนหนึ่งก็เข้ามาและเธอก็เงยหน้าขึ้นมองป้ายที่ประตูตรงอย่างสงสัยและพบว่านั่นคือสัญลักษณ์ของห้องน้ำผู้หญิงและในทันใดนั้นใบหน้าของเธอเย็นชาและมืดมนลงในทันทีและเธอก็จ้องมองไปที่เย่เชียนด้วยความรังเกียจทันที
“เอ่อคือ..พอดีผมมาซ่อมห้องน้ำน่ะครับ..ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับเชิญเลย!” เย่เชียนแสร้งทำเป็นสงบเสงี่ยมควบคุมอาการของเขาเอาไว้และพูด
“นายไม่ใช่ช่างซ่อมหนิ..นายบอกเองไม่ใช่หรอว่านายเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย! ..นายมันพวกถ้ำมอง!” ทันใดนั้นหญิงสาวก็คลุ้มคลั่งและหยิบกระเป๋าถือขึ้นมาแล้วฟาดใส่เย่เชียน
ปรากฏว่าผู้หญิงคนนี้เป็นซูเหว๋ยคนที่ทำให้เลือดกำเดาเย่เชียนไหลที่สนามบินในวันนั้นซึ่งเย่เชียนก็รีบกันการโจมตีของเธอด้วยมือของเขาและพูดว่า “เดี๋ยวก่อนสิ..ผมจะไปเป็นพวกถ้ำมองได้ยังไง..การซ่อมส้วมตันๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ..ก็พวกผู้หญิงชอบที่ทิ้งทุกอย่างลงชักโครกแล้วส้วมมันก็เลยตันน่ะ”
ถึงเย่เชียนจะรู้สึกประหม่าก็ตามแต่เขาก็สามารถหาเหตุผลมาแก้ตัวได้อย่างรวดเร็วและซูเหว๋ยก็ตกตะลึงไปกับคำพูดที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้และเธอก็คิดกับตัวเองว่านี่เธอเข้าใจเขาผิดอีกแล้วจริงๆ เหรอ? เมื่อคิดเช่นนี้ซูเหว๋ยก็หยุดและจ้องมองเย่เชียนด้วยท่าทางที่ฉุนเฉียวและพูดว่า “ก็แล้วไป! ..หึ!” หลังจากพูดจบเธอก็เปิดประตูห้องน้ำและเดินเข้าไปอย่างไม่สบอารมณ์
ในที่สุดเย่เชียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่จู่ๆ ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกมาอีกครั้งโดยซูเหว๋ยโผล่หัวออกมาและพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ถ้านายกล้าเข้ามาแอบดูฉันล่ะก็..ฉันจะจัดการนายเอง!”
“ผมจะไปแอบดูทำไมล่ะ..คุณไม่มีอะไรให้น่ามองสักหน่อย!” เย่เชียนพูดอย่างไม่แยแสและหลังจากพูดจบเขาก็เดินออกไปอย่างสบายๆ เพราะเย่เชียนนั้นเป็นคนประเภทที่เมื่อเขาได้เจอกับคนที่แข็งกร้าวแบบนี้ถึงแม้ว่าเขาจะประหม่ามากแค่ไหนก็ตามแต่การที่เรายิ่งแข็งข้อกลับไปมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งลดความประหม่าลงไปเท่านั้นและในทางตรงกันข้ามก็สามารถขับไล่ความตึงเครียดในใจของออกไปได้อย่างสิ้นเชิงอีกด้วย
เย่เชียนก็เดินกลับไปที่บาร์และนั่งลงและหลังจากนั้นไม่นานเจ๊ฮงก็เดินเข้ามาในบาร์และมองไปที่เย่เชียนแล้วถามว่า “นายโวยวายอะไรอยู่ข้างนอกห้องน้ำหรอ?”
“เป็นเพราะคุณนั่นแหละที่ทำให้คนอื่นคิดว่าผมเป็นพวกถ้ำมองเลวทรามแบบนั้น” เย่เชียนชำเลืองมองเธอด้วยหางตาแล้วพูด
เจ๊ฮงก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “เป็นเพราะนายประหม่าเกินไปไงล่ะ..แล้วนายไม่เคยซื้อให้แฟนมาก่อนเลยหรอ”
“เห้อ..เราหยุดคุยเรื่องนี้กันเถอะ..เอาไวน์ให้ผมสักแก้วซิ..ให้ผมเมาๆ สมองโล่งๆ มันอาจจะดีขึ้น” เย่เชียนพูด
“อะไรนะนายจะไปช่วยตัวเองหรอ!” เจ๊ฮงพูดหยอกล้อด้วยรอยยิ้มขณะรินไวน์ใส่แก้วและหลังรินไวน์เสร็จเธอก็ยื่นแก้วให้เย่เชียนและถามว่า “แล้วนายมีแฟนหรือยังทำไมไม่เคยเห็นนายพาผู้หญิงคนไหนมาเลยล่ะ”
“พวกเธอยุ่งอยู่กับงานนน่ะ” เย่เชียนพูดอย่างลวกๆ โดยไม่ได้คิดอะไร
“ห๊ะ..พวกเธอ?” เจ๊ฮงถึงกับตกตะลึงไปกับคำพูดของเย่เชียนที่กล้าพูดออกมาอย่างซื่อสัตย์และปรากฏว่าเด็กหนุ่มคนนี้เสน่ห์แรงจริงๆ ที่ถึงกับมีแฟนหลายคน “นายมีแฟนกี่คนกันเนี่ย?”
“รักแรกหลินโรวโร่ว..รักโดยคำมั่นหูวเค่อ..รักผูกพันฉินหยู..รักเพราะโชคชะตาจ้าวหยา..และคนสุดท้ายที่ผมรักมากๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี..ซ่งหลัน..ก็มีแค่นี้แหละ” เย่เชียนพูด
เจ๊ฮงถึงกับตกตะลึงอย่างมากเมื่อเธอได้ยินเช่นนี้ปรากฏว่าเย่เชียนเป็นคนจับปลาสองมือและหลายใจอย่างมากและเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองเย่เชียนและพูดว่า “พวกนายนี่มันเหลือเกินกันจริงๆ!”
หลังจากนั้นไม่นานซูเหว๋ยก็เดินออกจากห้องน้ำและเดินเข้ามาในบาร์และมองเย่เชียนด้วยหางตา “รู้จักกันหรอ?” เมื่อเห็นเช่นนั้นเจ๊ฮงจึงเอ่ยปากถามด้วยความประหลาดใจ
“ก็แค่เจ้ากรรมนายเวรของผม!” เย่เชียนตอบพลางมองไปที่ซูเหว๋ยและพูดว่า “อย่ามามองผมด้วยสายตาแบบนั้นไม่งั้นคุณจะตกหลุมรักผมนะ!”
“ฮึ..ฮ่าๆ!” เจ๊ฮงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเพราะคำพูดที่หน้าไม่อายของเย่เชียน
“ฝันไปเถอะ!” ซูเหว๋ยจ้องมองเขม็งเย่เชียนและพูดว่า “นายกล้าพนันกับฉันมั้ย?” ซูเหว๋ยพูดพร้อมกับยักคิ้วของเธออย่างยั่วยุ
“แล้วผมต้องกลัวคุณด้วยหรอ?” เย่เชียนก็วางแก้วไวน์ลงแล้วลุกขึ้นหลังจากนั้นเขาก็เดินไปหยิบไม้สนุกเกอร์ขึ้นมาแล้วมองไปที่ซูเหว๋ยแล้วพูดว่า “ไหน! ..จะพนันกันยังไง?”
“มันก็ง่ายมาก..ถ้านายแพ้นายจะต้องเป็นคนรับใช้ของฉันเป็นเวลาหนึ่งเดือน..และนายก็ต้องทำทุกอย่างที่ฉันสั่งให้นายทำ!” ซูเหว๋ยพูดอย่างดุดัน
“แล้วถ้าผมชนะล่ะ?” เย่เชียนถาม
“แล้วนายต้องการอะไรล่ะถ้านายชนะ?” ซูเหว๋ยพูด
“ถ้าผมชนะคุณก็ต้องเป็นทาสของผม..อยู่กินดื่มและนอนกับผม!” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ย่อมได้!” ซูเหว๋ยพูดอย่างมั่นใจ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เย่เชียนถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะและเขาก็ไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้โง่จริงๆ หรือว่าเธอนั้นมั่นใจในฝีมือของเธอจริงๆ
“เอ่อ..กระดุมเสื้อเม็ดแรกของคุณมันเกือบจะหลุดออกมาแล้วนะ..มันรบกวนสมาธิในการแข่งของผมมาก” เย่เชียนเหลือบมองไปที่หน้าอกของซูเหว๋ยและพูด
“นั่นก็เรื่องของคุณ!” ซูเหว๋ยจ้องมองไปที่เย่เชียนและถามว่า “ใครเริ่มก่อน?”
“เชิญคุณก่อนเลย!” เย่เชียนพูด “เลดี้เฟิร์ส!”
ซูเหว๋ยไม่มีท่าทีที่อ่อนแอแต่อย่างใดซึ่งเธอมีท่าทางที่เป็นมืออาชีพจริงๆ และเมื่อเธอก้มตัวลงมาหน้าอกของเธอก็ดูเหมือนจะระเบิดออกมาด้วยจนทำให้เย่เชียนกระอักเลือดออกมาอีกครั้งและเลือดกำเดาของเขาก็พุ่งออกมาในทันที “แม่งเอ๊ย!” เย่เชียนรับหันกลับไปอย่างรีบร้อนและไปหยิบทิชชู่ออกมาเช็ดจมูกของเขา เย่เชียนเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรเพราะช่วงนี้เขาเลือดกำเดาไหลออกมาได้อย่างง่ายดายจริงๆ
“ถึงตานายแล้ว!” ซูเหว๋ยพูด หลังจากนั้นเย่เชียนก็รีบโยนกระดาษทิชชู่ลงถังขยะและเดินไปที่โต๊ะจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองซูเหว๋ยแล้วพูดว่า “คุณไปยืนฝั่งตรงข้ามผมไม่ได้เหรอ..ผมกลัวว่าเวลาผมแทงลูกสนุกเกอร์ไปแล้วไม้มันจะไปโดนหน้าอกของคุณน่ะ”
“ไอ้คนกะล่อน!” ซูเหว๋ยมองเย่เชียนด้วยหางตาแต่เธอก็ยังคงยืนอยู่ข้างๆ เย่เชียนและเธอก็กำลังครุ่นคิดว่าการที่เย่เชียนกล้าเข้าไปในห้องน้ำของผู้หญิงแบบนั้นเขาก็คงจะกล้าทำอย่างอื่นเป็นแน่และเขาจะไม่กล้าทำอะไรอีก? “เดี๋ยวสิ!” ซูเหว๋ยตะโกนออกมา
“โอ้ว!” ทันทีที่เสียงของซูเหว๋ยจบลงเย่เชียนก็แทงไม้สนุกเกอร์ใส่ลูกสนุกเกอร์ทันที “คุณอย่างมาขัดจังหวะผม” เย่เชียนเหลือบมองซูเหว๋ยและพูดว่า “ลืมไปซะ..ผู้ชายอย่างผมไม่มีทางไปเป็นคนรับใช้ของคุณหรอก!”
.
.
.
.
.
.
.