ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 396 การเผชิญหน้าของสามหนุ่ม
ตอนที่ 396 การเผชิญหน้าของสามหนุ่ม
หมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นคิดว่าคนเหล่านี้เป็นพวกโง่เขลาอย่างมากเพราะสถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุในการประมูลนั้นอยู่ในความดูแลของบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดดังนั้นการป้องกันจะต้องแน่นหนาอย่างแน่แล้วพวกเขาจะบุกเข้าไปได้อย่างไร? นี่คือการขุดหลุดฝังศพตัวเองอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งพวกเขาทั้งหมดนั้นต่างก็คิดว่าฝ่ายตนแข็งแกร่งอย่างมากและคิดว่าอีกฝ่ายก็เป็นแค่พนักงานรักษาความปลอดภัยธรรมดาๆ เพียงเท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ล้วนเป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงโดยสมาชิกจากเขี้ยวหมาป่าและถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่งไม่เท่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าก็ตามแต่แค่นี้ก็เกินพอที่จะจัดการกับคนธรรมดาๆ หรือพวกเมาเฟียได้อย่างง่ายดาย หรือเป็นเพราะพวกเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรเลยเพราะท้ายที่สุดแล้วกริชดาวตกก็อยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขาดังนั้นถ้าพวกเขาไม่ลงมือก่อนก็จะถูกฝ่ายอื่นชิงไปก่อนแล้วพวกเขาจะไม่สูญเสียครั้งใหญ่หรือ?
อย่างไรก็ตามล้วนมีทั้งคนโง่และคนฉลาดที่อยู่ในที่แห่งนี้กันทั้งนั้น
ในขณะนี้ทั้งเย่เชียนและแจ็คต่างก็ยิ้มเพราะเย่เชียนนั้นสามารถเข้าใจความคิดของพวกเขาได้ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวมากเกินไปและไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้เกินไปเพราะคนเหล่านั้นก็ติดเบ็ดเสียแล้ว
เมื่อพวกเขาเข้ามาเมื่อครู่นี้แจ็คก็จงใจไม่ล็อกประตูเพราะเมื่อคนกลุ่มนั้นเดินมาที่ประตูเขาก็สามารถผลักประตูให้เปิดออกได้ทันทีซึ่งทำให้พวกเขาตกใจอย่างมาก แต่หลังจากคิดแล้วพวกเขาต่างก็คาดเดาเอาว่าแจ็คนั้นไม่รู้ว่าพวกเขาแอบซุ่มรออยู่ด้านนอก ซึ่งเย่เชียนและแจ็คก็แสร้งทำเป็นว่าจะเดินไปที่ตู้เซฟและแจ็คก็กดรหัสที่ซับซ้อนหลายชุดและหลังจากนั้นก็สแกนม่านตาและประตูตู้เซฟนิรภัยก็ค่อยๆ เปิดออกมา
ซึ่งข้างในมีกล่องอยู่ซึ่งเหมือนกับกล่องของกริชกดาวตกแต่ทว่าในเวลานี้มันก็มีเพียงแค่กริชธรรมดาๆ เท่านั้นที่วางอยู่ข้างใน “โว้ว! ..นี่มันกริชดาวตกจริงๆ เหรอ..มันงดงามมาก!” เย่เชียนแสร้งทำเป็นตื่นเต้นและพูดต่อ “ใครเป็นผู้ขายสิ่งนี้? ..หยุดประมูลกันได้เลย..ฉันจะซื้อมันเอง!”
“พวกเราไม่รู้เลยครับท่าน..ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นเจ้าของ..เราเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดาๆ แล้วเราจะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงครับ” แจ็คยังพูดอย่างให้ความร่วมมือเพราะเขาแสร้งทำให้ดูเหมือนว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สงสารและเวทนาอย่างมาก
“โอ้..ช่างน่าเสียดายอะไรอย่างนี้” เย่เชียนส่ายหัวและพูด
เมื่อกลุ่มคนที่อยู่ด้านนอกได้ยินพวกเขาก็ระเบิดความบ้าคลั่งกันขึ้นมาทันทีเพราะในที่สุดกริชดาวตกก็มาอยู่ตรงหน้าของพวกเขาแล้ว ซึ่งเย่เชียนและแจ็คก็จงใจหยิบกล่องออกมาและหลังจากนั้นจึงล็อคตู้เซฟอีกครั้งและในทันใดนั้นเองประตูด้านนอกก็ถูกเปิดออกทันทีและกลุ่มคนจำนวนมากก็มาปรากฏตัวต่อหน้าต่อตาของเย่เชียนและแจ็ค
เย่เชียนก็รีบกอดกล่องนิรภัยเอาไว้และจ้องมองไปที่พวกเขาและแสร้งทำเป็นกระวนกระวายมากและพูดว่า “คุณ..พวกคุณเป็นใคร?” เขาแสดงเหมือนคนที่อ่อนแย่อย่างมาก ซึ่งหลังจากเย่เชียนพูดจบเหล่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทรักษาความปลอดไอร่อนบลัดก็รีบคุ้มกันเย่เชียนและแจ็คทันทีและถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่านี่คือการแสดงแต่เนื่องจากมันเป็นการแสดงพวกเขาจึงต้องแสดงให้สมจริง
เมื่อเห็นกล่องนิรภัยในมือของเย่เชียนแล้วกลุ่มคนเหล่านี้ก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป “ส่งกล่องนั่นมาให้ฉัน!” ชาวยุโรปผมบลอนด์ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
“ส่งมันมาให้ฉัน..มันเป็นของฉัน!” ชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมาเช่นกันและดึงชายชาวยุโรปเอาไว้ ซึ่งเมื่อเห็นฉากนี้คนอื่นๆ ก็เริ่มควบคุมอารมณ์ไม่ได้ไปทีละคนและหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็รีบวิ่งเข้ามาและฉากนั้นก็ดูวุ่นวายอยู่พักหนึ่ง และผู้คนหลายกลุ่มก็เริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือดและสู้กันเอาเป็นเอาตายจริงๆ
เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนและแจ็คก็มองหน้ากันและอดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มเพราะสำหรับคนเหล่านี้นั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของเย่เชียนเลยเพราะเย่เชียนกำลังกังวลเกี่ยวกับหมาป่าผีไป๋ฮวยอยู่เพราะตามที่คาดการณ์เอาไว้หมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นไม่เหมือนคนงี่เง่ากลุ่มนี้ที่ทำอะไรอย่างโง่เขลา
กลุ่มคนต่างฝ่ายต่างก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดและพวกเขาทั้งหมดก็ดูเหมือนจะลืมไปเสียแล้วว่าจุดประสงค์ของการมาครั้งนี้ก็คือการแย่งชิงกริชดาวตกไม่ใช่เพื่อต่อสู้กับคนอื่น อย่างไรก็ตามเพราะสถานการณ์ในตอนนี้จึงทำให้พวกเขาต้องทำแบบนี้และในความคิดของพวกเขาตราบใดที่พวกเขาจัดการกับคู่ต่อสู้ได้แล้วคนอื่นๆ ที่เหลือก็จะไม่มีปัญหาอะไรเลยและหลังจากนั้นกริชดาวตกก็จะเป็นของคนที่เหลือรอดเองโดยปริยาย
เย่เชียนเองก็ต้องการผลลัพธ์แบบนี้ เพราะเขาแค่แสร้งทำเป็นอ่อนแอและคนโง่เหล่านั้นก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพวกเขานั้นติดเบ็ดของเย่เชียนเรียบร้อยแล้ว
ฉากในตอนนี้ก็กำลังดุเดือดกันอย่างมากและเมื่อเป็นเช่นนั้นเย่เชียนและแจ็คก็มองหน้ากันแล้วยิ้มพร้อมกับกดสวิตช์ข้างๆ พวกเขาอย่างเงียบๆ และหลังจากนั้นก็เดินออกไปทันที ซึ่งในขณะนี้ประตูนิรภัยก็ถูกล็อคอีกครั้งและไม่มีใครสังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อยจนประตูเริ่มปิดลงมาอย่างเงียบๆ และในเวลานี้ห้องนี้ก็กลายเป็นห้องปิดตายที่กลุ่มคนฆ่าฟันกันเอง
“ให้ตายเถอะ! ..ไอ้หมอนั่นไม่เลวเลยหนิ!” ที่ห้องถัดไปเย่เชียนนั่งดูฉากดังกล่าวผ่านกล้องวงจรปิดและพูด
“ไม่ๆ ..เด็กชาวญี่ปุ่นคนนั้นสิก็ไม่เลวเหมือนกัน..ดูคาราเต้มือนั่นสิ..ร้ายกาจใช้ได้เลย” แจ็คก็ดูอย่างเพลิดเพลินเช่นกันและอดไม่ได้ที่จะแสดงความคิดเห็น
ทั้งสองคนก็แสดงความคิดเห็นกันเป็นครั้งคราวจนเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดที่เฝ้าดูอย่างกระตือรือร้นก็ถึงกับตกตะลึง เพราะพวกเขากลัวว่าเย่เชียนกับแจ็คจะต่อสู้กันเพราะความคิดเห็นที่แตกต่างกันและพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนั้นมาก
ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ไม่ใช่พี่น้องเขี้ยวหมาป่าจริงๆ เพราะพวกเขานั้นไม่รู้จักเย่เชียนและแจ็คมากถึงขนาดนั้น ซึ่งอย่ามองไปที่ท่าทางที่จริงจังในหน้าที่การงานและความง่ายๆ สบายๆ ของแจ็คเลยเพราะอันที่จริงแล้วเขาก็เป็นเด็กหนุ่มที่ก้าวร้าวถึงกระดูกดำเช่นกันและเขาก็มักจะทะเลาะกับเย่เชียนเป็นประจำจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ซึ่งในคำพูดของพวกเขานั้นมีทั้งความสนุกสนานและการเย้ยหยันผสมอยู่ในถ้อยคำไม่เช่นนั้นถ้าหากต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากต่างๆ ชีวิตมันก็ไม่สนุกน่ะสิ? บางครั้งคนเราก็ต้องมีอารมณ์ร่วมไปในคำพูดเสียบ้าง
“นายใช้อะไรมองเนี่ย..ดูเด็กฝรั่งนั่นสิ..ทักษะของเขายอดเยี่ยมมาก!” เย่เชียนพูด
“ไม่ๆ ..ชาวญี่ปุ่นน่ะเก่งสุดแล้ว!” แจ็คยืนกรานอย่างเกรี้ยวกราด
“ถ้างั้นก็มาสู้กันเลยมั้ยล่ะ?” เย่เชียนตะโกนและลุกขึ้นยืน ซึ่งในตอนนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดก็ตกตะลึงและยืนอยู่ที่นั่นอย่างเสียอาการ เพราะถ้าหากทั้งสองคนนี้ทะเลาะกันจริงๆ แล้วเขาควรจะช่วยใครดี? แต่เมื่อตระหนักแล้วดูเหมือนว่าพวกเขาไม่สามารถช่วยใครได้เลย
“คิดว่าผมกลัวบอสเหรอ!” แจ็คก็โต้กลับและยืนขึ้น เมื่อพิจารณาจากท่าทางแล้วทั้งสองคนดูเหมือนจะสู้กันจริงๆ และบรรยากาศก็ดูตึงเครียดมากจนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดทั้งหมดก้าวถอยออกไปอย่างโง่เขลาเพราะพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่น้อย
“มา! ..เดี๋ยวพี่จะสอนน้องเอง..ไอ้หนู!” เย่เชียนพูดขณะที่เขาวางกล่องนิรภัยในมือของเขาลงและสวนแจ็คไปด้วยหมัดของเขา
“อ้าว! ..บอสเริ่มก่อนเองนะ..แล้วอย่ามาโทษว่าผมไม่สุภาพก็แล้วกัน” แจ็คพูดแล้วหลบหมัดของเย่เชียน
ในขณะนี้ทั้งเย่เชียนและแจ็คก็กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดจนเหล่าเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าดูพวกเขาอยู่ก็ถึงกับตกใจ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขายังไม่เคยเห็นฝีมือของแจ็คและเย่เชียนเลยดังนั้นพวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะแอบชื่นชมเมื่อเห็นทั้งสองคนสู้กันและหลังจากนั้นพวกเขาต่างก็คิดกันว่าถ้าหากพวกเขาเข้าแทรกแซงล่ะก็จุดจบของพวกเขาจะเป็นเช่นไร
ในความเป็นจริงแล้วนั้นไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าทั้งเย่เชียนและแจ็คนั้นค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ หน้าต่างขณะที่พวกเขาต่อสู้กัน “อยากตายหรอวะ!” เย่เชียนตะโกนเสียงดังและหลังจากนั้นฉากแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้นเพราะแจ็คหันหลังพิงหน้าต่างและในทันใดนั้นแจ็คก็หมันตัวหลบและให้เย่เชียนปล่อยหมัดใส่ไปที่หน้าต่างโดยตรง
จากนั้นก็มีเสียง “ปัง” จากนั้นก็มีเสียงของชายคนหนึ่งซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาโดนหมัดของเย่เชียนเข้าเต็มๆ
ถึงแม้ว่าเย่เชียนและแจ็คจะทะเลาะกันแต่พวกเขาก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดที่ไม่รู้ว่ามีคนแอบมองพวกเขาจากหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว และด้วยความเข้าใจโดยปริยายเกี่ยวกับความร่วมมือและการประสานงานกันของพวกเขาในฐานะสมาชิกเขี้ยวหมาป่าแล้วพวกเขาจึงรู้ได้โดยธรรมชาติดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพูดเพราะการมองเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายได้แล้ว อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าคนคนนั้นไม่ใช่หมาป่าผีไป๋ฮวยแต่ถึงยังไงเย่เชียนก็ยังสามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายที่แปลกประหลาดรอบๆ ร่างกายของคนคนนั้นได้
“เอาล่ะพี่ชาย..ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเข้ามาคุยกันเถอะ!” เย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูด ซึ่งในเวลานี้ในที่สุดเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดก็เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นเย่เชียนก็โบกมือและบอกให้พวกเขาหยุดการกระทำ เพราะถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่ดูเหมือนว่าเย่เชียนจะรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้มีความมุ่งร้ายมากนัก
“ราชาหมาป่าเย่เชียน! ..ไม่มีคำๆ ไหนเหมาะสมไปกว่านี้แล้ว..ไม่เพียงแค่มีความดุดันของหมาป่าเท่านั้นแต่ยังมีไหวพริบอีกด้วย” ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างช้าๆ ซึ่งรูปลักษณ์ของเขานั้นดูหล่อเหลาและมีผิวขาวเนียนจนดูเหมือนผู้หญิงในวัยยี่สิบ แต่ถึงแม้ว่าเขาจะดูอ่อนโยนเหมือนผู้หญิงก็ตามแต่มันผสมผสานกับความกล้าหาญอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้ชายอย่างยิ่ง ซึ่งลักษณะที่ขัดแย้งกันทั้งสองนั้นได้มารวมอยู่ที่คนคนเดียวกันมันจึงทำให้เขาดูเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง
เย่เชียนนั้นก็พยายามค้นหาข้อมูลของชายหนุ่มตรงหน้าในความคิดของเขาแต่มันก็ไร้ผลเพราะเขาไม่เคยพบเจอชายหนุ่มคนนี้มาก่อนเลยและเขาก็ไม่เคยเห็นจากฐานข้อมูลข่าวกรองของเขี้ยวหมาป่าเลย เย่เชียนจึงรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ใช่บุคคลธรรมดาๆ เพราะคนธรรมดานั้นไม่สามารถสงบเสงี่ยมและความสงบเพียงอย่างเดียวได้เพราะยิ่งไปกว่านั้นกลิ่นอายจิตสังหารที่เล็ดลอดออกมานั้นดูเหมือนจะมีมาตั้งแต่กำเนิดแทนที่จะเป็นจิตสังหารที่เกิดจากความเป็นศัตรูและปฏิปักษ์ต่อกัน
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันมายิ้มและพูดว่า “คุณรู้จักผม..แต่ผมยังไม่รู้จักคุณเลย..คุณคือใคร?”
ชายหนุ่มก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ใจเย็นๆ ..ยังมีเพื่อนอยู่ข้างนอกอีก” จากนั้นเขาก็หันหน้าไปทางหมาป่าผีไป๋ฮวยในความมืดและพูดว่า “พี่ชาย! ..ออกมาเถอะ!”
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเพราะเขานั้นตั้งใจว่าจะไม่เปิดเผยตัวออกไปแต่ก็น่าเสียดายที่ตัวตนของเขาถูกสัมผัสได้เสียแล้ว “โอ้..ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบผู้นำองค์กรเซเว่นคิลในตำนานหลินเฟิงที่นี่” หมาป่าผีไป๋ฮวยเดินออกมาจากความมืดด้วยรอยยิ้มแวบกระโจนเข้ามาข้างในห้องอย่างรวดเร็ว
.
.
.
.
.
.
.