ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 399 ความผิดพลาดของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ
ตอนที่ 399 ความผิดพลาดของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ
เมื่อเห็นการแสดงออกของหลินโรวโร่วแล้วซ่งหลันก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ซึ่งนิสัยจอมเจ้าเล่ห์ของเย่เชียนนั้นสามารถล่อลวงได้แค่หลินโรวโร่วเท่านั้นเพราะถ้าหากเป็นซ่งหลันล่ะก็เขาอาจจะถูกซ่งหลับตบและทำโทษก็เป็นได้
“อ่า..ผมเจ็บตรงนี้..มันเจ็บไปหมดเลย!” เย่เชียนพูดอย่างเสแสร้ง บางครั้งเย่เชียนก็รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาไม่ได้เป็นนักแสดงไม่เช่นนั้นรางวัลออสการ์ก็คงจะต้องตกเป็นของเขาเอง
“อย่าเพิ่งขยับ..ให้ฉันดูก่อน” หลินโรวโร่วตรวจสอบร่างกายของเย่เชียนอย่างอ่อนโยน
“เขาไม่ได้เป็นอะไรหรอกโรวโร่ว..ดูท่าทางที่ภาคภูมิใจของเขาสิ” ซ่งหลันเหลือบมองเย่เชียนและพูด
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างมีความสุขเพราะตอนนี้หลินโรวโร่วเข้าใจแล้วและเธอก็มีความสุขและกังวลในเวลาเดียวกัน ซึ่งข่าวดีก็คือเย่เชียนสบายดีไม่ได้เป็นอะไรเขาเพียงแค่เล่นกลอุบายแบบนี้ก็เพื่อหยอกล้อเธอในตอนนี้จนทำให้เธอรู้สึกเขินอายต่อหน้าซ่งหลัน “ฉันเกลียดคุณ..ฉันจะไม่สนใจคุณอีก!” หลินโรวโร่วตะคอกและลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป
“คืนนี้รีบกลับบ้านด้วยล่ะ!” ซ่งหลันพูดพร้อมกับมองไปที่เย่เชียน
“หือ..ทำไมล่ะ?” เย่เชียนถึงกับตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและหลังจากนั้นเขาก็หัวเราะและพูดว่า “คืนนี้มีอะไร? ..จะลงโทษผมกันหรอ?”
เมื่อเห็นท่าทางที่น่าสมเพชของเย่เชียนแล้วหลินโรวโร่วก็เข้าใจได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ซึ่งมันช่างน่าอึดอัดจริงๆ เพราะเขากำลังคิดถึงบางสิ่งที่เหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เมื่อคิดเช่นนั้นหลินโรวโร่วก็หันกลับมามองเย่เชียนย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของพี่หลัน!”
เย่เชียนถึงผงะไปและหลังจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างเชื่องช้าและมองไปที่ซ่งหลันอย่างขอโทษ ซึ่งเขาคิดว่าทำไมเขาถึงได้ลืมเรื่องนี้ไปได้กันนะ และเมื่อเขาเห็นใบหน้าของซ่งหลันเริ่มเปลี่ยนไปเย่เชียนก็รีบพูดว่า “เอ่อ..คือ..พี่หลัน..คืนนี้ผมจะกลับมาให้ทันนะ” เย่เชียนพูดอย่างเชื่องช้า
“หึ!” ซ่งหลันตอบอย่างไม่สบอารมณ์และหันหน้าเดินออกไป
เมื่อเห็นซ่งหลันและหลินโรวโร่วออกไปเย่เชียนก็ถอนหายใจด้วยความรู้สึกผิดเพราะเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ซงหลันคอยช่วยเหลือตัวเองอย่างยากลำบากโดยที่เธอไม่บ่นเลยสักคำแต่เขากลับลืมวันเกิดของเธอเช่นนี้ เย่เชียนนั้นรู้ดีว่าทุกวันนี้ผู้หญิงมักจะมีความกังวลมากเกี่ยวกับพฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้เธอเสียใจหรือไม่?
ที่จริงแล้วเย่เชียนนั้นก็จำไม่ได้แม้แต่วันเกิดของตัวเองเพราะที่ผ่านมาก็มีแต่แจ็คที่คอยเตือนเขาทุกครั้งที่มีวันพิเศษ แต่ทว่าเมื่อคืนนี้มันมีอะไรหลายๆ อย่างเกิดขึ้นดังนั้นแจ็คก็เลยลืมที่จะเตือนเย่เชียนในเรื่องต่างๆ
เนื่องจากเรื่องต่างๆ มาถึงจุดนี้แล้วมันก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ซึ่งมีแต่จะต้องทำให้ดีขึ้น ซึ่งเย่เชียนก็รู้ดีว่าซ่งหลันจะไม่โทษเขาสำหรับเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอนแต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ตำหนิแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เชียนจะยอมรับได้ว่าเขาไม่ผิด ดังนั้นเย่เชียนก็จำเป็นจะต้องไปเลือกของขวัญให้เธออย่างถี่ถ้วนเสียแล้ว
แต่ของขวัญสำหรับซ่งหลันนั้นเลือกยากเกินไปหน่อยเพราะเครื่องประดับและเสื้อผ้าแฟชั่นนั้นดูไร้รสนิยมเกินไปถ้าจะให้ก็ต้องให้เป็นของที่ระลึก แต่ทว่าเย่เชียนก็คิดไม่ออกและยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งปวดหัวมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นตอนนี้เขาควรจะไปทำธุระเสียก่อนแล้วก็ค่อยๆ คิดไปแต่ถ้าไม่ได้ผลเขาก็ควรจะไปปรึกษาแจ็คเพราะเด็กคนนี้นั้นเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการให้ของขวัญอยู่ แต่ทว่าน่าเสียดายที่หลีเหว่ยไม่ได้อยู่ในประเทศจีนไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ก็สามารถปรึกษาหลีเหว่ยได้เป็นอย่างดีแน่นอนเพราะเขานั้นลองผิดลองถูกมามากเพราะเขามักจะมอบของขวัญมากมายให้กับสาวๆ ในทุกๆ ปี
หลังจากอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแล้วเย่เชียนก็เดินออกจากบ้านและพบว่ารถของซ่งหลันยังคงจอดอยู่โดยมีกุญแจเสียบอยู่ในรถจนเขาถึงกับผงะเพราะดูเหมือนว่าซ่งหลันจงใจทิ้งรถเอาไว้ให้เย่เชียน
ภายในรถมีกลิ่นหอมของผู้หญิงและกลิ่นกายของซ่งหลันที่เปล่งออกมาก็น่าดึงดูดใจอย่างมากจนเย่เชียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และขับรถของเธอไปที่บ้านของหมินเว่ยเหวินเพราะยังมีเวลาเหลืออีกแค่สองวันก่อนงานการประมูลจะเริ่มขึ้นและเย่เชียนก็ต้องรีบไปพบหมินเว่ยเหวินเพื่อที่เย่เชียนจะได้มั่นใจในทุกๆ สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ซึ่งตอนนี้หลินเฟิงและหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ได้ออกจากประเทศจีนไปแล้ว ดังนั้นเย่เชียนก็ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องของพวกเขาอีกต่อไป
แต่ทว่าก็ยังมีอาซูกะนากาจิมะอีกคนและเย่เชียนก็ไม่รู้เลยว่าจื้อจุนกับเซียวหวันทำงานของพวกเขาประสบความสำเร็จหรือไม่ ซึ่งเมื่อเย่เชียนนึกถึงเรื่องนี้เย่เชียนจึงรีบโทรไปหาหวงฟู่ชิงเตี๋ยนทันทีและเมื่อสายโทรศัพท์ถูกเชื่อมต่อแล้วก็มีเสียงดังขึ้นจากอีกฝั่งซึ่งมันเหมือนเสียงของสภาพแวดล้อมในสนามบินอย่างไงอย่างงั้น และเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะและถามด้วยความประหลาดใจว่า “ปู่จะไปไหน?”
“จะไปไหนอะไรของเอ็งกันล่ะ..ฉันเพิ่งจะมาถึงเมืองเซี่ยงไฮ้เนี่ย” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดต่อ “อย่าบอกนะว่าเอ็งเจอสายลับอีกแล้วน่ะ?”
“สายลับอะไรนักหนา..ผมก็แค่อยากจะมาทักทายปู่เอง..ถ้าปู่ไม่สนใจผมก็จะวางสายแล้วนะ” เย่เชียนพูดติดตลก
“มาเถอะๆ ..อย่าปั่นหัวฉันเลย..ว่าแต่แจ็คคุมตัวสายลับอยู่ใช่มั้ย?” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนถาม
“ใช่ๆ ..เขาคือคนที่ติดต่อกับอู๋หยางเฉิง..แล้วทำไมปู่ถึงไม่ส่งคนมาคุมตัวเขาไปล่ะ?” เย่เชียนพูดต่อ “ผมคิดว่ามีหลายฝั่งหลายฝ่ายที่ลอบเข้ามาในประเทศจีนของเรา..แล้วสำนักความมั่นคงแห่งชาติของปู่ล่ะ? ..ดูเหมือนว่าพวกปู่จะไม่รู้อะไรเลยนะ..โชคดีที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่งั้นพวกปู่คงลำบากกันแน่”
“ก็นั่นสิ..เห้อ..สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของเราตอนนี้มีคนไม่พอน่ะ..ตอนนี้พวกเราส่วนใหญ่ได้รับมอบหมายให้ไปทำภารกิจเร่งด่วนที่ต่างประเทศกันหมดน่ะ” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนถอนหายใจและพูด เหตุการณ์นี้ถึงกับทำให้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เพียงแค่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติส่วนใหญ่ออกไปปฏิบัติภารกิจกันแล้วแต่ยังรวมไปถึงผู้ใต้บังคับบัญชาของคนใหญ่คนโตของประเทศอีกด้วย
สำหรับภารกิจลับเหล่านั้นเย่เชียนก็คงจะไม่งี่เง่าที่จะถามแต่อย่างใดเพราะถึงแม้ว่าเย่เชียนจะถามเกี่ยวกับความลับของรัฐบาลเช่นนั้นถึงยังไงหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็จะไม่พูดมันอย่างแน่นอน “แล้วอาซูกะนากาจิมะล่ะ? ..เธออยู่ไหนแล้ว..พวกปู่จับเธอได้แล้วหรือยัง?” เย่เชียนถาม
“เอ็งหมายความว่ายังไงนะ?” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนถามด้วยความหดหู่
“เอาเถอะ..อย่าพูดถึงมันเลย” เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ใจเพราะปรากฏว่าจื้อจุนและเซียวหวันไม่ได้จับอาซูกะนากาจิมะ ดังนั้นในตอนนี้สิ่งต่างๆ ก็เริ่มจะมีปัญหาแล้วเพราะไม่รู้เลยว่ามีคนมาจากองค์กรทหารรับจ้างเรดซันในเมืองเซียงไฮ้กี่คนและเย่เชียนก็เกรงว่าเขาจะตามหาอาซูกะนากาจิมะได้ยากมากกว่าเดิมและในกรณีที่เธอเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดกับเขี้ยวหมาป่าไปยังองค์กรเบื้องหลังของพวกเธอแล้วล่ะก็ในอนาคตการที่เขี้ยวหมาป่าจะเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นได้ก็คงจะเป็นเรื่องยาก
ทันทีที่เย่เชียนได้ยินน้ำเสียงของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแล้วเขาก็รู้ได้ว่าสิ่งต่างๆ มันจะต้องยุ่งเหยิงแล้วเพราะไม่เช่นนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็คงจะไม่มาที่เมืองเซี่ยงไฮ้โดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้หรอก
หลังจากวางสายโทรศัพท์ของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแล้วเย่เชียนก็รีบโทรหาแจ็คอีกครั้งและพูดว่า “อาซูกะนากาจิมะอยู่ที่จีน! ..และพวกงี่เง่าจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติก็ทำพลาดกันอีก..เพราะงั้นพวกเราต้องหาวิธีรับมือโดยเร็วที่สุดเลย..หาที่อยู่เธอซะ..แล้วก็อย่าเพิ่งออกไปไหนสักสองสามวัน..เพราะถ้าพวกองค์กรทหารรับจ้างเรดซันรู้เราจะลำบาก”
“รับทราบครับบอส..ไม่ต้องกังวลไป..เพราะทั้งบริษัทจำกัดและห้างสรรพสินค้าและชุมชนต่างๆ ในเซี่ยงไฮ้ก็ล้วนแล้วเป็นคนของเราทั้งนั้น..ผมจะแจกจ่ายรูปถ่ายของอาซูกะนากาจิมะให้พวกเขาเอง” แจ็คพูดต่อ “เอ่อคือ..เมื่อคืนบอสเป็นยัไงบ้าง..ทั้งหลินเฟิงและไป๋ฮวย…”
“ไม่มีอะไรแล้ว..พวกเขาออกจากประเทศจีนไปแล้ว” เย่เชียนพูดต่อ “นายติดต่อไปหาหวังหูและบอกให้เขาสั่งคนของเขาให้สนใจเรื่องนี้ด้วย..ฉันไม่เชื่อหรอกว่าด้วยเครือข่ายของเราในตอนนี้เราจะไม่เจออาซูกะนากาจิมะเลย”
“ครับบอส!” แจ็คตอบแล้ววางสายไป
เย่เชียนนั้นปวดหัวกับสักนักงานความมั่นคงแห่งชาติอย่างมากเพราะปรากฏว่าพวกเขาล้มเหลวในการจับอาซูกะนากาจิมะจนทำให้เกิดปัญหาที่วุ่นวายและไม่ว่าจะยังไงก็ตามเย่เชียนก็ต้องหาเธอให้พบโดยเร็วที่สุดแล้วค่อยจัดการกับเธอ และยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติช่วยอะไรไม่ได้เลยดังนั้นเย่เชียนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และเมื่อเขารู้ได้ว่าองค์กรใดที่อยู่เบื้องหลังองค์กรทหารรับจ้างเรดซันแล้วล่ะก็เขาค่อยส่งเรื่องต่างๆ ให้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติทีหลัง
เมืองเซี่ยงไฮ้นั้นไม่ได้ใหญ่โตกว้างขวางมากนักดังนั้นเย่เชียนจึงไม่เชื่อว่าการที่เขามีเครือข่ายและบุคลากรมากมายถึงขนาดนี้แล้วเขาจะไม่สามารถหาแหล่งกบดานของอาซูกะนากาจิมะได้ และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอก็ต้องรู้ตัวด้วยว่าคนของเธออยู่ในกำมือของบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดใช่ไหม? ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ใส่ใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาก็ตามถึงยังไงเธอก็ต้องทำภารกิจชิงกริชดาวตกให้สำเร็จด้วยตัวของเธอเอง
เย่เชียนนั้นก็มีเครือข่ายมากมายกับคนที่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นเย่เชียนจึงสามารถเข้าใจถึงจิตวิญญาณแห่งบูชิโดในทางที่ผิดของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเย่เชียนจึงเชื่อว่าถึงแม้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอจะตายไปแต่ถึงยังไงอาซูกะนากาจิมะก็ต้องทำภารกิจของเธอให้สำเร็จไม่เช่นนั้นถึงแม้ว่าเธอจะกลับไปที่ประเทศญี่ปุ่นก็ตามแต่ถึงยังไงผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ดีและเธอก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต
การแย่งชิงกริชดาวตกนั้นก็เป็นเพียงภารกิจเบื้องต้นเท่านั้นเพราะสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ก็คือการติดต่อกับอู๋หยางเฉิงเพื่อให้เขาช่วยเปิดเส้นทางการส่งยานรกในประเทศจีนหรืออีกนัยหนึ่งก็คือการอาศัยบุคคลที่มีอำนาจเหนืออู๋หยางเฉิงนั่นเอง
เย่เชียนเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกันเพราะคนอย่างอู๋หยางเฉิงจะปีนขึ้นไปถึงจุดที่เขายืนอยู่ในทุกวันนี้ได้อย่างไรถ้าไร้คนสนับสนุน? ไม่เช่นนั้นเขาจะสามารถเดินออกมาจากคณะกรรมการตรวจสอบวินัยกลางได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร? สัญชาตญาณต่างๆ ก็บ่งบอกว่ายังมีบุคคลทรงอำนาจที่อยู่เบื้องหลังอู๋หยางเฉิง ซึ่งเย่เชียนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปสืบหาว่าคนคนนั้นเป็นใครเพราะโดยปกติแล้วมันเป็นหน้าที่ของใครบางคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติที่จะต้องตรวจสอบ เพราะถ้าหากสิ่งเหล่านี้ไม่ชัดเจนล่ะก็สำนักความมั่นคงแห่งชาติก็ไม่สามารถแก้ตัวได้เลย ซึ่งเย่เชียนก็ยังเชื่อว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นสามารถทำได้และความผิดพลาดเรื่องของอาซูกะนากาจิมะนั้นก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญเพียงเท่านั้น
หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้วเย่เชียนก็ขับรถไปที่บ้านของหมินเว่ยเหวินเพราะเมื่อคืนนั้นเขาช้าเกินไปจนเสียเวลาไปหนึ่งคืน ซึ่งวันนี้เย่เชียนก็ไม่สามารถล้มเหลวได้อีกไม่เช่นนั้นแผนการต่างๆ คงจะผิดพลาดทั้งหมดแน่นอน ซึ่งทางฝั่งของกงห่าวนั้นเย่เชียนก็ไม่ได้ถามถึงความคืบหน้าเช่นกันเพราะถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่เข้าใจของเก่าของโบราณก็ตามแต่เขาก็รู้ดีว่าการปลอมแปลงและลอกเลียนแบบโบราณวัตถุนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
ถ้าถึงวันประมูลจริงๆ ล่ะก็ถ้ากงห่าวยังทำไม่สำเร็จจริงๆ เย่เชียนก็จะต้องคิดหาวิธีอื่นซึ่งมันต้องพยายามอย่างมาก อย่างไรก็ตามหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เย่เชียนเองก็เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เช่นนี้อยู่เหมือนกัน
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมารถของเย่เชียนก็ได้หยุดอยู่ที่หน้าคอนโดของหมินเว่ยเหวินและเย่เชียนก็เงยหน้าขึ้นไปมองและเย่เชียนก็ลงจากรถและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นบน
.
.
.
.
.
.
.