ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 408 กลัวจนฉี่รดกางเกง
ตอนที่ 408 กลัวจนฉี่รดกางเกง
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ไม่คิดว่าเย่เชียนจะดีขนาดนี้เพราะเย่เชียนนั้นจะมอบตัวอู๋หยางเฉิงกับสมาชิกทหารรับจ้างเรดซันแก่เขาเพียงเพราะมิตรภาพของเขาหรือด้วยเหตุผลด้านความรักชาติก็ตามแต่จากความเข้าใจของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่เกี่ยวกับเย่เชียนนั้นก็รู้ว่าเด็กคนนี้มักจะใช้ประโยชน์จากทุกสิ่งที่เขาทำเพื่อได้รับผลประโยชน์ของตัวเองโดยไม่ทำให้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนคิดว่าเขาเป็นคนที่โหดร้ายและไม่เคยทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
ตั้งแต่ที่เย่เชียนโทรหาหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นเขาก็รู้ว่าเด็กคนนี้ต้องการยืมมือเขาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสำหรับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแล้ว นี่ก็ไม่ใช่การยืมมือทั้งหมดเพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เย่เชียนพูดก็ยังคงเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมากและเขาก็ต้องทำเช่นนี้อยู่แล้ว นั่นก็เพราะว่าถ้ามันไม่ใช่เพราะความล้มเหลวของจื้อจุนกับเซียวหวันแล้วล่ะก็เรื่องเมื่อตอนช่วงกลางวันก็คงจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเขาก็รู้ดีว่าเย่เชียนจะไม่ยอมปล่อยมันผ่านไปอย่างแน่นอน ซึ่งมันก็ดีสำหรับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเช่นกันเพราะเขาจะสามารถนั่งอยู่บนภูเขาและดูเสือต่อสู้กันและรอคอยเพียงผลลัพธ์เท่านั้น
ด้วยทักษะของจื้อจุนและเซียวหวันนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะจัดการกับอาซูกะนากาจิมะได้เลย ดังนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจึงไม่สามารถรอผลลัพธ์อย่างสบายใจได้แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะคนระดับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นสามารถทำสิ่งนี้ได้โดยที่เขาไม่ต้องมากพิธีการเลยด้วยซ้ำและไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะแม้แต่เย่เชียนเองเขาก็สามารถที่จะยับยั้งได้แล้วนับประสาอะไรกับคนอย่างอาซูกะนากาจิมะ
ในขณะนี้อาซูกะนากาจิมะก็เงียบไปครู่หนึ่งและในสถานการณ์เช่นนี้เธอก็คงจะต้องเดินไปหาความตายอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งการที่เธอลงไปหามันก็อาจจะดีกว่าการที่รอให้เย่เชียนและคนอื่นๆ ขึ้นมาหาเธอเพราะบางทีเธออาจจะหาโอกาสหนีได้ระหว่างทางและถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถหลบหนีไปจากจีนได้ก็ตามแต่อย่างน้อยๆ เธอก็ต้องส่งข้อมูลต่างๆ ของเขี้ยวหมาป่าในเมืองเซี่ยงไฮ้ไปที่องค์กรลับของเธอให้ได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้อาซูกะนากาจิมะก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ทำไมเราไม่มาคุยกันก่อนล่ะคุณเย่!”
เย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ผมขอแนะนำว่าให้คุณอาซูกะนากาจิมะล้มเลิกความคิดของคุณไปซะ..เพราะวันนี้คุณจะไม่สามารถออกไปจากที่นี้ได้..ผมจะบอกอะไรให้นะว่ามันไม่ได้มีแค่คนของผมที่อยู่ที่นี่หรอกนะ..เพราะยังมีเต่าอีกสองสามตัวอยู่ที่นี่ด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเพราะปรากฏว่าเด็กคนนี้เป็นผีจริงๆ เพราะเขารู้ตัวแล้วว่าตัวเองอยู่ที่นี่ด้วย แต่เขาก็ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย
อาซูกะนากาจิมะก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งและเมื่อมองออกไปไกลๆ เธอก็เห็นรถสีดำจอดอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้และคิ้วของเธอก็ขมวดเข้าหากันแน่นและพูดว่า “ถ้าคุณเย่กลัวก็รออยู่ข้างล่างต่อไป..แต่ข้างล่างอากาศมันหนาวมากล่ะก็ให้ฉันส่งเสื้อผ้าให้มั้ยล่ะ?”
“ว่ากันว่าผู้หญิงชาวญี่ปุ่นนั้นมักจะปรนนิบัติผู้ชายได้เป็นอย่างดี..และดูเหมือนว่ามันจะเป็นอย่างที่เขาพูดกันจริงๆ สินะ..แต่คุณไม่ต้องเดือดร้อนหรอกคุณอาซูกะนากาจิมะ..เพราะผมมีแฟนแล้ว..คุณเลิกหวังเถอะ..ผมแนะนำให้คุณไปตายซะ!” เย่เชียนพูดต่อ “แต่เดี๋ยวก่อนนะ..เพื่อเห็นแก่ความงดงามของคุณผมจะให้น้องๆ ขึ้นไปหาคุณก็แล้วกัน”
“พวกผมรู้สึกยินดีมากที่ได้รับใช้พี่สองครับ! ..ไป..พวกเราไปกันเถอะ!” เด็กหนุ่มกลุ่มนั้นก็ตะโกนกันอย่างกระตือรือร้น
“ใช่พี่สอง..พวกเราจะไม่ทำให้พี่สองผิดหวัง!” เมื่อเด็กหนุ่มเหล่านี้ยิ่งพูดพวกเขาก็ยิ่งไม่มีเหตุผลมากเท่านั้นจนเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่หวังหูและพูดว่า “นายอยู่ที่นี่เพื่อคอยสนับสนุนนะ..ถ้ามีใครที่กล้าวิ่งออกมาก็ฆ่ามันซะ!” เย่เชียนพูดเสียงดังอย่างจงใจเพื่อให้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่อยู่ข้างหลังเขาได้ยิน
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็เข้าใจได้อย่างเป็นธรรมชาติและอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเพราะเด็กคนนี้นั้นกำลังตำหนิตัวเองที่นั่งอยู่บนภูเขาและดูเสือต่อสู้กันเอง
จากนั้นเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่แจ็คและยิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วพูดว่า “แจ็ค! ..นายขึ้นไปกับฉัน!”
“เอ่อคือ..มันก็นานมากแล้วนะ..ผมไม่รู้ว่าทักษะการต่อสู้ของผมมันอ่อนลงหรือเปล่า” แจ็คขยับร่างกายของเขาและพูดว่า “บอส! ..พาคนไปด้วยอีกสองสามคนจะดีกว่า..เพราะพวกเขาอาจจะมีปืนก็ได้!” ไม่ใช่ว่าแจ็คจะหวาดกลัวแต่มันเป็นเพราะสถานการณ์ที่หนักหน่วงเช่นนี้เพราะถ้าหากเย่เชียนถูกปืนยิงโดยบังเอิญล่ะก็มันคงจะน่าอายไม่น้อยและชื่อเสียงของราชาแห่งโลกทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าก็จะถูกลบออกไปเป็นแน่
เย่เชียนก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใดเขาเพียงพยักหน้าเล็กน้อยเพราะเขาไม่ได้หยิ่งผยองถึงขั้นนั้นเพราะในกรณีนี้เย่เชียนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องยึดในศึกดิ์ศรีหรือแสดงแสนยานุภาพมากนัก ดังนั้นแจ็คจึงเรียกเจ้าหน้าที่หลายคนจากบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดมา ซึ่งนำโดยแจ็คและเย่เชียนและหลังจากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปบ้าน ส่วนหวังหูก็โบกมือและสั่งให้คนของเขาเริ่มเคลื่อนไหวและจำกัดวงล้อมให้แคบลง
อย่างไรก็ตามอาซูกะนากาจิมะนั้นก็มีปืนอยู่ในมือแต่ในสถานการณ์เช่นนี้เธอก็ไม่แน่ใจเลยว่าเธอจะสามารถฆ่าเย่เชียนได้ 100% หรือเปล่าดังนั้นเธอจึงไม่กล้าที่จะยิงออกไปง่ายๆ ไม่เช่นนั้นเธอก็จะทำให้ความรุนแรงทวีคูณขึ้นและความร้ายแรงก็มากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และเธอก็จะไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีอีกต่อไป ดังนั้นเธอต้องรอจนกว่าเย่เชียนจะมาถึงข้างหน้าเธอและเธอก็จะสามารถฆ่าเย่เชียนได้ 100%
อู๋หยางเฉิงก็มองไปที่อาซูกะนากาจิมะอย่างประหม่าและพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “คุณเป็นคนที่ทำให้เรื่องต่างๆ มันเกิดขึ้น..ถ้าไม่ใช่เพราะคุณแล้วมันจะเป็นแบบนี้ได้ยังไง!”
อาซูกะนากาจิมะก็ตะคอกว่า “นี่คุณโทษฉันเหรอ? ..ถ้าไม่ใช่เพราะคุณไปยั่วยุเขาแล้วมันจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? ..เอาเถอะ..ถึงยังไงทั้งคุณและฉันก็ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้อยู่ดี”
“คุณนั่นแหละที่ไม่สามารถออกไปได้..เพราะฉันเป็นถึงรองผู้ว่าการเทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้..เพราะงั้นถึงถึงแม้ว่าเด็กคนนั้นจะหยิ่งยโสแค่ไหนแต่เขาก็ไม่กล้าฆ่าฉันอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ได้อยู่ดี!” อู๋หยางเฉิงพูดอย่างเกรี้ยวกราด
อาซูกะนากาจิมะก็ฉีกยิ้มอย่างเหยียดหยามและเธอก็รู้สึกเพียงแค่ว่าอู๋หยางเฉิงที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นเป็นเหมือนขยะจริงๆ และเธอก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคนแบบนี้มาอยู่กับเธอที่นี่ได้อย่างไรและเธอมาร่วมมือกับเขาได้อย่างไร ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันนั้นก็ชัดเจนมากแล้วเพราะการที่เย่เชียนออกมาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้แต่สำนักงานความมั่นคงสาธารณะหรือกรมตำรวจส่วนกลางของเมืองเซี่ยงไฮ้กลับไม่ตอบสนองใดๆ เลยแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเย่เชียนได้จัดเตรียมสิ่งต่างๆ เอาไว้เรียบร้อยแล้ว
“นี่คุณยังไม่เห็นอีกเหรอว่าเขาจะมาฆ่าคุณน่ะ” อาซูกะนากาจิมะพูด “นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีคนตั้งมากมายและถ้าหากมีคนจากทางการมาสอบสวนเขาก็ล่ะก็พวกเขาก็สามารถหาคนมาแทนที่เย่เชียนได้และรับบาปแทนได้..แล้วคุณยังจะกล้าคิดอยู่อีกเหรอว่าเขาจะไม่ฆ่าคุณ?”
อู๋หยางเฉิงก็ถึงกับสั่นไปทั้งตัวและหลังจากครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อาซูกะนากาจิมะพูดนั้นสมเหตุสมผลอย่างมาก เพราะมีคนมากมายที่อยู่ข้างล่างและถึงแม้ว่าเย่เฉียนจะฆ่าเขาก็ตามถึงยังไงเย่เชียนก็จะสามารถหาคนที่มารับโทษแทนเขาได้ ซึ่งเมื่อคิดเช่นนั้นอู๋หยางเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่และถามว่า “แล้ว..ฉันจะทำยังไงดี? ”
“คุณมาถามฉันแล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง..แล้วแต่เวรแต่กรรมเถอะ!” อาซูกะนากาจิมะเหลือบมองอู๋หยางเฉิงด้วยหางตาแล้วพูด
ในขณะนี้คนสี่คนจากบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดก็เดินขึ้นมาแล้วพวกเขาก็จ่อปืนไปที่อู๋หยางเฉิงและอาซูกะนากาจิมะอย่างระมัดระวัง จากนั้นเย่เชียนและแจ็คก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ ซึ่งการที่บริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดนั้นเป็นบริษัทขนาดใหญ่เนื่องจากเกี่ยวข้องกับบริการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลายดังนั้นจึงมีการอนุญาตและอนุมัติให้บุคลากรในบริษัทมีสิทธิ์พกปืนไปทั่วเมืองและพูดได้ว่าปืนและอาวุธในปัจจุบันของพวกเขานั้นถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด อย่างไรก็ตามมันก็จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเป็นประจำในทุกๆ เดือนเช่นกัน
สมาชิกทหารรับจ้างเรดซันสองคนที่อยู่ข้างหลังอาซูกะนากาจิมะนั้นกำลังจะชักปืนออกมาแต่ทว่าอาซูกะนากาจิมะก็รีบโบกมือเพื่อหยุดพวกเขาเพราะการชักปืนในครั้งนี้นั้นมันเป็นการแสวงหาทางตันอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเธอต้องรอให้เย่เชียนเข้ามาใกล้ตัวเธอเองก่อนดังนั้นเธอถึงจะมีโอกาสที่จะฆ่าเย่เชียนด้วยการยิงเพียงนัดเดียว แต่ทว่าก็น่าเสียดายที่เย่เชียนนั้นไม่ได้เป็นไปตามที่เธอต้องการ
หลังจากที่ก้าวเข้ามาในบ้านแล้วมุมปากของเย่เชียนฉีกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มและเขาก็สะบัดก้นบุหรี่ทิ้งไป ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ของบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดสี่คนก็ได้ใช้ปืนยิงสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันสองคนที่อยู่ข้างหลังอาซูกะนากาจิมะโดยไม่ลังเลใด ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอย่างมากสำหรับอาซูกะนากาจิมะเพราะจากสิ่งที่เธอรู้มาเกี่ยวกับเย่เชียนนั้นเขาคนนี้จะไม่ตัดสินใจทำอะไรเร็วขนาดนี้ เพราะถึงยังไงเย่เชียนก็ได้แอบฟังคำพูดของเธอเกี่ยวกับความลับของเธอซึ่งแน่นอนว่าเขาควรจะมีคำถามมากมายให้ถามเธอ
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้อาซูกะนากาจิมะก็รีบยื่นมือไปหยิบบางอย่างในเสื้อของเธอแต่แจ็คก็จ่อปืนมาที่เธอและยิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วพูดว่า “อย่าขยับ! ..ถ้าคุณอาซูกะนากาจิมะไม่อยากตายก็อย่าขยับ!”
ปากของอาซูกะนากาจิมะกระตุกสองสามครั้งและดึงมือของเธอกลับมาด้วยความโกรธเกรี้ยว เพราะเมื่อเผชิญหน้ากับทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าแนวหน้าเช่นนี้เธอก็ไม่มั่นใจเลยว่าฝีมือการดวลปืนของเธอจะเร็วกว่าของแจ็คหรือไม่ “นายหมายความว่ายังไง?” อาซูกะนากาจิมะพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
“ผมไม่ได้จะมาฆ่าคุณ..ผมมาฆ่าเขา!” เย่เชียนพูดเบาๆ
ในตอนนี้อู๋หยางเฉิงก็ถึงกับสั่นไปทั้งตัวและเขาก็ทรุดตัวลงบนโซฟาและกลิ่นปัสสาวะก็ลอยออกมาคลุ้งพื้นที่ อู๋หยางเฉิงก็จับกางเกงของเขาด้วยความตกใจ ส่วนแจ็คก็ค่อยๆ เดินไปหาอาซูกะนากาจิมะและหยิบปืนและมีดของเธอออกจากร่างกายของเธอและส่งตัวเธอให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัด
อาซูกะนากาจิมะก็ยอมปล่อยให้ตัวเองถูกคุมตัวเอาไว้ แต่เย่เชียนก็รู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องมองหาโอกาสเพื่อทำการลอบโจมตีตัวเองเป็นแน่ ซึ่งแน่นอนว่าเย่เชียนนั้นไม่ได้โง่พอที่จะให้โอกาสเธอตอนนี้เพราะเธอไม่ใช่คนดีแต่อย่างใด ดังนั้นเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแสร้งทำเป็นอ่อนโยนกับเธอ เพราะมันจะไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลยถ้าจะปล่อยเธอสร้างปัญหาอีกในอนาคต
เย่เชียนก็เดินไปที่โซฟาและนั่งลงจากนั้นก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยพร้อมเหลือบมองไปที่อู๋หยางเฉิงและพูดว่า “ท่านรองผู้ว่าอู๋หยาง..คุณต้องการไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนมั้ย?”
อู๋หยางเฉิงนั้นคือคนประเภทที่มักจะหยิ่งผยองและโอหังอยู่เสมอแต่ทว่าในเวลานี้เขาที่ต้องการจะยืนขึ้นแต่ปรากฏว่าขาของเขานั้นไม่มีเรี่ยวแรงเลย
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดว่า “ผมอุตส่าห์ใจดีกับคุณแล้วแต่คุณกลับสั่งคนมาฆ่าผมแบบนี้..คุณควรจะตระหนักถึงผลลัพธ์ในวันนี้ได้..และก็ไม่ต้องกังวลไปผมจะไม่ฆ่าคุณ..แต่จะมีคนมารับคุณไป” จากนั้นเย่เชียนก็หันไปพูดกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทไอร่อนบลัดที่อยู่ข้างหลังเขาว่า “พาตัวเขาออกไป”
ไม่ว่าอู๋หยางเฉิงจะทรยศต่อความลับของรัฐหรือไม่ว่าเขาจะทรยศต่อประเทศชาตินั้นถึงยังไงเขาก็จะต้องถูกสอบสวนโดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติซึ่งเย่เชียนก็ไม่ได้สนใจมากนัก เพราะเขามุ่งเน้นไปที่อาซูกะนากาจิมะเพื่อค้นหาความจริงว่าองค์กรที่อยู่เบื้องหลังเธอนั้นคืออะไร
เย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและเหลือบมองไปที่อาซูกะนากาจิมะและพูดว่า “เอาล่ะ..มาเข้าประเด็นกันเลย..บอกผมมาว่าองค์กรที่อยู่เบื้องหลังคุณคืออะไร..และการมาเยือนประเทศจีนครั้งนี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่? ”
.
.
.
.
.
.