ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 409 ความประมาท
ตอนที่ 409 ความประมาท
เมื่อเห็นสถานการณ์ปัจจุบันอาซูกะนากาจิมะก็รู้ดีว่าเธอนั้นหลบหนีไปไหนไม่ได้แล้วภายใต้การควบคุมของสมาชิกเขี้ยวหมาป่าทั้งสองและเนื่องจากเธอที่ไม่สามารถหนีไปไหนได้จึงทำให้ความตายเท่านั้นที่เป็นทางเลือกเดียวของเธอ
อาซูกะนากาจิมะก็ได้รับการฝึกฝนทางทหารมาตั้งแต่เด็กๆ และกฎเหล็กเหล่านั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะไม่ว่าใครจะเผชิญกับอันตรายมากแค่ไหนเขาก็ต้องไม่บอกความลับขององค์กรของเขา อย่างไรก็ตามในสมัยนี้ก็มีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมากดังนั้นมันจึงสามารถทำให้ผู้คนที่อยู่เหนือการควบคุมของพวกเขาได้และก็สามารถสะกดจิตผู้คนได้ภายใต้การกระตุ้นของยาและอุปกรณ์ต่างๆ และแม้แต่คนที่มีสมาธิและจิตใจที่แข็งแกร่งก็ตามถึงยังไงเขาก็ยังไม่สามารถซ่อนสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในใจได้จนต้องพูดมันออกมาทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นการพลีชีพและสละชีพไปเพื่อความคงอยู่ของความลับนั้นเราก็จะสามารถเป็นดั่งวีรชนผู้กล้าได้
เมื่อเห็นการแสดงออกของอาซูกะนากาจิมะแล้วเย่เฉียนก็ยิ้มอย่างเย็นยะเยือกและพูดว่า “คุณอาซูกะ..ผมแนะนำให้คุณปัดเป่าความคิดของคุณออกไปให้หมดซะ..เพราะถ้าคุณสามารถฆ่าตัวตายต่อหน้าผมได้ล่ะก็..ชื่อราชาหมาป่าเย่เชียนของผมก็คงจะถูกลบออกไปจากโบกใบนี้เป็นแน่”
อาซูกะนากาจิมะก็รู้สึกหดหู่อย่างมากเพราะเธอไม่ได้คาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะรู้ถึงความคิดของเธอจริงๆ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่บอกความลับขององค์กรอย่างแน่นอนเพราะไม่เช่นนั้นเธอจะไม่เพียงแค่กลายเป็นคนทรยศและถูกองค์กรตามล่าเท่านั้น แต่ครอบครัวและเครือญาติของเธอทั้งหมดก็จะไม่ได้รับการไว้ชีวิตเช่นกันและยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ว่าเธอจะพูดออกไปก็ตามถึงยังไงเย่เชียนก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไปอย่างแน่นอนซึ่งอาซูกะนากาจิมะรู้อยู่แก่ใจเป็นอย่างดี
อาซูกะนากาจิมะก็พูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ราชาหมาป่าเย่เชียน! ..ดูเหมือนว่าคุณจะคิดน้อยเกินไปหน่อยนะ..ถ้าวันนี้คุณทำอะไรฉันล่ะก็..คุณก็รอการแก้แค้นขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันได้เลย”
ในความเป็นจริงมีอีกสิ่งหนึ่งที่อาซูกะนากาจิมะไม่ได้พูดและนั่นก็คือการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งขององค์กรที่อยู่เบื้องหลังเธอนั่นเอง
“คุณอาซูกะนากาจิมะไม่ต้องกังวลไป..เพราะถึงยังไงเรื่องนี้มันก็จะไม่มีวันรั่วไหลออกไป..เพราะคุณก็เห็นแล้วหนิ..ข้างหลังนั้นไง..ผมจะส่งตัวคุณให้กับคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีน..อย่าว่าแต่องค์กรทหารรับจ้างเรดซันเลย..เพราะแม้แต่องค์กรที่อยู่เบื้องหลังคุณก็ไม่รอดหรอก” เย่เชียนพูด “แน่นอนว่าตั้งแต่ที่องค์กรทหารรับจ้างเรดซันประกาศสงครามกับเหล่าเขี้ยวหมาป่าแล้ว..ซึ่งเมื่อนั่นเองเขี้ยวหมาป่าก็ได้ออกคำสั่งไล่ล่าเต็มอัตราศึกและไม่นานชื่อของเรดซันจะถูกลบหายไปจากโลกใบนี้!”
หลังจากถูกลอบสังหารโดยองค์กรทหารรับจ้างเรดซันในบ่ายวันนี้แล้วเย่เชียนก็ได้ออกคำสั่งให้เล็งยี่ประกาศสงครามกับองค์กรทหารรับจ้างเรดซันอย่างเป็นทางการยกเว้นกองกำลังในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเย่เชียนสั่งเพียงแค่ให้กวาดล้างสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันที่กระจัดกระจายอยู่ภายนอกทั่วโลกให้สิ้นซาก
ในไม่ช้าข่าวต่างๆ ก็แพร่กระจายไปในโลกของทหารรับจ้างและเล้งยี่ก็ได้ติดต่อไปยังองค์กรทหารรับจ้างแนวหน้ากลุ่มอื่นๆ และบอกพวกเขาโดยตรงว่าพวกเขาสามารถช่วยสนับสนุนหรือเลือกที่จะเพิกเฉยได้แต่ถ้าหากว่าใครกล้าที่จะช่วยปกปิดหรือแอบสนับสนุนองค์กรทหารรับจ้างเรดซันอยู่ล่ะก็นั่นก็ถือว่าเป็นศัตรูของเขี้ยวหมาป่าเช่นกัน
ด้วยการตอบรับจากไอซอลเดแฮมป์ตันที่เป็นทั้งเพื่อนและพันธมิตรที่ดีและซื่อสัตย์ต่อเย่เชียน ซึ่งองค์กรทหารรับจ้างแนวหน้าของโลกกลุ่มอื่นๆ ก็ไม่ได้ปฏิเสธใดๆ และถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เลือกที่จะช่วยเหมือนที่ไอซอลเดแฮมป์ตันทำก็ตามแต่ถึงยังไงพวกเขาก็เปิดทางให้และเพิกเฉยต่อสิ่งต่างๆ และทำเป็นว่าพวกเขามองไม่เห็นอะไรเลย
กล่าวได้ว่าความร่วมมือระหว่างเขี้ยวหมาป่าและนีโอมิลิทารี่นั้นเป็นดั่งพันธมิตรที่แข็งแกร่งและไม่มีองค์กรทหารรับจ้างใดๆ ที่สามารถอยู่รอดและต้านทานได้ภายใต้การปิดล้อมของทั้งสองกองกำลังนี้ อย่างไรก็ตามในประเทศญี่ปุ่นก็เป็นฐานของแม่ขององค์กรทหารรับจ้างเรดซัน ดังนั้นเขี้ยวหมาป่าจึงก็ไม่คิดที่จะย่างก้าวเข้าไปเหยือบอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าไม่เช่นนั้นเย่เชียนเกรงว่าพวกเขาไม่เพียงแค่จะถูกปิดล้อมโดยกองกำลังต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นและกองกำลังทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับองค์กรเรดซันเท่านั้นแต่ยังอาจเกี่ยวข้องกับรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำ ซึ่งถึงแม้ว่าเย่เชียนจะเอาชนะได้ก็ตามแต่มันก็ต้องแลกมาด้วยความสูญเสียอย่างหนักหน่วงเพราะฆ่าศัตรูนับพันคนแต่ต้องสูญเสียพวกพ้องไปครึ่งหนึ่งเช่นนี้นั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เย่เชียนสามารถยอมรับได้เลย ซึ่งสำหรับเย่เชียนแล้วชีวิตของพี่น้องเขี้ยวหมาป่าและสหายพวกพ้องนั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดและเขาก็จะไม่เพิกเฉยต่อชีวิตของพี่น้องเพื่อที่เขาจะได้ประสบความสำเร็จเช่นนั้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามด้วยความร่วมมือระหว่างเขี้ยวหมาป่ากับนีโอมิลิทารี่แล้วนั่นก็หมายความว่าสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่ในประเทศญี่ปุ่นจะถูกกวาดล้างทั้งหมดและสิ่งที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่นั้นก็คือเหล่ามือสไนเปอร์ที่เดือดดาลนั่นเอง
สำหรับผู้ที่คอยสนับสนุนอู๋หยางเฉิงอยู่เบื้องหลังนั้นเย่เชียนก็เชื่อว่าเขาคนนั้นยังไม่รู้สถานการณ์ที่นี่และถึงแม้ว่าเขาจะรู้จักตัวตนของเย่เชียนก็ตามแต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในวันนี้และยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็ไว้วางใจหวงฟู่ชิงเตี๋ยนอย่างมากและเย่เชียนก็เชื่อว่าหลังจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจับตัวอู๋หยางเฉิงได้แล้วเขาจะสอบสวนคนที่อยู่เบื้องหลังอู๋หยางเฉิงอย่างแน่นอนและเมื่อเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาคนนั้นก็จะไม่สามารถทำอะไรได้อีกและทุรนทุรายเพื่อไปพบกับองค์กรที่อยู่เบื้องหลังองค์กรทหารรับจ้างเรดซันเพื่อรายงานเกี่ยวกับเย่เชียนเป็นแน่
ที่สำคัญกว่านั้นพฤติกรรมขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันในครั้งนี้นั้นทำให้เย่เชียนโกรธเกรี้ยวและเดือดดาลอย่างมาก และครั้งนี้เย่เชียนก็จะไม่ฆ่าพวกเขาเหมือนกับที่เขาทำกับผู้นำแก๊งยามากุจิครั้งที่แล้วเพราะคราวนี้เย่เชียนนั้นต้องการที่จะกวาดล้างครั้งใหญ่และเป้าหมายของเย่เชียนก็คือการทำให้ประเทศญี่ปุ่นสั่นคลอนนั่นเอง
เมื่อเย่เชียนพูดจบการแสดงออกของอาซูกะนากาจิมะก็เปลี่ยนไปทันทีและไม่สามารถรักษาความสงบเสงี่ยมที่เธอแสร้งทำเอาไว้ได้อีกต่อไป “ถ้างั้น…” เมื่อถึงจุดนี้อาซูกะนากาจิมะก็หยุดชะงัก “ถ้างั้นก็ตายไปพร้อมๆ กันซะเลย!” หลังจากพูดจบแล้วอาซูกะนากาจิมะก็ถอดเสื้อผ้าออกและปรากฏว่าร่างกายของเธอนั้นเต็มไปด้วยระเบิดพลีชีพ
ยิ่งไปกว่านั้นระเบิดพลีชีพก็ได้เริ่มนับเวลาแล้วและเหลือเวลาเพียงไม่ถึงห้านาทีเท่านั้น ซึ่งเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปและดูเหมือนว่าก่อนที่เขาจะขึ้นมาอาซูกะนากาจิมะได้ติดตั้งระเบิดพลีชีพเอาไว้กับตัวเธอโดยคาดหวังว่าถ้าเธอหนีไปไม่ได้ล่ะก็เธอก็จะตายไปพร้อมๆ กับคนที่นี่ทั้งหมดและถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากทำนักก็ตามแต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ นั้นมันบีบคั้นให้เธอจำใจต้องทำเช่นนี้
การกระทำเช่นนี้ทำให้ทุกคนตกใจกันอย่างมากจนเย่เชียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และโบกมือให้แจ็คและพูดว่า “แจ็ค! ..พาพวกเขาออกไปก่อน..เดี๋ยวฉันจัดการที่นี่เอง!”
“บอส! …” แจ็คกำลังจะพูดแต่ทว่าเย่เชียนก็ตะโกนขัดจังหวะว่า “ไป!” แจ็คถึงกับตกตะลึงและรีบพูดว่า “บอส! ..ไม่ว่าจะยังไงก็ตามผมจะไม่ปล่อยให้บอสต้องเสี่ยงขนาดนี้..พวกผมอยู่ไม่ได้นะถ้าไม่มีบอส!” หลังจากพูดจบแจ็คก็พุ่งเข้าไปหาอาซูกะนากาจิมะ
แจ็คนั้นไม่ยอมที่จะถอยไปแล้วเมื่อเป็นเช่นนั้นเย่เชียนจะเพิกเฉยต่อความตั้งใจของแจ็คได้อย่างไร ซึ่งเหตุการณ์นี้นั้นเป็นเพราะเย่เชียนประเมินอาซูกะนากาจิมะต่ำไป เพราะเย่เชียนนั้นเพิกเฉยต่อความคิดที่จงรักภักดีของชาวญี่ปุ่นไปโดยสิ้นเชิงเพราะสิ่งที่เย่เชียนคิดก็คืออาซูกะนากาจิมะนั้นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะหลบหนีแต่ทว่าเธอก็ไร้ซึ่งหนทางใดๆ เธอจึงเลือกตัดสินใจเช่นนี้
อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่มีเวลาที่จะมาครุ่นคิดอีกต่อไปแล้วและในตอนนี้มีดในมือของเขาก็กำลังจะแทงเข้าไปที่อาซูกะนากาจิมะโดยไม่ลังเลใดๆ เพราะในตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดก็คือการฆ่าอาซูกะนากาจิมะและถึงแม้ว่าจะไม่สามารถกำจัดระเบิดพลีชีพได้ก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาและพี่น้องทั้งหมดก็จะมีเวลาหลบหนีและในตอนนี้เย่เชียนก็ไม่ได้สนใจที่จะเค้นข้อมูลใดๆ จากอาซูกะนากาจิมะอีกต่อไปแล้วเพราะชีวิตของทุกคนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ในขณะนี้จู่ๆ ก็มีร่างคนร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาจากนั้นเย่เชียนก็เห็นร่างของอาซูกะนากาจิมะล้มลงไปอย่างรวดเร็วและการเคลื่อนไหวก็รวดเร็วเกินไปจนถึงกับทำให้เย่เชียนและแจ็คตกตะลึงไปชั่วขณะและหลังจากร่างนั้นหยุดลงพวกเขาก็มองอย่างตั้งใจและปรากฏว่าเขาคือหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั่นเอง
ในฐานะหนึ่งในสมาชิกผู้ทรงเกียรติของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนแล้วหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเคยได้จัดการกับสายลับจำนวนมากของประเทศญี่ปุ่นและเขาก็มีความชัดเจนเกี่ยวกับพฤติกรรมของชาวญี่ปุ่นด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าอาซูกะนากาจิมะจะไม่ใช่สายลับก็ตามแต่ในฐานะที่เธอเป็นถึงผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันแล้วเธอก็ต้องผ่านการฝึกฝนที่เข้มงวดอย่างมากและการตัดสินใจพลีชีพลสละชีพด้วยตนเองแบบนี้นั้นเป็นสิ่งที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนคุ้นเคยมาก ดังนั้นเมื่อเย่เชียนและแจ็คเข้ามาในบ้านเมื่อครู่นี้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็แอบตามมาอย่างลับๆ ด้วย
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ตามแต่ถึงยังไงเย่เชียนและแจ็คก็จะฆ่าอาซูกะนากาจิมะก่อนที่ระเบิดจะระเบิดออกมาก่อน แต่ทว่านี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนต้องการ เพราะสิ่งที่เขาต้องการก็คืออาซูกะนากาจิมะที่ยังมีชีวิตอยู่เพราะหลังจากนั้นพวกเขาจะสอบสวนและเค้นข้อมูลของเธอเช่นนั้น
ถึงแม้ว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะเคยพูดเอาไว้ว่าเย่เชียนนั้นไม่เคยทำงานที่ไม่ได้เรื่องต่อหน้าต่อตาเขาเลย ซึ่งตอนนี้ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เช่นนั้น
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “พวกนายน่าจะปลดระเบิดพลีชีพกันได้ใช่ไหม? ..โทษทีนะฉันอยากจับเธอตัวเป็นๆ น่ะ”
ทักษะการต่อสู้แบบนี้เย่เชียนก็เคยเห็นมันกับซึ่งถูกใช้โดยหลินจินไท่ผู้เป็นอาจารย์ของเขาเองและมันก็ถูกเรียกว่ากระบวนท่าฝังเข็มนั่นเอง ซึ่งจุดฝังเข็มบนร่างกายของมนุษย์นั้นมีหลายร้อยจุดและจุดฝังเข็มแต่ละจุดก็มีหน้าที่แตกต่างกันไปและมีทั้งจุดตายทั้งจุดหลับและอื่นๆ อีกมากมาย และเย่เชียนก็คิดว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นใช้กระบวนท่าแบบเดียวกันกับอาจารย์ของเขาแต่เห็นได้ชัดเลยว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นแข็งแกร่งกว่าอาจารย์ของเขามาก
เย่เชียนก็บุ้ยปากและพูดว่า “นั่นก็เป็นเรื่องของคุณ..เพราะผมไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าเธอจะเป็นหรือตาย”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า “เอ็งก็อยากรู้เหมือนกันไม่ใช่เหรอว่าองค์กรที่อยู่เบื้องหลังเธอคืออะไร..ถ้าเอ็งฆ่าเธอมันก็จะเป็นการตัดเบาะแสไปโดยสิ้นเชิงน่ะสิ..และยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากปราศจากข้อมูลของอาซูกะนากาจิมะล่ะก็..ฉันเองยังไม่สามารถขุดคุ้ยคนที่อยู่เบื้องหลังอู๋หยางเฉิงได้เลย..เอ็งไม่กลัวเหรอว่าการปรากฏตัวของพวกนี้จะเป็นภัยคุกคามต่อเอ็งหรือประเทศชาติน่ะ?”
เย่เชียนนั้นก็แค่โกรธเกรี้ยวเพราะสถานการณ์เมื่อครู่นี้ ดังนั้นเขาจึงพูดด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “ได้! ..คุณทำงานของคุณไปก็แล้วกัน..แล้วก็ตอบแทนผมภายหลังด้วย..แจ็ค..กลับ!”
“ได้สิ! ..ฉันจะตอบแทนเอ็งในอนาคต” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเย่เชียนแล้วแจ็คก็ก้มลงไปและหยิบมีดพับออกมาจากเสื้อของเขาและคลายเกลียวตัวนับเวลาระเบิดพลีชีพอย่างระมัดระวัง
สมาชิกเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดนั้นล้วนได้รับการฝึกอบรมหมวดปลดวัตถุระเบิดต่างๆ ด้วยเช่นกันและถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เชี่ยวชาญมากนักแต่ถึงยังไงพวกเขาก็สามารถปลดวัตถุระเบิดชนิดทั่วไปออกได้ ซึ่งระเบิดพลีชีพของอาซูกะนากาจิมะนั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไรเพราะเธอก็ไม่เคยคิดที่จะใช้มันมาก่อน และถึงแม้ว่าเธอคิดที่จะใช้มันจริงๆ ล่ะก็เธอก็เชื่อว่าเย่เชียนนั้นจะไม่มีโอกาสได้ปลดระเบิดได้ทันเวลาดังนั้นเธอจึงติดตั้งมันอย่างลวกๆ และไม่ได้ซับซ้อนมากนัก
คนเรานั้นไม่ควรคิดที่จะยอมแพ้ต่อสิ่งใดก็จริงแต่ทว่าอาซูกะนากาจิมะนั้นมั่นใจในตัวเองมากเกินไปซึ่งมันจะนำพาไปสู่ผลลัพธ์ในวันนี้ ซึ่งเย่เชียนก็เกือบจะเผชิญกับหายนะเนื่องจากความประมาทเพียงชั่วครู่ของเขาเท่านั้น นี่เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับเย่เชียนจริงๆ ถึงแม้ว่าหนทางในฐานะผู้นำเขี้ยวหมาป่าของเย่เชียนจะยากลำบากก็ตามแต่เขาก็ยังสามารถผ่อนคลายได้แต่ทว่าสิ่งต่างๆ ในวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้นในอนาคต
.
.
.
.
.
.
.