ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 416 แผนซ้อนแผนหลอกนางฟ้า
ตอนที่ 416 แผนซ้อนแผนหลอกนางฟ้า
บางทีเย่เชียนอาจจะจำเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้แต่ทว่าเด็กคนนี้นั้นจำเย่เชียนได้อย่างชัดเจน แล้วเขาคือใคร? เขาคือโจวหยวน! ในตอนที่เย่เชียนยังทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ซึ่งวันที่เขาไปกินบาร์บีคิวกับจ้าวไถ่จู้และคนอื่นๆ นั้น ซึ่งเด็กคนนี้เป็นคนที่ท้าทายและเกือบจะถูกจ้าวไถ่จู้ฆ่าในวันนั้น
อย่างไรก็ตามหลังจากเหตุการณ์นั้นโจวหยวนก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าความแข็งแกร่งและสังคมในโลกความเป็นจริงเป็นอย่างไร ซึ่งเขานั้นได้เสียการเรียนไปตั้งแต่แรกและโอกาสในการสร้างอาชีพการงานของเขาก็สูญหายไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งเขาไม่มีทักษะใดๆ เลยแม้แต่น้อย ซึ่งเขาเพียงความเยาว์วัยและความตั้งใจที่จะต่อสู้เขาจึงหันไปติดตามหลี่ตงและต่อมาหลี่ตงก็ได้ติดตามหวังหูและหลังจากนั้นเขาก็เลยติดตามหวังหูจนได้เป็นลูกน้องไปโดยปริยาย ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่เย่เชียนเข้ายึดเมืองเซี่ยงไฮ้และส่งมอบแก๊งชิงและหงเหมินกรุ๊ปให้หวังหูนั้นจึงทำให้หวังหูกลายเป็นผู้นำของเหล่านักเลงตัวน้อยๆ ซึ่งตอนนี้ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนตราบใดที่เขาพูดว่าเขาเป็นลูกน้องของหวังหูแล้วล่ะก็ใครจะกล้าท้าทายเขา?
ในไม่ช้าเขาก็ได้เป็นเหมือนมือขวาของหวังหูซึ่งทำให้เขารู้ว่าความสำเร็จนั้นคืออะไร ซึ่งในวันนี้สิ่งที่หวังหูพูดเอาไว้นั้นก็ค่อนข้างชัดเจนอย่างมากเพราะตราบใดที่เขาสามารถช่วยเย่เชียนให้ทำสิ่งต่างๆ ลุล่วงไปได้ด้วยดีล่ะก็เขาเองก็จะมีโอกาสได้ขึ้นเป็นผู้นำและสำหรับโจวหยวนแล้วนี่ก็เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่เขาใฝ่หามาตลอด
เย่เชียนนั้นก็จำไม่ได้ว่าเขาเคยมีความบาดหมางกับเด็กหนุ่มคนนี้มาก่อน ซึ่งหลังจากออกจากลานการประมูลแล้วเย่เชียนก็ตรงไปโรงเรียนอนุบาลเพื่อไปรับเย่หลินกลับบ้านอีกครั้ง
เย่เชียนก็ทำมื้อเย็นด้วยตัวเอง ส่วนเย่หลินก็นั่งดูรายการโทรทัศน์ซึ่งท่าทางของเธอดูเรียบร้อยและฉลาดและมีไหวพริบเกินไปจริงๆ ซึ่งเย่เชียนก็มั่นใจได้ว่าในอนาคตเด็กคนนี้จะแข็งแกร่งอย่างมากในอนาคต
หลังอาหารเย็นเย่เชียนก็เริ่มสอนการบ้านเย่หลินและถึงแม้ว่าเขาจะยังเรียนไม่จบมัธยมต้นก็ตามแต่ถึงยังไงก็ไม่มีปัญหาสำหรับการสอนการบ้านเด็กอนุบาลเลย อย่างไรก็ตามการกระทำของเย่หลินก็ถึงกับทำให้เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อยเพราะปรากฎว่าเธอนั้นเริ่มทำการบ้านได้อย่างรวดเร็วราวกับว่าเธอไม่ได้คิดอะไรมากมายผ่านสมองเลยและยิ่งไปกว่านั้นเย่หลินก็ถามคำถามกับเย่เชียนเป็นครั้งคราวแต่เย่เชียนก็ไม่สามารถตอบได้และในท้ายที่สุดเย่เชียนก็ยอมทิ้งงานและภาระต่างๆ ออกไปและดูเธอทำการบ้านอย่างมีความสุข
เมื่อหลินโรวโร่วกลับมาจากบริษัทก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มและเย่เชียนก็พูดกระซิบกับเธอสองสามประโยคจากนั้นเขาก็ขับรถไปที่โรงแรมที่เฟิงกั๋วฟู่นัดเอาไว้ ซึ่งเมื่อเย่หลินมองไปที่การปรากฏตัวของเย่เชียนและหลินโรวโร่วแล้วเธอก็ยิ้มเยาะและหลินโรวโร่วก็รู้สึกอายอย่างมากและแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะหาช่องหนีเพื่อที่จะเข้าไปแอบ ซึ่งวันนี้ในที่บริษัทเธอก็ไม่รู้ว่ามีสายตาแปลกๆ มองมาที่เธอกี่คน ซึ่งในมุมมองของผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์มาเยอะแล้วก็จะมองออกได้อย่างชัดเจนว่าหลินโรวโร่วนั้นดูเปล่งปลั่งและสดใสกว่าปกติอย่างมาก
เมื่อเย่เชียนมาถึงทางเข้าหน้าประตูโรงแรมเขาก็พบว่าโจวหยวนก็รออยู่ที่นั่นในชุดสูทและเซ็ตผมมันวาวเหมือนสุภาพบุรุษ ซึ่งเย่เชียนยังต้องยอมรับเลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีหน้าตาที่ดูดีพอสมควรและเขาหล่อเกินไปและดูเหมือนผู้ชายที่ตรงกันข้ามกับตัวเองอย่างสิ้นเชิงเพราะโจวหยวนนั้นดูเหมือนผู้หญิงเสียมากกว่าเพราะเขาไม่เพียงแค่มีผิวพรรณที่ดีแต่ยังมีใบหน้าที่ดูบอบบางอย่างมากด้วย
เมื่อเห็นเย่เชียนแล้วโจวหยวนก็รีบเข้าไปต้อนรับเย่เชียนโดยการเปิดประตูรถและพูดด้วยความเคารพว่า “สวัสดีครับพี่สอง!”
เย่เชียนก็พยักหน้าเบาๆ และมองไปที่เขาแล้วยิ้มและถามว่า “เป็นยังไงบ้าง..เอ็งเก็บแรงเอาไว้สำหรับคืนนี้แล้วหรือยัง? ”
“ไม่ต้องห่วงครับพี่สอง..ผมกินไข่ดิบไปตั้งห้าฟองและทุกๆ เช้าผมก็แข็งเต็มที่ด้วย” โจวหยวนตบหน้าอกของเขาและพูดอย่างมั่นใจ
“ไข่ดิบเนี่ยนะ?” เย่เชียนถามด้วยความประหลาดใจเพราะเขาไม่รู้จริงๆ ว่าไข่ดิบก็มีผลเช่นนี้เหมือนกันเพราะเขารู้แค่ว่าไข่ดิบนั้นช่วยในการเสริมสร้างพลังงานและร่างกายเท่านั้น
“พี่สองไม่รู้งั้นเหรอ? ..งั้นพี่สองก็ต้องลองดูเพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์นั้นมันจะน่าทึ่งแค่ไหน” โจวหยวนพูด
“ลืมไปเถอะ..มันมีแบคทีเรียเยอะเกินไป..ฉันยังไม่อยากตายเร็ว” เย่เชียนก็ส่ายหัวและพูด ยิ่งไปกว่านั้นไข่เหล่านั้นในโลกปัจจุบันก็ยังเป็นไข่เทียมหรือไข่จากต่างประเทศหรือมีฮอร์โมนบางชนิดหรือคล้ายๆ กันเพราะถ้าหากเรากินมันมากเกินไปมันก็ไม่มีประโยชน์นับประสาอะไรกับการกินดิบๆ เช่นนั้น “ไปกันเถอะ!” เย่เชียนเรียกโจวหยวนแล้วเดินเข้าไปในโรงแรม
ในห้องห้องหนึ่งของโรงแรมนั้นหญิงสาวคนนั้นก็แทบจะอดใจรอไม่ไหวเธอจึงไปอาบน้ำรอแล้วเธอยังฉีดน้ำหอมอีกเล็กๆ น้อยๆ ตามเรือนร่างของเธอและเธอก็สวมเพียงชุดนอนแบบขาสั้น ซึ่งครั้งนี้เธอไม่ได้มีแค่ชายหนุ่มแต่ยังได้เงินอีก 5 แสนหยวนด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเธอนั้นก็ไม่ได้สนใจเลยว่าเฟิงกั๋วฟู่จะมีผู้หญิงกี่คนและเธอก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับความคิดที่น่าสยดสยองของเขาเพราะตราบใดที่เธอได้เงินเธอก็จะทำเพื่อเงินได้เสมอ และถ้าหากเฟิงกั๋วฟู่สามารถหาผู้หญิงคนอื่นนอกจากเธอได้เช่นนั้นเธอเองก็สามารถหาผู้ชายคนอื่นได้เช่นกันซึ่งเธอก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย
ในห้องนั้นมีการซ่อนกล้องเอาไว้โดยกล้องหลายตัวหันหน้าไปทางเตียงนั่นก็เพราะว่าเฟิงกั๋วฟู่นั้นต้องการถ่ายภาพและวีดีโดเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้จากนั้นก็ข่มขู่เย่เชียนและส่งให้หลินโรวโร่วโดยตรงโดยใช้ประโยชน์จากความเศร้าและเสียใจของเธอและใช้โอกาสนี้เข้าหาหลินโรวโร่วนั่นเอง
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เฟิงกั๋วฟู่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเพราะเขาอยู่ในห้องถัดไปและนั่งดูจอวิดีโอพร้อมกับรอยยิ้มที่น่าสยดสยองและกลัวและพึมพำว่า “ไม่มีใครรอดพ้นกำมือของฉันไปได้หรอก..หึ!”
เย่เชียนก็เคาะประตูห้องและในทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออกและร่างคนร่างหนึ่งก็รีบวิ่งไปออกมาย่างรวดเร็ว ซึ่งมันไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากหญิงสาวคนนั้นและเธอก็เขินอายอย่างมากและพูดว่า “ทำไมคุณถึงได้มาช้าจังเลยล่ะ..ให้ฉันรอตั้งนาน”
เย่เชียนก็ยิ้มและพูดว่า “คุณทนไม่ไหวแล้วหรอ..ทำไมคุณถึงไม่ใช้แตงกวาแก้ขัดไปก่อนล่ะ” เย่เชียนใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้โดยการบีบหน้าอกของเธอและสร้างความเย้ายวนให้เธอจนเธอตัวสั่นไปชั่วขณะราวกับว่าเธอไม่มีแรงจนทิ้งตัวลงไปในอ้อมแขนของเย่เชียนทันที
เธอนั้นเป็นคนใจร้อนอย่างมากเพราะเธอดึงเสื้อผ้าของเย่เชียนออกและเธอก็เม้มปากเข้าหากัน ซึ่งเย่เชียนก็รีบคว้าตัวเธอเอาไว้และพูดว่า “ใจเย็นๆ ..ผมจะแนะนำคุณให้รู้จักกับหนุ่มหล่อคนนึง”
หญิงสาวก็ผงะอยู่พักหนึ่งและเธอก็หันหน้ามาด้วยความประหลาดใจและเธอก็พบว่าโจวหยวนอยู่ข้างหลังเย่เชียนและเธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าคุณเย่จะมีงานอดิเรกและรสนิยมแบบนี้..ยังไงก็เถอะวันนี้ฉันเป็นของคุณ..เพราะงั้นคุณสามารถเล่นอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ”
“ไม่! ..ผมไม่ได้สนใจคุณเลย” เย่เชียนพูดพลางหันหน้าไปมองโจวหยวนแล้วพูดว่า “เอ้ารออะไรอยู่ล่ะ..เธอไม่ไหวแล้ว!”
หญิงสาวก็ถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะซึ่งสถานการณ์เช่นนี้นั้นเกินความคาดหมายของเธอไปมาก เพราะถ้าหากเธอล่อลวงเย่เชียนไม่ได้เงินครึ่งล้านของเธอก็จะหายไป ซึ่งถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ของโจวหยวนจะดูหล่อเหลาและเป็นแบบที่เธอต้องการมาโดยตลอดก็ตามแต่เมื่อเทียบกับเงิน 500,000 หยวนแล้วเธอก็ไมได้สนใจมากนัก “นี่คุณล้อฉันเล่นเหรอ? ” หญิงสาวพูด
“ใครกันแน่ที่เล่นตลก? ..คุณอย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าตาแก่เฟิงกั๋วฟู่น่ะคิดอะไรชั่วๆ อยู่..คุณเองก็อยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้มานานแล้วสินะ..ถ้างั้นคุณก็ควรจะรู้จักชื่อของผมสิ..ผมเย่เชียน..ถ้าคุณกล้าที่จะลองดีกับผมล่ะก็ชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณจะเจ็บปวดเหมือนตกนรกอย่างแน่นอน!” เย่เชียนพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
หญิงสาวก็ตกใจอย่างมากและจ้องมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจ “บอกตรงๆ นะว่าผมน่ะเป็นคนที่หยาบคาย..ถ้าคุณไม่อยากให้หน้าเป็นรอยก็แค่ต้องร่วมมือและเชื่อฟังเข้าใจมั้ย? ..ถ้าหน้าสวยๆ แบบนี้มีรอยแผลเป็นสักสองสามรอยมันคงจะน่าเกลียดมากเลย” เย่เชียนพูดแล้วยิ้มอย่างเป็นมิตรและดูไม่มีพิษภัย
เย่เชียนก็ผลักหญิงสาวกลับเข้าไปในห้องและตบไหล่ของโจวหยวนแล้วพูดว่า “ตั้งใจทำงานด้วยนะ..บางทีวิดีโอของนายอาจจะถูกปล่อยออกไปสู่ตลาดและขายได้หลายพันชุดเลย!” เย่เชียนพูดแล้วเดินออกไปด้วยรอยยิ้ม
นี่เป็นฉากที่เฟิงกั๋วฟู่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้เลยเพราะสิ่งที่น่าเศร้าก็คือเขาที่ตั้งกล้องวิดีโอทั้งหมดไปที่เตียงนอนแต่ทว่าตอนนี้เขาก็ไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้กันแน่ เพราะตอนนี้ถึงยังไงเขาก็ยังคงคาดหวังว่าเย่เชียนจะตกหลุมพรางของเขาในอีกไม่ช้า
เย่เชียนก็ปิดประตูห้องแล้วหยิบบุหรี่ออกมาจุดไฟและเริ่มสูบบุหรี่อย่างสบายใจเฉิบ
จากนั้นเย่เชียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาเฟิงกั๋วฟู่และในไม่ช้าเย่เชียนก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในห้องถัดไปและเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและหลังจากนั้นเย่เชียนก็วางสายไป
ไม่นานนักจู่ๆ ก็มีเสียงครวญครางของหญิงสาวคนนั้นดังออกมาจากจนทำให้เย่เชียนถึงกับผงะเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ยิ้มและพึมพำว่า “เด็กคนนี้..ดุร้ายจริงๆ”
เฟิงกั๋วฟู่ก็นั่งอยู่ในห้องด้วยความวิตกกังวลเพราะเขาไม่เคยเห็นหน้าเด็กหนุ่มนี้มาก่อนแต่เขากลับเห็นผู้หญิงของเขาโยกไปมาและครวญครางอย่างเมามันที่นั่นจนทำให้เฟิงกั๋วฟู่ตัวสั่นด้วยความโกรธเกรี้ยวและสาปแช่งด้วยความเดือดดาลว่า “แม่งเอ๊ย..ไอ้โง่นั่นไปไหนของมันวะ!”
เย่เชียนก็สูบบุหรี่เสร็จแล้วและเขาก็ดับมันและเดินไปที่ห้องของเฟิงกั๋วฟู่แล้วเคาะประตู ซึ่งในขณะนี้เฟิงกั๋วฟู่ก็ตะลึงเล็กน้อยและหลังจากนั้นเขาก็เสียบหูฟังเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงของกล้องวงจรปิดดังออกมา หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูเพื่อเปิดและในทันใดนั้นเขาก็พบเย่เชียนและจ้องมองด้วยความประหลาดใจและพูดด้วยความสงสัยว่า “นี่เอ็ง? ..ทำไมเอ็งถึงมาอยู่ที่นี่..แล้วคนห้องนั้นเป็นใคร? ”
ปากของเย่เชียนก็ฉีกโค้งเล็กน้อยและเขาก็พูดว่า “ตอนนี้คุณกำลังหึงหวงผู้หญิงของคุณอยู่เหรอ? ..อ้อ..นั่นคือน้องชายของผมเอง..พี่น้องก็ต้องแบ่งปันกันสิ..เพราะผู้หญิงก็เหมือนเสื้อผ้าที่ใช้ได้ไม่นานแล้วก็ต้องทิ้ง”
เฟิงกั๋วฟู่ก็แทบจะเป็นลมเพราะทั้งหมดนี้เขาได้วางแผนเอาไว้อย่างยากลำบากและแม้แต่ผู้หญิงคนโปรดของเขาก็ยอมที่จะมอบให้แต่ทว่าทั้งหมดที่เขาทำมานั้นกลับไร้ประโยชน์เช่นนี้ ซึ่งมันทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปและดวงตาของเฟิงกั๋วฟู่ก็มีร่องรอยของความไม่สบอารมณ์อย่างมากและเขาก็พูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “เย่เชียน! ..นี่เอ็งล้อเล่นฉันเหรอ? ..หืม..เอ็งเคยคิดบ้างไหมว่าฉันน่ะสามารถฆ่าเอ็งได้ทุกเมื่อ”
.
.
.
.
.
.
.