ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 440 การจับกุม
ตอนที่ 440 การจับกุม
ไม่ใช่แค่เย่เชียนเท่านั้นเพราะแม้แต่หลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ได้ยินว่าพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่นั้นฆ่าลูกชายด้วยมือของตัวเองจริงๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจิตใจของเขานั้นโหดร้ายอย่างมาก ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ นั้นถ้าหากพ่อที่ฆ่าลูกชายของตัวเองด้วยมือของตัวเองล่ะก็คนคนนั้นจะต้องมีจิตใจที่โหดร้ายอย่างมาก
“จิ้งจอกหิมะแห่งรัสเซียช่างสมคำร่ำลือจริงๆ ..สมควรแล้วที่ได้รับชื่อเสียงอันเลืองลือเช่นนี้” หลินเฟิงยิ้มและพูด
จิตใจของไมคาอินอฟนั้นก็เริ่มกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความเลือดร้อนของหลินเฟิงนั้นทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเพราะลูกน้องทั้งหมดของเขานั้นในตอนนี้นอนกองกันอยู่บนพื้น “น้องชาย..ชื่อเสียงเรียงนามของนายในเขี้ยวมาป่าคืออะไร? ” ไมคาอินอฟขมวดคิ้วและถาม
การตายด้วยน้ำมือของหลินเฟิงนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเพราะสิ่งที่น่ากลัวคือการตายอย่างไม่ชัดเจนและไม่รู้ว่าตายอย่างไรนั่นเอง สำหรับไมคาอินอฟนั้นก็คงจะน่าเศร้าเกินไปที่เขาจะต้องตายไปโดยที่เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขากำลังต่อสู้กับใครนั่นเอง
“จิ้งจอกหิมะน่ะอยู่ที่ประเทศรัสเซียมาตั้งนานแล้วและพยายามที่จะมารุกรานประเทศจีนแบบนี้แต่ก็ยังไม่รู้อีกเหรอว่าที่ดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้น่ะมันเป็นดินแดนขององค์กรเซเว่นคิล!” หลินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ไมคาอินอฟก็ถึงกับตกตะลึงไปโดนสิ้นเชิงและเขาก็ไม่แปลกใจใดๆ อีกต่อไปที่สมาชิกของเขี้ยวหมาป่าครั้งนี้นั้นมีรูปร่างหน้าตาและท่าทางแปลกๆ เพราะปรากฏว่าเขาไม่ใช่ทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าแต่เป็นนักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิล ซึ่งองค์กรเซเว่นคิลนั้นเปรียบได้ดั่งราชาในโลกแห่งนักฆ่าซึ่งเหมือนกันกับทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่เป็นดั่งราชาในโลกของทหารรับจ้างนั่นเอง ซึ่งในฐานะทหารรับจ้างแล้วไมคาอินอฟจะไม่รู้ชื่อขององค์กรเซเว่นคิลได้อย่างไร อย่างไรก็ตามเนื่องจากองค์กรเซเว่นคิลนั้นลึกลับเกินไปดังนั้นไมคาอินอฟจึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าองค์กรเซเว่นคิลนั้นอยู่ที่ไหนและเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าองค์กรเซเว่นคิลจะมีฐานที่มั่นอยู่ในดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้
ไมคาอินอฟก็แอบถอนหายใจอย่างลับๆอยู่ในใจเพราะว่าตอนนี้เขานั้นต้องเผชิญหน้ากับองค์กรเซเว่นคิลและทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าพร้อมๆ กันดังนั้นเขาก็คิดว่าวันนี้เขาอาจจะไม่ได้มีชีวิตรอดอีกต่อไป ซึ่งไมคาอินอฟนั้นก็ไม่ได้คิดที่จะวิ่งหนีแต่อย่างใดเพราะในตอนนี้เขาแค่ต้องการหาโอกาสรายงานสิ่งต่างๆ ให้เบอร์นาร์ดสกี้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่นี่โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็จะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างมากเป็นแน่
“เซเว่นคิล? ” ไมคาอินอฟก็ขมวดคิ้วและถาม “น้องชาย..ชื่อเสียงเรียงนามของนายคือ?”
“ทุกคนเรียกผมว่าหลินเฟิงแห่งเซเว่นคิล!” ดวงตาของหลินเฟิงก็หรี่ลงและความเลือดร้อนของเขาก็ดุเดือดมากขึ้น
ไมคาอินอฟก็สูญเสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิงเพราะปรากฏว่าผู้นำแห่งองค์กรนักฆ่าอย่างองค์กรเซเว่นคิลนั้นมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาเช่นนี้แล้วเขาจะสามารถหนีไปไหนได้? เขาจะมีโอกาสติดต่อเบอร์นาร์ดสกี้ได้ที่ไหน? ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีราชาหมาป่าเย่เชียนที่อยู่ข้างๆ อีก ซึ่งเย่เชียนนั้นได้เลือกที่จะเผชิญหน้ากับพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่อยู่ ดังนั้นถ้าหากเขาสามารถหลบหนีจากสองคนนี้ไปได้ล่ะก็มันจะเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่งในโลกใบนี้
“หึ!” หลินเฟิงก็ตะโกนและเตะเข้าไปที่ต้นคอของไมคาอินอฟอย่างรวดเร็วซึ่งความแข็งแกร่งของการเตะครั้งนี้นั้นไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใดเพราะมันทำให้ไมคาอินอฟล้มลงไปที่พื้นทันทีและหลังจากนั้นหลินเฟิงก็มองไปที่สมาชิกขององค์กรเซเว่นคิลที่อยู่ด้านข้างซึ่งพวกเขาก็รีบวิ่งเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและจับตัวไมคาอินอฟเอาไว้
ไมคาอินอฟก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ และเช็ดคราบเลือดออกจากมุมปากและใบหน้าของเขาด้วยความหดหู่ใจ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้นั้นเหนือความคาดหมายอย่างสิ้นเชิงเพราะเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเย่เชียนคนที่พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่พูดมาจะเป็นราชาหมาป่าเย่เชียนจริงๆ และยังเกี่ยวข้องกับนักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลอีกด้วย
เย่เชียนก็โบกมือให้กับนักฆ่าเหล่านั้นที่กำลังจ่อมีดอยู่ที่คอของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ ซึ่งหลังจากนั้นนักฆ่าเหล่านั้นก็เหลือบมองไปที่หลินเฟิงและค่อยๆ ลดมือกลับมา หลังจากนั้นเย่เชียนก็มองไปที่พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่และถามอย่างไม่สบอารมร์ว่า “ตอนนี้คุณยังคิดที่จะฆ่าผมอยู่อีกมั้ย? ”
“หืม..อย่าได้ใจไป..ต่อให้ฉันจะกลายเป็นผีฉันก็จะไม่ปล่อยแกไป!” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่พูดอย่างเดือดดาล
“หืม..ถ้าคุณเป็นผีจริงๆ ล่ะก็..ผมยินดีต้อนรับคุณทุกเมื่อเลย” เย่เชียนก็ยิ้มเยาะและพูดต่อ “คุณได้ฆ่าถังเหวยซวนไปหรือเปล่า? ..มีดคลื่นโลหิตหมาป่าอยู่กับคุณใช่ไหม?”
“ฉันไม่รู้..มีดคลื่นโลหิตอะไร!” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ยืนกรานเสียงแข็ง
“มันคือมีดคลื่นโลหิตหมาป่า! ..ผมเชื่อว่าถังเหวยซวนน่าจะบอกคุณไป..ไม่งั้นคุณจะฆ่าเขาได้ยังไง?” เย่เชียนก็พูดต่อ “มาคุยกันเถอะ..ตอนนี้มีดคลื่นโลหิตหมาป่าอยู่ที่ไหน?”
“หืม..ฉายาพยัคฆ์แดนเหนือที่โด่งดังมานานหลายสิบปีของฉันมันไม่ใช่ได้มาเพราะบังเอิญหรอกนะ..อย่าได้หวังที่จะได้คำพูดอะไรใดๆ ออกจากปากของฉันเลย!” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ยืนกรานอย่างหนักแน่น
“ที่จริงแล้วถึงแม้ว่าคุณจะไม่บอกผมก็ตาม..แต่ถึงยังไงผมก็รู้ว่ามันอยู่ที่ชาวต่างชาติที่ผมพบที่บ้านของแม่ม่ายดำจือเหวินในวันนั้นใช่มั้ย?” เย่เชียนพูดด้วยความไม่แน่ใจ เพราะในความเป็นจริงแล้วเขาก็แค่คาดเดาเพราะการที่องค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเข้ามาสนับสนุนอีกฝ่ายเช่นนี้นั้นพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่จะต้องให้สิ่งที่ดึงดูดใจพวกเขามากเช่นนั้นใช่ไหม? อย่างไรก็ตามตอนนี้พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ก็เป็นเหมือนกับเนื้อบนเขียงของเขาดังนั้นเย่เชียนจึงมีหลายวิธีที่จะทำให้พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่บอกที่อยู่ของมีดคลื่นโลหิตหมาป่าออกมาได้
หลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็ถึงกับตกตะลึงอย่างมากเพราะความรู้ของเขาเกี่ยวกับมีดคลื่นโลหิตหมาป่านั้นมีมากกว่าเย่เชียนอย่างมากเพราะในฐานะนักฆ่าแล้วเขาก็เป็นนักฆ่าที่ยิ่งใหญ่ดังนั้นหลินเฟิงจึงรู้สิ่งต่างๆ มากมายเกี่ยวกับประวัติกาลของนักฆ่าในสมัยโบราณกาลเหล่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าหลินเฟิงนั้นก็รู้จักนักฆ่าในตำนานที่ลอบสังหารราชวงศ์ฉิน อย่างไรก็ตามหลินเฟิงก็ไม่ได้คาดหวังว่ามีดคลื่นโลหิตหมาป่าเล่มนั้นจะตกอยู่ในมือของเย่เชียนคนนี้ ซึ่งเมื่อรู้เช่นนั้นดูเหมือนว่าสมบัติอันล้ำค่าของเย่เชียนนั้นจะมีมากมายหลายอย่างจริงๆ และยิ่งไปกว่านั้นมันคือมีดคลื่นโลหิตหมาป่าและกริชดาวตกในตำนานอีกด้วย
พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ก็ถึงกับสั่นไปทั้งตัวและมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจเพราะอันที่จริงแล้วหลังจากที่เขาได้รับมีดคลื่นโลหิตหมาป่าจากถังเหวยซวนแล้วในคืนนั้นพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ก็ได้มอบมันให้กับเซอร์เก้วิชพุชกินในวันรุ่งขึ้นเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจในการร่วมมือกับเขาในการจัดการกับแม่ม่ายดำจือเหวิน เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปล่อยให้แม่ม่ายดำจือเหวินดำเนินการสิ่งต่างๆ ต่อไป ซึ่งถึงแม้ว่ามีดคลื่นโลหิตหมาป่าเล่มนี้จะมีค่ามากแค่ไหนก็ตามแต่ถึงยังไงมันก็มีค่าไม่มากนักสำหรับคนในวงการโลกใต้ดินอย่างพวกเขาหรอกใช่หรือไม่? มันไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่จะเก็บมันเอาไว้แต่มันก็ยังเป็นของขวัญที่มีความหมายและมีค่ามากสำหรับเซอร์เก้วิชพุชกินอย่างมากอีกด้วย
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเมื่อเซอร์เก้วิชพุชกินเห็นมีดคลื่นโลหิตหมาป่าครั้งแรกนั้นเขาก็ถึงกับตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง เพราะชาวต่างชาติเหล่านี้ดูเหมือนจะชื่นชอบของโบราณของประเทศจีนเป็นพิเศษและเซอร์เก้วิชพุชกินเองก็ไม่มีข้อยกเว้นในด้านนี้เพราะสำหรับเขาแล้วคุณค่าของมีดคลื่นโลหิตหมาป่านั้นไม่สามารถวัดได้ด้วยเงิน ดังนั้นคราวนี้พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่จึงขอให้เซอร์เก้วิชพุชกินช่วยจัดการกับเย่เชียนโดยการเชิญองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะแห่งประเทศรัสเซียมาสนับสนุนโดยไม่ลังเลใดๆ ซึ่งมีสมาชิกทหารรับจ้างของจิ้งจอกหิมะมากกว่าหนึ่งโหลซึ่งเงินค่าว่าจ้างสำหรับภารกิจนี้นั้นก็ไม่ใช่น้อยๆ แต่ทว่าก็ไม่มีใครคาดคิดว่าสิ่งต่างๆ มันจะจบลงเช่นนี้
เมื่อเห็นการแสดงออกของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่แล้วเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยเพราะเขารู้ว่าเขานั้นเดาถูกอย่างที่คาดคิดเอาไว้ว่าพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่นั้นได้มอบมีดคลื่นโลหิตหมาป่าให้กับชาวรัสเซียที่เขาเห็นในบ้านของแม่ม่ายดำจือเหวินไปวันนั้นไปแล้ว “ในเมื่อแกรู้อยู่แล้วและมาถามฉันทำไม! ..ฉันให้มีดเล่มนั้นกับเขาคนนั้นไปแล้ว! ..เพราะงั้นก็ฆ่าฉันซะ..ฉันไม่กลัวหรอกเพราะฉันคือพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่แห่งดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือ!” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่พูดอย่างเฉียบขาดและหนักแน่น
เย่เชียนก็หัวเราะอย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า “อย่าแสร้งทำเป็นน่าเกรงขามต่อหน้าผม..เพราะตั้งแต่วินาทีที่คุณจงใจที่จะปกป้องถังเหวยซวนต่อผมนั้นชะตากรรมของคุณก็ถึงวาระแล้ว..เพราะงั้นโทรไปหาเขาแล้วบอกให้เขานำมีดคลื่นโลหิตหมาป่ามาให้ผมซะ!”
“คนอย่างแกไม่สามารถแม้แต่จะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขาได้หรอก..ถึงแม้ว่าแกจะฆ่าฉันไปแต่แกก็จะไม่มีวันได้มีดเล่มนั้นคืนมาอยู่ดี..ฉันจะบอกความจริงกับแกให้นะว่ามิสเตอร์พุชกินน่ะเป็นผู้ที่มีอิทธิพลที่รู้จักกันดีในประเทศรัสเซีย! ..เมื่อสิ่งต่างๆ อยู่ในมือของเขาแล้วต่อให้ทำยังไงแกก็เอามันกลับคืนไปไม่ได้อยู่ดี!” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่
“โอ้..มิสเตอร์พุชกิน?” เย่เชียนถามด้วยรอยยิ้มพลางมองไปที่ไมคาอินอฟข้างๆ เขา
ไมคาอินอฟก็พยักหน้าเบาๆ และพูดว่า “เขาพูดถูก..มิสเตอร์เซอร์เก้พุชกินนั้นมีอิทธิพลอย่างมากในประเทศรัสเซียและยังเกี่ยวข้องกับพวกมาเฟียรัสเซียอีกด้วย..ผมเข้าใจว่าเขี้ยวหมาป่าน่ะยอดเยี่ยมมากแต่ถ้าคุณอยากได้อะไรกลับคืนมาจากมิสเตอร์เซอร์เก้พุชกินล่ะก็มันก็ยากกว่าการบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเสียอีก!”
“การบินขึ้นไปบนท้องฟ้านั้นมันจะยากสักแค่ไหนกันเชียว! ..เซอร์เก้วิชพุชกินเขาเป็นประธานาธิบดีอย่างงั้นเหรอ? ..แล้วไง? ..ถึงเขาจะประธานาธิบดีผมก็สามารถฆ่าเขาได้!” หลินเฟิงพูดอย่างเคร่งขรึม ซึ่งสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นเป็นความจริงอย่างยิ่งเพราะในฐานะนักฆ่าของหลินเฟิงนั้นเขาก็เคยทำสิ่งนั้นสำเร็จมาแล้วเพราะครั้งหนึ่งเขาเคยสังหารประธานาธิบดีของประเทศประเทศหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่าประเทศนั้นจะเป็นเพียงประเทศเล็กๆ และเทียบไม่ได้กับประเทศรัสเซียก็ตามแต่ถึงยังไงหลินเฟิงก็เชื่อว่าตราบใดที่มีการวางแผนอย่างสมเหตุสมผลและการเตรียมการที่แม่นยำล่ะก็มันก็ไม่มีใครในโลกใบนี้ที่เขาไม่สามารถลอบสังหารได้อย่างแน่นอน
ไมคาอินอฟก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งแล้วหลังจากนั้นเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ เพราะเขานั้นไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ เพราะชื่อเสียงขององค์กรเซเว่นคิลในโลกของนักฆ่านั้นยิ่งใหญ่มากเกินไปและมันก็ลึกลับอย่างมากจนไมคาอินอฟถึงกับไม่สามารถรับประกันได้เลยว่าองค์กรเซเว่นคิลนั้นจะสามารถทำแบบนั้นได้หรือไม่ได้จริงๆ
เย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยให้กับหลินเฟิงเพราะเย่เชียนเองก็เชื่ออย่างยิ่งว่าหลินเฟิงนั้นสามารถทำอย่างนั้นได้จริงๆ อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆ ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันจะเป็นเช่นไรและท้ายที่สุดแล้วเมื่อนึกถึงประเทศใหญ่ๆ อย่างประเทศรัสเซียนั้นประธานาธิบดีของพวกเขาก็จะได้รับการคุ้มครองโดยผู้เชี่ยวชาญและยอดฝีมือระดับสูงเสมอ เช่นเดียวกับประเทศจีนเมื่อประธานาธิบดีของจีนเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือส่วนตัวนั้นต่างก็มีการคุ้มกันจากบุคลากรของกลุ่มมังกรซ่อนเขี้ยวซึ่งเป็นกองกำลังชั้นนำของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของประเทศจีน
“เซอร์เก้วิชพุชกินเขาเป็นใคร?” เย่เชียนถาม เพราะเขาต้องรู้จักตัวเองและศัตรูอยู่เสมอ!
“ฉันรู้ดีว่าวันนี้ฉันไม่สามารถหนีไปไหนได้อีกต่อไปแล้ว..แต่ถึงยังไงฉันก็จะไม่พูด!” ไมคาอินอฟพูด “มิสเตอร์เซอร์เก้วิชพุชกินน่ะมีอำนาจมากในประเทศรัสเซียเพราะหัวหน้าของเขาคือประธานาธิบดีของประเทศรัสเซีย..และยังมีความสัมพันธ์กับมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟ..ฉันเชื่อว่าพวกแกทุกคนเคยได้ยินชื่อของมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟใช่ไหม..เขาคือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศรัสเซีย..ซึ่งควบคุมธุรกิจน้ำมันถึง 100% ของประเทศรัสเซีย..รวมไปถึงสินค้านำเข้าและส่งออกน้ำมันสี่สิบรายการและไม่เพียงแค่นั้นมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของประเทศรัสเซียและกลุ่มมาเฟีย..เพราะงั้นไม่ว่าพวกแกจะมีอำนาจมากแค่ไหนแต่ถึงยังไงพวกแกก็เป็นเพียงแค่ทหารรับจ้างเท่านั้น..กำลังคนแค่ร้อยคนจะสู้พวกเขาได้ไหม”
เย่เชียนก็พยักหน้าเบาๆ เพราะปรากฏว่าศัตรูของเขานั้นเป็นเหมือนยักษ์ใหญ่ที่แท้จริง อย่างไรก็ตามยิ่งคู่ต่อสู้แข็งแกร่งมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งน่าตื่นเต้นเท่านั้นไม่ใช่หรือ?
.
.
.
.
.
.
.