ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 442 แผนการอันน่าทึ่ง
ตอนที่ 442 แผนการอันน่าทึ่ง
เมื่อข่าวการเสียชีวิตของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่แพร่กระจายออกไปนั้นก็ทำให้สถานการณ์ในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมดวุ่นวายในทันที เพราะกองกำลังทั้งหมดที่อยู่ภานใต้พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่นั้นต่างก็ต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงและสืบทอดตำแหน่งของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่และยิ่งไปกว่านั้นกองกำลังที่ถูกปราบปรามโดยพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่นั้นต่างก็ลุกขึ้นมาทีฝ่ายเพื่อโจมตีและใช้โอกาสนี้เพื่อต่อสู้เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของฝ่ายตัวเอง
ส่วนทางด้านแม่ม่ายดำจือเหวินนั้นก็ได้รับรู้ข่าวต่างๆ อย่างเป็นธรรมชาติเพราะเมื่อพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่เริ่มปราบปรามเธอนั้นเธอก็พร้อมที่จะโต้กลับกลับดังนั้นแม่ม่ายดำจือเหวินจึงสามารถรับรู้ข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเธอก็ได้ระดมกำลังทั้งหมดเพื่อเริ่มการโจมตีโต้กลับที่รุนแรงที่สุดเพื่อยึดครองดินแดนของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่
ซึ่งแม่ม่ายดำจือเหวินนั้นเป็นคนที่เตรียมพร้อมมากที่สุดดังนั้นเธอจึงได้รับประโยชน์สูงสุดโดยปริยาย เพราะคนของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่นั้นไร้กลอุบายและกลยุทธ์ในการต่อสู้ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแม่ม่ายดำจือเหวินเลยและพวกเขาก็แทบจะไม่มีโอกาสที่จะต้านทานได้เลย ซึ่งแผนการต่างๆ ของแม่ม่ายดำจือเหวินในทุกขั้นตอนนั้นได้ดำเนินไปอย่างราบรื่นและอาจจะใช้เวลาไม่นานนักในการที่แม่ม่ายดำจือเหวินจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่แห่งดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างแท้จริงคนต่อไป
แน่นอนว่าแม่ม่ายดำจือเหวินนั้นรู้ดีว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเย่เชียนไม่เช่นนั้นเธอคงจะไม่มีความมั่นใจในการโค่นล้มพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ อย่างไรก็ตามแม่ม่ายดำจือเหวินดูเหมือนจะเข้าใจว่าเย่เชียนนั้นไม่ต้องการที่จะเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ต่างๆ ของแดนแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพราะเย่เชียนนั้นไม่ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลยหลังจากที่เขาฆ่าพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ไปแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ทำให้แม่ม่ายดำจือเหวินอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ของเย่เชียนมากขึ้นและเธอก็รู้สึกแปลกใจและสนใจเกี่ยวกับคนคนนี้ที่สามารถโค่นล้มพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ได้อย่างง่ายดายและดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงการแก้แค้นส่วนตัวอีกด้วย
ความรู้สึกที่หายไปนานในหัวใจก็ดูเหมือนจะสงบลง อย่างไรก็ตามในเวลานี้นั้นเธอก็ไม่ควรที่จะคิดถึงเรื่องนี้และเมื่อคิดเช่นนั้นแม่ม่ายดำจือเหวินก็ส่ายหัวแรงๆ เพื่อขับไล่ความคิดที่วุ่นวายในหัวใจออกไปเพราะถึงแม้ว่าพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่จะตายไปแล้วก็ตามแต่ถึงยังไงสถานการณ์ในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ยังไม่สามารถควบคุมได้ง่ายดายนักและถ้าหากไม่ใช้ประโยชน์จากความมั่นคงและการพัฒนาในปัจจุบันนี้ล่ะก็เธอจะมีพลังมากพอที่จะต่อสู้กับราชาแห่งดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือได้อย่างไรแล้วเธอจะมีพลังมากพอที่จะนำขี้เถ้าของหยางเทียนกลับไปยังบ้านเกิดของเขาได้เมื่อใดกัน
ในห้องของโรงแรมนั้นเย่เชียนที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกับเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเขี้ยวหมาป่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องถามอะไรเพราะถึงยังไงเขาก็รู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบันของภายนอกได้โดยปริยายแต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาและเขาก็ไม่ได้ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือแต่อย่างใด ซึ่งถ้าหากคราวนี้พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ไมได้มาท้าทายเขาและไม่ได้เกี่ยวข้องกับมีดคลื่นโลหิตหมาป่าล่ะก็เย่เชียนเองก็ไม่ได้วางแผนที่จะฆ่าเขาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในกรณีนั้นเย่เชียนก็อยากจะช่วยเหลือหยางเทียนทางอ้อมโดยการช่วยแม่ม่ายดำจือเหวินนั่นเอง
หลังจากที่ได้รับไฟล์เอกสารที่เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเขี้ยวหมาป่าส่งมอบให้แล้วเย่เชียนก็เปิดมันออกมาดูซึ่งภายในนั้นมีเอกสารข้อมูลของบุคลากรขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหมาป่ารวมไปถึงข้อมูลบางส่วนที่เกี่ยวกับเซอร์เก้วิชพุชกินและอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกแจ็คขโมยมาจากฐานข้อมูลของ CIA ในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างละเอียดและนอกจากนี้ก็ยังมีข้อมูลที่เกี่ยวกับเหล่ามาเฟียในประเทศรัสเซียอีกด้วย
หลังจากที่ดูเอกสารอยู่พักหนึ่งเย่เชียนก็ขมวดคิ้วโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะเรื่องนี้ค่อนข้างลำบากเกินไปสำหรับเขา ซึ่งเหตุผลหลักก็คืออิทธิพลของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟในประเทศรัสเซียนั้นกว้างขวางมากเกินไปและสถานะของเขาก็สูงเกินไปอีกด้วย ซึ่งถ้าหากไม่สามารถรับมือกับพวกเขาเหล่านั้นได้ล่ะก็มันจะเหมือนกับการดึงดูดศัตรูที่ยิ่งใหญ่มาสู่เขี้ยวหมาป่าของเขา ซึ่งถึงแม้ว่าพลังของเขี้ยวหมาป่าจะไม่ได้อ่อนแอและมีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากในทวีปตะวันออกกลางก็ตามแต่ถึงยังไงตามการวิเคราะห์ผลลัพธ์สุดท้ายนั้นเขี้ยวหมาป่าก็เป็นเพียงแค่องค์กรรับจ้างและมีบุคลากรเพียงร้อยกว่าคน ซึ่งถึงแม้ว่าเขี้ยวหมาป่าจะระดมพลทั้งหมดก็ตามแต่ถึงยังไงพวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟและประเทศรัสเซียทั้งประเทศอยู่ดี เพราะตราบใดที่พวกเขากล้าที่จะคุกคามอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟไปในดินแดนของประเทศรัสเซียล่ะก็มันคงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างยิ่งเพราะรัฐบาลของประเทศรัสเซียนั้นจะไล่ล่าเขี้ยวหมาป่าอย่างบ้าคลั่งอย่างแน่นอนและยิ่งไปกว่านั้นรัฐบาลของประเทศรัสเซียนั้นก็มีประสิทธิภาพสูงมากในระดับโลกและมีทัศนคติทางการเมืองที่แข็งกร้าว ซึ่งสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเขี้ยวหมาป่านั้นได้รับการประกาศให้เป็นผู้ก่อการร้ายโดยประเทศสหรัฐอเมริกาและหลายๆ ประเทศในยุโรป ดังนั้นถ้าหากประเทศรัสเซียและประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรปร่วมมือกันล่ะก็ถึงแม้ว่าจะมีกองกำลังจากประเทศในทวีปตะวันออกกลางมาสนับสนุนล่ะก็ถึงยังไงก็เกรงว่าเขี้ยวหมาป่าอาจจะไม่สามารถมีที่ยืนอยู่ในโลกได้อีกต่อไป
สำหรับรัฐบาลจีนนั้นเย่เชียนก็แทบจะไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้เลยเพราะถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขี้ยวหมาป่าล่ะก็พวกเขาก็คงจะนั่งเฉยเพราะนี่เป็นทัศนคติที่สอดคล้องกันของพวกเขา ดังนั้นเนื่องจากเรื่องต่างๆ ค่อนข้างที่จะซับซ้อนมากเกินไปดังนั้นเย่เชียนจึงต้องเตรียมการที่สมบูรณ์ที่สุดเพราะไม่เช่นนั้นมันจะทำให้เขี้ยวหมาป่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายและความพยายามของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็จะกลายเป็นความว่างเปล่าและสูญสิ้นไปจนหมด
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะไม่เคลื่อนไหวอะไรแต่ถึงยังไงเย่เชียนก็ต้องทำอะไรบางอย่างกับองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ ซึ่งเย่เชียนนั้นต้องทวงมีดคลื่นโลหิตหมาป่ากลับมาและถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ท้าทายอเล็กซานเดอร์โซโรวียอฟก็ตามแต่อย่างน้อยๆ เย่เชียนก็ควรจะหาวิธีแย่งชิงมันคืนกลับมา ซึ่งในเวลานี้สิ่งต่างๆ ในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นก็ยุ่งยากเกินไปและแผนการหลายๆ อย่างของเย่เชียนก็ต้องหยุดชะงักลงไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งในขั้นต้นนั้นเย่เชียนก็แค่มาทวงคืนมีดคลื่นโลหิตหมาป่าจากถังเหวยซวนและหลังจากนั้นเขาก็จะรีบเดินทางไปที่พื้นที่ภูเขาเพื่อไปหาฉินหยูเพื่อพบเธอและจากนั้นก็รีบไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อกวาดล้างองค์กรทหารรับจ้างเรดซันรวมไปถึงสมาคมมังกรทมิฬที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มทหารรับจ้างเรดซันและแก๊งยากูซ่ายามากุจินั่นเอง แต่ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้จะต้องล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตามบางทีนี่อาจจะเป็นการดีกว่าเพื่อให้เย่เชียนสามารถเตรียมพร้อมได้เต็มที่มากขึ้นเพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น
ในเวลานี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดมากเพราะถ้าหากเย่เชียนไม่สามารถแก้ไขปัญญาเรื่องมีดคลื่นโลหิตหมาป่าได้ล่ะก็เขาจะรู้สึกราวกับว่าเขาขาดอะไรบางอย่างไปและถึงแม้ว่าเขาจะไปที่ประเทศญี่ปุ่นเขาก็คงจะไม่สงบและไม่สามารถต่อสู้อย่างจริงจังได้
เย่เชียนก็วางเอกสารข้อมูลทั้งหมดลงและหยิบบุหรี่ออกมาจากเสื้อของเขาแล้วสูบมันอย่างช้าๆ แล้วพูดว่า “เซอร์เก้วิชพุชกินยังอยู่ที่ดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือเหรือเปล่า? ”
“ใช่..เท่าที่เรารวบรวมข้อมูลมาได้ว่ามันมีสิ่งสำคัญมากสำหรับเขาในการมาเยือนที่ดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้ในครั้งนี้..และถึงแม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ถึงยังไงเขาก็จะไม่ยอมแพ้และล้มเลิกง่ายๆ อย่างแน่นอน” เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองตอบ
เย่เชียนก็พยักหน้าเล็กน้อยเพราะการที่เซอร์เก้วิชพุชกินมาเยือนดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือเช่นนี้มันก็ต้องไม่ใช่การลงทุนทางธุรกิจตามปกติอย่างแน่นอน เพราะถ้าหากเป็นการลงทุนทางธุรกิจตามปกตินั้นสิ่งแรกที่เซอร์เก้วิชพุชกินต้องทำเมื่อเขามาถึงดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ควรไปหาพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่แต่ต้องไปหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นการลงทุนทางธุรกิจปกติแล้วทำไมเซอร์เก้วิชพุชกินถึงได้มีเครือข่ายกับองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะและติดต่อประสานงานให้มาช่วยพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่เช่นนี้ ซึ่งสัญญาณนี้บ่งบอกได้ว่ามันต้องมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในเรื่องนี้เป็นแน่
สิ่งนี้ทำให้เย่เชียนรู้สึกสงสัยเช่นกันว่าอะไรสามารถดึงดูดใจเซอร์เก้วิชพุชกินได้เพราะถ้าเขาต้องการครอบครองธุรกิจในโลกใต้ดินของดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือล่ะก็เขาคงจะไม่ทำเช่นนี้ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะกว้างขวางไปหน่อยดังนั้นเย่เชียนจึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้วแต่จงใจแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลยและรอให้เขาช่วยแก้ปัญหานี้ให้โดยทางอ้อม ซึ่งชายชราคนนี้นั้นไม่ใช่คนธรรมดาๆ เลยเพราะดูเหมือนว่าเขาจะเอาเปรียบเย่เชียนทุกอย่างเพราะทุกๆ ครั้งนั้นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็คือหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแต่เย่เชียนคือผลพลอยได้เท่านั้น
“แล้วจุดประสงค์ของการมาเยือนดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเซอร์เก้วิชพุชกินคืออะไร?” เย่เชียนถาม เพราะตั้งแต่เห็นเซอร์เก้วิชพุชกินบ้านของแม่ม่ายดำจือเหวินในวันนั้นเย่เชียนก็ขอให้เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเขี้ยวหมาป่าตรวจสอบรายละเอียดของเขาและยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ได้พูดอะไรแต่ถึงยังไงเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเขี้ยวหมาป่าก็จะตรวจสอบคนแปลกหน้าที่รุกล้ำเข้ามาในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้อยู่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองเขี้ยวหมาป่านั้นจะไม่ปล่อยเรื่องแบบนี้ผ่านไปง่ายๆ อยู่แล้ว
“จากข้อมูลที่เราได้รับมาหลังจากทำการวิเคราะห์แล้วเรารู้สึกว่าเป้าหมายของเซอร์เก้วิชพุชกินน่าจะเป็นที่ดินภายใต้แม่ม่ายดำจือเหวินครับ!” เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองเขี้ยวหมาป่าตอบ
“ที่ดิน? ” เย่เชียนก็ถึงกับผงะและพูดว่า “อธิบายให้ผมฟังหน่อย” แน่นอนเย่เชียนนั้นรู้ดีว่ามันจะไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะถ้าใครแค่อยากได้ที่ดินเพื่อการพัฒนามันก็ไม่จำเป็นต้องทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้และเซอร์เก้พุชกินก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีธุรกิจอะไรใดๆ ในพื้นที่แห่งนี้เลย
“ที่ดินผืนนั้นถูกซื้อเอาไว้เมื่อหยางเทียนยังมีชีวิตอยู่..ซึ่งตั้งแต่หยางเทียนเสียชีวิตไปแม่ม่ายดำจือเหวินก็ไม่ได้ใช้ที่ดินผืนนั้นอีก..ครั้งล่าสุดนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินก็สนใจดังนั้นพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่จึงพาเขาไปหาแม่ม่ายดำจือเหวินที่บ้านของเธอเพื่อคุยเกี่ยวกับที่ดินผืนนี้..แต่ทว่าแม่ม่ายดำจือเหวินก็ปฏิเสธซึ่งทำให้เซอร์เก้วิชพุชกินหันไปสนับสนุนพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่อย่างเต็มที่ในการกำจัดแม่ม่ายดำจือเหวินนั่นเอง” เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเขี้ยวหมาป่าพูดต่อ “ที่ดินผืนนี้ไม่มีอะไรเลยและไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองเลย..แต่ทว่าเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นคิดแผนพัฒนานี้ขึ้นมาโดยการสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่จะถูกสร้างขึ้นบนที่ดินผืนนี้เพื่อสร้างห้างสรรพสินค้าหรูหราและใหญ่ที่สุดในประเทศจีนครับ”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและเขี่ยก้นบุหรี่ทิ้งและฟังต่อโดยไม่ขัดจังหวะอะไรใดๆ
“ตามแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้นั้นมันมีแหล่งน้ำมันมากมายที่อยู่ข้างใต้ที่ดินผืนนั้น..ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นจุดประสงค์ของเซอร์เก้วิชพุชกิน..และนั่นก็คือการขนส่งน้ำมันผ่านท่อใต้ดินจากประเทศจีนไปยังประเทศรัสเซียนั่นเอง!” เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเขี้ยวหมาป่าพูด
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะหัวหน้าใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นเป็นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟผู้ที่เป็นผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซียซึ่งความเป็นไปได้นี้สูงมาก อย่างไรก็ตามตามสถานการณ์นี้เย่เชียนก็คิดว่านี่ไม่ใช่แค่สิ่งที่อเล็กซานเดอร์โซวิยอฟเตรียมเอาไว้เพราะเขาคงจะไม่ได้มีแค่รัฐบาลของประเทศรัสเซียหนุนหลังหรอกใช่ไหม?
สิ่งต่างๆ ดูเหมือนจะซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนจะน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างยิ่ง เพราะเดิมทีเย่เชียนแค่ต้องการกำจัดคนตัวเล็กๆ อย่างถังเหวยซวนเพื่อทวงคืนมีดคลื่นโลหิตหมาป่าที่เป็นของเขาแต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ มากมายและปัญหาที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เย่เชียนไม่คาดคิดเลยแม้แต่น้อย
.
.
.
.
.
.
.