ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 449 วางเหยื่อล่อ
ตอนที่ 449 วางเหยื่อล่อ
การที่เย่เชียนปฏิบัติต่อเซอร์เก้วิชพุชกินอย่างสุภาพที่บ้านของแม่ม่ายดำจือเหวินนั้นเพราะเย่เชียนไม่ต้องการมีความขัดแย้งกับเซอร์เก้วิชพุชกินเพื่อประโยชน์ในอนาคตและการร่วมมือกัน ซึ่งมันเป็นการดีที่เย่เชียนได้ทำเช่นนั้นไปแล้วเพราะสำหรับสิ่งนี้เย่เชียนก็รู้ดีว่าถ้าหากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนต้องการดึงดูดเซอร์เก้วิชพุชกินล่ะก็เขาก็ต้องมาพบกับแม่ม่ายดำจือเหวินเป็นการส่วนตัวและแน่นอนว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะต้องถามเธอเกี่ยวกับฉากตอนที่เขาพบกับเซอร์เก้วิชพุชกิน ดังนั้นเย่เชียนจึงจงใจสุภาพกับเซอร์เก้วิชพุชกินในเวลานั้นแต่ก็สามารถกดดันฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าแม่ม่ายดำจือเหวินจะไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นและถึงแม้ว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะรับรู้เรื่องนี้ไปก็ตามแต่เธอก็ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่
“อันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรหรอก..สิ่งที่พวกเขาคุยกันก็มีแค่เซอร์เก้วิชพุชกินที่ต้องการร่วมมือกับคุณเย่และมอบของขวัญให้เขา..ซึ่งดูเหมือนว่าของขวัญชิ้นนั้นมันจะเป็นมีดที่พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ขโมย” แม่ม่ายดำจือเหวินพูดอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะถึงแม้ว่าสถานะของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะสูงมากและยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหยุนเหลาก็ตามแต่ทว่าแม่ม่ายดำจือเหวินนั้นก็ไม่ได้กลัวหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแต่อย่างใด ซึ่งเธอเพียงตอบทุกอย่างที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนถามเธอและเธอก็จงใจพูดและไล่ลำดับเหตุการณ์ในเวลานั้นๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่คอยสังเกตว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะตั้งคำถามเพิ่มเติมอย่างไร จากนั้นเธอก็จะคาดเดาสิ่งที่คนในระดับผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติกำลังจะทำ
ในใจของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็อดไม่ได้ที่จะคิดอย่างลับๆ ว่าเด็กคนนั้นต้องการที่จะร่วมมือกับเซอร์เก้วิชพุชกินจริงๆ หรือ? ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นมันก็มีแต่จะทำให้สิ่งต่างๆ ยุ่งยากมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคิดเช่นนั้นคิ้วของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยแล้วหลังจากนั้นเขาก็ถามว่า “แล้วเขาเห็นด้วยกับเซอร์เก้วิชพุชกินหรือเปล่า? ”
“เขาไม่ได้เห็นด้วยในจุดนั้น..แต่การแสดงออกของเขาดูเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธเลย..อีกอย่างเขายังเชิญเซอร์เก้วิชพุชกินไปร่วมทานอาหารค่ำด้วย” แม่ม่ายดำจือเหวินพูด อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นการเติมน้ำมันลงในเชื้อเพลิงเพราะเธอนั้นไม่สนว่าเย่เชียนจะร่วมมือกับเซอร์เก้วิชพุชกินหรือไม่แต่เธอนั้นแค่อยากรู้ว่าจุดประสงค์และเป้าหมายของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนสำหรับการมาเยือนดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งนี้นั้นคืออะไร? นี่คือสิ่งที่เธอสนใจมากที่สุดนั่นเอง
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเขาก็ค่อยๆ ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ซึ่งเขาก็คิดกับตัวเองและดูเหมือนว่าเขาต้องการพบหน้าเย่เชียนโดยเร็วที่สุดและพูดคุยกันถึงสิ่งต่างๆ ไม่เช่นนั้นถ้าหากพวกเขาทั้งสองตกลงที่จะร่วมมือกันจริงๆ ล่ะไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามถึงยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องดีและที่สำคัญกว่านั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ไม่ต้องการให้เย่เชียนเข้าไปพัวพันอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น เพราะการกำจัดเซอร์เก้วิชพุชกินจริงๆ หรือนั้นถือว่าเป็นปัญหาระดับชาติและจะไม่มีวันแก้ไขได้เพราะการแทรกแซงของเย่เชียน
“ชิงเตี๋ยน..มีอะไรที่ไม่สามารถบอกฉันได้อยู่หรือ..มีปัญหาอะไรฉันพอจะช่วยได้ไหม” หยุนเหลาเหลือบมองไปที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนและพูด
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยิ้มเบาๆ และพูดว่า “ความจริงที่ฉันมาที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งนี้ก็เพราะเรื่องเซอร์เก้วิชพุชกินจริงๆ หรือ..ที่ผมบอกคุณไปครั้งที่แล้วเกี่ยวกับเย่เชียนน่ะ..ถ้าหากพวกเขาร่วมมือกันล่ะก็มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการเลย..แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว”
แม่ม่ายดำจือเหวินก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่การเคลื่อนไหวการกวาดล้างครั้งใหญ่จากเบื้องบน แต่ทว่าเป้าหมายกลับกลายเป็นเซอร์เก้วิชพุชกิน อย่างไรก็แม่ม่ายดำจือเหวินก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเป็นสถานการณ์แบบไหนที่บุคคลระดับผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของประเทศจีนถึงกับต้องออกไปจัดการสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะตัวตนที่แท้จริงของเย่เชียนใช่ไหม?
หลังจากหยุดไปชั่วขณะแม่ม่ายดำจือเหวินก็พูดว่า “ผู้อำนวยการหวงฟู่คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก..เพราะในช่วงบ่ายถึงแม้ว่าคุณเย่จะไม่ได้ปฏิเสธการร่วมมือของเซอร์เก้วิชพุชกินก็ตามแต่เขาก็ไม่ได้เห็นด้วยและยิ่งไปกว่านั้นที่จากที่ฉันรู้มาฉันคิดว่าความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะร่วมมือกันนั้นน้อยมาก”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ถอนหายใจเบาๆ เพราะจากจุดนี้มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบ่งบอกว่าเย่เชียนกำลังทำอะไรอยู่ เพราะท้ายที่สุดแล้วหวงฟู่ชิงเตี๋ยนและเย่เชียนก็รู้จักกันมานานแล้วและพวกเขาก็รู้เรื่องต่างๆ ของกันและกันเป็นอย่างดี ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเย่เชียนนั้นเป็นเหมือนนักล่าที่เก่งในการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติมากที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามออกจากสนามรบในทันทีที่พวกเขาปรากฏตัวและไม่มีอะไรมากไปกว่าการมีข้อเสนอต่อรองมากขึ้นเมื่อทำการเจรจา
“ชิงเตี๋ยนฉันรู้ว่าฉันไม่ควรถามคำถามนี้แต่ฉันก็ยังอยากจะถาม” หยุนเหลาหยุดไปชั่วขณะและพูดว่า “เซอร์เก้วิชพุชกินก็เป็นแค่นักธุรกิจและถึงแม้ว่ามันจะเป็นการเลี่ยงภาษีแต่ทว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติกลับเคลื่อนไหวกัน”
“ลุงหยุน..คุณเป็นลุงของผมเพราะงั้นคุณไม่ต้องกังวลที่จะถามหรอก..ซึ่งเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะเบื้องหลังของเขาคือเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย..เขาเป็นบุคคลที่แม้แต่ประธานาธิบดีของประเทศรัสเซียเกรงกลัวและเขายังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับมาเฟียในท้องถิ่นอีกมากมายและยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้เซอร์เก้วิชพุชกินก็ยังว่าจ้างกลุ่มทหารรับจ้างจิ้งจอกหอมะซึ่งเป็นองค์กรทหารรับจ้างที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซียให้มาที่ดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อช่วยสนับสนุนพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่และเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะแทรกแซงเช่นนี้เพราะถ้าหากเย่เชียนไม่ได้เคลื่อนไหวภายในคืนนั้นล่ะก็ฉันเกรงว่าคุณจือคงจะเป็นฝ่ายถูกกำจัดเสียเอง” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด
แม่ม่ายดำจือเหวินก็ถึงกับตกใจเพราะพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ได้ว่าจ้างทหารรับจ้างมาจริงๆ และถ้าหากไม่ใช่เพราะเย่เชียนล่ะก็คงจะตายไปตั้งนานแล้วตามที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนบอก อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของเย่เชียนแล้วเพราะขนาดกลุ่มทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะและพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ก็ยังถูกเย่เชียนกำจัดไปได้อย่างง่ายดายและนี่ก็แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของเย่เชียนอย่างมาก
“ซื้ด… “หยุนเหลาก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “ใช่! ..เซอร์เก้วิชพุชกินมีคนหนุนหลังแบบนั้นแล้วเขามีจุดประสงค์อะไรในการมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน..เขาต้องการที่จะเข้ายึดครองดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเหรอ?”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ส่ายหัวเบาๆ แล้วพูดว่า “มันจะไม่เป็นแบบนั้นอย่างแน่นอน..เพราะเซอร์เก้วิชพุชกินน่ะไม่สามารถต่อสู้กับอำนาจในวงการใต้ดินของที่นี่ได้หรอก..อันที่จริงแล้วจุดประสงค์ของเขานั้นคืออย่างอื่น” หลังจากหยุดไปชั่วขณะหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็หันหน้ามองไปที่แม่ม่ายดำจือเหวินแล้วพูดว่า “คุณจือ..เท่าที่รู้มาน่ะเซอร์เก้วิชพุชกินต้องการซื้อที่ดินของคุณใช่ไหม..ไม่ทราบว่าคุณจือได้ขายให้เขาหรือเปล่า?”
‘นั่นไง!’ แม่ม่ายดำจือเหวินกรีดร้องอย่างลับๆ ในใจโดยคิดว่านี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนใช่ไหม? หลังจากตกตะลึงเล็กน้อยแม่ม่ายดำจือเหวินก็พูดว่า “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ความจริงก็คือที่ดินที่คุณจือถือครองอยู่นั้นอุดมไปด้วยแหล่งน้ำมันที่อยู่ใต้ดิน..และนี่ก็คือทรัพย์สินของรัฐบาลทั้งหมด..และเป้าหมายของเซอร์เก้วิชพุชกินก็คือแหล่งน้ำมัน..ดังนั้นเขาจึงต้องการซื้อที่ดินผืนนั้นและในขณะที่สร้างห้างสรรพสินค้าเขาก็จะแอบสร้างท่อส่งน้ำมันใต้ดินเพื่อขนส่งน้ำมันไปยังประเทศรัสเซียอย่างลับๆ” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดต่อ “อันที่จริงแล้วสิ่งที่เขาลงทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้นั้นก็เพื่อเป้าหมายนี้และตอนนี้ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเพราะมันถึงขั้นตอนการสร้างท่อส่งน้ำมันแล้ว..และตราบใดที่มีการซื้อขายและโอนที่ดินล่ะก็เขาก็จะสามารถขโมยน้ำมันประเทศของเราไปได้โดยที่เราไม่รู้ตัว”
หยุนเหลาและแม่ม่ายดำจือเหวินต่างก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเพราะไม่มีใครคาดคิดเลยว่านี่คือจุดประสงค์ของเซอร์เก้วิชพุชกินจริงๆ เพราะการลักลอบขโมยน้ำมันของประเทศจีนนั้นเป็นอาชญากรรมข้ามชาติและมันจะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ
แม้ว่าจะมีการกล่าวว่าจีนและประเทศ E เป็นประเทศเพื่อนบ้าน แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาเป็นพันธมิตรในเวทีระหว่างประเทศ แต่นี่เป็นเพียงพันธมิตรตามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์เป็นต้นแบบของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จากมุมมองเชิงกลยุทธ์ในความเป็นจริงทั้งสองฝ่ายยังคงระมัดระวังในระดับหนึ่ง
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งแม่ม่ายดำจือเหวินก็พยายามทำให้ความคิดของเธอคงที่และพูดว่า “อย่ากังวลไปเลยผู้อำนวยการหวงฟู่..เพราะฉันไม่ได้ตกลงที่จะขายที่ดินให้กับเซอร์เก้วิชพุชกิน..แต่ถ้าฉันไม่ทำตามคำสัญญาของฉันล่ะก็ฉันเกรงว่าฉันคงไม่ได้ยึดติดอะไรกับมันจนถึงตอนนี้หรอก”
“ไม่ๆ คุณจือ..จุดประสงค์ของการมาครั้งนี้ก็คือการขอให้คุณช่วยและสัญญาว่าจะขายที่ดินผืนนั้นให้กับเซอร์เก้วิชพุชกิน” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด
แม่ม่ายดำจือเหวินก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะและเธอก็อดสงสัยไม่ได้เพราะเนื่องจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นรู้เกี่ยวกับแผนการต่างๆ ของเซอร์เก้วิชพุชกินแต่เขาก็ยังคงต้องการที่จะให้เธอขายที่ดินให้กับเซอร์เก้วิชพุชกินเช่นนี้อีก ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นมีแผนการอย่างอื่นอยู่อีกซึ่งมันจะเป็นการเพิ่มข้อได้เปรียบในการต่อรองกับประเทศรัสเซียหรือไม่? หรือจะประณามพฤติกรรมของพวกเขา? หรือปล่อยให้เซอร์เก้วิชพุชกินช่วยทำให้ดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนทำรายได้และเสริมความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจให้ดีขึ้นกัน?
อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้แม่ม่ายดำจือเหวินต้องพิจารณาอะไรมากเพราะเนื่องจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนได้วางแผนเอาไว้แล้วและนั่นก็หมายความว่าถึงแม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยแต่นั่นมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะปฏิเสธ ดินแดนแห่งนี้เป็นที่ดินที่มีแหล่งน้ำมันมากมายดังนั้นประเทศจะต้องยึดพื้นที่นั้นคืนอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัยเลย แต่ถ้าหากเธอไม่ยินยอมที่จะร่วมมือล่ะก็เธอเองที่เป็นฝ่ายตาย
“แต่ฉันได้ปฏิเสธเซอร์เก้วิชพุชกินไปแล้ว..และถ้าหากฉันติดต่อเขาไปและตกลงที่จะขายที่ดินให้กับเขาล่ะก็..ฉันเกรงว่ามันจะไปกระตุ้นความสงสัยของเขาน่ะสิ” แม่ม่ายดำจือเหวินพูด
“ไม่ต้องห่วงคุณจือ..ฉันคิดว่าเซอร์เก้วิชพุชกินจะมาหาคุณอีกอย่างแน่นอน..เพราะพวกเขาริเริ่มคิดแผนการเช่นนี้มานานหลายปีแล้วและพวกเขาก็จะไม่ยอมแพ้ไปง่ายๆ อย่างแน่นอน” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด “คุณจือเองก็เป็นคนที่มีไหวพริบอยู่เหมือนกัน..เพราะงั้นฉันก็เชื่อว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างราบรื่นและเมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย”
.
.
.
.
.
.
.