ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 450 สุนัขรับใช้
ตอนที่ 450 สุนัขรับใช้
ถึงแม้ว่าหยางเทียนจะทิ้งดินแดนของตัวเองไปก็ตามแต่ถึงยังไงมันก็มีความหมายอย่างลึกซึ้งต่อแม่ม่ายดำจือเหวินอย่างยิ่ง แต่เนื่องจากลักษณะเฉพาะของที่ดินที่มีแหล่งทรัพยากรของประเทศเช่นนี้ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการขายมันแต่ถึงยังไงก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเหตุผลที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนมาบอกตัวเองแบบนี้นั้นก็ถือได้ว่ารัฐบาลสามารถสั่งยึดที่ดินผืนนั้นได้โดยตรงแล้วเปิดประมูลมันใหม่อีกครั้ง ซึ่งสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเลย
ตอนนี้เธอรู้ถึงความสำคัญของที่ดินผืนนั้นและแผนของเซอร์เก้วิชพุชกินแล้ว ซึ่งแม่ม่ายดำจือเหวินก็มั่นใจว่าเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อย่างแน่นอน ส่วนจุดประสงค์ของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นแม่ม่ายดำจือเหวินก็ไม่รู้และเธอก็ไม่กล้าถาม เพราะท้ายที่สุดแล้วยิ่งเธอรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีสำหรับเธอแต่ถ้าหากเธอยิ่งรู้มากเท่าไหร่มันก็จะไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับตัวเธอเอง
ครั้งนี้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนมาด้วยตัวเองและบวกกับความสัมพันธ์ของหยุนเหลาเช่นนี้นั้นแม่ม่ายดำจือเหวินก็ไม่มีแนวโน้มที่จะปฏิเสธ ซึ่งเธอก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำขอของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนและยิ่งไปกว่านั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเองก็ไม่ได้เพิกเฉยแต่อย่างใดโดยบอกว่าหลังจากเรื่องของเซอร์เก้วิชพุชกินจบลงแล้วทางรัฐบาลจะใช้จ่ายเงินให้เพื่อซื้อที่ดินผืนนั้นซึ่งหมายความว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะปฏิบัติกับแม่ม่ายดำจือเหวินในระดับที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
ในความเป็นจริงถ้าสิ่งต่างๆ ไม่เปลี่ยนไปล่ะก็แผนก่อนหน้านี้ก็คือพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่จะกำจัดแม่ม่ายดำจือเหวินจากนั้นพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ก็จะถูกเซอร์เก้วิชพุชกินหลอกใช้และหลังจากนั้นก็จะเกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยการปราบปรามและกวาดล้างองค์กรใต้ดินของรัฐบาล ซึ่งอีกไม่นานดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้ก็จะไม่วุ่นวายเหมือนเดิมและจะสงบสุขไปอีกนาน
อย่างไรก็ตามเนื่องจากการปรากฏตัวของเย่เชียนทำให้แผนการของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนทั้งหมดต้องวางเดิมพันเอาไว้กับแม่ม่ายดำจือเหวิน ซึ่งถ้าหากเธอเข้ายึดครองวงการใต้ดินของดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมดล่ะก็มันจะไม่มีการต่อสู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุดเหมือนที่ผ่านมาอีกต่อไป ซึ่งสำหรับประเทศนั้นสิ่งที่คนเราต้องการมากที่สุดคือความมั่นคงและความมั่งคั่งซึ่งทุกคนต้องมีอาหารและเสื้อผ้าที่สวมใส่และที่อยู่อาศัยและตราบใดที่คนเหล่านี้บนท้องถนนไม่ต้องเผชิญกับลมและฝนที่เลวร้ายล่ะก็พวกเขาก็สามารถมีบทบาทในการส่งเสริมการพัฒนาของประเทศได้เป็นอย่างดี
หลังจากบรรลุข้อตกลงกับแม่ม่ายดำจือเหวินแล้วหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ไม่เห็นด้วยกับคำขอของหยุนเหลาที่ขอให้ตนพักที่นี่ค้างคืน ซึ่งหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ปฏิเสธและออกจากบ้านของหยุนเหลาไปแล้วรีบกลับไปพักที่โรงแรมที่จองเอาไว้
แผนของเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นถูกเตรียมเอาไว้เป็นเวลานานมากและเงินการลงทุนก็มากเช่นกัน ดังนั้นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟนั้นคงจะเป็นคนใจร้อนอยู่แล้วใช่ไหมจนหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจึงมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าเมื่อเซอร์เก้วิชพุชกินและแม่ม่ายดำจือเหวินได้เจรจาต่อรองกันเรื่องขายที่ดินแล้วพวกเขาก็จะไม่อดทนรอในการก่อสร้างและดำเนินการตามแผนต่อไปอย่างแน่นอนและเมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะเข้ายึดครองและกินเงินลงทุนของเซอร์เก้วิชพุชกินในประเทศจีนจนหมดและไม่เพียงแค่นั้นแต่ยังทำให้รัฐบาลของประเทศรัสเซียไม่สามารถหาข้อแก้ตัวใดๆ ได้อีกเช่นกัน
ตอนนี้สิ่งเดียวที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนกังวลก็คือเย่เชียนและเขาก็กังวลว่าเด็กคนนี้จะทำอะไรที่มันเลวร้ายลงไปเพราะตามนิสัยที่ดื้อรั้นของเย่เชียนนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็รู้ดีว่าเขาจะทำอะไรไม่เช่นนั้นตนก็คงจะไม่ต้องมาที่ดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือด้วยตัวเองแต่เพียงแค่สั่งผู้ใต้บังคับบัญชามาทำเรื่องเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว
นอสัยและอารมณ์ของเย่เชียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจรจากับเขาแล้วนับประสาอะไรกับผู้ใต้บังคับบัญชาของตน หากอารมณ์และโทสะของเด็กคนนี้ลุกลามขึ้นล่ะก็สิ่งต่างๆ ก็มีแต่จะแย่ลงเท่านั้น
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ถึงกับส่ายหัวเล็กน้อยและรีบเข้านอนเพื่อเตรียมพร้อมที่จะไปหาเย่เชียนในเช้าวันพรุ่งนี้เพื่อพูดคุยเรื่องต่างๆ โดยหวังว่าเด็กคนนี้จะยอมเผชิญหน้ากับตัวเอง
ในขณะนี้เย่เชียนก็กำลังนอนดูทีวีอยู่ในห้องของโรงแรม ซึ่งเขาเองก็รู้ข่าวว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนมาเยือนดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้และนี่ก็คือสิ่งที่เขากำลังรออยู่เช่นกันเพราะในที่สุดหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ไม่สามารถอดทนรอได้จนเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างลับๆ และเย่เชียนก็ได้วางแผนต่างๆ เอาไว้แล้วแต่เขาก็ไม่ได้ต้องการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจีน แต่ไม่ว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะมาหาเขาหรือไม่ถึงยังไงเย่เชียนก็จะไม่เข้าไปขัดขวางแผนการต่างๆ ของรัฐบาลอยู่ดี
เย่เชียนก็โทรไปหาหลินเฟิงและพูดสั้นๆ เกี่ยวกับแผนการของเขาซึ่งหลินเฟิงก็ฉีกยิ้มและเห็นด้วย จากนั้นเย่เชียนก็ถามเกี่ยวกับการเตรียมการสำหรับองค์กรเซเว่นคิลซึ่งหลินเฟิงก็บอกว่าพวกเขาพร้อมแล้วและจะทำมันให้สำเร็จ หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยกันอย่างไม่เป็นทางการสักพักหนึ่งและวางสายโทรศัพท์ไป
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการพบกันครั้งที่สองกับหลินเฟิงแต่ก็นับว่าเป็นมิตรภาพที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง ซึ่งเย่เชียนเองก็เชื่อใจเขาจากก้นบึ้งของหัวใจและไม่มีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้เพราะมันเป็นเพียงความรู้สึกที่ว่าหลินเฟิงเป็นเพื่อนและพี่ชายที่คู่ควรกับเขา นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าหลินเฟิงจะไม่ทำให้ตัวเองผิดหวังและเชื่อว่าหลินเฟิงก็จะต้องมีความรู้สึกเช่นเดียวกันกับตัวเองที่มีต่อเขา
บางครั้งอารมณ์ของผู้ชายนั้นก็ลึกลับมากและไม่ต้องพูดอะไรมากมายตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังรู้สึกได้ก็เพียงพอ นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิงเช่นเดียวกับที่ผู้หญิงมักชอบให้ผู้ชายพูดว่า ‘ฉันรักคุณ’ ทุกวัน แต่ทว่าสำหรับผู้ชายด้วยกันเองไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเพราะในใจของผู้ชายนั้นบางสิ่งบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาเพราะพวกเขาต้องการบ่งบอกด้วยการกระทำเพื่อพิสูจน์มากเสียกว่า
เช้าวันรุ่งขึ้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ขับรถไปที่โรงแรมของเย่เชียนแต่ทว่าเย่เชียนนั้นออกจากโรงแรมไปในตอนเช้าเพื่อวิ่งและเดินออกกำลังกายไปรอบๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่เย่เชียนไม่ได้ทำมาสักพักหนึ่งแล้ว
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นก็โทรไปหาแม่ม่ายดำจือเหวินแต่เช้าเพราะเขาต้องการพบเธอเพื่อตามหาเย่เชียนแต่ทว่าเย่เชียนนั้นไม่ได้ทิ้งเบอร์โทรเอาไว้ให้เธอในวันนั้นและเธอเองก็ไม่รู้ภูมิหลังของเย่เชียนเลย ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย
แม่ม่ายดำจือเหวินนั้นต้องการพบเซอร์เก้วิชพุชกินเนื่องจากคำขอของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่บอกให้เธอมอบที่ดินให้กับเซอร์เก้วิชพุชกิน โดยเธอพูดกับเซอร์เก้วิชพุชกินว่า “ฉันต้องไปทำธุระแต่ยังมีเวลาอยู่อีก 1 ชั่วโมง..ถ้างั้นก็เจอกันที่บ้านของฉันตอนเก้าโมงเช้าก็แล้วกัน”
เซอร์เก้วิชพุชกินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากโดยรีบตอบกลับไปว่าเขาจะมาตรงเวลานัด เมื่อพิจารณาจากทัศนคติของแม่ม่ายดำจือเหวินเมื่อวานนี้แล้วเซอร์เก้วิชพุชกินเองก็รู้สึกลำบากเล็กน้อยแต่ทว่าเนื่องจากการนัดหมายในวันนี้เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าแม่ม่ายดำจือเหวินจะเห็นด้วย ด้วยความเชี่ยวชาญทางธุรกิจมานานหลายปีเขาก็รู้สึกว่าแม่ม่ายดำจือเหวินต้องการขายที่จะขายที่ดินผืนนั้นอยู่แล้วตั้งแต่แรกแต่เขาก็ไม่รู้ว่าเย่เชียนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ถึงแม้ว่าเธอจะปฏิเสธไปเมื่อวานนี้และถึงแม้ว่าวันนี้น้ำเสียงของเธอจะเย็นชาก็ตามแต่ก็ยังมีช่องว่างและโอกาสสำหรับการเจรจา ซึ่งบางทีเย่เชียนอาจจะไปพูดอะไรบางอย่างเมื่อวานหรือไม่? นอกเหนือจากการคิดเช่นนี้แล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็นึกเหตุผลอื่นไม่ได้
หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวอย่างรวดเร็วเสร็จแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็ไม่กล้าที่จะละเลยแม้แต่น้อยและรีบสั่งให้คนขับรถไปซื้อของขวัญจากนั้นก็ขับรถไปที่บ้านของแม่ม่ายดำจือเหวินทีนที
ตลอดทางอารมณ์ของเซอร์เก้วิชพุชกินก็ขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งหลังจากเตรียมตัวมานานในที่สุดเขาก็จะได้เห็นแสงแห่งสวรรค์ดังนั้นจะไม่ให้เขามีความสุขได้หรือ? ตราบใดที่เขาจบเรื่องนี้ด้วยตัวเอาเขาก็เชื่อว่าเขาจะถูกอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเรียกกลับไปและทำให้เขาก้าวขึ้นไปในอีกระดับได้
ใครบอกว่าการเป็นสุนัขรับใช้นั้นจะไม่มีอนาคตที่ดีกัน ซึ่งเซอร์เก้วิชพุชกินรู้สึกว่าอนาคตของการเป็นสุนัขรับใช้จะไร้ขอบเขตและกุญแจสำคัญก็คือการดูว่าเราจะเป็นสุนัขรับใช้ที่มีคุณสมบัติที่ดีได้หรือไม่ และเมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นสุนัขรับใช้จะเป็นคำที่ลึกซึ้งมากและไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้และการได้มาซึ่งสถานะของตัวเองเช่นนี้มันก็พิเศษยิ่งกว่าสิ่งใด
ในความเป็นจริงแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินต้องการที่จะมาเยือนดินแดนแห่งนี้ตั้งแต่ที่หยางเทียนยังมีชีวิตอยู่แล้ว ซึ่งในเวลานั้นรัฐบาลเมืองเสิ่นหยวนได้จัดให้มีการประมูลที่ดินต่างๆ และหยางเทียนก็ได้ประมูลที่ดินแปลงดังกล่าวชนะ แต่ทว่าเซอร์เก้วิชพุชกินก็รู้ดีว่าหยางเทียนเป็นผู้ที่มีอิทธิพลและความสัมพันธ์กับหน่วยงานของรัฐบาล ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีความหวังอะไรมากนัก
ต่อมาเซอร์เก้วิชพุชกินก็มาหาหยางเทียนหลายครั้งแต่หยางเทียนก็ปฏิเสธเสมอมาโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ซึ่งความคิดของหยางเทียนในตอนนั้นคือเขาที่เคยทำสิ่งที่ชั่วร้ายมามากมายในชีวิตของเขาและมากจนเกินไปเขาจึงต้องการสะสมคุณธรรมและความดีบางอย่างให้กับแม่ม่ายดำจือเหวิน ดังนั้นเขาจึงต้องการใช้ที่ดินผืนนั้นเพื่อสร้างโรงเรียนสำหรับเด็กที่เกิดในครอบครัวที่ยากจนให้สามารถมีหนังสืออ่านและเขียนได้ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ความปรารถนาสุดท้ายของเขานั้นไม่สามารถเป็นจริงได้เพราะเขากลับเสียชีวิตไปอย่างเงียบๆ ท่ามกลางทะเลทรายในดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือ
ต่อมาเซอร์เก้วิชพุชกินก็ต้องคิดหาวิธีอื่นและประการแรกเขาก็ต้องสร้างท่อใต้ดินเมื่อเขาซื้อที่ดินมาได้แล้วทุกอย่างก็จะสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น และเขาก็พบว่าพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่เป็นศัตรูของหยางเทียนและได้พิสูจน์แล้วว่าเขานั้นคิดผิดที่ไปพบคนผิดเช่นนี้เพราะพยัคฆ์แดนเหนือได้ฆ่าหยางเทียนโดยมีราชาแห่งดินแดนตะวันตกสนับสนุนเขาจนเขาคิดว่าเขาจะสามารถยึดครองที่ดินผืนนั้นเอาไว้ได้แต่ใครจะรู้ล่ะว่าแม่ม่ายดำจือจะรับช่วงต่อทุกอย่างจนทำให้พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ทำอะไรไม่ถูกซึ่งมันทำให้เขาผิดหวังอย่างมาก
เมื่อครั้งแรกที่เซอร์เก้วิชพุชกินไปเจรจากับแม่ม่ายดำจือเหวินจะไม่สำเร็จนั้นเขาก็ได้ให้พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่มาสนับสนุนและทำสิ่งต่างๆ แต่ทว่าผลลัพธ์ที่ได้มากลับไม่คาดคิดยิ่งกว่าเพราะเย่เชียนนั้นปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหันและทำลายแผนการทั้งหมดของเขาจนเขาต้องเตรียมการสิ่งต่างๆ ใหม่อีกครั้ง
การที่แม่ม่ายดำจือเหวินในตอนนี้เริ่มอ่อนข้อให้กับเขาเล็กน้อยจึงทำให้เซอร์เก้วิชพุชกินมีความสุขอย่างมากและเขาก็รู้สึกว่าความพยายามของเขานั้นไม่ได้ไร้ประโยชน์อีกต่อไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่มีหน้าไปหาอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟอีกและชื่อเสียงสุนัขรับใช้ของเขาก็คงจะถูกลบหายไปเช่นกัน
.
.
.
.
.
.
.