ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 457 ช่วยผู้คน
ตอนที่ 457 ช่วยผู้คน
เมื่อเซอร์เก้วิชพุชกินตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงและเมื่อคิดย้อนกลับไปในเหตุการณ์เมื่อคืนนั้นมันก็เป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวอย่างมากเพราะถึงแม้ว่าเขาจะหนีออกมาจากไซต์ก่อสร้างไปพร้อมกับบุคคลปริศนาได้ก็ตามแต่เขาก็เป็นลมและหมดสติไปเมื่อถูกคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีนไล่ล่าและเขาก็จำไม่ได้ว่าเขาถูกนำตัวกลับมาได้อย่างไร
แผนการต่างๆ ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงและเขาก็กลัวว่าอุตสาหกรรมที่ใช้เงินลงทุนอันมหาศาลนั้นจะไม่สามารถรักษามันเอาไว้ได้ใช่ไหม? ในเวลานี้สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนก็ได้ทำการยึดโครงการอุตสาหกรรมดังกล่าวไปซึ่งรัฐบาลของประเทศรัสเซียเองก็ไม่มีอะไรจะกล่าวถึงประเด็นนี้และยอมรับสิ่งต่างๆ โดยถือว่าเขานั้นโชคร้าย ซึ่งตอนนี้ความกังวลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเซอร์เก้วิชพุชกินก็คือการกลับไปพบอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟหัวหน้าของเขาและเขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะมีชะตากรรมเช่นไรเพราะความสูญเสียครั้งใหญ่ที่เขาก่อขึ้นมานั้น ซึ่งในตอนแรกเขาสาบานเอาไว้ว่าเขาจะทำงานให้เสร็จและทำกำไรอันมหาศาลและเกลี้ยกล่อมเจ้านายของเขาให้เห็นด้วยกับแผนการต่างๆ เช่นนี้แต่ทว่าตอนนี้ทุกอย่างก็ไร้ประโยชน์ และทั้งหมดที่เขาทำมาอย่างหนักหน่วงเพื่อผลาญเงินลงทุนและการก่อสร้างจำนวนมหาศาลก็พังทลายไปและยังไปยั่วยุศัตรูอย่างสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติประเทศจีนอีก ดังนั้นถ้าหากอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟต้องการที่จะฆ่าเขาล่ะก็มันก็เป็นเรื่องปกติ
ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ก็จะเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างประเทศครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตามยังโชคดีที่รัฐบาลจีนไม่ได้แข็งกร้าวเท่ารัฐบาลของประเทศรัสเซียเพราะรัฐบาลจีนใช้นโยบายที่เรียบง่ายมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามรัฐบาลของประเทศรัสเซียและอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็เผชิญกับการสูญเสียครั้งใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าเซอร์เก้วิชพุชกินยังอยู่ในประเทศจีนเขาก็คงจะไม่มีที่หลบซ่อนอย่างนอนและยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่กลับไปที่ประเทศรัสเซียก็ตามแต่ถึงยังไงอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็สามารถตามล่าเขาได้อย่างแน่นอน กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือไม่ว่าเซอร์เก้วิชพุชกินจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนก็ตามถึงยังไงเขาก็ไม่สามารถหลบหนีได้อยู่ดี ซึ่งถ้าหากเขากลับไปยังประเทศรัสเซียเขาก็จะไม่สามารถมีชีวิตเป็นของตัวเองได้อีกและคราวนี้ชื่อเสียงของเขาในฐานะสุนัขรับใช้จะต้องสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้เป็นแน่
ในขณะที่เซอร์เก้วิชพุชกินกำลังคิดเรื่องนี้อยู่จู่ๆ ชายหนุ่มสองคนก็เดินเข้ามาจากข้างนอก หนึ่งในนั้นคือเย่เชียนและอีกคนก็คือชายหนุ่มในคราบของผู้หญิงที่ช่วยเซอร์เก้วิชพุชกินเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเขาไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นผู้นำขององค์กรเซเว่นคิลหลินเฟิงนั่นเอง
หลังจากที่ทุกอย่างจบลงในเมื่อคืนที่ผ่านมาหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ได้สั่งให้เหล่าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติที่เฝ้าติดตามเย่เชียนอยู่ถอนตัวออกไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่าเขาจะไม่ถอนตัวออกไปก็ตามถึงยังไงเย่เชียนก็เชื่อว่าตนจะสามารถหลบหนีออกไปจากสายตาของคนเหล่านั้นได้อย่างง่ายดายอยู่ดี
เซอร์เก้วิชพุชกินก็รีบลุกขึ้นจากเตียงและทำความเคารพด้วยความขอบคุณโดยพูดว่า “ขอบคุณครับคุณเย่ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของผมเอาไว้”
เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรเลย..ทั้งหมดเป็นการกระทำของคุณหลิน..ถ้าคุณต้องการขอบคุณก็ขอบคุณเขาเถอะ”
“ขอบคุณสำหรับความเมตตาของคุณหลิน..ถ้าหากไม่ได้คุณหลินช่วยเอาไว้ผมคิดว่าตอนนี้ผมคงจะถูกคุมขังอยู่ในสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของประเทศจีนไปแล้ว’ เซอร์เกวิชพุชกินพูด
“ผมก็แค่ทำตามข้อตกลงของคุณเย่..เพราะงั้นผมก็แค่ทำสิ่งที่ผมควรทำให้สำเร็จ” หลินเฟิงก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ตอนนี้คุณก็ไม่เป็นอะไรแล้ว..ผมก็โล่งใจ”
เย่เชียนและหลินเฟิงก็ยิ้มให้กันและไม่ได้พูดอะไรใดๆ อีก คำพูดนับพันคำนั้นไม่สามารถแทนสิ่งที่ความเป็นพี่น้องจะสื่อถึงกันได้เลย
“คุณเย่..ผมขอถามอะไรคุณหน่อยจะได้ไหม” เซอร์เก้วิชพุชกินหยุดและพูดอย่างคลุมเครือ
“หืม..มิสเตอร์พุชกินคุณอยากรู้อะไรเหรอ?” เย่เชียนนั้นก็รู้ดีว่าเซอร์เกวิชพุชกินจะถามอะไร เพราะตั้งแต่ที่หลินเฟิงช่วยเขาเอาไว้เย่เชียนก็เดาถึงฉากที่พบกับเซอร์เก้วิชพุชกินเอาไว้แล้ว
เหตุผลที่เย่เชียนไม่กลัวความขัดแย้งกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นเพราะเย่เชียนก็ต้องการที่จะช่วยเซอร์เก้วิชพุชกินซึ่งแน่นอนว่าเซอร์เก้วิชพุชกินยังคงมีคุณค่าในการใช้งานและยิ่งไปกว่านั้นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟหัวหน้าที่อยู่เบื้องหลังของเขาที่เป็นถึงผู้ประกอบการน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศรัสเซียและยังมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับรัฐบาลของประเทศรัสเซียและมาเฟีย ดังนั้นหากเย่เชียนต้องการไปที่ประเทศรัสเซียเพื่อทำสิ่งต่างๆ ล่ะก็เขาจะต้องมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับคนใหญ่คนโตเช่นนี้ก่อน
อย่างไรก็ตามเย่เชียนนั้นมีตัวตนที่พิเศษดังนั้นเขาจึงกลัวว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเห็นเขาเหมือนคนปกติ ดังนั้นมันจะเป็นการที่ดีกว่าถ้าจะให้เซอร์เก้วิชพุชกินเป็นตัวกลาง
ตอนนี้เย่เชียนเข้าใจถึงความคิดและสิ่งต่างๆ ของรัฐบาลจีนที่มีต่อเขาแล้วดังนั้นเขาก็ต้องคิดเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้นเพราะสิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความภักดีหรือความกตัญญูหรือความเมตตากรุณาและความชอบธรรมหรือว่าการรักชาติเช่นั้น ซึ่งเย่เชียนก็แค่ต้องการทำสิ่งต่างๆ เพื่อพี่น้องเขี้ยวหมาป่าของเขาและคว้าโอกาสที่จะขึ้นไปสู่จุดสูงสุดและไม่ควรปล่อยให้พวกเขาต้องลำบากตอนแก่เฒ่าและเป็นภาระให้กับคนอื่นและลูกหลานนั่นเอง
“ทำไมคุณเย่ถึงยอมช่วยผมทั้งๆ ที่คุณต้องเสี่ยงต่อการถูกคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีนหมายหัวด้วยล่ะ..คุณเย่ไม่กลัวว่าคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจะทำให้คุณเดือดร้อนเลยหรือ?” เซอร์เก้วิชพุชกินพูดถึงข้อสงสัยในใจออกมาตรงๆ ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักตัวตนของเย่เชียนก็ตามแต่จากการพบปะกับเย่เชียนมาสองสามครั้งเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของเย่เชียนในแผ่นดินจีน ซึ่งคนประเภทนี้อาจจะอยู่นอกเหนือสิ่งต่างๆ ของหน่วยงานของรัฐเช่นสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไม่สามารถทำให้เย่เชียนคนนี้ขุ่นเคืองได้เลย
“นั่งลงสินั่งลงก่อน!” เย่เชียนหัวเราะเบาๆ และบอกให้ทุกคนนั่งลงและเขาก็หยิบบุหรี่ออกมาจากเสื้อของเขาและยื่นให้เซอร์เก้วิชพุชกินจากนั้นก็ยื่นให้หลินเฟิงในลักษณะเดียวกันแล้วเย่เชียนก็ยักไหล่เบาๆ แล้วพูดว่า “พวกคุณทุกคนเป็นคนดีฮ่าๆ” เย่เชียนพูดพรางสูบบุหรี่
“อันที่จริงแล้วผมอยากจะไปพบหัวหน้าของคุณ..เพราะงั้นผมจึงหวังว่ามิสเตอร์พุชกินจะช่วยแนะนำเขาได้น่ะ” เย่เชียนพูดแล้วพ่นควันออกมาเล็กน้อย
“แค่นี้เองหรือ? ” เซอร์เก้วิชพุชกินหลังก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและพูดว่า “คุณเย่ไม่กลัวว่าคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีนจะมารังควานคุณหรือ..จะว่าไปผมก็ยังไม่รู้จักตัวจนของคุณุเย่เลย..ไม่ทราบว่าคุณเย่ช่วยบอกหน่อยจะได้ไหม”
หลินเฟิงก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วพูดว่า “มิสเตอร์พุชกินเคยได้ยินชื่อราชาหมาป่าเย่เชียนหรือเปล่า?”
ร่างทั้งร่างของเซอร์เก้วิชพุชกินหลังก็ถึงกับตกใจเพราะแน่นอนว่าเขานั้นเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนแต่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นคนตรงหน้าเขา ซึ่งเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “คุณเย่คือราชาหมาป่าเย่เชียนคนที่เป็นผู้นำของเขี้ยวหมาป่าราชาแห่งทหารรับจ้างน่ะหรือ? ”
เย่เชียนก็พยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ใช่แล้ว! ..ผมเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าผมจะได้พบมิสเตอร์พุชกิน..เพราะครั้งล่าสุดที่พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่มอบสิ่งนั้นให้กับคุณไปผมก็คิดที่จะตามหาคุณอยู่เหมือนกัน..แต่ผมไม่ได้คาดหวังว่าคุณจะยอมมอบมันให้ผมง่ายๆ แบบนั้น..เพราะงั้นผมก็พร้อมที่จะตอบแทนคุณเป็นร้อยๆ ครั้ง..ซึ่งแน่นอนว่าครั้งนี้ที่ผมช่วยคุณไว้ก็เพื่อที่จะได้พบกับหัวหน้าของคุณและที่สำคัญกว่านั้นผมเองก็ต้องการที่จะเป็นเพื่อนกับมิสเตอร์พุชกินอยู่เหมือนกัน”
เซอร์เก้วิชพุชกินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะเขาไม่ไว้ใจเย่เชียนอย่างง่ายๆ แน่นอนเพราะใครๆ ก็รู้ดีว่าราชาหมาป่าเย่เชียนนั้นเป็นชาวจีน ดังนั้นเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเย่เชียนและสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนจะรวมหัวกันวางแผนครั้งนี้หรือไม่? อย่างไรก็ตามเซอร์เก้วิชพุชกินก็ยังไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของเย่เชียนนั้นคืออะไรและอาจเป็นไปได้ที่เย่เชียนต้องการที่จะจัดการหัวหน้าของเขา? ซึ่งเซอร์เก้วิชพุชกินก็คิดว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นไปไม่ได้เพราะไม่ว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนจะมีอำนาจมากเพียงใดแต่ถึงยังไงพวกเขาเหล่านั้นก็มีอำนาจเพียงแค่ในประเทศจีนเท่านั้น ซึ่งถ้าหากพวกเขารุกล้ำเข้าไปในประเทศรัสเซียล่ะก็พวกเขาก็จะถูกมองว่าเป็นสายลับและศัตรูข้ามชาติอย่างแน่นอน
เย่เชียนก็ไม่ได้ถามอะไรใดๆ เพราะเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องพิจารณาบางอย่างเช่นนี้และถ้าหากเขายิ่งเร่งเร้าและเค้นคำตอบมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งได้ผลน้อยลงเท่านั้น
สำหรับหลินเฟิงนั้นเขาก็ไม่ได้กังวลอะไรใดๆ เพราะเป้าหมายของเขานั้นแตกต่างไปจากเย่เชียนโดนสิ้นเชิงเพราะเขาไม่ชอบมีส่วนร่วมในสิ่งต่างๆ และเขาก็แค่ต้องการทำหน้าที่ของเขาและดูแลจัดการองค์กรเซเว่นคิลของเขา ซึ่งสิ่งนี้มันไม่เกี่ยวข้องกับคำถามของความทะเยอทะยานแต่ที่หลินเฟิงสามารถมีวันนี้ได้นั้นก็เป็นเพราะเขาผ่านการต่อสู้เหล่านี้มานับไม่ถ้วนและมันก็จะทำให้เกิดปัญหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาต้องการเพราะเพื่อประโยชน์ของเพื่อนและพี่น้องแล้วหลินเฟิงก็พร้อมที่จะช่วยเย่เชียนแต่เขาจะไม่มีวันนำองค์กรเซเว่นคิลไปสู่ความโกลาหลโดยไม่มีเหตุผลจนกลายเป็นเป้าหมายของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเช่นนั้น
“คุณเย่อาจจะไม่รู้อะไรบางอย่างเพราะงานที่หัวหน้าของผมมอบหมายให้ผมน่ะมันยุ่งเหยิงและพังทลายไปหมดแล้ว..ผมคิดว่าผมคงจะไม่มีหน้ากลับไปหาเขาแล้ว..และถึงแม้ว่าผมจะไปหาเขาแต่ผมก็ต้องตายแน่ๆ ..ผมไม่อยากจะคิดเลย” เซอร์เก้วิชพุชกินพูด
“มิสเตอร์พุชกินคิดมากเกินไปแล้ว..มันไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอกเพราะบางครั้งคนเราก็ผิดพลาดกันได้..ผมเชื่อว่ามิสเตอร์พุชกินน่ะมีความจริงใจต่อหัวหน้าของคุณอย่างมาก..เพราะงั้นผมก็คิดว่าเขาคงจะไม่ทำอะไรแบบนั้นกับคุณหรอก” เย่เชียนพูดต่อ “มันเป็นเรื่องจริงเพราะความขัดแย้งกับพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ครั้งที่แล้วน่ะพวกทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะได้ฆ่าพี่ชายของผมไปคนนึง..เพราะงั้นผมก็ต้องแก้แค้นให้พี่ชายผม..แต่ทว่าประเทศรัสเซียนั้นเป็นดินแดนของหัวหน้าของคุณแล้วถ้าผมไม่ไปทักทายเขาล่ะก็มันคงจะเหมือนไม่ไว้หน้ากัน..เพราะเหตุนี้ผมจึงต้องให้มิสเตอร์พุชกินช่วยน่ะ”
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ข้ออ้างที่สมมุติขึ้นมาและเย่เชียนก็ยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าคนของจิ้งจอกหิมะถูกว่าจ้างมาโดยเซอร์เก้วิชพุชกินเองและผลักความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ ซึ่งสำหรับทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นเย่เชียนก็รู้ดีว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเซอร์เก้วิชพุชกินเลย ซึ่งพวกเขามีความสัมพันธ์เพียงแค่ในเรื่องของการว่าจ้างงาน ดังนั้นเรื่องของทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นจะไม่ทำให้อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟมีความขัดแย้งใดๆ กับเขาเลย
.
.
.
.
.
.
.