ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 462 การต่อสู้ในวงการใต้ดิน
ตอนที่ 462 การต่อสู้ในวงการใต้ดิน
เมื่อเทียบกับเย่เชียนแล้วหลินเฟิงนั้นคุ้นเคยกับสถานการณ์ต่างๆ ในประเทศรัสเซียมากกว่าเขาเพราะหลินเฟิงมักจะเดินทางระหว่างประเทศรัสเซียและประเทศจีนอยู่บ่อยๆ และเขาก็มีความชัดเจนมากเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและทิวทัศน์ที่นี่และรู้สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย
หลังจากออกจากร้านกาแฟแล้วหลินเฟิงก็พาเย่เชียนไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในมอสโกและอยู่ที่นั่นจนถึงตอนเย็น ซึ่งท้องฟ้าก็เริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ และกรุงมอสโกก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงไฟนีออนอย่างรวดเร็วและทิวทัศน์ก็ดูสวยงามเป็นพิเศษ
ในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินเที่ยวกันอยู่นั้นจู่เซอร์เก้วิชพุชกินก็โทรมาบอกว่าการประชุมสิ้นสุดลงแล้วและถามเย่เชียนว่าเขาอยู่ที่ไหนเพราะเขาจะมารับทันที อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรก็ตามตอนนี้มันก็ตกเย็นแล้วและตอนนี้ก็ยังไม่เหมาะนักที่จะพบกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟ ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิงโดยบอกว่าค่อยคุยกันพรุ่งนี้เช้า
ถึงแม้ว่าเซอร์เก้วิชพุชกินจะกังวลเพราะว่าวันนี้มันมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นแต่เมื่อเย่เชียนพูดเช่นนั้นออกมาแล้วเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกและเขาบอกให้เย่เชียนโทรหาเขาหากมีอะไรจากนั้นก็วางสายไป ซึ่งในมุมมองของเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นเนื่องจากมีคนฆ่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาสองคนในวันนี้เป้าหมายจึงต้องพุ่งไปที่เย่เชียนแต่ทว่าเมื่อเขาคุยกับเย่เชียนเมื่อเช้านี้ดูเหมือนว่าเย่เชียนจะไม่รู้เรื่องอะไรด้วยกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือมีความเป็นไปได้มากว่าเย่เชียนอาจจะได้พบใครที่ทำให้เขาต้องเดือดร้อน อย่างไรก็ตามเซอร์เก้วิชพุชกินก็ยังคงกังวลว่าอีกฝ่ายจะไม่หยุดเพียงแค่นี้และจะทำทุกวิถีทางเพื่อจัดการกับเย่เชียน อย่างไรก็ตามเนื่องจากเย่เชียนได้บอกไปแล้วว่าเขาต้องการเดินเล่นรอบๆ มอสโกดังนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินจึงไม่สามารถพูดอะไรไปมากกว่านี้ได้และหวังเพียงว่าค่ำคืนนี้จะผ่านไปอย่างลุล่วง
“มอสโกมีสถานที่หรืออะไรสนุกๆ บ้าง” เย่เชียนเอ่ยปากถาม
หลินเฟิงยิ้มก็เล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “การแข่งขันการต่อสู้ใต้ดินของประเทศรัสเซียมีชื่อเสียงมาก..นายอยากไปดูไหม?”
“การแข่งขันการต่อสู้ใต้ดิน?” เย่เชียนถึงกับตกตะลึงเพราะเขาเองก็เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนแต่เขาไม่เคยเห็นกับตามาก่อนและคิดว่ามันน่าจะน่าตื่นเต้นไม่น้อยเลย “แน่นอนผมอยากไปดู..มันอยู่ที่ไหน?” เย่เชียนถามด้วยความตื่นเต้น
“ตามฉันมา” หลินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “การแข่งขันการต่อสู้ใต้ดินของประเทศรัสเซียมีชื่อเสียงมากและมีการแข่งขันแบบนี้เกือบทุกๆ คืนและมีหลายคนถูกบังคับให้เข้าร่วมการต่อสู้แต่ก็มีอยู่หลายคนเป็นทหารผ่านศึกและนักมวยมืออาชีพ..โดยพื้นฐานแล้วสิ่งนี้ถูกควบคุมโดยมาเฟียของรัสเซีย..จากสถิติคร่าวๆ นั้นรายได้ของการต่อสู้ในแต่ละคู่น่ะสูงถึง 20 ล้านหยวนเลย”
“เยี่ยมมาก! ..ธุรกิจนี้ดีจริงๆ” เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
“การแข่งขันการต่อสู้ใต้ดินของประเทศรัสเซียนั้นค่อนข้างปกติและการยัดเงินใต้โต๊ะก็น้อยมากนักจึงทำให้นักพนันคลั่งไคล้มาก” หลินเฟิงพูด “แต่ชะตากรรมของนักสู้เหล่านั้นก็น่าเศร้ามากเพราะมันไม่ใช่การบาดเจ็บร้ายแรงแต่มันถึงขึ้นเสียชีวิตเลยและบางคนก็วางมือไปหลังจากทำเงินได้และกลายเป็นคนยากจนมากและชีวิตของพวกเขายังคงลำบากมากในช่วงครึ่งหลังของชีวิต..แต่ก็น่าเสียดายเพราะนี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พวกเขาทำเงินได้อย่างรวดเร็วและก็มีอยู่หลายคนที่ยังอยู่ในวงการนี้”
“ถ้างั้นเราก็มาพนันกันเถอะ..บางทีเราอาจจะสามารถทำรายได้มหาศาลก็ได้นะ..มันควรจะเป็นโบนัสของพวกเรา” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
หลินเฟิงพาเย่เชียนไปยังสถานที่จัดการแข่งขันการต่อสู้ใต้ดินและหลังจากซื้อตั๋วแล้วเขาก็เดินเข้าไป ซึ่งด้านในแออัดอย่างมากและเต็มไปด้วยผู้ชายและผู้หญิงที่กำลังตะโกนกันอย่างบ้าคลั่งและผู้หญิงบางคนก็ถอดเสื้อผ้าออกอย่างโจ่งแจ้งเพื่อแสดงความตื่นเต้นและเผยให้เห็นหน้าอกอันใหญ่โตของพวกเธอ
บรรยากาศอบอุ่นมากและมีคำสบถน่าเสียดายที่เย่เฉียนไม่เข้าใจภาษารัสเซียเลยและเขาไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร อย่างไรก็ตามดูจากลักษณะของคนเหล่านั้นคุณสามารถเดาได้คร่าวๆ
มีเวทีลานประลองใหญ่อยู่ตรงกลางและในขณะนี้ก็มีชายชาวรัสเซียสองคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ ซึ่งดูจากรูปร่างของพวกเขาอย่างน้อยๆ ก็ไม่ต่ำกว่าสองร้อยปอนด์โดยมีกล้ามเนื้อทั่วร่างกายอย่างดุดัน อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าการโจมตีของพวกเขานั้นเรียบง่ายมากและถึงแม้ว่าหมัดของพวกเขาจะหนักหน่วงก็ตามแต่ก็ไม่ได้ต่อเนื่องมากนักเพราะมีแต่ความรุนแรงแต่ไม่มีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษเมื่อเคลื่อนไหว
“น้องเย่..นายคิดว่าใครจะชนะ?” หลินเฟิงยิ้มและถาม
“พี่กำลังทดสอบผมอยู่ใช่ไหมฮ่าๆ!” เย่เชียนฉีกยิ้มและพูด “จากมุมมองของผมภายในห้านาทีฝ่ายแดงจะต้องโดนน็อคอย่างแน่นอน”
“ดูเหมือนว่าน้องเย่ยังไม่สิ้นลายสินะ..เพียงแค่สังเกตแค่แปปเดียวก็สามารถมองออกได้แล้ว” หลินเฟิงพูด
“มาเถอะ..ผมรอไม่ไหวแล้ว” เย่เชียนพูดว่า “วางเดิมพันได้ที่ไหนบ้าง? ”
“ไปกันเถอะ! ..ไปหาเงินเข้ากระเป๋ากันเถอะ” หลินเฟิงพาเย่เชียนไปยังสถานที่ที่วางเดิมพันและแต่ละคนก็แลกเงิน 200,000 หยวนและเดิมพันกับนักมวยฝ่ายสีน้ำเงิน ซึ่งวิธีการเดิมพันที่นี่ไม่เพียงแค่รับเงินสดเท่านั้นแต่ยังรับบัตรเครดิตอีกด้วยซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาเฟียเหล่านี้มีอำนาจมากเพียงใดในประเทศรัสเซีย
อัตราพนันมวยรองคือหนึ่งส่วนสามซึ่งเย่เชียนและหลินเฟิงก็หยิบตั๋วพนันและเดินกลับไปที่สังเวียนเพื่อชมการแข่งขัน ตามที่เย่เชียนคาดเอาไว้ว่านักสู้ฝ่ายน้ำเงินเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่เขาก็จะไม่ยอมปล่อยมันไปง่ายๆ และเขาจะไม่หยุดโจมตีเพียงเพราะอีกฝ่ายล้มลงเพียงเท่านั้นและเขาจะไม่หยุดจนกว่านักสู้ฝ่ายแดงจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีก จากนั้นเขาก็โบกมืออย่างเมาและตะโกนเสียงพร้อมโชว์ร่างกายและกล้ามเนื้อที่กำยำของเขาและดึงดูดเสียงเชียร์อย่างบ้าคลั่ง
สิ่งต่างๆ ง่ายดายอย่างมากเพราะเย่เชียนและหลินเฟิงได้รับเงินคนละ 400,000 หยวนซึ่งมันเหมือนกับเงินที่โปรยลงมาจากท้องฟ้าและเพียงแค่หยิบมันขึ้นมาเท่านั้น
เหตุผลหลักที่ทำให้การแข่งขันการต่อสู้ใต้ดินมีเสน่ห์มากก็คือการนองเลือดและความรุนแรงและแตกต่างจากการแข่งขันชกมวยทั่วไปที่มีข้อจำกัดมากมายและนักมวยก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ชกที่นั่นหรือที่นี่แบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ทว่าการแข่งขันการต่อสู้ใต้ดินจะต้องเอาชนะฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นและนั่นก็คือชัยชนะที่แท้จริงและยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็จะไม่หยุดเพราะฝ่ายตรงข้ามเพียงแค่ล้มลงเท่านั้นเพราะพวกเขาจะหยุดก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามจะยอมรับความพ่ายแพ้หรือไม่สามารถดำเนินการต่อสู้ต่อไปได้เท่านั้น ซึ่งในการแข่งขันการต่อสู้ใต้ดินนั้นไม่รู้ว่าในวันหนึ่งมีนักสู้ตายไปวันละกี่คน
“น้องเย่สนใจที่จะขึ้นไปสู้หรือเปล่า?” หลินเฟิงพูด “ที่นี่ไม่มีกฎของการต่อสู้ใดๆ ..นายสามารถระบายความโกรธและความทุกข์ในใจของนายได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
“ใครๆ ก็สามารถขึ้นไปต่อสู้ได้หรอ? ” เย่เชียนถามด้วยความสับสน
หลินเฟิงก็หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ขั้นตอนมันก็ง่ายมาก..นายแค่ไปลงทะเบียนและเซ็นข้อตกลงจ่ายค่าธรรมเนียมแรกเข้าและผู้จัดงานก็จะสามารถจัดเตรียมให้นายขึ้นไปสู้ได้”
“มันง่ายจริงๆ ..ต้องลองสักหน่อย” เย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยด้วยความอยากที่จะต่อสู้ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ออกกำลังมาเป็นเวลานานและคู่ต่อสู้เหล่านั้นก็ล้วนเป็นตัวตนที่ประมาทไม่ได้และเย่เชียนเองก็ไม่สามารถแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่ดังนั้นเขาจึงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย ซึ่งเมื่อมองไปที่นักสู้เหล่านั้นในตอนนี้แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะดูน่าเบื่อแต่พวกเขาก็ยังมีความพยายามและตั้งใจอย่างมาก ดังนั้นมันจึงเป็นวิธีที่ดีในการระบายอารมณ์และฝึกฝนการต่อสู้
“ถ้างั้นฉันจะวางเงินเดิมพันเยอะๆ เลย” หลินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ได้สิฮ่าๆ ..ผมก็ต้องวางเดิมพันข้างตัวเองเยอะๆ เหมือนกัน” เย่เชียนยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูด
หลังจากนั้นหลินเฟิงก็พาเย่เชียนไปหาผู้จัดงานคนที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เป็นชาวรัสเซียที่สวมแว่นสายตา ซึ่งเมื่อเขาได้ยินว่าเย่เชียนต้องการจะเข้าร่วมการแข่งขันการต่อสู้เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะและเหลือบมองเย่เชียนขึ้นและลงจากหัวจรดเท้าและรู้สึกสับสนว่าชายหนุ่มคนนี้จะตายหรือเปล่า? อย่างไรก็ตามในฐานะผู้จัดงานเขาก็ไม่สนใจสิ่งเหล่านี้เพราะการตายของอีกฝ่ายไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาตราบใดที่เขาสามารถทำเงินได้ ไม่นานหลังจากที่ลงทะเบียนให้เย่เชียนแล้วชายชาวรัสเซียสวมแว่นสายตาก็พูดว่า “ขอให้โชคดี!” อย่างไรก็ตามเมื่อมองจากรูปร่างหน้าตาของเขาก็เห็นได้ชัดว่าเขานั้นรู้สึกผิดและเศร้าเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นานผู้จัดงานก็จัดตารางให้เย่เชียนขึ้นสู้ในเกมถัดไป อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ได้ใช้ชื่อจริงของเขาแต่เป็นหลงเฟยนักสู้จากแดนมังกร
หลังจากนั้นเย่เชียนและหลินเฟิงก็วางเดิมพันเงินอย่างหนักหน่วงฝ่ายตัวเองอีกครั้ง
ในเวลานี้ที่ออฟฟิศด้านบนของเวทีลานประลองก็มีเหล่าชายวัยกลางคนและผู้หญิงวัยกลางคนที่กำลังนั่งชมทุกอย่างที่อยู่ด้านล่างอย่างเคร่งขรึม ซึ่งออฟฟิศด้านบนเป็นกระจกทั้งหมดและสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ จากด้านในได้ทั้งหมด ในขณะนี้ชายชาวรัสเซียสวมแว่นสายตาซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการลงทะเบียนเย่เชียเมื่อครู่นี้ก็เดินมาหาชายวัยกลางคนด้วยความเคารพและหลังจากกล่าวคำทักทายเขาก็พูดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นให้คนเหล่านั้นฟัง
ชายวัยกลางคนก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะและเหลือบมองไปที่เย่เชียนที่อยู่ด้านล่างและเขาก็แน่นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า “เขาชื่ออะไร..อัตราต่อรองเท่าไหร่? ”
“หลงเฟยมวยรอง 1 ต่อ 20” ชายสวมแว่นสายตาพูดว่า “เขาผอมบางมาก..เขาคงจะถูกอาริคซ์น็อคเอาท์”
“ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอก..ฉันลงสองล้านดอลลาร์ฝั่งชาวจีน!” ผู้หญิงวัยกลางคนยิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วพูด
ชายวัยกลางคนก็ถึงกับตกตะลึงและพูดว่า “มิสโปดันโนว่ามั่นใจขนาดนี้คุณรู้จักเขาหรือ? ”
ผู้หญิงวัยกลางคนก็ยิ้มและส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้จัก..มันคือการเสี่ยงโชค..ฉันชอบทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้มันเป็นไปได้”
ชายวัยกลางคนก็พยักหน้าแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มิสโปดันโนว่ามีวิสัยทัศน์ที่ดีเสมอ” จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่ชายสวมแว่นสายตาแล้วพูดว่า “ไปเริ่มการประลองได้”
ชายสวมแว่นสายตาก็ตอบและเดินออกไปอย่างสุภาพ
ไม่นานนักการแข่งขันการต่อสู้รอบปัจจุบันก็จบลงโดยนักสู้ฝ่ายที่แพ้ก็ถูกหามออกมาและเมื่อเห็นสภาพของก็ดูเหมือนว่าเขาจะอาการสาหัสมาก
“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน! ..นี่คืออาริคซ์..ผู้มีฉายาว่าราชานักเชือดปะทะกับหลงเฟยปรมาจารย์จากประเทศจีน! ..ยินดีต้อนรับขอเสียบปรบมือให้อาริคซ์ราชานักเชือดของเรา!” พิธีกรถือไมโครโฟนและพูดอย่างกระตือรือร้น
.
.
.
.
.
.
.