ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 468 ใครคือผู้ชนะใครคือผู้แพ้
ตอนที่ 468 ใครคือผู้ชนะใครคือผู้แพ้
สำหรับโปดันโนว่านั้นเธอเป็นผู้ดูแลสิ่งต่างๆ จริงหรือไม่เย่เชียนก็ไม่รู้ แต่เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาและเขาไม่ก็สามารถปฏิบัติต่อเธอในฐานะผู้หญิงธรรมดาได้เพราะผู้หญิงคนนี้มีความทะเยอทะยานมากเกินไปและมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าผู้ชายหลายๆ คนเสีบยอีก ซึ่งเย่เชียนก็กล้าสรุปได้ว่าเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้หญิงคนนี้เปรียบเสมือนการดำรงอยู่ของอู๋เจ๋อเทียนพระนางแห่งราชวงศ์จีนโบราณนั่นเอง
แม่ม่ายดำจือเหวินก็มีความทะเยอทะยานเช่นนี้เหมือนกันแต่เธอยึดติดกับหยางเทียนมากไปหน่อยในขณะที่ดันโนว่าไม่เคยสนใจใครโดยสิ้นเชิงเพราะเธอสนใจแต่ความทะเยอทะยานของเธอเองเท่านั้น
ความทะเยอทะยานเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างแน่นอนเพราะมันสามารถทำให้คนหวาดระแวงได้ง่ายและทำให้มองไม่เห็นแก่นที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ จนนำไปสู่ความล้มเหลว อย่างไรก็ตามความทะเยอทะยานก็มักจะเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นจึงมีทั้งความหวังและความขมขื่นในเวลาเดียวกันและทุกๆ อย่างก็ล้วนมาจากความทะเยอทะยานของตัวเอง
สำหรับความร่วมมือกับเหล่ามาเฟียรัสเซียนั้นก็เป็นความต้องการของเย่เชียนเช่นกันเพราะเย่เชียนรู้ดีถึงแรงสนับสนุนอันทรงพลังที่เขาสามารถนำมาสู่ตัวเองได้เพราะเหล่ามาเฟียรัสเซียนั้นอาจจะเหมือนกับกองทัพโจรสลัดหรือกองทัพเรือใหม่ที่ก่อตั้งโดยเขี้ยวหมาป่า เพราะกองทัพเรือในทะเลนั้นมันไม่ได้ดีไปกว่าเหล่ามาเฟียบนบกเพราะต่างก็มีกระสุนปืนและปืนต่างๆ และวิธีการต่างๆ เสมอแต่ทง่าในทะเลนั้นเราจะไม่สามารถพลิกแพลงสิ่งใดได้มากนักและไม่สามารถคาดหวังได้เลยว่าคนเหล่านั้นจะสามารถปล้นเรือรบของฝ่ายศัตรูได้
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะได้เรือรบจากทวีปตะวันออกกลางก็ตามแต่ถึงยังไงมันก็เป็นสินค้าที่ผิดกฎหมายของหลายๆ ประเทศและยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าพวกเขาจะได้เรือรบเหล่านั้นมาและต้องการส่งไปยังฐานทัพในมหาสมุทรแปซิฟิกมันก็ไม่ง่ายอย่างนั้น แต่ทว่าเหล่ามาเฟียรัสเซียนั้นแตกต่างกันออกไปเพราะไม่เพียงแค่พวกเขาจะได้รับเรือรบขั้นสูงแค่นั้นแต่พวกเขายังสามารถส่งกองกำลังไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ได้คาดหวังให้โปดันโนว่าจะตั้งใจทำงานหนักเพื่อกิจการของเธอเองเพราะในใจของผู้หญิงคนนี้เธอแค่ต้องการหลอกใช้เย่เชียนเพื่อช่วยจัดการกับเซอร์เก้วิชพุชกินและแม้แต่ครอบครัวตระกูลอเล็กซานเดอร์และแม้แต่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเองอีกด้วย ซึ่งเย่เชียนก็ไม่สงสัยในความเป็นไปได้นี้เลยเพราะจากคำพูดและความทะเยอทะยานของโปดันโนว่านั้นเย่เชียนสามารถเห็นได้ว่าจุดประสงค์ของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เรียบง่ายเหมือนเซอร์เก้วิชพุชกินและบางทีเธออาจจะอยากกำจัดอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเลยด้วยซ้ำ
แม้ว่าการทำงานร่วมกับเธอจะทำให้เขาได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแต่ก็เต็มไปด้วยภัยคุกคามเช่นกัน ซึ่งแตกต่างจากประเทศจีนเพราะนี่คือประเทศรัสเซียและเป็นที่ต่างถิ่นซึ่งที่นี่สามารถพูดได้ว่าเขี้ยวหมาป่านั้นไม่มีรากฐานใดๆ โดยสิ้นเชิงดังนั้นความล้มเหลวเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เขี้ยวหมาป่าสร้างความสัมพันธ์กับประเทศรัสเซียได้ยากขึ้นกว่าเดิม
ไม่ว่ายังไงก็ตามเย่เชียนจะไม่วางเดิมพันกับใครง่ายๆ ในตอนนี้รวมไปถึงเซอร์เก้วิชพุชกินด้วย เพราะทุกๆ อย่างต้องรอจนกว่าเขาจะได้พบอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟแล้วค่อยวางแผนในภายหลัง ดังนั้นหลังจากฟังคำพูดของโปดันโนว่าแล้วเซอร์เก้วิชก็ยิ้มออกมาโดยไม่มีเหตุผลและมันถือได้ว่าเป็นการเห็นด้วยกับเธอ อย่างไรก็ตามมันก็เป็นคำตอบที่คลุมเครือและไม่สามารถพูดได้เต็มปาก
ถึงแม้ว่าจะไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในระหว่างการประชุมคืนนี้ แต่เย่เชียนและโปดันโนว่าก็มีความชัดเจนในใจของพวกเขาและทั้งคู่ก็มีความเข้าใจทั่วไปเกี่ยวกับความคิดของกันและกัน ซึ่งเย่เชียนก็ไม่ได้ไม่เห็นด้วยหรือต่อต้านใดๆ ส่วนโปดันโนว่าก็ไม่ได้ยืดเยื้ออะไรเพราะสองฝ่ายต่างก็ฌตระหนักดีถึงความสำคัญของความร่วมมือนี้หากความร่วมมือนี้ประสบความสำเร็จก็จะเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนต่างก็ได้รับชัยชนะและมีความสุข แต่ถ้าหากความร่วมมือนี้ไม่ประสบความสำเร็จมันก็จะเป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
หลังจากกล่าวคำอำลากับโปดันโนว่าแล้วเย่เชียนก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับทัศนคติของผู้หญิงคนนี้ ซึ่งเย่เชียนและหลินเฟิงก็ออกจากบ้านของเธอไปและเย่เชียนก็รู้ดีว่าถึงแม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนี้จริงๆ แต่เขาก็ไม่สามารถเข้าใจโปดันว่าได้เลยและไม่สามารถทำให้เธอเดินตามเส้นทางของตัวเองได้และยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงที่ฉลาดคนนี้จะยอมเสี่ยงเพื่อคนที่ไม่รู้จักได้อย่างไร? แม้ว่าร่างกายของเธอจะไม่สะอาดแต่เย่เชียนก็ต้องยอมรับเลยว่าผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์อย่างมากและเป็นคนที่รู้วิธีเพิ่มเสน่ห์และซ่อนข้อบกพร่องของเธอเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ในขณะนี้โปดันโนว่าก็ถูกเหล่าผู้ชายในวงการใต้ดินของประเทศรัสเซียหมายปองและพวกเขาทั้งหมดต่างก็เป็นนักล่าทางการค้าและพวกเขาไม่เพียงแค่ชื่นชอบความงามของโปดันโนว่าเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงความสามารถและสถานะของเธอด้วย
ดังนั้นเย่เชียนจะไม่คิดว่าเขาเป็นดั่งเจ้าชายที่จุมพิสเจ้าหญิงและสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนๆ หนึ่งได้ นอกจากนี้เย่เชียนก็ไม่ใช่เจ้าชายและโปดันโนว่าก็ไม่ใช่เจ้าหญิงแต่อย่างใด
หลังจากเดินออกจากบ้านของโปดันโนว่าได้ไม่นานก็เห็น Bugatti Veyron สีดำจอดอยู่ที่นั่นจากระยะไกลและเมื่อเห็นเย่เชียนชายคนนั้นก็รีบทักทายเขา ซึ่งคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเซอร์เก้วิชพุชกินซึ่งเป็นที่รู้จักกันในฉายาสุนัขรับใช้ ซึ่งเมื่อมองไปที่เขาเห็นได้ชัดว่าเขารอเย่เชียนมาสักพักแล้ว
ความเป็นจริงก็คือหลังจากการประชุมกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินก็บอกอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกน้องสองคนที่เขาส่งไปรับเย่เชียนและบอกเขาว่าเรื่องนี้อาจเชื่อมโยงกับโปดันโนว่า
อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟที่สามารถนั่งในตำแหน่งเช่นวันนี้ได้นั้นแน่นอนว่าเขาต้องไม่ใช่คนโง่เพราะเขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน ซึ่งการต่อสู้ระหว่างสามกลุ่มนี้ชัดเจนอย่างยิ่งสำหรับเขาแต่เขาก็มีทัศนคติที่ไม่ชัดเจนมาโดยตลอดดังนั้นอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอกในวันนี้? ถึงแม้ว่าเขาจะอายุมากแล้วก็ตามแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้รับคำแนะนำและถึงแม้ว่าเขาจะนำทรัพย์สินส่วนใหญ่ไปอยู่ในมือของทั้งสามกลุ่มนี้แล้วแต่เขาก็ยังมีทายาทโดยตรงอยู่และทั้งสามกลุ่มนี้ก็ไม่รู้ตัวโดยสิ้นเชิง หลังจากฟังคำพูดของเซอร์เก้วิชพุชกินจบลงอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็คงจะพูดอะไรสักอย่างใช่หรือไม่? ซึ่งเขาก็เชื่อว่าโปดันโนว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นและให้เซอร์เก้วิชพุชกินไปตรวจสอบสิ่งต่างๆ
หลังจากฟังคำตอบของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็ถอนหายใจเพราะเขาไม่เข้าใจว่าหัวหน้าที่เก่งกาจและมีไหวพริบอย่างมากนั้นจะสับสนเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร ซึ่งโปดันโนว่านั้นก็เหมือนงูพิษที่อยู่ข้างๆ อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟดังนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินก็กังวลว่าไม่ช้าก็เร็วโปดันโนว่าคงจะลอบกัดอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟแต่น่าเสียดายที่เขาเคยพูดคำเหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วนก่อนหน้านี้แล้วแต่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟมักจะพูดกับเขาว่า “ไม่! ..เธอไม่ใช่คนแบบนั้น”
ในฐานะสุนัขรับใช้มือหนึ่งนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินรู้ดีว่ามีบางสิ่งที่จะพูดและมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำและพูด ซึ่งถ้าเขายังคงยืนกรานต่อไปมันจะทำให้อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเสียศักดิ์ศรีและจะทำให้เกิดความไม่พอใจได้
หลังจากการสนทนากับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจบลงเซอร์เก้วิชพุชกินก็ออกจากบริษัทและโทรหาเย่เชียน อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันไม่ให้เย่เชียนเสียเปรียบโปดันโนว่านั้นเซอร์เก้วิชพุชกินก็ได้ส่งคนคอยตามเย่เชียนเอาไว้เนื่องจากเย่เชียนบอกว่าเขาต้องการไปเดินเล่นด้วยตัวเองและถ้าหากเขาทำสุ่มสี่สุมห้าล่ะก็มันจะไปกระตุ้นความไม่พอใจของเย่เชียนอย่างแน่นอนดังนั้นวิธีนี้จึงเหมาะสมที่สุด
หลังจากที่เย่เชียนได้พบกับคูลอฟส์อังเดรและโปดันโนว่าแล้วแน่นอนว่าเซอร์เก้วิชพุชกินก็รู้เช่นกันและเขาก็คิดว่าโปดูโนว่าจะกำจัดเย่เชียนแต่จากรายงานของสายข่าวของเขานั้นปรากฏว่าโปดันโนว่าได้เชิญเย่เชียนไปที่บ้านของเธอ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เซอร์เก้วิชพุชกินโล่งอกแต่แล้วเขาก็กลับมากังวลอีกครั้ง
แม้ว่าเซอร์เก้วิชพุชกินจะไม่รู้ว่าโปดันโนว่าทำอะไรกับเย่เชียนก็ตามแต่ด้วยความรู้ของเขาเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้เขาก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการที่จะใส่ร้ายป้ายสีเขาใช่ไหม? เมื่อตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้เซอร์เก้วิชพุชกินจึงขับรถไปที่บ้านของโปดันโนว่าทันที อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้เพราะท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้จะไปมีปัญหากับโปดันโนว่า เพราะการเข้าไปแทรกแซงนั้นเทียบเท่าได้กับการประกาศให้คนนอกรู้ว่าข้อพิพาทนี้เกิดจากเซอร์เก้วิชพุชกินเพียงคนเดียวอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งมันไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาต้องการเห็นเลย
ในทางกลับกันโปดันโนว่าก็สามารถยืนหยัดในการทำให้เย่เชียนต้องการไปพบกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเพื่อร่วมมือกันเพราะถึงยังไงโปดันโนว่าเองก็อยู่ภายใต้อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเช่นกัน ซึ่งตอนนี้เย่เชียนก็ไม่สามารถร็ได้ว่าเธอกำลังคิดอะไร ดังนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินจึงไม่สามารถบุกเข้าไปได้ดังนั้นเขาจึงจำใจรออยู่ข้างนอกเช่นนี้
“มิสเตอร์เย่สบายดีไหม.ผมคิดว่าโปดันโนว่าจะไม่ปล่อยให้คุณไปกับผมอย่างแน่นอน..เธอต้องส่งใครบางคนมาคอยตามเราอย่างแน่นอน” เซอร์เก้วิชพุชกินดูประหม่าเพราะเขารู้ดีว่าตั้งแต่โปดันโนว่าขอให้เย่เชียนไปที่บ้านของเธอ ดังนั้นสิ่งต่างๆ ต่อจากนี้จะไม่ง่ายนักที่จะมีชัยได้ แต่ถึงแม้ว่าอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะไม่ทำอะไรเธอก็ตามแต่ถึงยังไงคนของเขี้ยวหมาป่าก็จะไม่ยอมปล่อยเธอไปเป็นแน่
เซอร์เก้วิชก็ยิ้มแล้วพูดว่า “มิสเตอร์พุชกิน..ผมแค่ไปดื่มชามาเท่านั้น..นั่นเป็นชาจีนที่มีชื่อเสียงจริงๆ”
.
.
.
.
.
.
.