ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 474 นักเจรจาต่อรอง
ตอนที่ 474 นักเจรจาต่อรอง
สำหรับเย่เชียนนั้นเขาไม่เคยคิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษที่ดีเลยดังนั้นคำพูดที่หมิ่นประมาทต่อเขานั้นจะไม่ส่งผลใดๆ กับเขาเลย จึงทำให้คำพูดของโปดันโนว่าไม่มีผลต่อเย่เชียนเลยแม้แต่น้อย เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็ยิ้มและพูดว่า “มิสโปดันโนว่าก็ชมผมเกินไปเพราะที่จริงแล้วผมก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ และบางคนก็ชอบบอกว่าผมเป็นผู้ชายกะล่อนปลิ้นปล้อนน่ะน่ะ”
โปดันโนว่าก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไปทั้งตัวและรู้สึกตกตะลึงไปกับคำพูดของเย่เชียนอย่างมากจนเธอไม่สามารถพูดอะไรใดๆ ได้
หลังจากนั้นไม่นานเย่เชียนก็ฉีกยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “มิสโปดันโนว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน..ถ้าหากคุณสนใจในสิ่งที่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟพูดล่ะก็..งั้นเรามาเจอกันเถอะ..ตอนนี้ผมยังไม่เลยรู้ว่าจะไปที่ไหนดี”
“ได้สิ..ฉันอยู่ที่บ้านของมิสเตอร์คูลอฟส์อังเดร..ถ้ามิสเตอร์เย่สนใจก็มาสิ” โปดันโนว่าก็บอกตำแหน่งบ้านของคูลอฟส์อังเดรให้กับเย่เชียนและหลังจากเย่เชียนวางสายโทรศัพท์ไปเขาก็บอกให้คนขับรถแท๊กซี่ขับไปที่บ้านของคูลอฟส์อังเครทันที
คูลอฟส์อังเดรเป็นลูกชายคนโตของตระกูลมาเฟียคูลอฟส์แห่งรัสเซีย ซึ่งหมายความว่าเขาคือทายาทในอนาคตของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่และถ้าหากเย่เชียนสามารถร่วมมือกับบุคคลดังกล่าวได้ล่ะก็มันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเขี้ยวหมาป่าและด้วยเหตุนี้เองที่เย่เชียนต้องการร่วมมือกับโปดันโนว่าในตอนแรกเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงคนนี้กับมาเฟียในประเทศรัสเซียนั้นใกล้ชิดกว่าอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟ
อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็จะไม่วางเดิมพันกับโปดันโนว่าอย่างง่ายดายเพราะเขาจะตัดสินใจหลังจากพบกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟแต่ทว่าหลังจากพบเขาเย่เชียนก็ตัดสินใจสิ่งต่างๆ ได้ยากขึ้นเพราะด้วยความลังเลของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเกี่ยวกับทั้งสามฝ่ายภายใต้อำนาจของเขาที่ทำให้เย่เชียนสับสนมากขึ้นว่าฝ่ายไหนมีพลังและอำนาจมากกว่ากันและใครมีศักยภาพในการพัฒนามากกว่ากันนั่นเอง
ใช้เวลาไม่นานนักในการนับรถแท็กซี่มาตามที่อยู่ที่โปดันโนว่าให้มา หลังจากจ่ายเงินให้คนขับรถแท๊กซี่แล้วเย่เชียนก็เดินออกจากรถและมองเข้าไปในบ้านแล้วพบผู้ชายหลายคนในชุดสูทสีดำทั้งในและนอกบริเวณบ้าน ซึ่งคนเหล่านี้พวกเขาล้วนเป็นมาเฟียของคูลอฟส์อังเดรทั้งหมด
เย่เชียนที่เพิ่งลงจากรถเขาก็เห็นโปดันโนว่าและคูลอฟส์อังเดรที่เขาเคยเห็นในลานประลองการต่อสู้ใต้ดินออกมาจากบ้านโดยคิดว่าพวกเขารอตัวเองมาสักพักหนึ่งแล้ว
เมื่อเห็นเย่เชียนมาคูลอฟส์อังเดรก็ยิ้มและเดินไปหาเย่เชียนแล้วพูดว่า “มิสเตอร์เย่คุณซ่อนตัวได้ยอดเยี่ยมมาก..ถ้ามิสโปดันโนว่าไม่บอกผมล่ะก็..ตอนนี้ผมก็ยังคงเชื่อว่าคุณคือหลงเฟยอยู่แน่นอน”
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงในการตอบสนองของคูลอฟส์อังเดรจากนั้นเย่เชียนก็ยิ้มและจับมือกับคูลอฟส์อังเดรพร้อมกับพูดว่า “มิสเตอร์คูลอฟส์อังเดร..คืนนั้นมันโจ่งแจ้งเกินไปผมจึงกลัวว่าจะมีคนรู้จักตัวตนของผมแล้วมันจะเกิดปัญหาตามมาน่ะสิ..เพราะที่นี่คือประเทศรัสเซียผมจึงไม่กล้าน่ะฮ่าๆ”
คูลอฟส์อังเดรก็ถึงกับผงะเล็กน้อยและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “มิสเตอร์ก็เย่จริงจังเกินไป..ชื่อเสียงของราชาหมาป่าเย่เชียนของคุณน่ะใครจะกล้าท้าทายคุณ? ..นอกจากนี้ถ้าใครกล้าที่จะท้าทายคุณล่ะก็แม้แต่ผมเพียงเส้นเดียวของคุณน่ะพวกเขาก็ต้องผ่านผมก่อนว่าผมอนุญาตหรือเปล่า!”
“ขอบคุณมิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรสำหรับความเมตตาและน้ำใจของคุณ” เย่เชียนพูดอย่างสุภาพ
“เอาล่ะๆ มิสเตอร์คูลอฟส์อังเดร..มิสเตอร์เย่..ถ้าพวกคุณยังมัวช้ากันอยู่แบบนี้ดวงอาทิตย์คงจะตกดินก่อน” โปดันโนว่ายิ้มและพูดอย่างขี้เล่น
“นั่นสิ..ผมได้พบมิสเตอร์เย่ก็เลยตื่นเต้นไปหน่อยน่ะ” คูลอฟส์อังเดรยิ้มแล้วพูดว่า “มิสเตอร์เย่..เชิญเข้าไปข้างในก่อน!”
หลังจากพูดจบคูลอฟส์อังเดรก็นำเย่เชียนแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้านซึ่งถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่เข้าใจว่าทำไมคูลอฟส์อังเดรถึงได้กระตือรือร้นมากเช่นนี้ก็ตามแต่โปดันโนว่าก็ร็ดีว่าถึงแม้คูลอฟส์อังเดรจะเป็นลูกชายคนโตของตระกูลมาเฟียคูลอฟส์แห่งรัสเซียก็ตามแต่ถึงยังไงตำแหน่งของเขาในตระกูลก็เริ่มค่อยๆ ไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นคูลอฟส์อังเดรจึงรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นเย่เชียนและทั้งหมดที่คูลอฟส์อังเดรต้องการก็คือการร่วมมือกับเขี้ยวหมาป่าของเย่เชียนเพื่อเปลี่ยนแปลงและผลิกผันสถานการณ์ปัจจุบันของเขาและทำให้ตำแหน่งของเขาในตระกูลมาเฟียกลับมามีเสถียรภาพดังเดิม
หลังจากนั่งลงในบ้านกันแล้วโปดันโนว่าก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เมื่อกี้นี้ที่คุยโทรศัพท์กันมิสเตอร์เย่หมายความว่ายังไงหรอ?”
เย่เชียนก็ยิ้มเบาๆ โดยคิดว่าถึงแม้โปดันโนว่าจะมีอำนาจแต่เธอก็ยังคงกลัวอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟอยู่ “อ๋อมันก็ไม่มีอะไรหรอก..ผมแค่ได้ยินมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟพูดอะไรบางอย่างเฉยๆ” เย่เชียนพูดอย่างช้าๆ
“มันคืออะไร?” โปดันโนว่าถาม
เย่เชียนก็มองไปที่คูลอฟส์อังเดรที่อยู่ข้างๆ เขาซึ่งไม่มีการแสดงออกใดๆ บนใบหน้าเลยและดูเหมือนว่าเขาจะสนิทกับโปดันโนว่าอย่างมากแต่เย่เชียนก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรหรือจะเป็นความสัมพันธ์เรื่องใต้กระโปรง? “จากคำพูดของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟนั้นผมรู้สึกว่าหัวหน้าของคุณดูเหมือนจะรู้เรื่องเกี่ยวกับทั้งสามฝ่ายภายใต้อำนาจของเขาและดูเหมือนว่าเขาต้องการกวาดล้างพวกคุณ” พูด
“จิ้งจอกเฒ่าพวกนี้แทบจะเดินกันไม่ไหวอยู่แล้วยังอยากที่จะหยิ่งผยองอยู่อีกเหรอ..หืม! ” โปดันโนว่าตะคอกอย่างเย็นชา
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและหลังจากนั้นเขาก็ยิ้มเพราะดูเหมือนว่าโปดันโนว่าได้บรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเหล่ามาเฟียแล้วเธอจึงกล้าที่จะเปิดใจกับคูลอฟส์อังเดรและพูดถึงสิ่งเหล่านี้ต่อหน้าเขา ซึ่งจากการแสดงออกของคูลอฟส์อังเดรแล้วเขาดูเหมือยจะไม่แปลกใจอะไรเลยนี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าคูลอฟส์อังเดรนั้นรู้อยู่แล้วว่าโปดันโนว่าคิดที่จะจัดการกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟ
หลังจากหยุดไปชั่วขณะโปดันโนว่าก็พูดว่า” วันนี้ฉันไม่รู้ว่ามิสเตอร์เย่ไปคุยกับหัวหน้าของฉันยังไง..แล้วสรุปว่าหัวหน้าของฉันตกลงที่จะร่วมมือกับคุณหรือเปล่า?”
เย่เชียนก็ส่ายหัวเบาๆ และพูดว่า “ผมยังไม่ได้ตกลงร่วมมือกับเขา..ซึ่งมิสโปดันโนว่ามาคุยกับผมก่อนเพราะงั้นผมก็จะมาคุยกับคุณก่อนเพื่อที่จะพิจารณาว่าประโยชน์ที่ได้จะสูงกว่าเขาหรือเปล่า..ถ้าเป็นเช่นนั้นผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟ..อย่างไรก็ตามผมก็ยังเชื่อมั่นในตัวมิสโปดันโนว่าอยู่”
“มิสเตอร์เย่คุณมั่นใจได้เลยว่ามิสโปดันโนว่าน่ะเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่ง..เพราะงั้นผมก็เชื่อว่าถ้ามิสเตอร์เย่ร่วมมือกับมิสโปดันโนว่าล่ะก็สิ่งต่างๆ จะดีกว่าการไปร่วมมือกับชายชราแบบนั้น…มิสเตอร์เย่คิดว่าไง?” คูลอฟส์อังเดรพูด
ในตระกูลมาเฟียคูลอฟส์นั้นถึงแม้ว่าคูลอฟส์อังเดรจะเป็นลูกชายคนโตก็ตามแต่เนื่องจากเขาไม่สามารถสร้างผมงานที่ดีได้เมื่อเร็วๆ นี้เขาจึงมาร่วมมือกับโปดันโนว่าเพื่อใช้อำนาจและพลังของโปดันโนว่าเพื่อทำให้เขาขึ้นเป็นผู้สืบทอดตระกูลมาเฟียคูลอฟส์ ดังนั้นคูลอฟส์อังเดรจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเย่เชียนจะสามารถบรรลุความร่วมมือกับโปดันโนว่าได้ ด้วยวิธีนี้มันก็เท่ากับเป็นการร่วมมือกับตัวเขาเองเช่นกัน
คูลอฟส์อังเดรเองก็รู้เกี่ยวกับองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าของเย่เชียนมากเช่นกันซึ่งถ้าเขาสามารถร่วมมือกับเย่เชียนได้ล่ะก็สิ่งต่างๆ จะช่วยให้ผลประโยชน์ของเขามีเสถียรภาพมากขึ้นและยังสามารถใช้เขี้ยวหมาป่าในการกำจัดคู่แข่งในครอบครัวใหญ่อย่างคนอื่นๆ ในตระกูลคูลอฟส์ ซึ่งความเป็นพี่น้องในครอบครัวของเขานั้นเบาบางมากและบางครั้งแม้แต่พ่อแม่ลูกและน้องสาวและพี่สาวหรือพี่ชายและน้องชายก็มักจะไม่ลงรอยกัน
เย่เชียนก็ยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “หืม..มิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรดูเหมือนว่าคุณจะมีความไว้วางใจในตัวมิสโปดันโนว่ามากเลยนะ..แล้วตอนนี้มิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรกับมิสโปดันโนว่ามีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันหรือเปล่า?”
“คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้” โปดันโนว่าพูดโดยไม่ปิดบัง “มิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรกับฉันเป็นความสัมพันธ์แบบร่วมมือกัน”
เย่เชียนก็พยักหน้าเล็กน้อย “เนื่องจากเป็นเช่นนั้นถ้างั้นมิสโปดันโนว่าก็ลองบอกมาหน่อยสิว่าถ้าหากผมร่วมมือกับคุณผมจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง?”
“เขี้ยวหมาป่าของมิสเตอร์เย่ที่สามารถขึ้นเป็นราชาแห่งโลกทหารรับจ้างได้และสามารถพัฒนามาจนถึงปัจจุบันแบบนี้ได้นั่นก็หมายความว่ามิสเตอร์เย่เป็นคนที่น่ายกย่องมาก..เพราะงั้นฉันก็เชื่อว่าถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้พูดอะไรแต่มิสเตอร์เย่ก็สามารถรับรู้ถึงผลประโยชน์ระหว่างการร่วมมือกับฉันและอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟได้ว่ามันต่างกันแค่ไหน” โปดันโนว่าพูดด้วยรอยยิ้ม
เย่เชียนก็ยักไหล่และพูดว่า “ในความคิดของผมนั้นเงื่อนไขที่เป็นไปได้ที่จำเป็นสำหรับผลประโยชน์ของการร่วมมือกับคุณก็คือการที่คุณสามารถขึ้นไปแทนที่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟได้..แต่นั่นก็คือความเสี่ยงเพราะถ้าคุณไม่สามารถขึ้นไปแทนที่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟได้ล่ะก็..เขาจะหวนกลับมาคุกคามผมหรือเปล่า?”
“ฉันเข้าใจความกังวลของคุณดี..แต่มิสเตอร์เย่ก็ควรตระหนักด้วยว่าถ้าหากฉันไม่สามารถรับผลประโยชน์จากการร่วมมือในการที่ฉันขึ้นไปแทนที่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟได้แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะความสามารถของฉันเองแล้วทำไมฉันต้องร่วมมือกับมิสเตอร์เย่ด้วย?” โปดันโนว่าพูด
เย่เชียนก็พยักหน้าอย่างลับๆ เพราะดูเหมือนว่าโปดันโนว่าคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาจริงๆ และไม่เพียงแค่เธอกล้าหาญเท่านั้นแต่เธอยังมีทักษะในการเจรจาที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
.
.
.
.
.
.
.