ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 475 การร่วมมือที่ประสบความสำเร็จ
ตอนที่ 475 การร่วมมือที่ประสบความสำเร็จ
เย่เชียนนั้นต้องยอมรับเลยว่าสิ่งที่โปดันโนว่าพูดออกมานั้นสมเหตุสมผลมากเช่นเดียวกันกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟที่ถึงแม้ว่าเขาต้องการที่จะร่วมมือกับเย่เชียนแต่ความคาดหวังของเขาก็ไม่ได้สูงมากนักเนื่องจากพลังและอำนาจในปัจจุบันของเขานั้นยิ่งใหญ่มากและถ้าหากได้ร่วมมือกับเย่เชียนก็ถือว่าดีแต่ถ้าหากไม่ได้ล่ะก็มันก็ไม่มีผลกระทบอะไรใดๆ
ดังนั้นสิ่งที่โปดันโนว่าพูดนั้นก็ถูกต้องเพราะถ้าหากเธอเอาชนะอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟด้วยความสามารถของเธอเองนั้นเธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องร่วมมือกับเย่เชียนเลย และเหตุผลที่โปดันโนว่าเลือกที่จะร่วมมือกับเย่เชียนนั้นเป็นเพราะประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของเหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่านั้นเองและหวังว่าจะใช้เขี้ยวหมาป่าของเย่เชียนเพื่อช่วยจัดการกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟซึ่งถึงแม้ว่าเหล่ามาเฟียของคูลอฟส์อังเดรจะสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ก็ตามแต่ปัญหาของเขานั้นร้ายแรงกว่าโปดันว่ามากในตอนนี้
แม้ว่าคูลอฟส์อังเดรจะมีความสามารถและเต็มใจที่จะช่วยโปดันโนว่าจัดการกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็ตามแต่ทว่าตอนนี้ตำแหน่งของเขาในตระกูลก็อันตรายและสุ่มเสี่ยงมากเช่นกันและสมาชิกมาเฟียคนอื่นๆ ก็จะไม่มีวันเผชิญหน้ากับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเพื่อโปดันโนว่าอย่างแน่นอน
สรุปแล้วถ้าหากโปดันโนว่าต้องการจัดการกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟอันดับแรกคือเธอต้องทำให้เย่เชียนมาร่วมมือกับเธอก่อนจากนั้นก็ช่วยคูลอฟส์อังเดรรักษาตำแหน่งของเขาให้มั่นคงและยังช่วยให้เขากลายเป็นทายาทมาเฟียอีกด้วย ซึ่งด้วยวิธีนี้ที่พวกเขาจะสามารถสะสมความแข็งแกร่งของตัวเองได้เท่านั้น จากนั้นก็จัดการกับเซอร์เก้วิชพุชกินและสมาชิกมาเฟียจากตระกูลคูลอฟส์คนอื่นและแม้แต่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟเช่นกัน
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “มิสโปดันโนว่ามีเหตุผลดีหนิ”
“มิสเตอร์เย่ก็เหมือนกัน” โปดันโนว่ายิ้มและพูด
“อืมเนื่องจากมิสโปดันโนว่ามีความจริงใจและมีอำนาจมาก..ถ้างั้นลองบอกมาหน่อยซิว่าผมต้องทำยังไง” เย่เชียนพูด
โปดันโนว่าก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มด้วยความโล่งใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เย่เชียนพูดซึ่งนั่นหมายความว่าเย่เฉียนตกลงที่จะร่วมมือกับเธอแล้ว “มิสเตอร์เย่พูดแบบนี้หมายความว่าคุณตกลงที่จะร่วมมือกับฉันแล้วใช่ไหม” โปดันโนว่าถามด้วยรอยยิ้ม
เย่เฉียนหัวเราะเบา ๆ ยักไหล่เล็กน้อยไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ
“เรื่องนี้เราต้องค่อยๆ คุยกันก่อนจะดีกว่าที่..ลองบอกเงื่อนไขของคุณมาก่อนและดูว่ามีอะไรที่เราสามารถช่วยคุณได้หรือไม่..นี่เป็นการแสดงออกถึงความจริงใจของพวกเรา..คุณคิดว่าไง” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่มิสโปดันโนว่าสามารถยิ่งใหญ่ได้ภายใต้อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟ..การเจรจาครั้งนี้ทำให้ผมมองคุณด้วยความชื่นชมและทำให้ผมเชื่อว่าเราจะได้ร่วมมือกันในอนาคตอย่างแน่นอน” เย่เชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดต่อ “แล้วมิสเตอร์คูลอฟส์อังเครคิดว่าไงบ้าง..คุณก็พร้อมที่จะร่วมมือกับผมด้วยหรือ?”
“ไม่เป็นไรครับ..ตราบใดที่ผมสามารถช่วยได้ผมก็ไม่ปฏิเสธ” คูลอฟส์พูดโดยไม่ลังเลใดๆ
เย่เชียนตกลงที่จะร่วมมือกับโปดันโนว่าเช่นนี้คูลอฟส์อังเดรจึงมีความสุขมากโดยธรรมชาติ แล้วเหตุใดเขาต้องปฏิเสธที่จะช่วยเย่เชียน? นอกจากนี้ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับโปดันโนว่าก็ตามแต่ถึงยังไงคูลอฟส์อังเดรก็เต็มใจที่จะช่วยเหลืออยู่ดี เพราะคูลอฟส์อังเดรมีความชัดเจนมากว่าถ้าหากเขาช่วยเย่เชียนล่ะก็มันจะเท่ากับการทำให้เย่เชียนเป็นหนี้บุญคุณเขา ดังนั้นเมื่อมีบางอย่างที่ต้องการให้เย่เชียนล่ะก็แน่นอว่าเย่เชียนก็จะยากที่จะปฏิเสธได้
เย่เชียนเองก็ค่อนข้างมีความสุขสำหรับคนอย่างคูลอฟส์อังเดร เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ทราบว่ามิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรรู้จักองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะแห่งอาร์กติกเหนือหรือเปล่า?”
คูลอฟส์อังเดรก็ถึงกับตกตะลึงแล้วพูดว่า “แน่นอน..จิ้งจองหิมะเป็นหนึ่งในองค์กรทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศรัสเซียและยังมีชื่อเสียงไปทั่วโลก..และผมก็รู้จักพวกเขาบางคนอีกด้วย..ทำไมมิสเตอร์เย่ถึงได้ถามเรื่องนี้..หรือว่าคุณต้องการที่จะจัดการพวกจิ้งจอกหิมะหรือ?”
“ใช่!” เย่เชียนพูดอย่างไม่ลังเลใดๆ “ที่ประเทศจีนในไม่กี่วันที่ผ่านมาคนของจิ้งจอกหิมะได้ท้าทายความรุ่งโรจน์ของเขี้ยวหมาป่าของผม..ผมจึงต้องการที่จะประกาศให้พวกเขารู้ถึงพลังของเขี้ยวหมาป่าของผม..มิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรเป็นคนท้องถิ่นและเป็นถึงทายาทมาเฟีย…เพราะงั้นผมก็เชื่อว่ามิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรต้องรู้เรื่องประเทศรัสเซียดีกว่าผม..ผมจึงหวังว่ามิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรจะช่วยผมได้”
“ไม่มีปัญหา..ถ้าคุณต้องการเงินหรืออาวุธคุณก็บอกผมมาได้เลย” คูลอฟส์อังเดรทุบหน้าอกของตัวเองและพูดอย่างหนักแน่น
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องขอบมิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรก่อนล่วงหน้าเลยก็แล้วกัน..ผมอาจจะไปที่มูร์มันสค์ในอีกไม่กี่วัน..ผมไม่รู้ว่ามิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรจะสามารถจัดกำลังคนและอาวุธให้ผมได้หรือเปล่า” เย่เชียนพูด
“แน่นอน..ถ้ามิสเตอร์เย่ต้องการแบบนั้นเดี๋ยวผมจัดการให้” คูลอฟส์อังเดรพูด
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนก็ได้ครับมิสเตอร์คูลอฟส์อังเดร..เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก..เพราะงั้นผมจะไม่รบกวนคุณ”
“เอาล่ะเดี๋ยวผมจะโทรไปจัดการเรื่องต่างๆ ให้ก่อน” คูลอฟส์อังเดรพูด หลังจากหยุดไปชั่วขณะคูลอฟส์อังเดรก็พูดต่อ “อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ผมต้องแจ้งให้มิสเตอร์เย่ชัดเจนว่าในมูร์มัคส์น่ะมาเฟียคูลอฟส์หลายๆ เป็นคนจากกลุ่มอื่นๆ ในตระกูลของเรา..ดังนั้นหากมิสเตอร์เย่ไปที่นั่นก็พยายามอย่าไปยั่วยุพวกเขาเพราะสิ่งนี้จะทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา”
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงจากนั้นก็หัวเราะและพูดว่า “ถ้ามิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรไม่รังเกียจผมก็ยินดีที่จะช่วยคุณจัดการคู่แข่งของคุณถึงแม้ว่าผมจะต้องขัดแย้งกับพวกเขาก็ตาม..คุณคิดยังไงบ้างถ้าหากผมช่วยตอบแทนคุณในครั้งนี้”
คูลอฟส์อังเดรก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเพราะเขาไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะกล้าเสนอมาช่วยเขาแก้ปัญหาคู่แข่งของเขาและเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเย่เชียนนั่นเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก “น้ำใจของมิสเตอร์เย่เป็นที่ชื่นชมสำหรับผมมาก..แต่ตอนนี้มันอาจจะไม่สะดวกนักที่จะจัดการกับมาเฟียกลุ่มนั้น..ไม่งั้นมันจะสร้างปัญหาให้ผมไม่รู้จบ..ถ้างั้นเรื่องนี้เราค่อยเอาไว้คุยกันทีหลังก็แล้วกัน” คูลอฟส์อังเดรพูด
“มิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอกว่าคุณจะลังเลแบบนี้ได้ยังไง..แล้วคุณจะขึ้นเป็นผู้นำตระกูลคูลอฟส์อังเดรได้ยังไง..ลองคิดดูซิว่าคุณมีอำนาจมากแค่ไหนก่อนหน้านี้..มีสักกี่คนในตระกูลของคุณที่สามารถมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะต่อสู้กับคุณได้..ตอนนี้คุณมีความกังวลมากเกินไป..เรื่องที่มิสเตอร์เย่พูดก็ดีเหมือนกันเรามาเชือดไก่ให้ลิงดูกันดีกว่า” โปดันโนว่าอดไม่ได้ที่จะพูด
สิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริงเมื่อเธอเลือกที่จะร่วมมือกับคูลอฟส์อังเดรแล้วก็แทบจะไม่มีใครในตระกูลคูลอฟส์ที่สามารถแย่งชิงตำแหน่งทายาทของคูลอฟส์อังเดรไปได้ แต่เป็นเพราะคูลอฟส์อังเดรเป็นที่คนไม่เด็ดขาดจึงทำให้กลุ่มอื่นๆ ในตระกูลคูลอฟส์เริ่มแข็งข้อ ซึ่งในฐานะหุ้นส่วนแล้วแน่นอนว่าโปดันโนว่านั้นไม่ต้องการเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะหากคูลอฟส์อังเดรล้มลงนั้นถึงแม้ว่าเรื่องต่างๆ อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอแต่ทว่าการดำเนินธุรกิจหลายปีของเธอก็จะพังทลายลงนั่นเอง
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เท่าที่ผมรู้มาในบรรดามาเฟียรัสเซียน่ะไม่ใช่ตระกูลคูลอฟส์ตระกูลเดียวใช่ไหม..แล้วทำไมคุณต้องกังวลเรื่องที่ผมจะช่วยกวาดล้างคู่ต่อสู้ของคุณ..เพราะไม่งั้นมาเฟียเหล่าอาจจะถือโอกาสเข้ามารุกรานเขตแดนและอิทธิพลของคุณก็เป็นได้..เพราะงั้นเราก็แค่ส่งคนไปกวาดล้างกลุ่มอื่นๆ เพราะด้วยวิธีนี้ไม่เพียงแค่กวาดล้างคู่แข่งและคู่ต่อสู้ของคุณเท่านั้นแต่ผู้อาวุโสในตระกูลมาเฟียของคุณก็จะยกย่องคุณอย่างแน่นอนที่คุณสามารถกวาดล้างขับไล่กลุ่มอื่นๆ ออกไปได้..สิ่งนี้เหมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวแล้วทำไมมิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรถึงยังลังเลอยู่..ฉันน่ะคิดเสมอว่าคุณเป็นผู้ชายตัวจริงและเป็นวรีบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่ควรทำสิ่งต่างๆ อย่างเด็ดขาดและเฉียบคมอย่างนั้น.
คูลอฟส์อังเดรรู้สึกละอายใจอยู่พักหนึ่งและเขาก็คิดเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนซึ่งมันก็เป็นเวลาหลายปีแล้วเพราะความกังวลซ้ำๆ ของเขาสิ่งต่างๆ ถึงได้เป็นเช่นนี้และด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ประสบความสำเร็จใดๆ ซึ่งทำให้สถานะของเขาในตระกูลตกต่ำลงเรื่อยๆ และถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปล่ะก็ตำแหน่งผู้สืบทอดของคูลอฟส์อังเดรในอนาคตคงจะพังทลายและเกรงว่าแม้แต่ตำแหน่งปัจจุบันก็อาจจะไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คูลอฟส์อังเดรก็พูดว่า “มิสเตอร์เย่ได้ปลุกผมขึ้นมาจากความฝันแล้ว..ด้วยคำพูดของคุณผมล่ะรู้สึกละอายใจจริงๆ ..ถ้ามิสเตอร์เย่ไม่ลำบากเกินไปผมก็ขอรบกวนด้วย..เดี๋ยวผมจะอธิบายเรื่องนี้ให้ฟังจากนั้นถ้ามิสเตอร์เย่ต้องการทำอะไรคุณก็จัดการได้เลยผมจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่!”
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือสิ่งที่เราควรทำ..มิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรมั่นใจได้เลยว่าหลังจากเรื่องของจิ้งจอกหิมะจบลงแล้วผมสัญญาว่าจะช่วยคุณจัดการเรื่องให้เรียบร้อยเอง”
.
.
.
.
.
.
.